ถึงแม้ว่าหนานกงเยี่ยจะเป็นผู้ชายที่เย็นชา แต่เขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง แน่นอนว่าเขาก็ต้องมีความหวั่นไหว ความรู้สึกนี้มันไม่เกี่ยวข้องกับความรัก
หลังจากที่อยู่คนเดียวมานานกว่าสองปี เขาก็มีความต้องการทางด้านนั้น
เธอคือสัตว์เลี้ยงที่เขาซื้อมา แน่นอนว่าเขาก็ต้องเสพสุขกับความบันเทิงที่สัตว์เลี้ยงมอบให้ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเดินไปบนเตียงที่อยู่ด้านข้างแล้วล้มตัวลงนอน จากนั้นหันหน้าไปหาเธอแล้วร้องเรียกเสียงเบา “มานี่สิ! “
วินาทีที่หนานกงเยี่ยเดินเข้ามา เหลิ่งรั่วปิงก็รู้สึกตัวแล้ว เพียงแต่เธอแค่ไม่ยอมหันหน้ากลับไปก็เท่านั้น ไม่ว่าเธอจะเกลี้ยกล่อมตนเองยังไงว่าการล้างแค้นนั้นต้องไม่สนใจเรื่องความบริสุทธิ์ของตนเอง แต่สุดท้ายแล้วภายในใจของเธอก็ยังรู้สึกแย่ เธอไม่อยากเผชิญหน้ากับหนานกงเยี่ย
เมื่อคนที่เลี้ยงดูร้องเรียก แน่นอนว่าเธอไม่สามารถที่จะรอช้าได้ เหลิ่งรั่วปิงหันหน้าไปอย่างช้าๆ มองดูหนานกงเยี่ยที่นอนอยู่บนเตียง เธอปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์และดึงดูดผู้หญิงมาก เขาที่อยู่ภายใต้แสงไฟ ใบหน้าของเขาคมคาย สิ่งเดียวที่แตกต่างไปจากเมื่อตอนกลางวันนั้น ก็คือมีความเย็นชาน้อยลง
น่าเสียดาย ที่เหลิ่งรั่วปิงเป็นคนไม่มีหัวใจ เธอไม่มีวันที่จะตกหลุมพรางนี้
เมื่อเห็นเหลิ่งรั่วปิงยังคงนิ่งไปยอมขยับตัว ริมฝีปากที่มีเสน่ห์ของหนานกงเยี่ยก็กระตุกยิ้มขึ้นมา “เป็นอะไรไป บริการผู้ชายไม่เป็นหรอ”
“…”
“มานี่สิ! ” เขาออกคำสั่งอีกครั้ง
เหลิ่งรั่วปิงเดินไปด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ เธอเดินไปที่เตียงอย่างช้าๆ ขึ้นไปนั่งบนเตียง แต่ตอนนี้เธอไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะทำอะไร เธอรู้จักปืนทุกชนิดและแยกออกได้อย่างชัดเจน รู้ว่าควรจะจัดการยังไงกับมีดบินต่างๆ แต่เธอไม่รู้จักวิธีบริการผู้ชายจริงๆ
เมื่อเห็นเหลิ่งรั่วปิงทำตัวไม่ถูก หนานกงเยี่ยหัวเราะเย้ยหยันขึ้นมา เขาเชยคางเธอขึ้น “อย่าบอกผมนะว่าคุณยังบริสุทธิ์อยู่”
เขาไม่เชื่อว่าเธอไม่เคยทำเรื่องอย่างว่ากับผู้ชายมาก่อน ผู้หญิงที่สามารถทนกับสัญญาซื้อขายแบบนี้ได้นั้น อีกทั้งยังเรียกร้องเงินจำนวนมากได้ คงมีแค่คนสติไม่ดีเท่านั้นที่จะเชื่อว่าเธอไม่เคยผ่านผู้ชายมาก่อน นี่เธอกำลังแสร้งทำเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์งั้นหรอ
การเผชิญหน้ากับคำดูถูกพวกนี้ ทำให้เหลิ่งรั่วปิงกำหมัดขึ้นมาด้วยความโมโห แล้วพุ่งเป้าไปที่หน้าของหนานกงเยี่ยอย่างกระทันหัน
“หึ หึ หึ…ดุไม่เบา! ” หนานกงเยี่ยคว้าจับมือของเธอเอาไว้ แล้วหัวเราะเสียงเบา เขาเข้าใจมาตลอดว่าเธอเป็นแกะตัวน้อยๆ ที่ดื้อดึง แต่ในความเป็นจริงนั้นเธอกับเป็นแมวที่มีเล็บ ช่างเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจจริงๆ
เหลิ่งรั่วปิงพยายามอดทน เก็บความโมโหของตัวเองเอาไว้ เพื่อที่จะล้างแค้น เธอไม่สามารถทำให้เขาไม่พอใจได้
เธอไม่รู้ตัวเลยว่าตอนที่ตัวเองโมโหแล้วพยายามควบคุมความโกรธของตัวเองเอาไว้นั้นมันมีเสน่ห์และยั่วยวนคนอื่นแค่ไหน ใบหน้าขาวเนียนสั่นเทาเล็กน้อย ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความโมโหมีความเปล่งประกาย หัวไหล่เรียวยาวสั่นเทาเล็กน้อยเพราะความโมโห ช่างเป็นอะไรที่ยั่วยวนจริงๆ
หนานกงเยี่ยไม่สามารถอดทนได้แล้ว เขาดึงตัวเธอเข้าไปในอ้อมกอด จากนั้นพรมจูบไปที่ใบหน้าของเธอและซอกคอ เขาไม่เคยจูบปากผู้หญิงคนไหนมาก่อน เพราะเขารู้สึกว่าปากของผู้หญิงทุกคนเคยแปดเปื้อนมาก่อน ไม่ควรที่จะได้รับการจูบจากเขา
เหลิ่งรั่วปิงที่ไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชาย ทำให้เธอรู้สึกไม่คุ้นชิน เธอหันหน้าหนีไปทางซ้ายทีขวาที ส่วนตัวของเธอก็แข็งทื่อ
ท่าทางของเธอทำให้หนานกงเยี่ยโมโหเป็นอย่างมา “ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อย จะแสแสร้งไปทำไม”
“…” เหลิ่งรั่วปิงกัดฟันมองไปที่เขา โดยที่ไม่พูดอะไรออกมา ถ้าไม่ใช่เพราะไม่สามารถทำอะไรได้ ตอนนี้เธอคงกัดเขาให้ตายไปแล้ว
Related