ตอนที่ 582 บดขยี้ ผู้กุมอำนาจตระกูลลอเรนท์อวดรวย
[ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลอะไร การยอมให้คนอื่นทำร้ายพ่อตัวเองก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูก]
[อวิ๋นเหอเย่ว์ ดูเสื้อผ้าที่เธอใส่สิ แล้วดูเสื้อผ้าที่พ่อเธอใส่ คนหนึ่งเหมือนอยู่สวรรค์ อีกคนเหมือนอยู่บนพื้นดิน เธอไม่ละอายใจบ้างเหรอ]
[หนุ่มสาวสมัยนี้ จึ๊ๆ ไม่เพียงแต่จะไม่เชื่อฟังพ่อแม่ พอได้ดีก็ยังจะไม่ส่งเงินให้พ่อแม่อีก พูดกันว่าแก่ไปมีลูกเลี้ยงดู ไหนล่ะ]
[ออกจากวงการ! ออกจากวงการ! ยังไม่แบนอีกเหรอ]
อวิ๋นเหอเย่ว์ย่อมไม่เห็นข้อความแสดงความคิดเห็นที่เลื่อนขึ้นมาบนหน้าจอ
เธอมองกล้องแล้วเงียบอยู่สักพักถึงพูดขึ้น “เมื่อไม่กี่วันก่อนออกแถลงการณ์ขอโทษไป แต่ไม่เคยบอกทุกคนว่าทำไมฉันถึงต้องแต่งตัวเป็นผู้ชายเข้าวงการบันเทิง”
นี่ก็เป็นคำถามที่หลายๆ คนให้ความสนใจ
แต่บรรดาแฟนคลับสังเกตได้ถึงความผิดปกติหลังจากที่คราวก่อนเห็นอวิ๋นเหอเย่ว์ตอบ จึงไม่ได้ถามอะไรอีก
“ฉันถูกใช้ความรุนแรงในครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งอายุสิบหก” อวิ๋นเหอเย่ว์พูด พับแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นแขน
บนนั้นเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นที่ไม่น่ามอง
แสดงให้เห็นว่าเธอเคยประสบเหตุการณ์อันเลวร้ายมามากขนาดไหน
[…]
เกิดความเงียบขึ้นในห้องไลฟ์สด
ไม่มีใครพิมพ์อะไรแม้แต่คำเดียว
“เขาทุบตีฉัน ทำร้ายแม่ เพราะเขาต้องการแค่ลูกชาย แม่ก็เลยเลี้ยงฉันเป็นลูกชายมาตลอดเพื่อให้เขาทุบตีตัวเองน้อยลง ช่วงก่อนอายุสิบห้าปี ฉันถึงขั้นที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นผู้หญิง”
“ครั้งที่รุนแรงที่สุดฉันถูกทุบตีจนมีเลือดออกในอวัยวะภายใน กระเพาะฉีกขาด” อวิ๋นเหอเย่ว์พูดเสียงสั่น ขนตาปกคลุมดวงตา เธอค่อยๆ สูดลมหายใจแล้วพูดต่อ “แต่ไม่มีใครพาฉันส่งโรงพยาบาล ฉันคิดว่าตัวเองจะตายแล้ว แต่ก็ได้เจอกับพี่ชายคนหนึ่ง”
“เขารู้ว่าฉันชอบร้องเพลงชอบเต้น ก็เลยส่งฉันเข้ารายการประกวด”
“ฉันมีสภาพจิตใจที่ผิดปกติอย่างรุนแรง เลยไม่ชอบเข้าสังคม ไม่พูดคุย”
“ฉันเดินมาจนถึงทุกวันนี้ได้ ต้องขอขอบคุณอยู่สองคนค่ะ” อวิ๋นเหอเย่ว์ยิ้ม เผยให้เห็นลักยิ้มจางๆ “คนหนึ่งคือพี่ชายที่ใช้เงินหนึ่งแสนช่วยฉันออกมาจากครอบครัวนี้ และอีกคนหนึ่งก็คือพี่สาว”
“พี่สาวทำแบบนั้นก็เพื่อปกป้องฉัน”
“ถ้าไม่มีพวกเขา ฉันคงไม่ได้มาคุยกับทุกคนที่นี่แล้วค่ะ ฉันอาจจะตายไปแล้ว ไม่รู้ว่าตายที่ไหน อาจจะข้างถนนก็ได้ค่ะ”
คนที่รู้จักอวิ๋นเหอเย่ว์ดีต่างรู้ว่าถึงแม้เธอจะโตกว่าอิ๋งจื่อจินสองปี แต่เธอเรียกอิ๋งจื่อจินว่าพี่สาว
อิ๋งจื่อจินฟังอยู่ด้านข้าง ปลายนิ้วซีดและเย็นเฉียบ
เธอไม่เคยเห็นอวิ๋นเหอเย่ว์ในสภาพที่โดนครอบครัวทำร้ายร่างกาย แต่ฟังดูก็พอนึกภาพตามได้ว่าตอนนั้นเป็นอย่างไรกันแน่
อวิ๋นเหอเย่ว์โค้งตัวให้กล้องอีกครั้ง “และก็ขอขอบคุณแฟนคลับของฉันกับสมาชิกในวงที่ไม่ได้คาดคั้นถามฉัน”
คำพูดสั้นๆ แต่ทำเอาคนที่ดูไลฟ์สดสมองว่างเปล่า
“วันนี้ฉันมายืนอยู่ตรงนี้ นอกจากเพื่อเผชิญหน้ากับสิ่งที่ฉันประสบมา ยังเพื่อต้องการบอกกับผู้หญิงอีกหลายๆ คนว่าถ้ามีคนรังแกพวกคุณ จะต้องปกป้องตัวเองให้ดีนะคะ”
อวิ๋นเหอเย่ว์พูดจบก็ถอยหนึ่งก้าวเพื่อหลีกทาง
ใบหน้าของอิ๋งจื่อจินปรากฏต่อสาธารณชนอีกครั้ง
อิ๋งจื่อจินไม่ได้บอกว่าเธอทำอะไรให้อวิ๋นเหอเย่ว์บ้าง พูดเพียงว่า “ชูกวงมีเดียได้ติดต่อตระกูลมู่กับตระกูลเนี่ยแล้ว เพื่อก่อตั้งมูลนิธิสำหรับช่วยเหลือเด็กและสตรีโดยเฉพาะ อีกสักระยะจะประกาศรายละเอียดลงบนเว็บไซต์ ขอให้ทุกคนร่วมกันสอดส่องด้วยนะคะ”
การไลฟ์สดจบลงเท่านี้ คลิปเริ่มถูกแชร์ในเน็ตอย่างรวดเร็ว
[ฉันร้องไห้เลย น้ำตาไหลไม่หยุด ดูการแสดงของเย่ว์เย่ว์มาตลอด เธอโดดเด่นมากยามอยู่บนเวที ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตเธอเคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน]
[เปิดบาดแผลที่ลึกสุดของผู้หญิงคนหนึ่งออกมา พอใจกันแล้วใช่ไหม]
[โชคดีที่พี่อวิ๋นแต่งตัวเป็นชายมาตลอด ถ้าเป็นผู้หญิง ไม่รู้ว่ายังจะถูกรังแกอีกเยอะแค่ไหน]
ความเป็นดารากระแสนิยมทำให้ได้รับความสนใจเยอะมาก บรรดาแฟนคลับเริ่มบริจาคเงิน
อย่าว่าแต่กลุ่มคนทั่วไปเลย ดาราคนอื่นๆ ก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับอวิ๋นเหอเย่ว์
สร้างความตะลึงไปทั้งวงการบันเทิงอีกครั้ง
แอทซังเย่าจือ : [แอทอวิ๋นเหอเย่ว์ พี่ชายอยู่ตรงนี้นะ]
แอทเซี่ยมั่นอวี่ : [แอทอวิ๋นเหอเย่ว์ พี่สาวอยู่ตรงนี้นะ]
แอทเจียงอี้ : [แอทอวิ๋นเหอเย่ว์ ยังมีพวกเราอยู่นะ!]
น้อยครั้งที่จะเห็นเหล่าดารารวมตัวเป็นกำลังใจ ครั้งล่าสุดที่วงการบันเทิงรวมตัวกันทำอะไรแบบนี้เป็นตอนที่ผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยของอิ๋งจื่อจินออกมา คนในวงการบันเทิงมากกว่าครึ่ง ดาราชั้นแนวหน้าทั้งหมดต่างร่วมฉลองส่งของขวัญเล่นเกมสุ่มแจกรางวัล
ครั้งนี้พวกเขาร่วมกันส่งเสียงเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง
พวกเขาใช้วิธีนี้บอกอวิ๋นเหอเย่ว์ว่า ไม่มีใครทำลายความฝันของเธอได้
ผู้หญิงทุกคนล้วนมีค่าให้ทะนุถนอม
…
ต่อมาไม่นานชายวัยกลางคนก็ถูกส่งเข้าคุก
หลังจากทราบข่าวนี้เหล่าสมาชิกในวงก็ไปกินข้าวฉลองกับอวิ๋นเหอเย่ว์ และยังได้เรียกอิ๋งจื่อจินกับดาราคนอื่นๆ ไปด้วย
อวิ๋นเหอเย่ว์ชี้เมนู แอบพูดกับอิ๋งจื่อจิน “พี่สาว มะละกอ มะละกอ”
มือของอิ๋งจื่อจินชะงัก สุดท้ายก็สั่งเมนูนั้นให้
กินกันเสร็จอย่างรวดเร็ว แต่บรรยากาศบนโต๊ะอาหารดูแตกต่างจากเมื่อก่อน
อวิ๋นเหอเย่ว์เหม่อมองจาน
เจียงอี้หันมาเตะเก้าอี้ของเธอ “นี่ หัวหน้า คิดอะไรอยู่”
ถึงแม้จะแยกวงกันไปแล้ว พวกเขาต่างแยกย้ายทำงานเดี่ยว แต่ก็ขี้เกียจเปลี่ยนคำเรียก
อวิ๋นเหอเย่ว์เงยหน้า ชี้ตัวเองพลางพูดด้วยความกลุ้มใจ “กำลังคิดว่าทำยังไงหน้าอกถึงจะใหญ่ขึ้น”
เจียงอี้ “…”
เรื่องนี้พูดให้เขาฟังได้ด้วยเหรอ
เกิดความลุ่มร้อนอยากจีบสาว กดไม่ลง
เจียงอี้ลุกขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย เตะถูกขวดเบียร์ ออกไปเข้าห้องน้ำด้านนอก
อวิ๋นเหอเย่ว์มองเจียงอี้เดินออกไปไกลด้วยความสงสัย
วันนี้คู่หูของเธอดูแปลกๆ ชอบกล
อวิ๋นเหอเย่ว์ไม่คิดอะไรมาก เธอเตรียมกลับไปกินมะละกอต้มนมต่อเย็นนี้
พอนึกถึงตรงนี้ เธอกลับถึงห้องซ้อมก็ไปเต้นต่ออย่างมีความสุข จากนั้นก็โพสต์เวยปั๋วเป็นโบนัสให้แฟนๆ
…
ไทม์มีเดียควบคุมกระแสวิจารณ์จากทางไกลอยู่ตลอด คนที่อยู่ในประเทศจีนก็มีแค่เฮเลน่ากับพนักงานไม่กี่คน
อิ๋งจื่อจินไล่เฮเลน่าออกจากรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 303 ทันที
เฮเลน่าเป็นเพียงเด็กฝึกที่ไทม์มีเดียส่งมา หลังจากขึ้นเวทีแสดงไปได้สองครั้ง ถึงแม้จะได้รับความนิยมจนติดห้าอันดับแรก มีแฟนคลับอยู่ไม่น้อย แต่ก็เทียบกับอวิ๋นเหอเย่ว์ไม่ได้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า เธอยังแอบทำเรื่องต่างๆ ลับหลังไว้มากมาย
อวิ๋นเหอเย่ว์ยังคงเป็นโค้ชให้รายการวัยรุ่นสร้างฝัน 303 ต่อ จึงไม่ได้ตามไปร่วมพิธีเปิดงานมอบรางวัลตุ๊กตาทองที่ยุโรปด้วย
เดิมทีเลขาสาวจะจองตั๋วเครื่องบิน ต่อมาฟู่อวิ๋นเซินกลับส่งเครื่องบินส่วนตัวมาลำหนึ่ง
ใช้เวลาเดินทางสิบสองชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงโรงแรม
เลขาสาวช่วยอิ๋งจื่อจินขนสัมภาระขึ้นไป ดวงตาเปล่งประกาย “บอสคะ ไม่เปิดดูเหรอคะ”
“…”
อิ๋งจื่อจินเหลือบมองเธอ รู้สึกว่าบทสนทนานี้มันคุ้นๆ
คราวก่อนเลขาสาวก็ถามแบบนี้ เธอแกะออกมาก็ได้หมอนข้างยาวร้อยเก้าสิบเซนติเมตรขนาดเท่าตัวคน
ขายหน้าสุดๆ
อิ๋งจื่อจินก้มหน้า พูดอย่างใจเย็น “หักเงินเดือน”
เลขาสาวที่เดิมอยากรู้อยากเห็นต้องน้ำตาคลอวิ่งหนีไป
พอเธอออกไปแล้วอิ๋งจื่อจินถึงนั่งลง เริ่มแกะพัสดุที่ฟู่อวิ๋นเซินเตรียมไว้ให้เธอ
ครั้งนี้ฟู่อวิ๋นเซินไม่ได้ยัดหมอนข้างขนาดเท่าตัวคนมาให้ ภายในบรรจุขนมที่เธอชอบกิน โดยแบ่งใส่กล่องแยกไว้ตามประเภท
และยังมีแผ่นแปะให้ความร้อนหนึ่งกล่อง
บนนั้นมีกระดาษโน้ตที่เขาเขียน
[อย่าลืมแปะหนึ่งแผ่นเวลาปวดท้อง]
อิ๋งจื่อจินเก็บของให้เรียบร้อย จากนั้นก็รับสายของซีซาร์
นับตั้งแต่เธอเผลอไปกดรับวิดีโอคอลของซีซาร์ครั้งนั้น เด็กผีนี่ก็ไม่ใช้วิธีส่งข้อความหาเธออีกเลย
“บอสมาถึงหรือยัง” ซีซาร์ถามเสียงเนือย “อยู่ที่ไหน จะได้ให้คนไปรับ”
อิ๋งจื่อจินบอกชื่อเมืองที่อยู่ใกล้ฟลอเรนซ์ “พรุ่งนี้เช้าแล้วกัน”
“ไม่มีปัญหา” ซีซาร์ตอบโดยไม่ลังเล “งั้นพรุ่งนี้ผมจะส่งรถสีทองไปรับบอส รับรองประกายแสบตาแน่”
อิ๋งจื่อจิน “…”
นี่แหละพวกอวดรวย
…
การเปิดศึกระหว่างไทม์มีเดียกับชูกวงมีเดียครั้งนี้ ถึงแม้ไทม์มีเดียจะไม่เสียหายอะไรแต่ก็เสียหน้า
กิจการของตระกูลแพชช์มีหลากหลายวงการ ถึงแม้วงการบันเทิงจะไม่ใช่อุตสาหกรรมที่พวกเขาให้ความสำคัญที่สุด แต่กลับทำเงินให้ไม่น้อย
หลังจากคลาร์คมารายงานตระกูลแพชช์ ไม่นานตระกูลแพชช์ก็ได้ข้อมูลทั้งหมดของอิ๋งจื่อจิน
ในข้อมูลระบุว่าเธอเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยตี้ตูและเป็นซีอีโอของชูกวงมีเดีย
นอกจากนี้ก็ไม่มีอย่างอื่นแล้ว
ถือว่าธรรมดามากในสายตาของตระกูลเศรษฐีเก่าแก่หลายร้อยปี
บริษัทเอนเตอร์เทนเมนต์อย่างชูกวงมีเดียไม่มีอำนาจอะไร ตระกูลแพชช์สามารถบดขยี้ได้เป็นสิบบริษัท
คลาร์คพูดอย่างนอบน้อม “คุณลุคครับ เอาไงต่อดีครับ”
“อิ๋งจื่อจิน” ลุคมองรูปถ่ายของเด็กสาว เงียบไปชั่วครู่แล้วพูดต่อ “วางใจได้ ถ้าเธอคว้ารางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมได้ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว รางวัลอื่นอย่าแม้แต่จะคิด”
ที่นี่คือยุโรป ดินแดนของพวกเขา ย่อมมีอิทธิพลเหนือใคร