กัปตันรู้ดีว่านี่คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด และทุกคนในยานอวกาศลำนี้จะต้องตายโดยปราศจากที่กลบฝัง
“รีบไปบอกลูกเรือให้เอายานอวกาศชูชีพออกมา แจ้งองค์หญิงสาม พลเอกโอคาซี และองค์ชายแลนเซล็อตให้พวกเขาเข้าไปในยานอวกาศชูชีพ รวมถึงลูกเรือคนอื่นที่ไม่ได้มีตำแหน่งสำคัญอะไร พาพวกเขาลงยานอวกาศชูชีพไปด้วย หลบหนีไปให้ได้!”
กัปตันสัมผัสหน้าอกของเขา เดิมทีเขาเตรียมการที่จะเกษียณในช่วงสิ้นปีนี้ และวางแผนไปเที่ยวรอบจักรวาลกับภรรยา แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะไม่ได้ทำเช่นนั้นแล้ว
ผมขอโทษนะ ที่รัก
บนหน้าอกของเขามีรูปภาพอยู่หนึ่งใบ รูปภาพนั้นเป็นรูปของหญิงสาวที่มีเส้นผมเป็นสีขาว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังงดงามเหมือนในวัยแรกรุ่น
สวี่หลิงอวิ๋นได้รับแจ้งเหตุในเวลาต่อมา
ไม่ต้องเอ่ยเลย เธอสามารถรับรู้ได้ถึงความตึงเครียดในเวลานี้
“แลนเซล็อต ท่านรีบเข้าไปในยานชูชีพก่อนเถอะค่ะ!” ปฏิกิริยาแรกของสวี่หลิงอวิ๋นคือการจ้องมองไปที่แลนเซล็อต
อีกฝ่ายคือองค์ชายรัชทายาทแห่งจักรวรรดิเอเดน หากเขาจบชีวิตลงในจักรวรรดิชิงเหย้า ทั้งสองจักรวรรดิจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ฆ่ากันจนตายไปข้างหนึ่งอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
แน่นอนว่าองค์ชายรัชทายาทเข้าใจถึงสถานการณ์ตึงเครียดเช่นนี้เป็นอย่างดี และเขาไม่สามารถเสแสร้งกล่าวออกไปว่าไม่เป็นไร พวกเราจะอยู่ด้วยกันได้
บทบาทนักแสดงสมทบชายในละครทางโทรทัศน์สามารถแบ่งปันช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตายเหมือนกับพระเอกที่ไม่ว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบไหนก็ตาม ทว่าความจริงแล้ว เขาเป็นถึงองค์ชายรัชทายาทที่มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกส่วนตัวระหว่างชายหญิง ถึงอย่างไรผลประโยชน์ของชาติก็จะต้องมาก่อนเป็นลำดับแรก
ทั้งสองเป็นองค์ชายและองค์หญิง พวกเขาย่อมรู้ดีว่าต้องทำอย่างไรเมื่อเผชิญหน้ากับความถูกต้องและไม่ถูกต้อง
และเขาเป็นคนแรกที่เข้าไปในยานอวกาศชูชีพ เมื่อมองดูสวี่หลิงอวิ๋นที่ยืนอยู่ด้านนอก หัวใจของเขาก็กระตุกอย่างแรง อยากจะตามเธอไปด้วยได้หรือไม่?
แต่โอคาซีที่ยืนอยู่เคียงข้างจะคอยปกป้องสวี่หลิงอวิ๋น จากนั้นแลนเซล็อตจึงหลับตาลงในที่สุด
เพื่อผลประโยชน์ของเอเดน เขาไม่สามารถตายได้
“ไปกันเถอะค่ะ!” สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองโอคาซี ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
โอคาซีเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลแอนดรูว์ เขาไม่สามารถตายได้ หากเขาสิ้นชีพลง จักรวรรดิชิงเหย้าจะต้องสูญเสียเทพเจ้าแห่งสงคราม!
“แล้วท่านล่ะครับ?” โอคาซีจ้องมองมาที่เธอ เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่
เธอคงต้องการเขวี้ยงระเบิดพลังงานลูกนี้ไปยังส่วนลึกของจักรวาลด้วยตัวของเธอเอง แต่สำหรับเธอแล้ว มันแทบไม่มีความหวังที่จะรอดชีวิตไปได้
“ฉันจะเข้าไปหลังจากที่เห็นท่านเข้าไปในยานชูชีพแล้วน่ะค่ะ” สวี่หลิงอวิ๋นยิ้มและกล่าวต่อ “ทำไมคะ ท่านกลัวว่าฉันจะไม่เข้าไปเหรอ? โธ่เอ๊ย ท่านคิดไปถึงไหนกันคะ? คิดจะสละชีวิตของตัวเองเพื่อคนอื่นน่ะเหรอ? ฉันไม่ได้ยอดเยี่ยมขนาดนั้นหรอกค่ะ!”
“ผมจะเข้าไปหลังจากที่เห็นท่านเข้าไปในยานชูชีพแล้วเหมือนกันครับ” โอคาซีจ้องมองเธอ
สวี่หลิงอวิ๋นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมา “ถึงอย่างนั้น ท่านก็ไม่จำเป็นจะต้องเข้าร่วมนะคะ เอาล่ะ! ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ เวลามีอยู่อย่างจำกัด พวกเราเลิกต่อล้อต่อเถียงกันได้แล้ว! ฉันสัญญา ฉันจะต้องมีชีวิตรอดค่ะ”
เธอรีบลงไปที่ด้านล่างของคลังสินค้า โดยไม่รอดูปฏิกิริยาของโอคาซี
ลูกเรือเริ่มรู้สึกหมดหวัง เขาบันทึกเสียงเพื่อกล่าวบอกลาเป็นครั้งสุดท้ายให้กับภรรยาและลูกสาว
“ลิซที่รัก และเจ้าหญิงตัวน้อยของพ่อ พ่อคงจะกลับไปหาลูกไม่ได้แล้ว ลิซ คุณยังสาวยังสวยอยู่ คุณจะไปตามหาชายอื่นที่รักคุณก็ได้นะ สำหรับมาย่าลูกรัก อย่าได้เศร้าใจไป ฟังพ่อนะ พ่อจะกลายไปเป็นดวงดาวและเฝ้ามองหนูเติบโต…”
ลูกเรือปาดน้ำตาที่ไหลรินออกมา และนั่งรอความตาย
สวี่หลิงอวิ๋นรีบวิ่งเข้ามา “ระเบิดพลังงานอยู่ไหน?”
ลูกเรือตกตะลึง และยื่นระเบิดพลังงานในมือให้กับสวี่หลิงอวิ๋น จากนั้นจึงเริ่มตอบสนอง “องค์หญิงสาม? ทำไมท่านถึงยังอยู่ที่นี่ครับ? ท่านต้องรีบเข้าไปในยานอวกาศชูชีพเดี๋ยวนี้!”
“หยุดพูดไร้สาระ นายนั่นแหละ รีบเข้าไปในยานอวกาศชูชีพได้แล้ว ยังไงซะนายก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ใช่เหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นผลักเขา “อย่าทำให้ภรรยาและลูกสาวของนายผิดหวังเลย”
ลูกเรือรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินคำพูดของสวี่หลิงอวิ๋น ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “ฝ่าบาท ได้โปรดปล่อยพวกเราไว้ที่นี่เถอะพ่ะย่ะค่ะ เข้าไปในยานอวกาศชูชีพและเอาชีวิตรอดให้ได้”
“ด้วยคำพูดของท่าน กระหม่อมจะตายและหลับตาไปชั่วนิรันดร์”
“ตายอะไรเล่า รีบไปที่ยานอวกาศชูชีพได้แล้ว ฉันบอกให้ไปที่ยานอวกาศชูชีพไง”
สวี่หลิงอวิ๋นกล่าวขึ้น ขณะที่โอคาซีวิ่งตามหลังเธอมาอย่างใกล้ชิด
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันจะได้ขับยานอวกาศลำเล็ก รู้สึกดีชะมัดเลย!” สวี่หลิงอวิ๋นกล่าวชื่นชม “ยังเหลืออีกหนึ่งนาที ฉันน่าจะจัดการมันทัน”
“ท่านจะทำอะไรครับ?” โอคาซีถามเธอ ขณะนั่งอยู่ในที่นั่งนักบินผู้ช่วย
“ฉันจะเอามันไปใส่ไว้ในส่วนลึกสุดของจักรวาล” สวี่หลิงอวิ๋นกล่าว “มันน่าจะเป็นหนทางที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับตอนนี้”
“เอาล่ะ พวกเราเร่งความเร็วตามความเร็วแสงกันเถอะครับ”
หากเห็นเช่นนั้น หนึ่งนาทีก็เพียงพอที่จะให้พวกเขานำระเบิดพลังงานไปทิ้งไว้ยังส่วนลึกที่ไม่สามารถส่งผลกระทบถึงยานอวกาศได้
“ตอนนี้แหละค่ะ!” สวี่หลิงอวิ๋นนับเวลาถอยหลังหลังจากเคลื่อนตัวผ่านมาห้าสิบวินาที และพยักหน้า “เริ่มเลยค่ะ!”
เธอแปรสภาพพลังดวงดาวเป็นหนังสติ๊กขนาดใหญ่ ส่งผลให้ระเบิดพลังงานเกิดการระเบิดขณะถูกดีดออกมาภายใต้แรงโน้มถ่วง จากนั้นโอคาซีจึงเริ่มขับเคลื่อนยานอวกาศและหลบหนีแรงระเบิดอย่างว่องไว!
ทุกคนแอบสวดภาวนาให้องค์หญิงสามเดินทางกลับมาอย่างปลอดภัย เมื่อพวกเขาเห็นแสงสั่นสะเทือนขนาดยักษ์อยู่บนหน้าจอของเครื่องสแกน หัวใจของคนทั้งหมดก็เริ่มบีบแน่นขึ้น เพราะจนป่านนี้พวกเขายังเห็นการปรากฏตัวของฝ่าบาท
องค์หญิงสาม…พวกเขาหนีออกมาไม่ได้อย่างนั้นหรือ?
“ไม่! องค์หญิงสามเป็นคนดีฟ้าจะต้องคุ้มครอง จะเกิดอะไรขึ้นได้ยังไง? ไม่! ไม่มีทาง!” น้ำตาของลูกเรือไหลออกมาภายในชั่วพริบตา
ความจริงแล้ว ลูกเรือจะต้องคุ้มครองชีวิตของราชวงศ์อยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าถามว่าพวกเขามีความรู้สึกอะไรต่อผู้คนในราชวงศ์หรือไม่ พวกเขาคงไม่ได้รู้สึกอะไรมาก เมื่อมาลองคิดดูนี่ก็เป็นเพียงหน้าที่ของพวกเขาเท่านั้น
ในสายตาของพวกเขา คนในราชวงศ์มักชอบพูดไร้สาระและพิถีพิถันกับคนนอก อีกทั้งยังได้ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา และนั่นทำให้พวกเขารู้สึกอิจฉา
แต่ตอนที่องค์หญิงสามรับระเบิดพลังงานจากเขาไปและสั่งให้เข้ามาในยานชูชีพโดยเร็วที่สุด เขาถึงกับรู้สึกได้ว่าคนในราชวงศ์นั้นสนิทชิดเชื้อกับประชาชนและรักประชาชนมากที่สุด
มันเป็นอะไรที่รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก!
สำหรับสมาชิกลูกเรือคนอื่น ๆ พวกเขายังคงตกใจกับความกล้าหาญขององค์หญิงสาม ถึงแม้ตอนนี้พวกเขาจะต้องตายและกลายเป็นผีก็ตาม แต่พวกเขาก็เต็มใจจะห้อมล้อมอยู่รอบข้างองค์หญิงสามไปตลอดชั่วชีวิต และเต็มใจจะไม่ขึ้นสวรรค์หากพวกเขาจะได้ติดตามองค์หญิงสาม
สวี่หลิงอวิ๋นและโอคาซีต่างได้รับผลกระทบจากการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ ยานอวกาศลำเล็กถูกแรงกระแทกไปทั่วทุกส่วน แม้แต่อุปกรณ์เครื่องยนต์ยังได้รับความเสียหาย ทันทีที่คลื่นระเบิดหยุดลง พวกเขาก็พบเข้ากับยานอวกาศลำใหญ่ของพวกเขา
หัวใจของสวี่หลิงอวิ๋นผ่อนคลายขึ้น แต่หลังจากนั้น โอคาซีกลับพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ!
หลังจากคลื่นขนาดยักษ์ผ่านพ้นไป พื้นที่บิดเบี้ยวก็ปรากฏขึ้น!
“ทางเชื่อมมิติธรรมชาติ! หนีเร็ว!” โอคาซีติดต่อสัญญาณกับทางยานอวกาศลำใหญ่และรายงานสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่น่าเสียดายที่มันกลับไร้ประโยชน์!
ทางเชื่อมมิติทางธรรมชาตินี้มีแรงโน้มถ่วงที่ทรงพลัง ขณะเดียวกัน สวี่หลิงอวิ๋นและโอคาซีกำลังโดนดูดเข้าไปโดยตรง ถึงแม้ยานอากาศลำใหญ่จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อกำจัดห้วงของแรงโน้มถ่วง แต่ไม่มีหนทางไหนที่จะหลุดพ้นได้เลย
เพราะทางเชื่อมมิติทางธรรมชาติอยู่ใกล้กับยานอวกาศลำใหญ่มากเกินไป!