ตอนที่ 241 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 12
ตอนที่ 241 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 12
“อารุ่ย!”
หลังจากที่อารุ่ยยัดปลาหมึกชิ้นสุดท้ายใส่ท้องแล้ว เขาก็เรอออกมาอย่างพึงพอใจ
เมื่อเห็นท่าทีที่ประหม่า เหลือเชื่อ และตกใจของเพื่อนร่วมโต๊ะ เขาก็ยิ้มอย่างเขินอาย แต่ก่อนที่เขาจะได้กล่าวอะไรออกไป เขาก็รู้สึกถึงพลังดวงดาวที่กำลังก่อจลาจล!
นี่คือการเลื่อนขั้น!
สีหน้าของคนร่วมโต๊ะเปลี่ยนไป! นี่คือการเลื่อนขั้นจากระดับ 6 ดาวเป็นระดับ 7 ดาวใช่หรือไม่?!
คณบดีพูลแมนมีประสบการณ์ด้านนี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับนักเรียนจากจักรวรรดิชิงเหย้าที่มีการเคลื่อนไหวอย่างเชี่ยวชาญ
เขาแบกโต๊ะอาหารที่ไปมุมห้องอาหารอย่างเงียบ ๆ
คนที่นั่งร่วมโต๊ะต่างถือจานข้าวของตนเองออกไป
บางคนถือแค่เค้กและแก้วน้ำหวานออกไปเท่านั้น
นักเรียนจากจักรวรรดิอื่นรู้สึกตกตะลึงอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนอง ทว่ามันกลับสายเกินจะหลบหลีก!
เค้กปลิวกระจาย!
แก้วน้ำหวานร่วงแตก!
นักเรียนทั้งหลายไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก แต่พวกเขากลับส่งเสียงร้องไห้กันระงมราวกับพ่อแม่ได้จากไปแล้ว จ้องมองเค้กและน้ำหวานที่กำลังถูกพื้นโรงอาหารกลืนกิน
หุ่นยนต์ทำความสะอาดทั้งหลายรีบเข้ามาทำความสะอาดอย่างคล่องแคล่ว และจากไปตามหน้าที่
ทุกคนมองดูเค้กของพวกเขาที่หุ่นยนต์กำลังทำความสะอาด และหยุดการกระทำของหุ่นยนต์ด้วยการตะโกนออกไปว่าหยุดเดี๋ยวนี้! ให้ฉันกินเค้กชั้นบนที่ยังไม่เปื้อนก่อน!
แต่ว่า! ไม่กล้าพอ หน้าของพวกเขายังคงบอบบางอยู่
สายตาของพวกเขาหันไปจับจ้องอารุ่ยจากจักรวรรดิเบเกอร์ที่ได้รับการเลื่อนขั้น
เยี่ยมไปเลย! หนุ่มน้อย! อนาคตของนายจะต้อง ‘สดใส’ แน่! พวกเขาขบเคี้ยวเขี้ยวฟันขณะครุ่นคิด
อารุ่ยไม่รู้ว่าตัวเขาบังเอิญสร้างศัตรูขึ้นมาอย่างกะทันหัน และยังคงหมกมุ่นอยู่กับการเลื่อนขั้น
“นานมากแล้วจริง ๆ ที่ฉันไม่ได้เห็นใครเลื่อนขั้นจากการกินปลาหมึก!”
หัวหน้าประจำชั้นปีที่สามและหัวหน้าประจำชั้นปีที่สี่จากสถาบันการศึกษาทางการทหารของจักรวรรดิชิงเหย้ายืนเรียงกันกินปลาหมึกยักษ์และพูดคุยอย่างออกรสออกชาติ
เอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ทำให้นักเรียนที่มีกำลังซื้อเลื่อนขั้นทีละระดับ หลังจากหนึ่งปีผ่านไป ทุกคนล้วนปรับปรุงศักยภาพของตนเองได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นมันจึงไม่ง่ายที่จะได้เห็นนักเรียนเลื่อนขั้นหลังจากกินปลาหมึกยักษ์อีก
พอได้เห็นอีกครั้ง ก็รู้สึกปลื้มปีติมาก!
สวี่หลิงอวิ๋น ลูกพี่ลูกน้อง และแลนเซล็อตนั่งลงบนโต๊ะเดียวกันกับองค์ชายทั้งสาม ได้แก่ องค์ชายไคกี องค์ชายสวี่เจี้ยนอวิ๋น และองค์ชายสวี่รุ่ยอวิ๋น
“อาหารมื้อนี้อร่อยมาก!” ไคกีลิ้มลองอาหารและมองดูสวี่หลิงอวิ๋น ลูกพี่ลูกน้องของเขาด้วยความชื่นชม “หลิงอวิ๋น อันนี้เป็นฝีมือของน้องจริง ๆ เหรอ?”
สิ่งนี้ทำให้น้องสาวของเขาพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์แบบ!
ว่ากันว่าหากต้องการจะจับกุมหัวใจของผู้ชาย จะต้องจับกุมท้องของเขาให้ได้เสียก่อน!
สวี่หลิงอวิ๋นยิ้ม “เสด็จพี่ก็พูดเล่นไปเรื่อย นี่เป็นฝีมือของแขนกล น้องแค่เอาสูตรให้เท่านั้น”
แลนเซล็อตพยักหน้า “ถ้าองค์หญิงสามลงมือทำเองคงจะอร่อยกว่านี้!”
“โอ้? อย่างงั้นเหรอ?” ไคกีรู้สึกสนใจและจ้องมองสวี่หลิงอวิ๋นด้วยความประหลาดใจ “นึกไม่ถึงเลยว่าน้องจะมีทักษะฝีมือการทำอาหารที่ดีเยี่ยมขนาดนี้หลังจากไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่ปี!”
“ไม่รู้ว่าพี่จะมีโอกาสได้ลองชิมทักษะฝีมือการทำอาหารของน้องบ้างไหมนะ?”
สวี่เจี้ยนอวิ๋นหยิบตะเกียบเอื้อมไปคีบหมูสันในต้ม รสชาติค่อนข้างอร่อย แต่อย่างที่แลนเซล็อตพูด มันยังห่างไกลจากฝีมือของน้องสาวอยู่เล็กน้อย
สวี่รุ่ยอวิ๋นไม่เคยลิ้มลองรสชาติอาหารที่สวี่หลิงอวิ๋นเป็นคนทำมาก่อน ทว่าอาหารที่ถูกปรุงขึ้นด้วยพ่อครัวธรรมดาคนนี้กลับให้รสชาติที่อร่อยเป็นพิเศษ
ไม่รู้ว่าแลนเซล็อตผู้นี้จะจริงใจกับน้องสาวของเขามากแค่ไหน แต่ปากของเขาช่างหวานหยดย้อยนัก…
นอกจากนี้ ราชวงศ์สวี่ก็ไม่ใช่ราชวงศ์นักทำอาหาร ดังนั้นการลองชิมทักษะฝีมือการทำอาหารหมายความว่าอย่างไร? น้องสาวตัวน้อยก็แผลงฤทธิ์ยิ่งนัก! เธอไม่สามารถเรียนรู้เป็นองค์หญิงผู้สง่างามอย่างลูกพี่ลูกน้องวินเซอร์ได้ รู้เพียงแต่การก่อความวุ่นวายไปทั่วตลอดทั้งวัน
การทำอาหารคืออะไร? มันแย่นักหรือไงที่จะซื้อเสื้อผ้าสองชุดพร้อมกับเครื่องประดับ?!
ไปสนามรบคืออะไร? ให้แต่งหน้าและไปช็อปปิ้งไม่ดีกว่าเหรอ?!
วินเซอร์กำหมัดแน่น องค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตชอบผู้หญิงที่ทำอาหารได้อย่างนั้นเหรอ? จำเอาไว้! เมื่อกลับไป ให้เพิ่มการฝึกฝนการทำอาหารรายวันลงตารางทันที
สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้า “ได้สิเพคะ คนกันเองทั้งนั้น ต่อให้ไม่ใช่มื้ออาหารก็ยังได้!”
สองสามคนกล่าวทักทายกันอย่างเย็นชา หลังจากโพล่งไม่กี่คำออกไป ก็ไม่มีเสียงใด ๆ ดังขึ้นอีก
บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด!
วินเซอร์เฝ้ามององค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตอย่างตั้งใจ มองดูความเป็นสุภาพบุรุษที่อ่อนโยนของเขา ท่าทางที่แสนสง่างาม…อุ๊บ! ตื่นเต้นจัง!
แน่นอนว่าองค์ชายไคกีสังเกตเห็นได้ว่าน้องสาวของเขาจ้องมองไปที่องค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตเป็นระยะ ๆ สายตาที่จ้องมองไปอาจจะดูคลุมเครือ แต่คนที่ลงมาเล่นในสนามรบบ่อยครั้งจะสามารถสังเกตเห็นได้!
สวี่เจี้ยนอวิ๋นที่กำลังกินอยู่ จู่ ๆ ก็นึกอะไรบางอย่างออก และหันไปถามวินเซอร์ว่า “วินเซอร์ ปีนี้น้องอายุยี่สิบปีใช่ไหม?”
หัวใจของวินเซอร์เต้นแรง ไม่รู้ว่าลูกพี่ลูกน้องต้องการจะสื่ออะไร เธอเพียงพยักหน้าอย่างเขินอาย
“โอ้ เวลาผ่านไปเร็วมาก!” สวี่เจี้ยนอวิ๋นวางตะเกียบลงและกล่าวออกมาจากความรู้สึก “น้องถึงเวลาแต่งงานได้แล้วนะ”
สายตาของวินเซอร์มองกวาดไปบริเวณรอบ ๆ องค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อต ไม่จำเป็นต้องเอ่ย ทุกคนก็รู้หัวใจขององค์หญิงเป็นอย่างดี
มีเพียงองค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตที่ทำแสดงออกราวกับเขาไม่ได้รับรู้อะไร นั่งลงและกล่าวด้วยร้อยยิ้มอันแสนอบอุ่นว่า “องค์หญิงวินเซอร์อ่อนโยนและมีจิตใจดี มีคนตามจีบมากมาย เธอจะได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดีแน่นอน”
วินเซอร์เป็นคนละเอียดอ่อนและเฉลียวฉลาด แน่นอนว่าเธอย่อมได้ยินคำปฏิเสธอย่างเป็นธรรมชาติขององค์ชายรัชทายาท
ไคกีหยุดและกล่าวออกมาอย่างไม่ใส่ใจว่า “น้องเราของเรายอดเยี่ยมมาก เธอเป็นที่รู้จักกันดีในนามไข่มุกแห่งจักรวรรดิเหมยรุ่ย มีราชวงศ์อื่นมากมายที่อยากแต่งงานกับราชวงศ์ของเรา!”
หนุ่มน้อย นายควรดีใจที่น้องสาวของฉันเหลือบตามองนายสิ! ยังจะปฏิเสธอยู่อีกเหรอ? เขาไม่ได้กล่าวเกินจริงเสียหน่อย จักรวรรดิทั่วทั้งห้วงดวงดาวไม่สามารถหาหญิงสาวที่ดีได้เท่าน้องสาวของเขาแล้ว!
ไม่ว่าจะเป็นความสามารถหรือรูปลักษณ์ น้องสาวของเขาคือตัวเลือกที่ดีที่สุด!
“ถูกต้อง น้องวินเซอร์ยอดเยี่ยมมาก!” สวี่เจี้ยนอวิ๋นยกนิ้วชมเชยครั้งแล้วครั้งเล่า “เราได้ยินมาว่าเมื่อไม่นานมานี้น้องชนะรางวัลองค์หญิงอะไรสักอย่างสินะ?”
วินเซอร์ส่ายหน้าเล็กน้อย “เป็นการแข่งขันประกวดองค์หญิงเพคะ”
“ว้าว ใช่แล้ว!” สวี่เจี้ยนอวิ๋นตระหนักถึงบางอย่างและจ้องมองน้องสาวของตนเอง ก่อนจะจ้องมองน้องสาวของอีกฝ่าย และกล่าวออกมาอย่างเสียใจว่า “ได้ข่าวว่ารางวัลนี้ได้มายากมาก!”
สวี่รุ่ยอวิ๋นจิบน้ำหวานในแก้วแล้วขมวดคิ้ว เสียเปล่าจริงเชียว!
น้ำหวานนี้สามารถขายได้ในราคาเท่าไหร่? ทำไมถึงเอามาแจกฟรีให้คนนอกแบบนี้?!
นอกจากจะมอบให้เจ้าหน้าที่ผู้ติดตามแล้ว ยังมอบให้หัวหน้าอีกเหรอ? พวกเขาไม่ใช่นักเรียนจากจักรวรรดิชิงเหย้าสักหน่อย!
“วินเซอร์เป็นแบบอย่างที่ดีในหมู่ของผู้หญิง! หลินอวิ๋น น้องควรหัดเรียนรู้จากวินเซอร์ซะบ้าง!” สวี่เจี้ยนอวิ๋นจ้องมองสวี่หลิงอวิ๋นที่กำลังนั่งดื่มน้ำอย่างไม่สนใจไยดี แววตาของเขาเผยให้เห็นถึงร่องรอยแห่งการไม่พอใจ
เป็นการกระทำที่หยาบคายยิ่งนัก!
เมื่อมองดูวินเซอร์จิบน้ำเล็กน้อย และเช็ดปากด้วยผ้าเช็ดหน้า แล้วมองดูน้องสาวของเขา…