สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际 – ตอนที่ 188 การโจมตีของเอเลี่ยนเกอหลัวผู้น่ารัก 4

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

“เจี๊ยบ ๆๆๆ!” เอเลี่ยนเกอหลัวตัวเล็กกางกรงเล็บของมันออก และต้องการกินแท่งยาว ๆ นั้นทุกมื้อ!

“ก็ได้!” สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้า กุนเชียงไม่ใช่เหรอ? กินให้เต็มที่ล่ะ!

“เจี๊ยบ ๆๆๆ!” อยากกินเนื้ออบแห้งด้วย!

“ได้!” สวี่หลิงอวิ๋นลูบหัวของมัน อืม นุ่มดีจัง! เนียนน่าสัมผัส!

เมื่อเอเลี่ยนเกอหลัวตัวเล็กยิ้มแฉ่ง มันกลับยิ่งดูเหมือนหมาพันธุ์ฮัสกี้ในชาติที่แล้ว ทั้งซื่อบื้อและไร้เดียงสา แต่กลับชอบทำตัวเป็นหัวขโมยนักกิน

“เจี๊ยบ ๆๆๆ!” ฉันรู้ว่าตัวเองเป็นเอเลี่ยนที่น่ารักที่สุดในโลก!

เมื่อเอเลี่ยนเกอหลัวตัวอื่นที่นอนกองอยู่บนพื้นได้ยินประโยคดังกล่าว พวกมันก็ลุกขึ้นยืนและเข้ามาคลอเคลียต้นขาของสวี่หลิงอวิ๋น เฮ้! ถ้าอย่างนี้ก็ต้องเลี้ยงแล้วไหม?

“เจี๊ยบ ๆๆๆ!” คุณคนรวย พวกเราก็ยินดีจะให้คุณดูแล ตราบใดที่ป้อนอาหารให้พวกเราทุกวัน!

“เอเลี่ยนเกอหลัวพวกนั้นกำลังทำอะไร?” นักรบระดับ 8 ดาวขมวดคิ้วเมื่อมองดูเหตุการณ์ตรงหน้า

พวกเขาเห็นเพียงเอเลี่ยนเกอหลัวกำลังแยกเขี้ยวของมันอย่างดุร้าย ขณะล้อมรอบองค์หญิงสามและเกาะต้นขาของเธอเอาไว้ และไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเสียง ‘เจี๊ยบ ๆๆๆ’ เหล่านั้นหมายความว่าอย่างไร

พวกมันกำลังโต้เถียงกันว่าตัวไหนได้เนื้อส่วนขา ตัวไหนได้เนื้อส่วนน่องหรือเปล่า?!

“องค์หญิงสามกำลังตกอยู่ในอันตราย! ต้องออกไปช่วยเดี๋ยวนี้!” หัวหน้าของเหล่านักรบระดับ 8 ดาวริเริ่มหยิบดาบพลังดวงดาวออกมาและมุ่งหน้าไปยังเอเลี่ยนเกอหลัว!

เอเลี่ยนเกอหลัวทั้งหลายสังเกตเห็นถึงการมีอยู่ของเหล่านักรบมาเป็นเวลานานแล้ว ทว่าพวกมันกลับขี้เกียจใส่ใจมากนัก เป้าหมายของพวกมันคืออาหารที่อยู่ตรงหน้าต่างหาก เมื่อพวกมันสังเกตเห็นท่าทางที่แปลกประหลาด พวกมันก็รีบแยกเขี้ยวและมุ่งตรงไปที่เหล่านักรบ!

การดวลกันระหว่างเอเลี่ยนเกอหลัวระดับ 8 ดาวและนักรบระดับ 8 ดาว ฝั่งหนึ่งคว้าชัยชนะมาด้วยความว่องไวและกรงเล็บแหลมคม ส่วนอีกฝั่งคว้าชัยชนะมาด้วยทักษะการต่อสู้และยุทธศาสตร์ที่มั่นคง

นักรบจำนวนสิบกว่านาย และเอเลี่ยนเกอหลัวจำนวนสิบกว่าตัวต่างจับคู่กันอย่างเท่าเทียม

เอเลี่ยนเกอหลัวคิดว่าอสุรกายสองขามาที่นี่เพื่อแย่งชิงอาหาร การกระทำของพวกมันจึงเริ่มดุร้ายมากยิ่งขึ้น ขนสีดาวดุจดั่งหิมะเริ่มเปล่งประกายเป็นสีทองอร่าม นั่นหมายความว่าพวกมันกำลังเพิ่มระดับพละกำลัง และมุ่งหน้าที่จะเอาชีวิตเหล่านักรบที่อยู่ด้านหน้า

เหล่านักรบทั้งหลายสัมผัสได้ถึงแรงกดดันในทันที การเคลื่อนไหวของพวกเขาเริ่มยุ่งเหยิงขึ้น หากเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาอาจจะพ่ายแพ้ได้ในเวลาเพียงสามนาที!

เมื่อสวี่หลิงอวิ๋นเห็นว่าเจ้าตัวเล็กทั้งหลายเริ่มจะจริงจังขึ้น เธอจึงร้องตะโกน “หยุดเดี๋ยวนี้นะ ถ้าพวกแกไม่หยุด ฉันจะไม่เลี้ยงพวกแกแล้ว!”

เอเลี่ยนเกอหลัวตัวเล็กสุดเป็นตัวแรกที่ได้ยินคำพูดของสวี่หลิงอวิ๋น

เอ๊ะ? คนรวยคนนั้นบอกว่าจะไม่เลี้ยงพวกมันอย่างนั้นเหรอ? ทำแบบนั้นได้ยังไง?! มันยังอยากจะเป็นนักกินท่ามกลางกลุ่มเอเลี่ยนเกอหลัวอยู่นะ ไม่ง่ายเลยที่จะพบเจออสุรกายสองขาที่มีอาหารอันแสนอร่อยแบบนี้ แล้วจะปล่อยเธอไปได้อย่างไร?

มันรีบหยุดทันที ก่อนจะปีนป่ายขึ้นไปบนหัวไหล่ของสวี่หลิงอวิ๋น

โอคาซีมาถึงดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้แล้ว และรีบไปยังที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด

เขาเห็นเอเลี่ยนเกอหลัวตัวเล็กอยู่บนไหล่ของสวี่หลิงอวิ๋น ขณะโอบกอดคอของเธอ ราวกับว่ามันกำลังจะฝังเขี้ยวลงไปบนคอของเธอ เขาจ้องมองปากของมัน ก่อนจะแปรสภาพพลังดวงดาวให้กลายเป็นลูกศรอันแหลมคมที่พุ่งตรงไปยังเอเลี่ยนเกอหลัวตัวดังกล่าว!

เอเลี่ยนเกอหลัวตัวเล็กส่งเสียงร้อง “เจี๊ยบ ๆๆๆ เจี๊ยบ ๆๆๆ” อย่างได้ใจ และทันใดนั้นก็รู้ถึงพลังแข็งแกร่งที่พุ่งตรงมาทางมัน มันหลบไม่ทันและถูกยิงเข้าที่ต้นขา

‘ตุ้บ’ ล้มลงไปกองกับพื้น

ดูเหมือนว่าเอเลี่ยนเกอหลัวตัวอื่นจะสัมผัสได้ถึงพลังอันตราย หางของพวกมันกระดิกขึ้นกระดิกลง ขนทุกเส้นเริ่มแปรสภาพอีกครั้ง

พวกมันทั้งหลายกระดิกหางอยู่ทางด้านหลังสวี่หลิงอวิ๋น

ทันใดนั้น นักรบระดับ 8 ดาวรู้สึกถึงความกดดันที่เลือนหายไป รวมถึงเหงื่อปกคลุมทั่วศีรษะของพวกเขา และใบหน้าที่ซีดเผือด

ทำไมเอเลี่ยนเกอหลัวถึงได้เริ่มก่อจลาจล?

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เอเลี่ยนเกอหลัวก้าวกระโดดขึ้นมาประจันหน้ากับพวกเขา แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือพวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าพวกมันก่อการกลาจลเพื่ออะไร

โอคาซีเดินถือคันธนูและลูกธนูมาจากระยะไกล ใบหน้าของเขาเรียบเฉย และทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น เขาช่างดูเหมือนกับพระเจ้าที่สามารถทำให้จิตใจของผู้คนที่อยู่ที่นั่นสงบลงได้

ชาวเน็ตทั้งหลายรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเห็นเช่นนั้น!

[ว้าว! เท่สุด ๆ ไปเลย!]

[ไหนใครบอกว่าท่านพลเอกโอคาซีอยู่บนดาวเคราะห์ดวงอื่นไง? ทำไมเขามาถึงที่นี่ได้เร็วนักล่ะ?]

[แน่นอนว่าต้องแข่งกับเวลา เขาถึงรีบมาที่นี่ให้เร็วที่สุดยังไงล่ะ! โอ๊ย ปลื้มใจจัง! องค์หญิงสามคงจะมีความสุขมากสินะ!]

[ทั้งหน้าตาดี มีฐานะ แถมยังคอยเป็นห่วงแฟนสาว แงแงแง ทำไมฉันไม่เจอผู้ชายดี ๆ แบบนี้บ้างนะ?!]

[ก็เพราะว่าเธอน่าเกลียดไงล่ะ! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!]

ชาวเน็ตทั้งหลายตื่นเต้น นักรบระดับ 8 ดาวก็ตื่นเต้นเช่นกัน

ชายผู้เป็นหัวหน้าทำความเคารพโอคาซี “สวัสดีครับท่านพลเอก ผมคือเสิ่นซู่ครับ”

โอคาซีพยักหน้าเล็กน้อยทำความเคารพกลับ และเดินเข้าไปหาสวี่หลิงอวิ๋น

เอเลี่ยนเกอหลัวทั้งหลายส่งเสียง ‘เจี๊ยบ ๆๆๆ’ อย่างน่าสะพรึงกลัว และเบียดเสียดตัวเข้าด้วยกัน ท้ายที่สุดแล้ว พวกมันก็เป็นสิ่งมีชีวิตระดับ 8 ดาวเพียงเท่านั้น และไม่สามารถอดทนต่อแรงกดดันระดับ 9 ดาวได้

“ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?” โอคาซีจ้องมองสวี่หลิงอวิ๋นตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า และถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

สุดท้ายก็มาทันเวลาพอดี

โชคดีที่ไม่เป็นอะไร

“ไม่เป็นไรค่ะ! ฉันสบายดี!” สวี่หลิงอวิ๋นยิ้ม จ้องมองแววตาที่เป็นกังวลของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า เฉกเช่นเดียวกับท่าทางเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด เธอรู้สึกตื่นเต้นจนทนแทบไม่ไหวและโอบกอดเขาราวกับหมีโคอาล่า ก่อนที่จะติดชะงักอยู่บริเวณซอกคอของเขา

“จุ๊บ ๆๆๆ” สวี่หลิงอวิ๋นพรมจูบใบหน้าของเขา “เหนื่อยไหมคะ?!”

“ไม่เหนื่อยครับ” โอคาซีโอบกอดแฟนสาวแน่น แค่ได้เห็นว่าคนตรงหน้าสบายดี ต่อให้เหนื่อยสักแค่ไหนก็ไม่เป็นอะไร

เอเลี่ยนเกอหลัวตัวเล็กที่อยู่ด้านหลังอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงร้องออกมา แค่ให้ได้กอดกับผู้หญิงคนนี้เท่านั้นเหรอ? จำเป็นจะต้องยิงขาของคนอื่นด้วยหรือไง?!

ทั้งสองจูบกัน จนนักรบระดับ 8 ดาวกระแอมไอเบา ๆ และก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อให้คู่รักหนุ่มสาวได้แสดงความรักต่อกัน

ซอฟต์แวร์ถ่ายทอดสดรีบบินหนีจากที่นี่ไปอย่างเงียบ ๆ ขณะที่ชาวเน็ตทั้งหลายเริ่มกล่าวประท้วงกันอย่างพร้อมเพรียง เพราะว่าพวกเขาอยากจะเห็นชายหญิงคู่นี้แสดงความรักอันหวานชื่นต่อหน้า!

[เรตติ้งติดลบแน่! ทั้งที่เป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุด ทำไมถึงไม่ฉายต่อล่ะ?! แย่ที่สุด!]

[พวกเราอยากดูฉากจูบ! ฮึ่ม!]

[แงแงแง นั่นใช่จูบแรกของพลเอกโอคาซีหรือเปล่า? ฉันจะยังได้ดูไหม?]

[พอองค์หญิงสามมีความรัก เธอก็กลายเป็นผู้หญิงตัวเล็กเหมือนกันแฮะ! น่ารักจังเลยนะ!]

ไม่ว่าชาวเน็ตจะประท้วงอย่างไร ซอฟต์แวร์ถ่ายทอดสดก็ได้จากไปแล้ว

มีใครบ้างอยากจะให้คนอื่นเห็นความเป็นส่วนตัว?

จักรพรรดิรู้สึกโล่งใจเช่นกัน โอคาซีคนนี้ยังคงเชื่อถือได้ อย่างน้อยเขาก็สามารถไปถึงดาวเคราะห์ดวงนั้นในระยะเวลาอันสั้น แสดงว่าผู้ชายคนนี้ค่อนข้างน่าเชื่อถือและสามารถฝากฝังลูกสาวไว้กับเขาได้

หลังจากเวลาผ่านไปแสนนาน ทั้งสองก็ผละออกจากกัน เอเลี่ยนเกอหลัวที่อยู่ตรงนั้นยังไม่ยอมจากไปไหน ถึงแม้ว่าพวกมันจะหวาดกลัวชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า แต่สำหรับพวกมันที่นึกถึงอาหารก่อนเป็นอย่างแรกมาตลอดทั้งชีวิต ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าการไม่ได้กินอาหารอันแสนอร่อยอีกแล้ว!

ดังนั้นพวกมันจะยอมเสี่ยง และไม่ปล่อยให้หญิงสาวผู้ร่ำรวยคนนี้จากไปไหน

“เกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน?” โอคาซีจ้องมองเอเลี่ยนเกอหลัวที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา นอกจากนี้ดาบพลังดวงดาวของเขายังเปิดโหมดการต่อสู้ได้ตลอดทุกเวลา

“อ๊ะ ท่านหมายถึงเจ้าตัวเล็กพวกนี้เหรอคะ? มันจะมาเป็นสัตว์เลี้ยงของฉันเองค่ะ!” สวี่หลิงอวิ๋นกล่าวขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม “พวกมันเป็นกลุ่มนักกิน ฉันเพิ่งค้นพบว่าฉันสามารถสื่อสารกับพวกมันทางพลังจิตได้ค่ะ”

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

Status: Ongoing
เมื่อมาเกิดใหม่ในที่ที่เต็มไปด้วยของอร่อย เรื่องอะไรจะต้องอยู่เฉยกันล่ะ อย่างนี้มันต้องจับหั่น ยัดลงหม้อไฟร้อนๆ แล้วก็ถ่ายทอดสดออกอากาศสิถึงจะถูก!สวี่หลิงอวิ๋น หญิงสาวที่อยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้มาหลายปีแล้ว แถมยังมีนิสัยชอบกินอีกตังหากก็ต้องมีชีวิตที่ถึงคราวจากไปก่อนวัยอันควร เพราะดันไปกินเนื้อแกะที่ติดเชื้อซอมบี้เข้าให้!จากนั้นเธอก็พบว่าตัวเองได้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในร่างของเจ้าหญิงองค์ที่สาม แห่งจักรวรรดิชิงเหย้า ในโลกยุคอวกาศ ซึ่งดูท่าทางไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนสักเท่าไหร่ แต่ใครสนกันล่ะ! ตอนนี้เธอสนแต่เรื่อง กิน กิน และกินเท่านั้น แถมเอเลี่ยนดาวดวงนี้ยังมีแต่ของอร่อยเต็มไปหมด! เธอจะอยู่เฉยได้อย่างไร ต้องจับพวกมันมาหั่น มาต้ม มาย่าง แล้วก็อะไรอีกดีนะ? อ้อ…สตีมเมอร์ออกอากาศด้วยเลย!ทั้งหมดนี้จะถือเป็นสงครามอวกาศที่จะชวนให้คุณน้ำลายสอไปด้วยอาหารแบบต่าง ๆ ที่สวี่หลิงหยุนไปพิชิตและสรรค์สร้างมาได้ สวี่หลิงอวิ๋นหรือองค์หญิงสามนี้จะสามารถล่าเอเลี่ยนและคิดเมนูอะไรออกสตรีมเมอร์บ้าง ไปตามลุ้นเอาใจช่วยกันได้ที่ สตีมเมอร์สาวกินพิชิตอวกาศ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท