คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 341 นึกไม่ถึงว่าคนที่เธอดูถูกจะมีตัวตนที่น่ากลัวแบบนี้

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 341 นึกไม่ถึงว่าคนที่เธอดูถูกจะมีตัวตนที่น่ากลัวแบบนี้

การคุกเข่าทำความเคารพของหลิงตันกับหลิงซวงทำให้มือของสือเฟิ่งอี๋ที่จับเข็มเงินเริ่มอ่อนแรง เกือบทิ่มเข้าร่างกายตัวเอง

“เดาแม่นจริงนะ รู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นนายใหญ่ตระกูลหลิง” เจียงฮว่าผิงจัดให้สือเฟิ่งอี๋อีกหนึ่งดอก

“คนไม่รู้คงคิดว่าป้าเป็นปรมาจารย์ทำนายดวงชะตาของตระกูลตี้อู่นะเนี่ย”

เยี่ยซู่เหอที่อยู่บนพื้นถูกเจียงฮว่าผิงเหยียบไว้ขยับไม่ได้ หูมีแต่เสียงอื้ออึง

ไม่ว่าจะตระกูลหลิงหรือตระกูลตี้อู่ก็ล้วนแต่เกินขอบเขตความรู้ของเยี่ยซู่เหอ

เธอไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อของสองตระกูลนี้ แต่เจียงฮว่าผิงกลับพูดออกมาได้

ต่อให้เยี่ยซู่เหอจะโง่แค่ไหนก็มองออกว่าตระกูลหลิงเป็นตระกูลจอมยุทธ์ที่แข็งแกร่งมาก

ส่วนเจียงฮว่าผิงที่เธอคิดมาตลอดว่าไม่มีความสามารถอะไรกลับเป็นถึงนายหญิงของตระกูลหลิง!

เธอยังคิดจะแทนที่ด้วยซ้ำ

นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน

เยี่ยซู่เหอเริ่มหายใจลำบาก เธอรู้สึกเพียงว่าความอับอายปกคลุมร่างกาย สภาพย่ำแย่ขั้นสุด เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เจียงฮว่าผิงที่เธอดูถูกจะมีตัวตนที่น่ากลัวแบบนี้

สือเฟิ่งอี๋มองผู้ชายวัยกลางคนด้วยสีหน้าหวาดกลัว

“แก…แกก็คือหลิงฉงโหลว!”

นายใหญ่ตระกูลหลิง หลิงฉงโหลว!

ถึงแม้สือเฟิ่งอี๋จะออกจากวงการแพทย์แผนโบราณมาหลายสิบปีแล้ว แต่เพื่อเป็นการหลบพวกตระกูลแพทย์แผนโบราณที่ตามล่าตัวเธอ เธอจึงไม่มีทางไปที่วงการจอมยุทธ์

แต่ข่าวบางอย่างก็พอจะรู้ได้ เป็นต้นว่าการเปลี่ยนถ่ายอำนาจของตระกูลจอมยุทธ์กับตระกูลแพทย์แผนโบราณ

ที่ตัวชายวัยกลางคนมีความน่าเกรงขามแบบที่สะสมบารมีมานานหลายปี แรงกดดันแบบนี้ไม่ใช่จอมยุทธ์ทั่วไปจะมีได้

สือเฟิ่งอี๋นึกไม่ถึงว่า นายใหญ่ตระกูลหลิงจะมาที่ฮู่เฉิงด้วยตัวเอง

“เสี่ยวฮว่า” หลิงฉงโหลวเดินเข้ามา เมื่อแน่ใจแล้วว่าเจียงฮว่าผิงไม่ได้รับบาดเจ็บ สายตาถึงกลับไปมองสือเฟิ่งอี๋อีกครั้ง

เขาเอามือไพล่หลัง พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฉันคือหลิงฉงโหลว”

“เป็นไปไม่ได้!” สือเฟิ่งอี๋ถอยหลังหนึ่งก้าว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมเชื่อ เธอเป็นพวกแข็งนอกแต่ข้างในใจเสาะ

“ถ้าแกเป็นนายใหญ่ตระกูลหลิงจริง แกจะแต่งงานกับคนธรรมดาเหรอ ล้อเล่นอะไรน่ะ!”

เป็นนายใหญ่ของตระกูลจอมยุทธ์ได้ ย่อมเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาคนรุ่นเดียวกัน

อย่างไรเสียวงการจอมยุทธ์ก็วัดกันที่ฝีมือ ถ้าไม่เก่งจริง สถานะนายใหญ่ย่อมไม่มั่นคง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการคุมทั้งตระกูล อย่าว่าแต่นายใหญ่ ต่อให้เป็นลูกหลานคนสำคัญที่มีความสามารถก็ไม่มีทางแต่งงานกับคนนอก

จอมยุทธ์ที่มีพรสวรรค์มีแต่จะแต่งงานกับจอมยุทธ์ที่มีพรสวรรค์ด้วยกัน แบบนี้พรสวรรค์ของลูกที่ออกมาก็จะยิ่งสูงขึ้น

หลิงฉงโหลวแต่งงานกับผู้หญิงธรรมดาที่ฝึกจอมยุทธ์ไม่ได้ จะแตกต่างอะไรกับการสิ้นสุดทายาทสืบสกุล

“สือเฟิ่งอี๋ ซ่อนตัวเก่งจริงนะ” หลิงฉงโหลวไม่ตอบคำถาม แต่พูดขึ้น

“ถ้าไม่ใช่เพราะลูกสาวของเธอเปิดเผยร่องรอยของเธอ เกรงว่าวงการแพทย์แผนโบราณคงจับเธอไม่ได้ตลอดไป”

คำพูดนี้ราวกับเป็นการตบหน้าเยี่ยซู่เหออีกครั้ง

เธอแทบไม่อยากเชื่อ “ลูกสาวเหรอ”

เธอเป็นลูกสาวของสือเฟิ่งอี๋เหรอ มิน่า หมอแผนโบราณอย่างสือเฟิ่งอี๋ถึงถ่ายทอดความรู้ให้เธอ แถมยังจะช่วยเหลือเธอ หน้าผากของสือเฟิ่งอี๋มีเหงื่อผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ใกล้สติแตกเต็มที

“พอได้ถุงหอมใบนั้นมาฉันก็ให้ฉงโหลวไปหาวงการแพทย์แผนโบราณ” เจียงฮว่าผิงมองสือเฟิ่งอี๋ด้วยสายตาเย็นชา

“ทางนั้นยืนยันว่านี่เป็นสูตรยาสมุนไพรของป้า”

“ครั้นแล้วฉันกับฉงโหลวก็เลยวางแผนกัน ยืมมือเยี่ยซู่เหอล่อป้าออกมา”

วงการแพทย์แผนโบราณสั่งห้ามใช้สมุนไพรที่ส่งผลต่อประสาทและการรับรู้แบบนี้มาตลอดวิธีการเลวร้ายอย่างเปลี่ยนโฉมหน้ายิ่งไม่ต้องพูดถึง

แต่สือเฟิ่งอี๋เป็นหนึ่งในคนที่ทำ ถึงแม้สภาพภายนอกของเธอจะดูอายุหกสิบกว่า แต่อายุจริงของเธอเกินหนึ่งร้อยปีแล้ว

เหมือนกับวิชาเล่นแร่แปรธาตุ แพทย์แผนโบราณก็สามารถยืดอายุได้ด้วยการใช้วิธีต่างๆ เช่น ใช้สมุนไพร การฝังเข็ม เป็นต้น แต่ได้มากสุดก็แค่ขีดจำกัดของมนุษย์

นักวิทยาศาสตร์วิจัยออกมาแล้วว่า เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เจริญก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ อีกหน่อยอายุเฉลี่ยของมนุษย์มีความเป็นไปได้ว่าจะเกินหนึ่งร้อยห้าสิบปี

แต่อันที่จริงแพทย์แผนโบราณในตอนนี้สามารถทำอนาคตนี้ให้เป็นจริงได้แล้ว

เจียงฮว่าผิงยิ้ม ก้มมองเยี่ยซู่เหอที่หน้าซีดอีกครั้ง

“ฉันจงใจพูดเยาะเย้ยเธอแบบนั้น นึกไม่ถึงว่าเธอจะหลงกลเข้าจริงๆ” จากรอยยิ้มกลายเป็นสีหน้าเย็นชา “ขนาดเจียงมั่วหย่วนยังถูกลากเข้าคุกได้ เธอคิดเหรอว่าเธอทำเรื่องเลวร้ายไปตั้งมากขนาดนั้น ฉันจะปล่อยเธอไปง่ายๆ”

มันเป็นกับดักตั้งแต่ต้นจนจบ

แค่ต้องการล่อเสือออกจากถ้ำเท่านั้น

“หลิงตัน หลิงซวง ส่งตัวไปให้ตระกูลฝู” หลิงฉงโหลวพูด

“บอกพวกเขาว่าฉันต้องการยาคงความเยาว์ที่พวกเขาเพิ่งทำออกมา”

หลิงตันกับหลิงซวงมองหน้ากัน พวกเขารู้สึกตะลึง

ยาคงความเยาว์ที่ตระกูลฝูเพิ่งทำออกมา ไม่เพียงแต่จะคงความเยาว์วัยไว้ได้ ยังสามารถทำให้คนธรรมดาอายุยืนไปอีกยี่สิบปี

แต่มีเงื่อนไขที่ว่า ต้องให้ผู้หญิงกินเท่านั้นถึงจะมีผล

พวกผู้อาวุโสของตระกูลฝูคิดค้นมาหนึ่งปีเพิ่งทำออกมาได้เม็ดเดียว

หลิงฉงโหลวต้องการเอามาให้ใครไม่ต้องบอกก็รู้

“ตระกูลฝูเหรอ” คราวนี้สือเฟิ่งอี๋เริ่มตื่นตระหนก “ไม่ได้นะ พวกแกส่งฉันไปตระกูลฝูไม่ได้!”

ถ้าเธอถูกส่งกลับตระกูลฝูจะต้องถูกทรมานแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนแน่นอน

“เธอเลือกไม่ได้” หลิงฉงโหลวยกมือจับบ่าของสือเฟิ่งอี๋ ใช้กำลังภายในปิดผนึกลมปราณของเธอ

สือเฟิ่งอี๋เป็นแพทย์แผนโบราณ ย่อมมีกำลังภายในในร่างกาย

แต่ตอนนี้กำลังภายในของเธอถูกปิดผนึกแล้ว แม้แต่เข็มเงินก็ใช้ไม่ได้

สือเฟิ่งอี๋กลัวยิ่งกว่าเดิม “ฝีมือแก…”

หลิงฉงโหลวเพิ่งอายุสี่สิบกว่า ถ้าเป็นในวงการจอมยุทธ์ก็ถือว่ายังหนุ่มมาก

แต่สือเฟิ่งอี๋กลับสัมผัสได้ว่า กำลังภายในของหลิงฉงโหลวแก่กล้ายิ่งกว่าจอมยุทธ์ที่ฝึกมาแปดสิบปีที่เธอเคยเจอมา

หลิงฉงโหลวไม่พูดอะไรกับสือเฟิ่งอี๋อีก “เอาตัวไป”

หลิงตันกับหลิงซวงเดินเข้าไปล็อกตัวสือเฟิ่งอี๋ไว้

ทันใดนั้นประตูของห้องเช่าก็ถูกถีบออกอีกครั้ง

ไม่สิ ถีบพังเลยต่างหาก

มีเสียงพูดด้วยความโมโห

“ปล่อยแม่ฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะเด็ดหัวพวกแกให้หมด ฉัน…”

เจียงหรานชะงัก

“ตุบ” ค้อนในมือเขาหล่นลง ทับโดนเท้าของเขาเต็มๆ

ไอ้XX

ทำไมพอเขาเข้ามาอาหารหมาก็สาดใส่หน้าเขาเต็มๆ ล่ะ

เจียงหรานทำหน้าบึ้งใส่

“รบกวนเวลาคุณหลิงกับคุณนายเจียงจะเร่าร้อนกันก็ช่วยระวังว่าลูกจะเห็นด้วย”

“ไอ้ลูกบ้า มานี่” หลิงฉงโหลวปล่อยเจียงฮว่าผิงออก เขาหลุดยิ้ม

“โตแล้วจริงๆ สินะ รู้จักปกป้องแม่”

เจียงหรานทำเสียงฮึดฮัด ไม่อยากสนใจเขา

“ครั้งก่อนที่กำลังภายในของแกพลุ่งพล่าน อาการแย่มาก” หลิงฉงโหลวหยุดเล็กน้อยแล้วถามต่อ

“รู้หรือเปล่าว่าใครช่วยแกไว้”

สีหน้าของเจียงหรานหยุดชะงัก เขาเม้มริมฝีปาก “ไม่รู้”

เขาเชื่อใจหลิงฉงโหลว แต่เพื่อความปลอดภัย ไม่มีใครรู้ว่าจะสร้างความยุ่งยากให้อิ๋งจื่อจินในภายหลังหรือเปล่า

กำลังภายในที่พลุ่งพล่านของเขา แม้แต่พวกตระกูลในวงการแพทย์แผนโบราณก็ยังรักษาไม่ได้

เรื่องไหนควรพูดเรื่องไหนไม่ควรพูด เจียงหรานเข้าใจดี

“กะแล้วว่าแกต้องไม่รู้”

หลิงฉงโหลวลูบศีรษะของเจียงหราน อารมณ์เหมือนพี่น้อง มือใหญ่จับคอของเขา

“ไปเถอะ เดี๋ยวพ่อเลี้ยงข้าว เรียกพวกเพื่อนสนิทของแกมาด้วยสิ”

โรงเรียนมัธยมชิงจื้อ

ห้องสิบเก้า

ตอนเช้าเจียงหรานไม่ได้มาเรียน

นี่เป็นเรื่องปกติถ้าเป็นเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ซิวอวี่สงสัยว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเขาหรือเปล่า

เธอหน้านิ่ว “พ่ออิ๋ง หมอนี่ยืมรถแข่งของฉันไป คงไม่ได้รถคว่ำตายแล้วนะ”

อิ๋งจื่อจินก็ขมวดคิ้ว “ฉันจะลองโทรหา”

ญาณพยากรณ์ของเธอยังไม่ฟื้นกลับมา พยากรณ์ไม่ได้ว่าเจียงหรานอยู่ที่ไหน

พอปลายสายกดรับ น้ำเสียงตื่นเต้นก็ดังลอดมา

“พ่อ! พ่อบังเกิดเกล้า!”

อิ๋งจื่อจินกดตัดสายทิ้งอย่างไร้เยื่อใย

น้ำเสียงเริงร่าแบบนี้ ฟังดูก็รู้ว่าไม่เป็นอะไร

เธอถึงขั้นจินตนาการได้ว่าหางของเจียงหรานกระดิกอย่างมีความสุขขนาดไหน

ไม่กี่วินาทีต่อมาโทรศัพท์มือถือของอิ๋งจื่อจินก็ดังอีกครั้ง

ครั้งนี้เจียงฮว่าผิงโทรมา

“เสี่ยวจื่อจิน พ่อของเจียงหรานมา ถ้าเธอว่าง พวกเราจะเลี้ยงข้าวเธอกับเสี่ยวอวิ๋นเซินแล้วก็เสี่ยวอวี่ด้วย คิดเสียว่าครอบครัวนัดกินข้าวกัน เธอคิดว่าไงจ๊ะ”

“ได้ค่ะ” อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว “บอกเวลากับสถานที่มาได้เลยค่ะ”

“เย็นนี้แล้วกัน” เจียงฮว่าผิงพูด

“ร้านจุ้ยอิ่นเฟิงหลิน เป็นร้านอาหารมังสวิรัติ ถ้าเธอกินไม่ได้ พวกเราเปลี่ยนได้นะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูได้หมด” อิ๋งจื่อจินจดเวลากับสถานที่ไว้แล้วส่งวีแชทหาฟู่อวิ๋นเซิน

“ดูท่าเจียงหรานจะหนีไม่พ้นจากการไล่ฆ่าของพ่อ” ซิวอวี่ทำเสียงจึ๊

“วันนี้ได้กินข้าวฟรี มีความสุขจริงๆ”

พอเลิกเรียนตอนบ่าย อิ๋งจื่อจินก็เดินไปกับซิวอวี่

ตอนออกจากประตูโรงเรียน ทั้งสองคนบังเอิญเจออิ๋งเย่ว์เซวียน แต่ต่างก็ไม่สนใจ

อิ๋งเย่ว์เซวียนจับสายสะพายกระเป๋าแน่น เดินไปที่รถ

ตรงนั้นมีคุณนายคนหนึ่งยืนอยู่

อิ๋งเย่ว์เซวียนเรียก “คุณนายหยวน”

คราวก่อนหลังจากที่เธอส่งโค้ดที่เขียนให้คุณนายหยวนหรือเมิ่งหรู เมิ่งหรูก็มาที่ฮู่เฉิงด้วยตัวเอง

เมิ่งหรูก็รู้สึกชื่นชมอิ๋งเย่ว์เซวียน เตรียมฝึกฝนเธอ

“เลิกเรียนแล้วเหรอจ๊ะ” เมิ่งหรูพยักหน้า ท่าทีถือว่าเป็นกันเอง

“ฉันจะพาไปเจอศาสตราจารย์สาขาคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยตี้ตู ขึ้นรถสิ”

“เดี๋ยวก่อนค่ะคุณนายหยวน” ในที่สุดอิ๋งเย่ว์เซวียนก็ตัดสินใจได้ “หนูมีเรื่องอยากถามน้องสาวค่ะ”

“ลูกเลี้ยงคนนั้นน่ะเหรอ” เมิ่งหรูมองตามสายตาของอิ๋งเย่ว์เซวียน และก็ต้องตะลึง “หน้าตาสวยจริงๆ”

ขณะพูดเธอก็ส่ายหน้า

สวยแล้วจะมีประโยชน์อะไร

ไม่เหมือนอิ๋งเย่ว์เซวียนที่เขียนโปรแกรมได้

เมิ่งหรูมองเล็กน้อยก็หมดความสนใจ

อิ๋งเย่ว์เซวียนรีบเดินเข้าไปขวางอิ๋งจื่อจิน

“น้องจื่อจิน ได้เจอพี่ใหญ่บ้างหรือเปล่า พี่มีเรื่องอยากคุยกับเขา เธอช่วยไปบอกหน่อยได้ไหม”

นับตั้งแต่วันนั้นที่อิ๋งเทียนลี่ว์ไล่พ่อบ้านออก อีกทั้งยังพูดแบบนั้น อิ๋งเย่ว์เซวียนก็รู้สึกได้ถึงความกลัวแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

เธอรู้สึกว่าเธอได้สูญเสียญาติสนิทคนหนึ่งไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว

อิ๋งเย่ว์เซวียนรู้สึกแย่จริงๆ

เมื่อก่อนอิ๋งเทียนลี่ว์ดีกับเธอมาก ความรู้สึกหดหู่แบบนี้ไม่มีใครทนไหว

อิ๋งจื่อจินไม่แม้แต่จะชายตามอง เดินผ่านอิ๋งเย่ว์เซวียนไป

ซิวอวี่ก็ขี้เกียจจะสนใจ

เมิ่งหรูหรี่ตามอง เดินเข้าไปหาอิ๋งจื่อจิน

“พี่สาวทักทาย ขอความช่วยเหลือ แต่เธอกลับไม่สนใจ ไร้มารยาทขนาดนี้ ที่บ้านสั่งสอนมาแบบนี้เหรอ”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท