คำพูดเย้ยหยันแบบไม่ปิดบังแม้แต่น้อย
ตบนี้ทำให้จงจือหว่านนิ่งไปทันที หูดับไปชั่วขณะ
ยังไม่ทันที่เธอจะรู้สึกตัว เคอฮุ่ยจูก็ง้างมือขึ้นอีกครั้งแล้วตบที่ใบหน้าฝั่งซ้ายของจงจือหว่าน
“เธอไม่รู้จักดูตัวเองหรือไงว่าคู่ควรไม่คู่ควร” เคอฮุ่ยจูตบไปเต็มแรง
ถูกตบไปสองที แก้มของจงจือหว่านก็บ่วมเป่ง มุมปากก็แตกเล็กน้อย คนรอบตัวต่างหยุดดู มีทุกเชื้อชาติ ต่างชี้มาที่จงจือหว่านพลางซุบซิบ
“คุณเคอ” สีหน้าของคุณนายจงเย็นชาลง เอามือข้างหนึ่งจับจงจือหว่านไปไว้ข้างหลังเพื่อปกป้องลูก “ทำเกินไปแล้วนะคะ”
ถึงแม้เรื่องนี้จะทำให้เธอเสียหน้า อยากสั่งสอนจงจือหว่าน
แต่อย่างไรเสียจงจือหว่านก็เป็นลูกสาวของเธอ เคอฮุ่ยจูกล้าตบแบบนี้ต่อหน้าเธอเลยเหรอ
“ฉันทำเกินไปเหรอ” เคอฮุ่ยจูแสยะยิ้ม “คุณเป็นแม่ของเธอใช่ไหม ลูกสาวที่คุณสั่งสอนมาใช่ไหม”
“ลูกสาวของคุณทำลายหวาซิ่วของตระกูลเคอ ฉันไม่เอาถึงตายแค่ตบเธอสองทีนี่ก็ดีมากแล้ว!”
ถึงแม้ตระกูลเคออยู่ที่ตี้ตูจะเป็นแค่ตระกูลขนาดกลาง แต่ก็เพียงพอเทียบชั้นกับสี่ตระกูลเศรษฐีของฮู่เฉิงได้ กิจการก็มีอยู่เยอะ
ในรุ่นของเคอฮุ่ยจู ลูกสาวก็มีแค่เธอกับคุณนายมู่ คุณนายมู่แต่งเข้าตระกูลมู่ จึงไม่ได้รับช่วงต่อกิจการของตระกูลเคอ หวาซิ่วจึงตกมาอยู่ในมือของเคอฮุ่ยจู กิจการที่ดีกว่าของตระกูลเคอได้ถูกพวกพี่น้องผู้ชายคนอื่นๆ เอาไปหมดแล้ว
เดิมทีเคอฮุ่ยจูคิดว่าอยากอาศัยการประกวดออกแบบครั้งนี้ทำให้หวาซิ่วรุ่งเรือง กลายเป็นแบรนด์ออกแบบระดับนานาชาติ แต่ตอนนี้ยังจะมีคนซื้อสินค้าของหวาซิ่วหรือเปล่าก็ไม่รู้!
เคอฮุ่ยจูก้มมองสองแม่ลูกคู่นี้ด้วยสีหน้าดูถูก สีหน้าของคุณนายจงย่ำแย่ ความอับอายแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนปรากฏเต็มสมองของเธอ
เธอหายใจแรง พูดตวาดเสียง “จงจือหว่าน ยังไม่ขอโทษอีก!”
“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ!” น้ำตาที่จงจือหว่านกลั้นมาตลอดช่วงเย็นในที่สุดก็ไหลออกมา เธอร้องไห้จนหายใจไม่ทัน “หนูไม่รู้ หนูไม่รู้อะไรทั้งนั้น”
“ตลก!” เคอฮุ่ยจูรู้สึกยิ่งมองก็ยิ่งขยะแขยง “ฉันไม่เชื่อว่าเธอไม่รู้ว่าเป็นการคัดลอกผลงาน อย่ามาโกหกอยู่ตรงนี้ ฉันจะบอกเธอไว้นะ ตราบใดที่ตระกูลเคอยังมีคนอยู่ในตี้ตู ชีวิตนี้เธอก็อย่าคิดจะเหยียบเข้าวงการของตี้ตู!”
“รวมถึงค่าเสียหายของหวาซิ่ว พวกเธอก็ต้องชดใช้ด้วย”
เคอฮุ่ยจูพูดจบก็ดึงเด็กหนุ่มข้างตัวเดินไปข้างหน้า เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
เธอหยุดลง หันกลับไปแสยะยิ้ม “จงจือหว่าน ชุดที่เธอใส่อยู่ตอนนี้ราคาเก้าแสน ก็ต้องคิดด้วยเหมือนกัน” จงจือหว่านแค่ร้องไห้ ไม่กล้าพูดอะไรทั้งนั้น
เด็กหนุ่มกลับยิ้ม “อา ไม่สู้ยกเธอให้ผม…”
“หุบปากเดี๋ยวนี้!” เคอฮุ่ยจูกำลังโมโหเลือดขึ้นหน้า ฟาดเข้าที่หลังของเขาหนึ่งที
“ดาราเล็กๆ ที่แกหามา อายังไม่ได้คิดบัญชีกับแกเลยนะ”
และก็เป็นเวลานี้เอง ลั่วจื่อเย่ว์วิ่งยกชายกระโปรงออกมาด้วยท่าทางลนลาน “คุณชายเคอ ช่วยฉันด้วย ต้องช่วยฉันนะคะ พวกเขากำลังขุดเรื่องฉาวของฉัน ถ้าคุณไม่ช่วย ฉันก็อยู่ต่อไปไม่ได้แน่”
พอได้ยินแบบนี้เด็กหนุ่มก็เลิกทำเจ้าชู้ บอกปัดความสัมพันธ์ทันที “อาครับ พวกเรารีบกลับตี้ตูกันเถอะ”
เขาเองก็ไม่สนใจลั่วจื่อเย่ว์ เดินตามเคอฮุ่ยจูไปขึ้นรถ
…
ตระกูลมู่ในเมืองตี้ตู
เดิมทีคุณนายมู่จะพักผ่อนแล้ว แต่หลังจากรับสายของเคอฮุ่ยจูก็ใจคอไม่ดี
เธอรีบดึงแผ่นมาร์คบนใบหน้าออก เปิดโทรศัพท์มือถือแล้วโหลดเวยปั๋วจากคลังแอป พอเข้าไปก็เห็นคำค้นยอดนิยมจำนวนมาก สีหน้าของคุณนายมู่เปลี่ยนไปทันที
ใบหน้าของเธอเย็นชา รีบโทรหาจงมั่นหวา
“มั่นหวา หลานสาวลูกพี่ชายเธอช่างใจกล้ามากนะ ถึงกับกล้าโกหกฉัน เดิมทีฉันอยากให้โอกาสเด็กคนนั้นได้เข้ามาในวงการของตี้ตู ใครจะไปรู้ว่าเด็กคนนั้นทำขายหน้าไปทั่วโลกแล้ว”
“เธอรีบรับเฉินโจวไปที่บ้านเธอเดี๋ยวนี้เลยนะ ลูกเลี้ยงคนนั้นของเธอต่อให้นิสัยแย่อย่างไร ก็ดีกว่าคนที่คัดลอกผลงานคนอื่น ฉันไม่มีทางปล่อยให้ลูกชายฉันคลุกคลีอยู่กับคนแบบนี้อีกต่อไปแล้ว”
และก็ไม่รอให้จงมั่นหวาตอบอะไร คุณนายมู่กดตัดสายด้วยความกลุ้มใจ
ตระกูลเคอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ไม่มีทางที่ตระกูลมู่จะไม่รู้
เมื่อหลายวันก่อนมู่เฉิงที่เป็นตัวแทนของมู่เฮ่อชิงได้พูดด้วยตัวเองว่ามู่เฮ่อชิงจะเลือกผู้สืบทอด
เธอกลัวว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อมู่เฉินโจว
ตอนนี้คุณนายมู่นอนไม่หลับแล้ว เอาผ้ามาคลุมบ่าแล้วเดินออกจากห้อง
…
วันต่อมา
ความเคลื่อนไหวในเวยปั๋วมีแต่จะมากขึ้น ไม่มีลดเรื่องราวไปถึงระดับโลก ชาวเน็ตให้ความสนใจกันมาก ไม่นานข้อมูลของจงจือหว่านก็ถูกคุ้ยออกมา พอข้อมูลเปิดเผยชาวเน็ตต่างก็ตะลึง คุณหนูใหญ่ตระกูลจงแห่งฮู่เฉิงทที่หนึ่งของชั้นปีโรงเรียนมัธยมชิงจื้อ มีชาติตระกูล หน้าตาเพียบพร้อม การเรียนก็ไม่ได้แย่ ทำไมถึงเดินเส้นทางนี้
[คุ้นๆ ตระกูลจงนะ เมื่อไม่กี่เดือนก่อนใช่ที่สัญญาเดิมพันอะไรกับบริษัทต่างชาตินั่นไหม]
[ฉันจำได้ๆ เฝ่ยชุ่ยไจ! เย่าจือเคยโพสต์หยกของเฝ่ยชุ่ยไจ]
[ฉันก็จำได้ที่สัญญาเดิมพันของของตระกูลจงชนะได้ยังเป็นเพราะหลานสาวสายนอกของพวกเขา ฉันล่ะอยากรู้ว่าทำไมคุณหนูใหญ่กลับกลายเป็นคนที่ทำเรื่องแบบนี้ได้]
ก็เหมือนกับที่จงจือหว่านคิดไว้ ชื่อเสียงของเธอดังกระฉ่อนไปทั่วโลกในชั่วข้ามคืนแล้ว
ชาวเน็ตประเทศอื่นก็พากันวิพากษ์วิจารณ์เธอในสื่อต่างๆ
สิบเปอร์เซ็นต์รู้สึกเสียดาย เก้าสิบเปอร์เซ็นต์คือเกลียดชัง
เรื่องของลั่วจื่อเย่ว์ยังคงมีคนไม่เท่าไรที่รู้ แต่สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีไปกว่าจงจือหว่าน
ชาวเน็ตขุดหลักฐานทั้งหมดเรื่องที่เธอเป็นผู้เข้าร่วมรายการวัยรุ่นสร้างฝัน หนึ่งศูนย์ มีพฤติกรรมอวดดี รังแกรูมเมท รวมถึงเรื่องโกงคะแนนโหวตในคืนสุดท้ายที่จะได้รวมกลุ่มเดบิวต์
แค่คืนเดียวเรื่องก็ว่อนไปทั่วเน็ต ไม่มีตระกูลเคอปกป้อง ข่าวฉาวที่มีหลักฐานชั้นดีแบบนี้ก็ปิดไว้ไม่อยู่อีกต่อไป ต้นสังกัดของลั่วจื่อเย่ว์ก็ยกเลิกสัญญากับเธออย่างรวดเร็ว ตัดขาดความสัมพันธ์
ครั้งนี้เธอถูกดับฝันอย่างสิ้นเชิงแล้ว
เนี่ยเฉายังพอจำชื่อนี้ได้ เขาเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นมาตลอด เวลานี้จึงอารมณ์ดีมาก
“คุณชายเจ็ด บอส ทุกคนว่าสมน้ำหน้ายัยคนนี้ไหม กล้ามาแย่งเก้าอี้ของฉัน หึ!”
ขณะพูดเขาก็หันไปมอง แล้วก็พบว่าสองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะอาหารไม่ได้สนใจเขา และก็ไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่ นั่งกันซะใกล้ ตูตูที่อยู่ข้างๆ เอาจมูกสีชมพูเชิดขึ้น “หึ!”
เนี่ยเฉา “…” เขารู้สึกว่าหมูตัวนี้กำลังเยาะเย้ยเขา แต่เขาไม่มีหลักฐาน
แต่ว่า…
เขาลูบคาง สองคนนี้ในที่สุดก็มีความคืบหน้าแล้วหรือเปล่า แต่ทว่าสิ่งที่เนี่ยเฉาไม่เห็นก็คือ ข้างหน้าของอิ๋งจื่อจินมีโทรศัพท์มือถือ บนหน้าจอโทรศัพท์เป็นหน้าโหวตลงคะแนน ในนั้นมีรูปดาราจำนวนมาก
“คุณโหวตเสร็จหรือยัง” อิ๋งจื่อจินกดโหวตอีกครั้ง “ทุกชั่วโมงจะได้ยี่สิบโหวต ต้องคอยกดโหวต อย่าให้ถูกทิ้งห่าง”
“ได้” ฟู่อวิ๋นเซินนั่งพิง ใบหน้าหล่อเหลายังคงสะกดใจเช่นเคย สีหน้าของเขาเรื่อยเปื่อย ยิ้มมุมปาก
“เด็กน้อย เธอนี่เอาแต่รังแกพี่ชายนะ” และก็มีแค่เธอที่กล้าให้เขาทำเรื่องแบบนี้
อิ๋งจื่อจินเท้าคาง พอได้ยินก็หันหน้ามาแต่กลับไม่ปฏิเสธ ดวงตาของอิ๋งจื่อจินมีหมอกปกคลุม มีประกายสะท้อน คล้ายประกายน้ำในบ่อน้ำเย็นที่อยู่ภายใต้แสงจันทร์ ความงามของเธออานุภาพสูง แต่ไม่ใช่ความงามแบบยั่วยวน แต่ในยามที่เธอมองมาด้วยสายตาที่เย็นชาแบบนี้ ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ กลับดูเป็นการเย้ายวนเหลือเกิน
พลังที่ไม่ว่าใครก็มิอาจหลุดพ้นไปได้ง่ายๆ
ยอมตกอยู่ในวังวนนั้น
“ไปเมื่อไร”
“วันมะรืน ไม่ต้องเอาอะไรไป ทางนั้นมีหมด”
“อะไรๆ” เนี่ยเฉาหูผึ่ง “สองคนนี้จะไปไหนกัน ฮันนีมูนเหรอ”
“ฮันนีมูนอะไร ฉันไม่รู้หรอกนะ” ฟู่อวิ๋นเซินพับแขนเสื้อขึ้นอย่างใจเย็น น้ำเสียงทุ้มต่ำ ดวงตาลุ่มลึกดุจยามราตรี เปล่งประกายเล็กน้อย “รู้แต่ว่านายกำลังจะโดนต่อย”
“…”
…
วันนี้ผู้เฒ่าจงยังไม่ได้เข้าเวยปั๋ว
เพราะถูกซังเย่าจือหาลูกค้าให้โดยบังเอิญ ช่วงไม่กี่เดือนมานี้กิจการของจงซื่อกรุ๊ปไปได้สวยมาก เดิมทีด้วยวัยของผู้เฒ่าจงควรเกษียณได้แล้ว แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เขายิ่งทำก็ยิ่งมีเรี่ยวแรง
เขากลับบ้านตอนเที่ยง
พอเข้าบ้านพ่อบ้านก็พูดขึ้นด้วยความร้อนใจ “คุณท่าน เกิดเรื่องแล้วครับ คุณหนูใหญ่ลอกเลียนแบบผลงานออกแบบของคนอื่น เรื่องลามไปถึงเว็บไซต์ของต่างประเทศแล้วครับ”
ผู้เฒ่าจงสีหน้าเปลี่ยน “เกิดอะไรขึ้น” พ่อบ้านจงยื่นโทรศัพท์มือถือให้พลางเล่าเรื่องให้ฟังคร่าวๆ
ผู้เฒ่าจงตบโต๊ะอย่างแรง ไม่เพียงแต่เขาจะโกรธที่มากกว่าคือความเป็นห่วง “ตอนนี้หว่านหว่านอยู่ที่ไหน ไปยุโรปตั้งแต่เมื่อไร แล้วไปเข้าร่วมประกวดออกแบบได้อย่างไร!”
ตอนนั้นคุณนายจงบอกว่า เห็นช่วงนี้จงจือหว่านเรียนเครียดอยากพาเธอไปผ่อนคลาย จึงลาหยุดที่โรงเรียนหลายวัน
ผู้เฒ่าจงก็อนุญาต
“คุณหนูใหญ่น่าจะยังอยู่ที่ยุโรปครับ” พ่อบ้านจงรีบพูดขึ้น “เมื่อครู่ผมโทรหาคุณนาย แต่ทางนั้นไม่รับครับ” ผู้เฒ่าจงโมโหเวียนหัว เอามือจับตรงหัวใจ “บอกให้พวกเขารีบกลับมา”
เขากลัวจงจือหว่านจะทำเรื่องที่ตัวเองต้องมานั่งเสียใจภายหลังเพราะถูกคุณนายจงดุด่า
แต่เขานึกไม่ถึงว่าจะกะทันหันขนาดนี้
อีกทั้งเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงตระกูลเคอ ชูกวงมีเดีย รวมถึงนักออกแบบทั้งในและต่างประเทศ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าจงจือหว่านทำผิดครั้งใหญ่
หากเป็นเรื่องอื่น ต่อให้ยากกว่านี้เขาก็ปกป้องได้
แต่ครั้งนี้ไม่ไหว
เพียงชั่วพริบตาราวกับผู้เฒ่าจงแก่ลงไปหลายปี
“ครับคุณท่าน” พ่อบ้านจงพยักหน้า จากนั้นก็รีบร้อนออกไป
ผู้เฒ่าจงเปิดเวยปั๋วประเด็นร้อนก็เห็นข้อความใหม่
แอทจอมแฉสะท้านโลกไซเบอร์ : [มีชาวเน็ตส่งข่าวมาว่า นักออกแบบของหวาซิ่วครั้งนี้ทำความผิดซ้ำซาก เมื่อก่อนก็เคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อนขโมยผลงานของน้องสาวตัวเอง อ่านเอาข้างล่าง]
ด้านล่างมีรูปภาพแนบมาหนึ่งรูป มาจากเว็บบอร์ดโรงเรียนมัธยมชิงจื้อ