คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 76 ถีบจงจือหว่านตกน้ำด้วยบาทาเดียว

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

นักเรียนหญิงอึ้ง “ทิ้งลงทะเลสาบเหรอ”

จงจือหว่านพูดหน้าตาเฉย “ถ้าทิ้งลงถังขยะมันอาจปีนออกมาได้”

“โหดร้ายเกินไปหรือเปล่า” นักเรียนหญิงลังเล “เอาหมูตัวนี้คืนให้ห้องสิบเก้าหรือไม่ก็เอาส่งอาจารย์ปกครองก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ”

“เธอคิดว่านักเรียนห้องสิบเก้าจะทำตามกฎของโรงเรียนเหรอ” จงจือหว่านสีหน้าเรียบเฉยยิ่งกว่าเดิม “ถ้าไม่ได้รับบทเรียนซะบ้าง พวกเขาจะรู้อะไร”

นักเรียนหญิงรู้สึกว่าคำพูดนี้มีเหตุผล แต่ก็ยังคงลังเล “แต่ว่า…”

จงจือหว่านเห็นเธอไม่ขยับก็หมดความอดทน จึงเดินขึ้นหน้าไปอุ้มหมูแคระที่เดินอยู่บนพื้นขึ้นมา

อยู่ๆ ตัวก็ลอยขึ้น ตูตูตกใจ สี่เท้าน้อยๆ ตะเกียกตะกาย พยายามดิ้นรน

จงจือหว่านไม่มีทางสนเรื่องพวกนี้ เธอเดินไปที่ริมทะเลสาบแล้วโยนมันลงไป

หมูแคระตัวเล็กมาก ไม่มีแม้แต่วงกระเพื่อมของน้ำ หายไปในชั่วพริบตา

จงจือหว่านหยิบทิชชู่เปียกออกมาเช็ดมือ เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีกลิ่นสกปรกติดถึงเตรียมเดินไป

แต่ยังไม่ทันที่เธอจะหันตัวก็มีแรงพุ่งมาจากทางด้านหลัง ถีบเธอตกทะเลสาบ

ตูม ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก นักเรียนหญิงที่เดินมาด้วยกันก็ยังไม่ทันตั้งตัว

สองวินาทีต่อมาเธอก็หันไปด้วยความตกใจ

เห็นอิ๋งจื่อจินยืนอยู่ริมทะเลสาบตงหู ในมือกอดหมูแคระที่เพิ่งถูกจงจือหว่านโยนลงน้ำ

หมอกขาวในดวงตาหงส์สลายไป ราวกับทะเลสาบที่ถูกน้ำแข็งปิดผนึก

เวลานี้ชั้นน้ำแข็งชั้นนี้กลับแตกออก

ความเย็นยะเยือกแผ่ซ่าน หนาวจนน่าสะพรึง

นักเรียนหญิงอดตัวสั่นไม่ได้

ถึงขนาดที่ว่าเธอเห็นแรงอาฆาตอยู่ในนั้น

“ช่วย…อึก ช่วยด้วย!” จงจือหว่านมึนงง ขณะเดียวกันก็ลนลาน “ฉันว่ายน้ำไม่เป็น ช่วยด้วย!”

แต่ไม่มีใครขยับ

“เฮอะ จงจือหว่าน เธอมันอำมหิตเกินไปหรือเปล่า” ลูกน้องที่วิ่งตามหลังมาหอบแฮ่ก ตวาดเสียงด้วยความโมโห “เธอมันจะต่างอะไรกับฆาตกร!”

ชีวิตของหมูสัตว์เลี้ยงไม่ใช่ชีวิตเหรอ

มีเหรอที่จงจือหว่านจะยังได้ยิน เธอลนลานทำอะไรไม่ถูก ใกล้สติแตกเต็มที “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”

ในที่สุดนักเรียนหญิงคนนั้นก็ได้สติกลับมา เริ่มเลิ่กลั่ก “จะ จือหว่าน ฉันก็ว่ายน้ำไม่เป็นเหมือนกัน”

“ช่วยฉันด้วย!” สัญชาตญาณการเอาตัวรอดทำให้จงจือหว่านขอความช่วยเหลือจากอิ๋งจื่อจิน “น้องจื่อจิน ช่วยด้วย…”

แต่ทว่าอิ๋งจื่อจินไม่ได้ชายตามองเธอเลยสักนิด ก้มหน้าดูตูตูที่ช่วยชีวิตมาในอ้อมกอด

จงจือหว่านดิ้นรนอยู่หลายครั้ง ตอนนี้กำลังจะจมลงไป

จนกระทั่งเธอเห็นเจียงหรานกำลังเดินมาทางนี้ จุดประกายความหวังขึ้นมาอีกครั้ง “เจียงหราน! เจียงหรานช่วยฉันด้วย!”

เจียงหรานย่อมได้ยินแล้ว เงยหน้ามองผิวทะเลสาบ

สีหน้าของเขาเรียบเฉย ริมฝีปากยิ้มประชดอย่างเย็นชา

ประหนึ่งน้ำเย็นที่สาดรด หัวใจของจงจือหว่านหนาวสุดขั้ว

เจ็บปวดราวกับหัวใจถูกบีบ หดเกร็งไม่หยุด

หลังจากที่อิ๋งจื่อจินแน่ใจแล้วว่าตูตูไม่เป็นอะไรมากถึงเงยหน้าขึ้น “ลากขึ้นมา”

ลูกน้องสองคนก้าวขึ้นหน้า ดึงจงจือหว่านที่ดิ้นรนอยู่ในทะเลสาบขึ้นมา

ไม่ได้มีความทะนุถนอมแม้แต่น้อย โยนลงบนพื้นทันที

จงจือหว่านอดกลั้นจนใบหน้าแดงก่ำ ไออย่างทุกข์ทรมาน “แค่กๆๆ…”

เธอเปียกไปทั้งตัว สภาพดูไม่ได้

นักเรียนที่อยู่ริมทะเลสาบเริ่มเยอะขึ้น ต่างเห็นเหตุการณ์นี้กันหมดจึงตกใจเป็นอย่างมาก

นักเรียนหญิงคนนั้นถึงได้กล้าเข้าไปประคองจงจือหว่านขึ้นมา พูดกระซิบ “จือหว่าน ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาลนะ”

ในที่สุดจงจือหว่านก็อาการทุเลาลง ร่างกายหนาวจนสั่นไปทั้งตัว

เธอมองเจียงหรานที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ อีกครั้ง หัวใจเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม รีบออกไปจากตรงนั้นโดยมีเพื่อนช่วยพยุง

“ถุย!” ลูกน้องสบถ “อย่างยัยนี่ถูกยกให้เป็นนางฟ้าเลยเหรอ ตาบอดกันหรือไง”

“พ่ออิ๋ง ขอโทษนะ ตีฉันเถอะ” ซิวอวี่รู้สึกผิด “ฉันไม่ดูตูตูให้ดีเอง ปล่อยให้มันวิ่งออกไป”

ช่วงไม่กี่วันนี้ตูตูเดินเป็นแล้ว

บางครั้งก็ยังวิ่งต้อกแต้กไปอย่างเร็ว หายไปในชั่วพริบตา

“ไม่โทษเธอ” อิ๋งจื่อจินหยิบยาเม็ดเล็กออกมาเม็ดหนึ่งแล้วค่อยๆ ป้อนให้ตูตูกินเข้าไป “ไม่มีใครคาดคิดหรอก”

ยาเม็ดนี้ออกฤทธิ์เร็วมาก เพียงเวลาแค่สิบกว่าวินาทีตูตูก็ฟื้นขึ้นมา

มันใช้จมูกสีชมพูคลอเคลียฝ่ามือของอิ๋งจื่อจิน ทำเสียงฮึมฮัมอย่างมีความสุข

อิ๋งจื่อจินลูบหัวของมัน แววตาอ่อนลง

“โชคดีที่พ่ออิ๋งมาทันเวลา” ลูกน้องเองก็ยังรู้สึกกลัวไม่หาย “นี่ถ้าช้าไปไม่กี่วินาที ตูตูคงไม่อยู่แล้ว”

เอ๊ะ แต่เขาจำได้ว่าตอนนั้นพ่ออิ๋งของพวกเขากำลังยุ่งอยู่ไม่ใช่เหรอ

ทำไมอยู่ๆ ก็จะมาที่ทะเลสาบตงหูล่ะ

อย่างกับรู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว

ลูกน้องเกาหัว แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

อิ๋งจื่อจินวางตูตูไว้บนบ่าตัวเองแล้วพับแขนเสื้อนักเรียนขึ้น “พวกนายกลับไปก่อนเถอะ ฉันจะไปห้องรับคำปรึกษาหน่อย”

บนทางเดินที่อยู่ข้างหน้า

“จือหว่าน เธอไม่น่าไปหาเรื่องอิ๋งจื่อจินเลย” นักเรียนหญิงยังคงหวาดกลัวมาก “เธอลืมแล้วเหรอว่าตอนนั้นอิ๋งจื่อจินโยนอิงเฟยเฟยลงถังขยะยังไง”

จงจือหว่านเม้มริมฝีปาก โกรธจนมือสั่นไม่หยุด

เธอจะไปรู้ได้ไงว่ามีคนเห็น

และก็ยิ่งไม่คาดคิดว่าอิ๋งจื่อจินจะกล้าลงมือโหดๆ แม้แต่กับเธอ

เกิดลือออกไป อิ๋งจื่อจินไม่กลัวถูกคนด่าว่าอำมหิตเหรอ

แล้วก็เจียงหราน

จงจือหว่านขอบตาแดงก่ำ

ตอนที่ทั้งสองคนออกจากประตูโรงเรียนก็เจอกับเฮ่อสวินที่กลับมาจากข้างนอกพอดี

เฮ่อสวินหน้านิ่ว “เกิดอะไรขึ้นกับเธอ”

“อาจารย์เฮ่อ หนูไม่เป็นไรค่ะ” จงจือหว่านฝืนยิ้ม “แค่กำลังจะไปโรงพยาบาลค่ะ”

“อาจารย์เฮ่อคะ อาจารย์คงไม่รู้ว่า นับตั้งแต่อิ๋งจื่อจินออกจากห้องเด็กอัจฉริยะนับวันก็ยิ่งเลวร้ายมากขึ้น” นักเรียนหญิงโมโหพอสมควร “เมื่อกี้ถีบจงจือหว่านตกทะเลสาบด้วยค่ะ”

เฮ่อสวินสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

ทะเลสาบตงหูลึกมาก ในอดีตก็เคยมีกรณีจมน้ำตาย ทางโรงเรียนจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก

นี่มันเท่ากับเจตนาฆ่าคนแล้ว

“เธอไปโรงพยาบาลก่อน” เฮ่อสวินเรียกรถแท็กซี่ให้จงจือหว่าน “เรื่องนี้ครูจะไปคุยกับผู้อำนวยการ”

“หนูไม่อยากรบกวนอาจารย์เฮ่อ” จงจือหว่านก้มหน้า “ไม่ว่ายังไงหนูกับเธอก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เธออารมณ์ร้อนหนูก็ควรรองรับอารมณ์”

เฮ่อสวินขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเดิม รู้สึกแย่กับอิ๋งจื่อจินมากขึ้น

เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ไม่รบกวนหรอก”

จงจือหว่านไอออกมาเล็กน้อย “งั้นก็ขอบคุณอาจารย์เฮ่อมากค่ะ”

เวลานี้ผู้เฒ่าจงกำลังท่องเวยปั๋ว พูดคุยกับชาวเน็ต

พอได้ยินเสียงที่ประตูก็เงยหน้าขึ้น

เห็นจงจือหว่านที่ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ผู้เฒ่าจงอึ้งไปชั่วขณะ “เกิดอะไรขึ้น หว่านหว่านร้องไห้ทำไม”

จงจือหว่านกัดริมฝีปาก ไม่ตอบ ดวงตาถูกบดบังด้วยน้ำตา ท่าทางน่าสงสารเหลือเกิน

“ท่านผู้เฒ่า ก็ลูกเลี้ยงของตระกูลอิ๋งนั่นน่ะสิคะ รู้ไหมคะว่าเธอทำอะไรลงไป” คุณนายจงสะกดอารมณ์โกรธไว้ “เธอถีบหว่านหว่านตกทะเลสาบเพราะลูกหมูตัวเดียวค่ะ”

“หว่านหว่านว่ายน้ำไม่เป็น อากาศในเดือนมีนาคมก็หนาวเย็น เกิดเป็นอะไรไปจะทำยังไงคะ”

เธอนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าลูกเลี้ยงจะกล้าได้ขนาดนี้

จงจือหว่านเป็นคุณหนูใหญ่ที่เธอเลี้ยงมากับมือ เคยถูกรังแกแบบนี้ที่ไหนกัน

คุณนายจงพูดต่อ น้ำเสียงเย็นชา “ท่านผู้เฒ่าคะ เรื่องนี้ฉันไม่ยอมปล่อยเลยตามเลยนะคะ”

จงจือหว่านเป็นหลานสาวแท้ๆ ของผู้เฒ่าจง ถึงแม้เป็นคุณหนูใหญ่ที่แท้จริงของตระกูลอิ๋ง ในตระกูลจงนี้ย่อมไม่ใส่ใจเท่ากับจงจือหว่านแน่นอน

ต่อให้ผู้เฒ่าจงจะเลอะเลือนแค่ไหน คงไม่มีทางไม่รู้ว่าใครแซ่จงหรือเปล่า

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท