ตอนที่ 49 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (49)
“โอ้พระเจ้า! อร่อยมาก! นี่เป็นอาหารที่ดีที่สุดที่ฉันเคยกินมาในชีวิต! แม้แต่ร้านอาหารที่โรงแรมดอกกุหลาบในจักรวรรดิก็ยังไม่อร่อยเท่าหม้อไฟขององค์หญิงสาม!”
ปากของทหารเต็มไปด้วยอาหาร แต่การเคลื่อนไหวของผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านี้ไม่ช้าเลย เพราะกลัวว่าอาหารจะถูกแย่งกินโดยเพื่อนทั้งห้าคนที่อยู่ร่วมโต๊ะเดียวกันในชั่วพริบตา
“ฉันบอกว่านายยังมีเวลาอีกเยอะ (กินช้าลงหน่อย)!” เมื่อเห็นคนกินคำโตบนโต๊ะเดียวกันและจานบนโต๊ะก็หายไปในพริบตา เขาก็เลยเป็นกังวล!
“หลีกไป! คนเก่งต้องใช้แรงงานหนักกว่าเดิม!” คนกินเร็วคนนี้ไม่อ่อนน้อมถ่อมตนเลย และเขาชอบที่จะจุดชนวนสงครามในวันธรรมดา ดังนั้นเมื่อเขากินเขาจึงไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครทั้งนั้น
ตอนแรกจอมพลก็อดวินอยากจะเก็บอาการ เพราะอย่างไรเสียเขาก็ยังเป็นจอมพลอยู่ไม่ใช่เหรอ? อีกอย่างคือ เขายังต้องวางตัวต่อหน้าลูกสะใภ้ในอนาคตของเขาด้วย แต่ทันทีที่อาหารเข้าปาก ดวงตาของจอมพลเฒ่าก็เปลี่ยนไป!
“นี่มันอะไรน่ะ?” จอมพลก็อดวินน้ำตาคลอเบ้า “ฉันเคยคิดเสมอว่าชีวิตตัวเองมีความสุข แต่เมื่อฉันได้กินอาหารอร่อยแบบนี้ในตอนนี้แล้ว ฉันก็รู้สึกว่าช่วงครึ่งแรกของชีวิตของฉันมันช่างไร้ค่า!”
“พอนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองจะสามารถกินอาหารได้อีกแค่สามสิบหรือสี่สิบปีเท่านั้น ฉันก็แทบรอที่จะอายุน้อยกว่านี้อีกสักสองสามทศวรรษไม่ไหวแล้ว!”
จอมพลก็อดวินยังคงสงสัยว่าเขาจะสามารถอัปเกรดได้หรือไม่ แต่ตอนนี้จิตใจของเขารู้แต่ว่าต้องรีบกิน กิน และกิน!
ขณะที่กำลังกินอาหาร พลังดวงดาวของทหารก็เริ่มปั่นป่วน เมื่อเพื่อนร่วมโต๊ะอาหารเดียวกันเห็นสถานการณ์ พวกเขาก็เก็บของบนโต๊ะ หม้อ และผักออกไปอย่างรวดเร็วแล้วก็เริ่มกินบ้าง!
สำหรับการอัปเกรดงั้นเหรอ? ไปอัปเกรดกันก่อนเถอะ! เราจะกินมันต่อหลังจากการอัปเกรด และแน่นอนว่าเราต้องดูว่าจะยังมีอะไรเหลืออยู่หรือไม่
ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะเพิ่งเริ่มต้น ทุก ๆ ครั้งคุณสามารถเห็นการอัปเกรดหนึ่งหรือสองดาว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนของจอมพลก็อดวิน พลเอกโอคาซีได้รับการอัปเกรดไปเยอะแล้ว ในระยะเวลาอันสั้นจึงไม่สามารถอัปเกรดได้อีก
ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง คนของจอมพลก็อดวินเกือบ 70 % ก็ได้รับการอัปเกรดแล้ว
ผู้ชมพากันอิจฉาตาร้อน!
พวกเขาอิจฉาที่คนเหล่านี้ได้กินอาหารฝีมือองค์หญิงสาม และยิ่งอิจฉาที่พวกเขาไม่เพียงแค่ได้กิน แต่ยังได้อัปเกรดด้วย!
ทั้งได้กินอาหารและได้อัปเกรดไปด้วยจะไม่ดีได้ยังไง?!
อีกอย่างคือองค์หญิงสามลืมแบ่งปันรสชาติให้พวกเราด้วยหรือเปล่า? ไหนบอกว่าให้มาลองชิมกันไง?
องค์หญิงสามทำอะไรอยู่? เธอจะสนใจเกี่ยวกับความกระหายของผู้ชมบนหน้าจอได้ยังไง? เพราะเธอกำลังทำปลาหมึกย่างถ่าน!
ปลาหมึกยักษ์ทุกตัวถูกทาด้วยน้ำดอง แล้วเธอก็ใช้แขนของเครื่องจักรกลนวดตัวปลาหมึกยักษ์ทั้งสองตัวอย่างเต็มที่ ทาน้ำมันแล้วเอาไปย่าง
เธอไม่ได้ใช้เตาอบ สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกว่ารสชาติที่ดีที่สุดที่สามารถรับได้เกิดจากการย่างด้วยไฟเท่านั้น
ขณะย่าง แขนของเครื่องจักรกลก็ยังคอยช่วยพลิกกลับไปมา และแขนของเครื่องจักรกลอีกข้างก็กำลังใช้แปรงทาน้ำมัน พวกมันดูยุ่งมาก
ใช้เวลาไม่นาน กลิ่นหอมแปลก ๆ นี้ก็แผ่ซ่านไปทั่วทั้งค่าย!
สวี่หลิงอวิ๋นยุ่งนิดหน่อย เธอก็ได้กลิ่นที่สามารถทำให้เจ้าหนอนตะกละในท้องของเธอหิวโหยได้ และเธอก็กดแชร์กลิ่นนี้ด้วยความร้ายกาจ
กลิ่นลอยเข้าสู่จมูกผู้ชมทันที!
“นี่มันกลิ่นอะไรเนี่ย? กลิ่นทูตสวรรค์หรือเปล่า? ฉันรักกลิ่นนี้จัง! องค์หญิงสาม! ท่านคือทูตสวรรค์! ท่านช่วยส่งชิ้นเล็ก ๆ ให้ฉันหน่อยได้ไหม? แค่ชิ้นเล็ก ๆ ก็พอ!”
“ฉันเป็นแฟนตัวยงของท่าน ให้อาหารที่ทำจากเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ชิ้นเล็ก ๆ แก่ฉัน แล้วฉันจะรับใช้ท่านฟรีตลอดชีวิต!”
“มากเกินไปแล้ว! แง ๆๆ! องค์หญิงสามยอดเยี่ยมมาก! ทำอร่อยถึงขนาดนี้ได้ยังไง?!”
“ตราบเท่าที่ท่านสามารถทำให้ฉันได้กิน ฉันยินดีที่จะมอบบ้านในถนนวงแหวนที่สามของจักรวรรดิชิงเหย้าแก่ท่านฟรี!”
“เวรเอ๊ย! ไอ้พวกอวดรวย! ผมไม่มีข้อดีอย่างอื่น แต่ผมแค่หล่อ ไม่ทราบว่าองค์หญิงสามชอบกล้ามท้องซิกแพคของผมไหมครับ?”
…….
สวี่หลิงอวิ๋นส่ายหัว “ชาวเน็ตที่รัก นี่เป็นอาหารที่ฉันจะเตรียมให้ผู้โชคดีหนึ่งร้อยคนในหมู่พวกคุณ ฉันหวังว่าคุณจะชอบมัน”
“อา อา อา! ฉันกำลังจะตายแล้ว! ฉันโชคร้ายมาตั้งแต่เด็ก ฉันพลาดทุกหมายเลขที่ออกเมื่อฉันซื้อลอตเตอรี่ ฉันคิดว่าครั้งนี้ฉันต้องทำสำเร็จ! แง ๆๆ องค์หญิงสาม ได้โปรดให้โอกาสฉันด้วย!”
“แน่นอนว่าฉันต้องผ่านการคัดเลือก! อีกอย่างคือฉันต้องการสมัครเป็นพนักงานในโรงงานแปรรูปอาหารของท่านด้วย ฉันจบการศึกษาจากสถาบันธุรกิจแห่งจักรวรรดิและมีประสบการณ์เป็น CEO ในโรงงานผลิตอาหารขนาดใหญ่ ฉันไม่ต้องการเงินเดือน ตราบใดที่ฉันสามารถกินอาหารฝีมือท่านได้!”
“ฉัน ฉัน ฉัน! ฉันด้วย! ฉันก็ไม่ต้องการเงินเดือน แม้ว่าฉันจะไม่เก่งเท่าคนข้างบนนั่น แต่ฉันก็ขยันและมีความสามารถ! หากท่านต้องการแม่บ้านในโรงงานของท่าน ท่านสามารถเลือกฉันก่อนได้ไหม?”
…….
สวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้สนใจเรื่องนี้
จอมพลก็อดวินกำลังกินหม้อไฟ และเมื่อได้กลิ่นปลาหมึกย่างถ่านอันหอมกรุ่น เขาก็รู้สึกว่าพลังดวงดาวของตัวเองกำลังจะมีการเคลื่อนไหวจริง ๆ!
หลังจากที่โอคาซีได้มาถึงระดับ 9 ดาวแล้ว เขาก็มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของพลังดวงดาวอย่างมาก
พ่อของเขาอยู่ระดับ 8 ดาวมาหลายปีแล้ว ในที่สุดวันนี้ก็มีการเคลื่อนไหวโดยไม่คาดคิด
เขามองไปที่สวี่หลิงอวิ๋นที่ยังคงยุ่งอยู่แล้วพูดในใจอย่างเงียบ ๆ ‘ขอบคุณนะครับ’
ทหารย่อมได้กลิ่นนี้ด้วยเช่นกัน แล้วสูดหายใจ โอ้โห มันช่างหอมเหลือเกิน!
ทำไมถึงได้หอมขนาดนี้!
หม้อไฟถูกกินจนหมดไปแล้ว อันที่จริงด้วยจำนวนที่มากขนาดนี้ พวกทหารก็อิ่มไปแล้ว 80% ตามหลักเหตุผลแล้วพวกเขาไม่ควรกินอีกต่อไป
แต่เมื่อมองดูปลาหมึกย่างถ่านแสนอร่อย พวกเขาจะอดใจไม่กินได้หเหรอ?
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา สวี่หลิงอวิ๋นก็พอใจที่จะปิดการเคลื่อนไหวของแขนเครื่องจักรกลในมือของเธอ
“พร้อมกินแล้ว!” สวี่หลิงอวิ๋นปล่อยแขนของเครื่องจักรกลลงมาหนึ่งอัน และที่อยู่ในแขนอีกข้างหนึ่งไม่ใช่สำหรับให้ทหารกิน แต่สำหรับบรรจุแล้วส่งไปให้ผู้ชม
“ดูสิ ฉันย่างมันเสร็จแล้ว! เพื่อความปลอดภัยของอาหารจะไม่มีการเติมสารกันบูด” สวี่หลิงอวิ๋นยังคงโฆษณาอยู่ และแขนของเครื่องจักรกลก็กำลังยุ่งอยู่กับการบรรจุกระป๋องขนาดใหญ่หลายกระป๋องลงกล่อง ซึ่งกระป๋องทั้งหมดนั้นเป็นของใหม่ที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว
แขนของเครื่องจักรกลกำลังตัดเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์อย่างขยันขันแข็ง
และหลังจากตัดแต่ละชิ้นแล้ว ก็บรรจุลงกระป๋องต่อหน้าพวกเขา จากนั้นแขนของเครื่องจักรกลอีกข้างหนึ่งก็รับผิดชอบหน้าที่ปิดผนึกกระป๋อง
เอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์กระป๋องหนึ่งกระป๋องจะทำอย่างนั้น
จะบอกว่าเทคโนโลยีของดวงดาวนี้ได้รับการพัฒนาแล้ว ในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที กระป๋องทั้งหมดร้อยกระป๋องเหล่านี้ก็เต็ม
ผู้ชมต่างจับตามองอย่างใจจดใจจ่อในขณะที่องค์หญิงสามกำลังเตรียมจับสลากเพื่อออกรางวัล! ทันใดนั้นก็มีคลื่นรุนแรงเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน และคลื่นนั้นเกือบจะทำให้องค์หญิงสามสวี่หลิงอวิ๋นล้มคว่ำลงกับพื้น!
โชคดีที่พลเอกโอคาซีตอบสนองอย่างรวดเร็วและคว้าตัวเธอไว้ทัน
“เกิดอะไรขึ้นที่นี่? มีคนบุกเข้ามาเหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นสับสน รู้สึกว่ามันคล้ายกับการอัปเกรดพลังดวงดาวของโอคาซีครั้งก่อนเล็กน้อย
“อืม พ่อของผมกำลังอัปเกรดครับ” โอคาซีหยิบใบผักที่ติดอยู่บนผมของสวี่หลิงอวิ๋นออกอย่างระมัดระวังแล้วโยนลงไปที่พื้น
“โอ้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันทำให้ฉันตกใจได้!” สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกเขินอายเล็กน้อย ฉันมีใบผักติดที่เส้นผมของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมฉันถึงไม่รู้ตัวล่ะ?