สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际 – ตอนที่ 242 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 13

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

ตอนที่ 242 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 13

ตอนที่ 242 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 13

สวี่หลิงอวิ๋นเกือบจะสำลักน้ำหวาน

ขณะจ้องมององค์ชายรองที่อยู่ด้านหน้า พี่ไม่มีอะไรจะทำใช่ไหม? ถึงได้ชี้นิ้วมาหาเธอแบบนี้?!

“เสด็จพี่พูดถูก น้องควรเรียนรู้จากลูกพี่ลูกน้องของเรา!” สวี่หลิงอวิ๋นกล่าวขึ้นพร้อมกับยกยิ้ม ก่อนจะหันไปมองวินเซอร์ “พี่วินเซอร์ พอจะมีพี่น้องมาเกี่ยวดองกับราชวงศ์ของเราได้บ้างไหมเพคะ?”

“น้องถามทำไม? ก็ต้องมีอยู่แล้วสิ” วินเซอร์งุนงง ทำไมสวี่หลิงอวิ๋นถึงถามคำถามนี้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน?

“อ๊ะ น้องเป็นห่วงน่ะเพคะ! เสด็จพี่ชายรองก็อายุครบยี่สิบสองปีแล้ว แต่ยังเอาแต่เที่ยวเล่นกับกลุ่มผู้ชายตลอดทั้งวัน แถมดูไม่สนใจผู้หญิงคนไหนอีก น้องแค่สงสัยว่าเสด็จพี่จะชอบผู้ชายหรือเปล่า?”

“พรวด!” องค์ชายรองที่กำลังดื่มน้ำหวานอยู่ และทันทีที่เขาได้ยินคำพูดของสวี่หลิงอวิ๋น น้ำที่อยู่ในปากก็พุ่งออกมา!

องค์หญิงวินเซอร์เป็นคนแรกที่ประสบภัย ถึงแม้ว่าสวี่หลิงอวิ๋นจะตั้งใจดึงเธอ แต่ผู้หญิงคนนี้กลับไม่ได้ตระหนักรู้ถึงการดิ้นรนเอาเสียเลย เมื่ออีกฝ่ายดึงตัวไป เธอก็เอนตัวไปในทันที และเสื้อผ้าเกินกว่าครึ่งตัวของเธอก็เปียกโชกไปด้วยน้ำหวานจากองค์ชายรอง

ใบหน้าของวินเซอร์แข็งทื่อ…องค์ชายรองก็เช่นกัน!

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะพ่นน้ำที่ไร้รสชาติออกไป!

วินเซอร์ลุกขึ้น “ขอโทษนะเพคะ ฉันขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”

เมื่อพูดจบ เธอก็เดินออกไป

สวี่เจี้ยนอวิ๋นจ้องมองไปที่องค์ชายรอง และแอบหัวเราะเยาะในใจ ทำดีมาก! องค์ชายรอง นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นว่านายน่าจ้องมองเหลือเกิน!

ไคกีรู้สึกเป็นห่วงน้องสาว เขาจึงรีบขอตัวแล้วเดินจากไป

แลนเซล็อตที่นั่งอยู่ระหว่างกลางพร้อมชมการแสดงต่อไป

หากดวงตาของสวี่รุ่ยอวิ๋นสามารถฆ่าคนได้ สวี่หลิงอวิ๋นคงจะหาไหม้ลงไปอย่างน้อยหนึ่งถึงสองรอบ ในครั้งนี้เขารู้สึกโกรธจัดเป็นอย่างมาก

“น้องกำลังพูดไร้สาระบ้าอะไรอยู่? อีกอย่างน้องกล้าพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง? ทำไมถึงหน้าไม่อายแบบนี้?!”

ก่อนที่สวี่หลิงอวิ๋นจะกล่าวอะไร สวี่เจี้ยนอวิ๋นที่อยู่ตรงนั้นก็โพล่งขึ้นมาเสียก่อน

“ชายรอง เพราะน้องเล็กเป็นห่วงนายตั้งหาก ดูสิ น้องถึงกับถามหาหญิงสาวที่เหมาะสมให้นายเชียวนะ!”

สวี่เจี้ยนอวิ๋นหัวเราะเยาะในใจ ทว่าคำพูดของเขากลับออกมาจากใจจริง “น้องสาวพูดถูก นายเที่ยวเล่นกับเพื่อนผู้ชายทุกวัน นายควรหมั่นดูแลตัวเองและหาผู้หญิงที่เหมาะสมได้แล้ว!”

สวี่รุ่ยอวิ๋นถึงกับเงียบงัน

คำสาปแช่งมากมายอยู่ในใจของเขาและไม่รู้ว่าควรจะพูดออกไปดีหรือไม่

“รสนิยมของฉันยังปกติดี! ไม่ต้องมายุ่งยากนักหรอก!” สวี่รุ่ยอวิ๋นกัดฟันแน่นขณะพ่นคำสองสามคำออกไป

สวี่เจี้ยนอวิ๋นได้ยินคำพูดดังกล่าว แล้วยังไงต่อ?

“ชายรอง เราไม่ได้บอกว่านายผิดปกติสักหน่อย ก็แค่บอกว่านายควรหาใครสักคน!” สวี่เจี้ยนอวิ๋นหัวเราะเยาะในใจ “โอ๊ะ หรือว่าจะเป็นวัฏจักรของฮวงจุ้ยจริง ๆ”

คนร้ายกาจอย่างนายมีวันนี้ด้วยหรือไง?! ยังมีเวลามานั่งทำปากไม่ดีอีกเหรอ?!

สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกประหลาดใจกับพี่ชายใหญ่ของเธอ

เป็นผู้ชายที่ชอบออกเต็มแรงเพื่อตะครุบของฟรีสินะ! หมิ่นกันเกินไปแล้ว!

“แล้วพี่ชายใหญ่ล่ะ? พี่ชายใหญ่ก็เอาแต่เที่ยวเล่นตลอดทั้งปีกับผู้ชายเหมือนกัน จะมาชอบผู้ชายด้วยไหม?” สวี่รุ่ยอวิ๋นริเริ่มยกหัวข้อขึ้นมากล่าวหาสวี่เจี้ยนอวิ๋น

“โอ้ น้องชายรอง! แหล่งข่าวของนายล่าช้าไปหน่อยหรือเปล่า?” สวี่เจี้ยนอวิ๋นสัมผัสศีรษะของเขาและกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ว่ากันตามตรง ตอนที่ฉันอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ ตอนนั้นเป็นช่วงแรมค่ำและลมพัดแรง แต่ตอนนี้ฉันโตขึ้นแล้ว!”

บัดซบ! พี่ชายใหญ่ยังมองไม่ออกอีกว่าตัวเองเป็นผู้ชายเฮงซวย!

สวี่รุ่ยอวิ๋นพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง!

“ถ้าพี่พูดแบบนั้น ฉันก็โตขึ้นแล้วเหมือนกัน!” สวี่รุ่ยอวิ๋นยังคงไม่ยอมแพ้

สวี่หลิงอวิ๋นแอบบันทึกการโต้วาทีของพี่ชายที่ ‘โตแล้ว’ ทั้งสองคนอย่างเงียบ ๆ

เรื่องซุบซิบไม่ใช่เรื่องที่มากเกินไป!

สวี่หลิงอวิ๋นมองดูพี่ชายทั้งสองคนอย่างมีความสุข และมองดูแลนเซล็อตที่นั่งด้วยท่าทีสบาย ๆ อย่างสงสัย

“เอ่อ…”

“ขอโทษนะครับ องค์หญิงสาม แล้วก็ทั้งสองท่าน ผมขอตัวก่อนนะครับ!” แลนเซล็อตลักไก่!

หลังจากเห็นดวงตาช่างสำรวจของสวี่หลิงอวิ๋น หัวใจของเขาก็สั่นเทา ไม่! ถอยออกมาซะ!

เห็นเธอกำลังฟังเรื่องซุบซิบอย่างเมามันแล้วจะปล่อยให้เธอมาฟังเรื่องซุบซิบของตัวเองไม่ได้…เพราะฉะนั้นเหลือทิ้งไว้แค่เรื่องภายนอกก็พอ!

สวี่หลิงอวิ๋นครุ่นคิดในใจ นายนี่มันฉลาดหลักแหลมเหมือนกันนะ

วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว!

องค์ชายทั้งสองยังคงสลับเปลี่ยนกันโต้แย้ง ไม่มีใครยอมใคร และพวกเขาไม่ทันได้สังเกตความอัปยศอดสูของตนเองว่านั่นเพียงพอที่จะทำให้น้องสาวรำลึกถึงตลอดสามถึงห้าปีแล้ว

องค์ชายไคกีรอคอยน้องสาวของเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ที่ด้านนอกห้องลองชุด “น้องสาว เป็นอะไรไหม?”

วินเซอร์รู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่แย่ที่สุดในชีวิตของเธอ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง!

ไม่ว่าจะถูกคนที่แอบชอบปฏิเสธหรือถูกลูกพี่ลูกน้องพ่นน้ำหวานใส่ เธอก็รู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก

“การกระทำของน้องสมบูรณ์แบบแล้วจริง ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องเล็กน้อยไปหรอก”

ไคกีรู้จักน้องสาวของเขาเป็นอย่างดีและรู้ว่าเธอชื่นชอบในความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นท่าทางที่ไร้ที่ติในสาธารณะหรือการที่ผู้คนไม่สามารถหาข้อจับผิดจากเธอได้

แต่วันนี้วินเซอร์กลับโดนถล่มจนเละ…

“พอเถอะเพคะเสด็จพี่ น้องไม่อยากฟังแล้ว” วินเซอร์เปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงสีม่วง แต่งหน้าบางเบา และเดินออกมา

เธอสูดลมหายใจเข้าลึกและกลับมาเป็นองค์หญิงแสนสวยผู้สง่างามดังเดิม

“ไปกันเถอะเพคะ!” วินเซอร์วางมือลงบนฝ่ามือของไคกี

พวกเขากำลังเดินออกไป แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงโกลาหลดังขึ้นมาจากโรงอาหารชั้นล่าง ดูเหมือนว่าจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น?!

ทั้งสองไม่กล้าจะอยู่เฉย พวกเขาก้าวออกไปสองสามก้าวจนไปถึงราวบันได และเห็นว่าเด็กอ้วนตัวน้อยกำลังอยู่ด้านข้าง ขณะที่คนรอบข้างถอยห่างออกมา

พื้นโรงอาหารเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง

เศษเค้กและอาหารที่เหลือกระจัดกระจายไปทั่วพื้น ขณะที่หุ่นยนต์เข้ามาทำความสะอาดสิ่งสกปรก

นอกจากนี้ยังมีเด็กชายทั้งหลายที่ชาญฉลาดถือจานอาหารและตะเกียบไว้ในมือ ยืนดูอย่างสนุกสนานขณะกินอาหารอยู่ที่มุมห้อง

มองตรงไปจะเห็นว่าเป็นชุดเครื่องแบบนักเรียนจากจักรวรรดิชิงเหย้า

สามพี่น้อง โดยเฉพาะสวี่หลิงอวิ๋นนอนอยู่บนราวบันไดก่อนหน้านี้ และมองดูสถานการณ์ด้านล่าง

“โอ้ นักเรียนจากจักรวรรดิชิงเหย้าของเราฉลาดกว่านักเรียนจากจักรวรรดิอื่นอีกนะ ทุกคนรู้จักวิธีการปกป้องเค้กกันด้วย!” สวี่เจี้ยนอวิ๋นกล่าว

สวี่รุ่ยอวิ๋นขมวดคิ้ว ไม่เห็นจะมีกฎเกณฑ์ตรงไหน!

ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย! อีกอย่างยืนกินแบบนั้นหมายความว่ายังไง? ทำไมถึงกินไปด้วยดูไปด้วย?!

แถมยังถือจานอาหารไว้อีกเหรอ?

“ดูเหมือนว่านักเรียนจะเลื่อนขั้นนะ” สวี่หลิงอวิ๋นหยิบมันเทศอบแห้งออกมาจากกระเป๋าและยื่นให้องค์ชายใหญ่ “ไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้ตั้งนาน คิดถึงเหมือนกันแฮะ!”

“นั่นน่ะสิ” สวี่เจี้ยนอวิ๋นกินมันเทศอบแห้งที่น้องสาวมอบให้ อืม ก็ไม่เลว! อร่อยดีแฮะ!

สวี่รุ่ยอวิ๋นคิดในใจ ทำไมถึงไม่มีกิริยาแบบราชวงศ์กันบ้าง? แล้วจะแตกต่างจากคนธรรมดาอย่างไร?! นอนบนราวบันไดและกินขนมอย่างนั้นเหรอ?!

ฮึ่ม! ถ้าสวี่หลิงอวิ๋นส่งขนมให้เขา เขาจะไม่รับมัน!

สวี่หลิงอวิ๋นกับสวี่เจี้ยนอวิ๋นกำลังกินมันเทศอบแห้ง และลืมไปว่าสวี่รุ่ยอวิ๋นก็ยืนอยู่ตรงนั้นเช่นกัน

สวี่รุ่ยอวิ๋นรู้สึกหงุดหงิด ยกแขนเสื้อขึ้นและจากไป!

“เขาเป็นอะไร?” สวี่หลิงอวิ๋นเอ่ยถามสวี่เจี้ยนอวิ๋นด้วยความงุนงง

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

Status: Ongoing
เมื่อมาเกิดใหม่ในที่ที่เต็มไปด้วยของอร่อย เรื่องอะไรจะต้องอยู่เฉยกันล่ะ อย่างนี้มันต้องจับหั่น ยัดลงหม้อไฟร้อนๆ แล้วก็ถ่ายทอดสดออกอากาศสิถึงจะถูก!สวี่หลิงอวิ๋น หญิงสาวที่อยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้มาหลายปีแล้ว แถมยังมีนิสัยชอบกินอีกตังหากก็ต้องมีชีวิตที่ถึงคราวจากไปก่อนวัยอันควร เพราะดันไปกินเนื้อแกะที่ติดเชื้อซอมบี้เข้าให้!จากนั้นเธอก็พบว่าตัวเองได้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในร่างของเจ้าหญิงองค์ที่สาม แห่งจักรวรรดิชิงเหย้า ในโลกยุคอวกาศ ซึ่งดูท่าทางไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนสักเท่าไหร่ แต่ใครสนกันล่ะ! ตอนนี้เธอสนแต่เรื่อง กิน กิน และกินเท่านั้น แถมเอเลี่ยนดาวดวงนี้ยังมีแต่ของอร่อยเต็มไปหมด! เธอจะอยู่เฉยได้อย่างไร ต้องจับพวกมันมาหั่น มาต้ม มาย่าง แล้วก็อะไรอีกดีนะ? อ้อ…สตีมเมอร์ออกอากาศด้วยเลย!ทั้งหมดนี้จะถือเป็นสงครามอวกาศที่จะชวนให้คุณน้ำลายสอไปด้วยอาหารแบบต่าง ๆ ที่สวี่หลิงหยุนไปพิชิตและสรรค์สร้างมาได้ สวี่หลิงอวิ๋นหรือองค์หญิงสามนี้จะสามารถล่าเอเลี่ยนและคิดเมนูอะไรออกสตรีมเมอร์บ้าง ไปตามลุ้นเอาใจช่วยกันได้ที่ สตีมเมอร์สาวกินพิชิตอวกาศ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท