ตอนที่ 279 มหาสงคราม 11
ตอนที่ 279 มหาสงคราม 11
เธอออกมาสนามรบและมองดูข้อความจากชาร์ล แต่หลังจากที่เธอเหลือบเห็นโอคาซี เธอก็รีบวางสายอย่างรวดเร็ว
ฮึ่ม!
คงต้องปล่อยผู้ชายคนนี้ไปสักพัก! ไม่อย่างนั้น ผู้ชายคนนี้ก็จะไม่จริงจังกับเธอสักที!
หากโอคาซีรู้เรื่องนี้เข้า เขาจะต้องออกมาตะโกนร้องถึงความไม่ยุติธรรมอย่างแน่นอน!
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มออกมาถ่ายทอดสด ก็ได้แต่สงสัยว่ากำลังทำอะไร? จะให้ชาวเน็ตมารอดูกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือไง? ฮึ่ม! ตั้งแต่ชายคนนี้ทิ้งเธอไปก็จะมีความสุขเหลือเกินนะ!
เธอกำลังวิพากษ์วิจารณ์อย่างบ้าคลั่ง
ทันใดนั้นเธอก็ได้รับคำเชิญชวนให้เข้าร่วมการถ่ายทอดกับโอคาซี
“เฮ้! ผู้ชายคนนี้กำลังทำอะไรกันแน่!? ต้องรับสายไหม?” สวี่หลิงอวิ๋นยังคงลังเลว่าจะรับสายดีหรือไม่รับสายดี ทว่ารุยที่อยู่ด้านข้างกลับบังเอิญเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว
“โอ้ หัวหน้า ใช่รายการถ่ายทอดสดของพลเอกโอคาซีไหมครับ?” รุยยังคงไม่รู้ว่าหัวหน้าของเขากำลังมีปัญหากับแฟนหนุ่ม และยังกล่าวต่อ “โอ้โห ท่านพลเอกโอคาซีกำลังจะถ่ายทอดสดกับท่าน! รีบรับสายสิครับ!”
สวี่หลิงอวิ๋นส่ายหัวอย่างไม่ต้องการ!
“โอ้ องค์หญิงสาม ถ้าท่านไม่รับสาย ผมจะติดต่อกับท่านพลเอกเอง!” รุยรู้สึกปลาบปลื้มพลเอกโอคาซีเป็นอย่างมาก!
ทว่าคนที่เขารู้สึกปลาบปลื้มมากที่สุดย่อมเป็นหัวหน้าของเขาเอง!
เมื่อเห็นว่าหัวหน้ายังไม่ยอมเคลื่อนไหว และถึงแม้ว่ารุยคนนี้จะเชื่องช้ามากแค่ไหน แต่เขาก็สามารถรับรู้ได้ในทันทีว่าหัวหน้ากำลังทะเลาะกับโอคาซี
อ๊ะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าหัวหน้าของเขาที่ดูไม่ค่อยสนใจอะไร แต่ตอนนี้กำลังรู้สึกขุ่นเคือง! เฉกเช่นเดียวกับผู้หญิงเมื่อครั้งที่พวกเธอทะเลาะเบาะแว้งกับแฟนหนุ่ม และมักจะทำตาม ‘หลักการทั้งสามไม่’
‘ไม่รับสาย ไม่พูดจา และไม่มีเหตุผล’
ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ คนกลางจะต้องแก้ไขปัญหาความขัดแย้งให้ได้!
รุยเริ่มถ่ายทอดสดและเชิญชวนพลเอกโอคาซีเข้ามา
อีกทั้งยังเขียนประโยคกำกับไว้ว่าองค์หญิงสามอยู่ข้างผม!
หลังจากเห็นประโยคดังกล่าว โอคาซีที่กำลังจะกดปฏิเสธก็ยินยอม
ชาวเน็ตทั้งหลายเห็นเด็กชายผู้แข็งแกร่งสลับกับพลเอกโอคาซี
[เด็กคนนี้คือใคร? ทำไมถึงเชิญพลเอกโอคาซีเข้ามาได้?!]
ชาวเน็ตทั้งหลายเริ่มร้อนรน!
รุยรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อมองดูวิดีโอของพลเอกโอคาซีที่ฉายอยู่เคียงข้างกัน
“เอ่อ สวัสดีครับท่านพลเอก!” รุยกล่าวทักทายอย่างเขินอาย “เอ่อ ทุกคนครับ! ผมคือรุย นักเรียนปีหนึ่งจากสถาบันการศึกษาของจักรวรรดิชิงเหย้า!”
[โอ้ จำได้แล้ว รุยคนที่ไปสวามิภักดิ์กับองค์หญิงสามนี่เอง!]
[ชีวิตของเด็กคนนี้ดีเกินไปไหม?]
จะมีใครไม่รู้บ้างว่าตอนนี้องค์หญิงสามกำลังเป็นที่น่าจับตามองและมีอนาคตที่สดใส การได้ติดตามองค์หญิงสามก็เหมือนกับการได้ถวายเครื่องหอมให้กับบรรพบุรุษของตนเอง!
รุยไม่ได้สนใจคอมเมนต์ที่ก้าวร้าวของชาวเน็ต เขายกยิ้มและถ่ายทอดสดไปทางสวี่หลิงอวิ๋นที่นั่งหันหลังให้กับทุกคน
[โย่ นั่นองค์หญิงสามนี่นา!]
[องค์หญิงสามมองมาที่นี่หน่อยสิคะ! พวกเรารักท่าน!]
[องค์หญิงสามทำไมถึงไม่ถ่ายทอดสดนานเลย? พวกเรายังอยากเห็นว่าท่านจะทำอาหารอะไรอีก!]
[คอมเมนต์บนสักแต่รู้แค่เรื่องกินสินะ! องค์หญิงสามกำลังจัดการกับปัญหาทุกอย่างอยู่ และตอนนี้ก็อยู่ในสนามรบ พวกคุณจะพูดอะไรดี ๆ ออกมาหน่อยไม่ได้หรือไง? ยกตัวอย่างเช่น เมื่อไหร่ท่านจะส่งต่อบทเรียนการทำอาหารให้เราสักที?]
…
โอคาซีจ้องมองไปที่แผ่นหลังของสวี่หลิงอวิ๋น และเริ่มปริปาก “หลิงอวิ๋น ได้ยินเสียงของผมไหม?”
สวี่หลิงอวิ๋นอดไม่ได้ที่อมยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มที่อยู่ในวิดีโอ ทว่าเธอยังคงดื้อดึงและไม่ยอมหันหลังกลับ!
รุยเป็นคนบังคับซอฟต์แวร์ถ่ายทอดให้บินไปหาสวี่หลิงอวิ๋น
คู่รักทั้งสองคนที่ไม่ได้เห็นหน้าค่าตากันมานานกำลังจ้องมองกันตาปริบ ๆ
โอคาซีจ้องมองใบหน้าหญิงสาวผู้เป็นที่รักด้วยความหวงแหน “หลิงอวิ๋น ไม่เจอกันนานเลยนะ!”
หลิงอวิ๋นไม่ตอบรับ เพียงแต่หันหน้าหนีด้วยท่าทีนิ่งเงียบ
ชาวเน็ตทั้งหลายถึงกับตกตะลึง
[อ๊ากกก! พลเอกโอคาซีหล่อชะมัด! ดวงตาของเขาดูลึกซึ้งเป็นบ้าเลย! แงแงแง! เขากำลังสารภาพรักกับฉันอยู่ใช่ไหม?]
[มองมาที่ฉันป่ะ? ฮึ่ม! พวกเธอมันก็แค่พวกบ้าผู้ชาย! หยุดมองสามีของฉันสักที!]
[พลเอกโอคาซีกำลังมองดูองค์หญิงสามอยู่ไม่ใช่หรือไง? พวกคุณมันซื่อบื้อ แล้วก็เลิกโวยวายได้แล้ว!]
[เฮ้ ๆ พวกเราก็แค่มโนไปเรื่อย การมโนมันไปละเมิดกฎของจักรพรรดิหรือไงยะ!]
…
สวี่หลิงอวิ๋นถอนหายใจและไม่สนใจไยดีเขา
โอคาซีกล่าวออกไปอย่างนุ่มนวล “วันนั้นผมผิดไปแล้ว ผมควรจะอธิบาย”
“จะอธิบายอะไร? มีอะไรให้ต้องอธิบาย?” สวี่หลิงอวิ๋นเย้ยหยัน “ทุกคนพูดถูก ฉันจะมีความสามารถอะไรให้ท่านตกกหลุมรักได้? ท่านควรไปหาคนที่ท่านชอบซะเถอะ!”
หลังจากโอคาซีได้ยินเช่นนั้น ก็สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าสวี่หลิงอวิ๋นยังคงนึกถึงคำพูดของคุณหญิงซีซาร์ในวันนั้นอยู่ เขาจึงกล่าวอธิบาย “ที่ผมไม่ได้อธิบายอะไรออกไปเพราะผมแค่ไม่อยากคุยกับเธอ”
“ถ้าผมต้องการอะไรจริง ๆ ผมคงจะยอมรับพิธีการแต่งงานของเราทั้งสองคนมานานแล้ว คงไม่มาตกหลุมรักท่านจริง ๆ หลังจากที่ได้พูดคุยกันหรอกครับ!”
บัดซบ! ชาวเน็ตทั้งหลายแทบจะน้ำตาไหลพราก!
พวกเขาสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมท่านพลเอกถึงเต็มใจจะออกมาถ่ายทอดสด นั่นเป็นเพราะว่าเขากำลังมีปัญหากับแฟนสาว
สิ่งที่เกลียดที่สุดคือการทรมานคนโสดทั้งหลายที่เฝ้าดูอยู่ มันช่างเป็นอะไรที่เลวร้ายยิ่งนัก!
นอกจากนี้ พลเอกผู้นี้ไม่ได้ด้อยในด้านความรักเลยสักนิด อีกทั้งท่านยังทำให้พวกเราประหลาดใจจริง ๆ!
โอคาซียังคงกล่าวต่อไป “ผมชอบที่ท่านเป็นคนสบาย ๆ ชอบที่ท่านเป็นคนมีไหวพริบ ชอบทุกการกระทำของท่าน ชอบที่ท่านหัวเราะ ชอบเวลาท่านเอียงหัวแล้วมองมาที่ผม ชอบที่ท่านชอบหยอกล้อผม…”
ใบหน้าของสวี่หลิงอวิ๋นแดงก่ำ และเริ่มพึมพำ “ฮึ่ม! ง้อใครอยู่กันแน่!”
โอคาซีถอนหายใจ “ผมก็ง้อท่านอยู่นี่ไง?”
“ผมหวงจนแทบบ้าทุกครั้งที่ผมเห็นว่าท่านมองไปที่ผู้ชายอื่น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้” เขาจ้องมองหญิงสาวในวิดีโอ “ถ้าเป็นไปได้ ผมก็เต็มใจจะปล่อยทุกอย่างไปเพื่อให้ได้อยู่กับท่าน”
“หลิงอวิ๋น ขอโทษนะ! ให้โอกาสผมอีกสักครั้งได้ไหม?”
น้ำเสียงทุ้มของโอคาซีฟังดูอ่อนโยน น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยน้ำทะเลที่แสนอบอุ่นซุกซ่อนอยู่ทุกครั้งที่เขาเอื้อนเอ่ยออกมา อบอุ่นจนแทบจะทำให้ผู้คนจมดิ่ง
สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองเขา “ท่านกำลังจะสารภาพรักฉันเหรอคะ?”
“ครับ!” โอคาซีถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มเข้าใจเขา “และผมจะสารภาพรักกับท่านทุกเมื่อ”
“ตราบเท่าที่ท่านอยากฟัง”
สวี่หลิงอวิ๋นกอดอก “ฉันยังจำได้ว่าเราเดิมพันกันไว้ว่าถ้าเบนเน็ตเลื่อนขั้นไปถึงระดับ 5 ดาว…”
“ผมะยอมเป็นคนรับใช้ของท่านตลอดหนึ่งเดือน โอเคไหมครับ?” แน่นอนว่าโอคาซีจดจำมันได้ ขณะที่ดวงตาเผยให้เห็นรอยยิ้มรูปสระอิ “เอาไว้สงครามจบแล้ว ผมจะไปทำตามสัญญาที่ให้ไว้นะครับ”
“โอเค! งั้นฉันจะจำเอาไว้!” สวี่หลิงอวิ๋นอมยิ้ม
ชาวเน็ตทั้งหลายจ้องมองคู่รักหนุ่มสาวด้วยสายตาเศร้าสร้อย นี่มันมากเกินไปแล้ว! ทำให้พวกเขารู้สึกเดือดได้ตลอดสินะ! ฮึ่ม!
นึกว่าจะมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้น ที่แท้ก็ปล่อยให้พวกเขาเข้ามาดูคนพลอดรักกัน!