เดิมพันเสน่หา – ตอนที่ 214 แก้แค้นอวี้หลานซี

เดิมพันเสน่หา

ตอนที่ 214 แก้แค้นอวี้หลานซี

เหลิ่งรั่วปิงยิ้มบางๆ ราวกับสายลม “คุณอวี้ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ วันข้างหน้าเราต้องอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน พวกเราต้องพูดคุยทำความเข้าใจกันให้ดีค่ะ!”

คำพูดของเหลิ่งรั่วปิงที่คนอื่นได้ฟัง เป็นเพียงคำพูดเกรงใจเท่านั้น แต่สำหรับอวี้หลานซีเธอเข้าใจเป็นอย่างดี เหลิ่งรั่วปิงไม่มีวันปล่อยให้เธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

ทว่าอวี้หลานซีไม่กลัว เพราะเธอมีคนให้พึ่งพิง หนานกงจวิ้นหัวหน้าตระกูลหนานกงคือคนที่เธอพึ่งพิงได้มากที่สุด ถึงแม้เธอจะเกลียดเหลิ่งรั่วปิง แต่ไม่มีความกล้ามากพอที่จะฆ่าเธอ เหตุที่เมื่อวานเธอกล้าไปฆ่าเหลิ่งรั่วปิงด้วยตนเอง เป็นเพราะหนานกงจวิ้นอนุญาตให้เธอได้ทำเรื่องเลวร้ายนี้โดยไม่ถือว่าเป็นความผิด เขาสนับสนุนเธอในการฆ่าเหลิ่งรั่วปิง

ดังนั้น หลังจากวันนี้หากเหลิ่งรั่วปิงมาหาเรื่องเธอ ต่อให้เธอฆ่าเหลิ่งรั่วปิงทิ้งก็ไม่เป็นไร เมื่อวานฆ่าไม่สำเร็จ เป็นเพราะมีแม่น้ำสายนั้น ตอนนี้เหลิ่งรั่วปิงสูญเสียการมองเห็นแล้ว เธอไม่มีวันโชคดีไปได้ตลอดหรอก

“คุณอวี้ ตอนนี้ฉันกับเยี่ยเป็นสามีภรรยากันแล้ว ฉันกลับมาคฤหาสน์เพื่อดูแลงานทุกอย่างของที่นี่ ฉันควรจะอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ คุณย้ายไปอยู่ในสวนมรกตเถอะค่ะ” เหลิ่งรั่วปิงพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบมาก ทว่าคำพูดของเธอกลับคมกริบมีน้ำหนัก ไม่มีการร้องขอแม้แต่น้อย มีเพียงคำสั่งเท่านั้น

คฤหาสน์หนานกงมีบ้านอยู่ทั้งหมดหกหลัง ทุกหลังมีสวนเป็นของตนเอง บ้านหลังหลักตั้งอยู่ตรงกลางคฤหาสน์ ส่วนบ้านอีกห้าหลังตั้งอยู่ด้านซ้ายสองด้านขวาสองและด้านหลังอีกหนึ่ง บ้านหลังหลักแสดงถึงตำแหน่งหัวหน้าตระกูล สวนมรกตคือสวนที่อยู่ด้านหลังสุดของคฤหาสน์ เหลิ่งรั่วปิงให้อวี้หลานซีย้ายไปอยู่ในสวนมรกต เจตนาของเธอชัดเจนมาก นับตั้งแต่วันนี้ ตำแหน่งของอวี้หลานซีอยู่อันดับท้ายสุด

อวี้หลานซีเบิกตากว้างด้วยความตกใจ มองเหลิ่งรั่วปิงอย่างไม่เชื่อสายตา เธอพักอยู่ในบ้านหลังหลักมานานกว่ายี่สิบปี ทุกคนล้วนให้ความเคารพนับถือ วันนี้กลับถูกย้ายไปอยู่ที่สวนมรกต เธอรับไม่ได้ที่ชีวิตจะต้องตกต่ำแบบนี้ ในใจของเธอ เธอยังคงเป็นผู้หญิงที่มีอำนาจสูงสุดในตระกูลหนานกง

เหลิ่งรั่วปิงมองไม่เห็น แต่เธอรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจของอวี้หลานซี สีหน้าของเหลิ่งรั่วปิงยังคงนิ่งเฉยราวกับน้ำในบ่อบาดาล “พ่อบ้านคะ รบกวนพ่อบ้านให้คนไปช่วยคุณอวี้เก็บข้าวของหน่อยนะคะ”

ถึงแม้พ่อบ้านจะไม่อยากทำ แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง โน้มตัวทำความเคารพ “ครับ”

“ไม่ ฉันไม่ย้ายไปที่สวนมรกตเด็ดขาด!” อารมณ์ของอวี้หลานซีเกรี้ยวกราดมาก หันไปมองหนานกงเยี่ย “เยี่ย คุณจะปล่อยให้เธอรังแกฉันแบบนี้เหรอคะ”

ใบหน้าของหนานกงเยี่ยไร้ซึ่งอารมณ์ เขาไม่เงยแม้แต่หนังตาขึ้น “ผมเคยพูดแล้ว รั่วปิงคือคุณผู้หญิงของตระกูลหนานกง เรื่องทุกอย่างในบ้านเป็นสิทธิ์ขาดของเหลิ่งรั่วปิง ผมจะไม่เข้าไปยุ่ง”

อวี้หลานซีพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ หันไปมองเหลิ่งรั่วปิงด้วยความเกลียดแค้น “เหลิ่งรั่วปิง ฉันยังเป็นคุณหนูของตระกูลหนานกง คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้กับฉัน”

เหลิ่งรั่วปิงยิ้มอ่อน “คุณหนูของตระกูลหนานกงต้องปฏิบัติตามกฎระเบียงของตระกูลหนานกง คุณตระหนักรู้ว่าตนเองเป็นใคร สิ่งที่ไม่ควรเพ้อฝันก็อย่าได้เพ้อฝัน แต่จากที่ฉันดูคุณอวี้ไม่น่าทำได้นะคะ ฉันเองก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่ทนเห็นผู้หญิงคนอื่นมาพร่ำเพ้อถึงสามีตัวเองไม่ได้ แน่นอนว่าต้องย้ายคุณไปยิ่งไกลเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น ที่ฉันไม่ไล่คุณออกจากคฤหาสน์ถือว่าให้เกียรติคุณมากแล้ว”

“เหลิ่งรั่วปิง…” อวี้หลานซีกัดฟันแน่นอยากจะพูดอะไรบางอย่าง เหลิ่งรั่วปิงยิ้มพร้อมกับพูดขัดขึ้นมา “คุณอวี้คะ ฉันขอเตือนคุณเอาไว้ก่อน ชื่อของฉันไม่ใช่สิ่งที่คุณเรียกได้ คุณเรียกฉันว่าคุณผู้หญิงเถอะค่ะ”

“เธอ!” ความเกลียดชังภายในแววตาอวี้หลานซีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เธอจะพุ่งตัวไปบีบคอเหลิ่งรั่วปิง

ก่วนอวี้ทนมองไม่ได้อีกต่อไป เดินไปคว้าข้อมืออวี้หลานซีเอาไว้ “เลิกบ้าได้แล้ว ผมช่วยคุณเก็บของเอง” ขณะที่พูด ก่วนอวี้ลากตัวอวี้หลานซีขึ้นไปชั้นบน

เมื่อไปถึงห้องนอนบนชั้นสอง อวี้หลานซีสะบัดมือก่วนอวี้อย่างแรง เธอโมโหจนดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ “นายจะยุ่งเรื่องของฉันอีกทำไม นายพูดเองไม่ใช่เหรอว่าถ้าเป็นไปได้ขอให้ตัวเองไม่เคยรักฉันมาก่อน นายยืนมองฉันทำตัวโง่ๆ ต่อไปเถอะ!”

ก่วนอวี้ถอนหายใจ “หลานซี ผมอยู่ตรงนี้ ครั้งหนึ่งทุกคนเคยทะนุถนอมคุณอย่างดี คุณชายเยี่ยดูแลคุณเป็นพิเศษ ที่ทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้ ล้วนเป็นเพราะคุณทำตัวคุณเอง!”

ไม่รอให้อวี้หลานซีโต้เถียง ก่วนอวี้พูดต่อ “จากที่ผมรู้จักคุณเหลิ่งรั่วปิง เธอไม่ชอบการชิงดีชิงเด่นแย่งผู้ชายแบบนี้ที่สุด วันนี้จู่ๆ เธอมาเปิดศึกกับคุณ ต้องเป็นเพราะคุณทำให้เธอเหลือทน หลานซี ช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้คุณทำความผิดอะไร”

“!!!” หัวใจของอวี้หลานซีหล่นวูบสู่ใต้ทะเลสาบลึก เธอถอยหลังสองก้าวด้วยความหวาดกลัว “ไม่ ฉัน…ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”

ก่วนอวี้จ้องมองแววตาของอวี้หลานซี “หลานซี ผมต้องเตือนคุณ อย่าคิดว่าตัวเองฉลาด สิ่งที่ผมมองออก คุณชายเยี่ยก็ต้องมองออกเหมือนกัน คุณเหลิ่งรั่วปิงคือชีวิตของคุณชาย ถ้าคุณคิดจะทำอะไรคุณเหลิ่งรั่วปิง คุณชายเยี่ยไม่มีวันยอมใจอ่อนให้คุณแน่” แววตาเย็นยะเยือกสะท้อนความเจ็บปวด “เก็บข้าวของและย้ายไปอยู่ที่สวนมรกตเถอะ ไม่อย่างนั้นคุณจะดูแย่ยิ่งกว่านี้”

ก่วนอวี้รู้ เมื่อก่อน เหลิ่งรั่วปิงนิ่งเฉยกับอวี้หลานซีมาโดยตลอด ไม่เคยสนใจเธอ นั่นเป็นเพราะเหลิ่งรั่วปิงทระนง ไม่เคยเอาเรื่องรักใคร่ แย่งชิงผู้ชายมาเก็บไว้ในใจ ทั้งยังดูถูกผู้หญิงอย่างอวี้หลานซียอมทำตัวต่ำต้อยเพื่อความรัก เหลิ่งรั่วปิงไม่คิดจะสู้กับอวี้หลานซี นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอสู้ไม่ได้หรือไม่มีวิธีเอาคืนอวี้หลานซี แต่วันนี้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอถึงย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์เผชิญหน้ากับอวี้หลานซี เหลิ่งรั่วปิงเป็นคนเหี้ยมโหดมาก ฝีมือของเธอไม่ใช่สิ่งที่อวี้หลานซีจะทนรับได้

อวี้หลานซีตกตะลึงกับคำพูดของก่วนอวี้ เธอสั่งให้สาวใช้มาช่วยเก็บข้าวของอย่างว่าง่าย

“ผมพาคุณไปพักผ่อนในห้องนะครับ” หนานกงเยี่ยช้อนตัวเหลิ่งรั่วปิงที่นั่งอยู่บนโซฟา เดินขึ้นชั้นสอง เข้าไปในห้องของตนเอง วางเหลิ่งรั่วปิงลงบนโซฟาใกล้ระเบียงห้อง ให้แสงแดดอบอุ่นสาดส่องมายังแผ่นหลังของเธอ

“คุณโกรธไหมคะที่ฉันทำแบบนั้นกับอวี้หลานซี” เหลิ่งรั่วปิงถามเสียงเรียบ

หนานกงเยี่ยยิ้มพร้อมโอบกอดเธอเอาไว้ “ไม่ครับ ผมบอกคุณตั้งแต่แรกแล้ว คุณคือคุณผู้หญิงของตระกูลหนานกง คุณจะทำอะไรผมไม่ว่าอะไรทั้งนั้น”

หนานกงเยี่ยพูดอย่างอ่อนโยน ทว่าแววตาของเขากลับเหี้ยมเกรียม

ก่วนอวี้พูดถูก เขาจะมองไม่ออกได้อย่างไร ถึงแม้เหลิ่งรั่วปิงจะไม่ชอบอวี้หลานซี แต่เธอไม่คิดที่จะมีเรื่องกับอวี้หลานซี เรื่องที่อวี้หลานซีกล่าวหาว่าเหลิ่งรั่วปิงทำร้ายตอนอยู่บนเรือยอร์ชบริษัทประมูลฮั่นไห่ เหลิ่งรั่วปิงไม่พูดอธิบายแม้แต่คำเดียว ในตอนหลังอวี้หลานซีทำให้เธออับอายในงานเลี้ยงลองใจ เหลิ่งรั่วปิงก็ยังไม่เคยหาเรื่องอวี้หลานซี หรือแม้แต่เมื่อหลายวันก่อน อวี้หลานซีพูดกระทบจิตใจเหลิ่งรั่วปิงถึงเรื่องการมองเห็น เหลิ่งรั่วปิงก็ยังไม่แค้นเคือง

ความนิ่งเฉยไม่ยี่หระทั้งหมดของเหลิ่งรั่วปิง ล้วนเป็นเพราะดูถูกผู้หญิงอย่างอวี้หลานซี

วันนี้อยู่ดีๆ เหลิ่งรั่วปิงกลับหาเรื่องอวี้หลานซี มีสาเหตุเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คืออวี้หลานซีทำให้เธอสุดจะทน

หนานกงเยี่ยนึกถึงเรื่องที่เหลิ่งรั่วปิงตกน้ำเมื่อวาน หรือจะเกี่ยวข้องกับอวี้หลานซี?

แววตาหนานกงเยี่ยยิ่งอยู่ก็ยิ่งเหี้ยมเกรียมมากขึ้น คล้ายจะมองทะลุผ่านทุกสรรพสิ่ง หากเกี่ยวข้องกับอวี้หลานซี เขาไม่มีวันยอมใจอ่อนอย่างแน่นอน ความอดทนของเขาที่มีต่ออวี้หลานซีมันถึงขีดจำกัดแล้ว หากเธอกล้ามีเจตนาทำร้ายเหลิ่งรั่วปิงแม้แต่น้อย เขาไม่มีวันอภัยเด็ดขาด

เหลิ่งรั่วปิงยิ้มบางเบา “ฉันเคยพูดแล้ว ฉันเป็นผู้หญิงที่ใจแคบมาก ในใจของฉันมีผู้ชายแค่คนเดียว แน่นอนว่าฉันทนเห็นผู้หญิงคนอื่นละเมอเพ้อฝันอยากได้ผู้ชายของฉันไม่ได้ ดังนั้นฉันอาจจะไม่มีวันปล่อยให้อวี้หลานซีใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ถ้าคุณเสียใจขึ้นมาทีหลัง คุณไล่ฉันออกไปจากคฤหาสน์หนานกงเถอะค่ะ”

หนานกงเยี่ยจับมือเหลิ่งรั่วปิงแน่น น้ำเสียงหนักแน่นราวกับหมึกดำวาดเขียนลงบนแผ่นกระดาษ “มีสิ่งเดียวที่คุณต้องรู้ก็คือ ในใจของผม ไม่มีใครสำคัญมากไปกว่าคุณ ถ้ามีใครทำร้ายคุณ แล้วคุณไม่อยากให้ผมช่วยจัดการ คุณอยากทำด้วยตนเอง เช่นนั้นก็ทำไปเถอะครับ ต่อให้คุณฆ่าใครสักคนตายผมก็ไม่มีวันโทษคุณ หืม?”

“รวมถึงอวี้หลานซี?”

“รวมถึงทุกคน”

เหลิ่งรั่วปิงไม่ได้พูดอะไรอีก เธอซบอยู่ในแผงอกกว้างของหนานกงเยี่ย เธอรู้ดี จากความฉลาดของหนานกงเยี่ย เขาต้องเดาออกอย่างแน่นอนว่าเกิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้น ความรักที่เขามีต่อเธอมันท่วมท้น ความรักของเขาโอบล้อมเธอเอาไว้ ทำให้เธอมีความสุขมาก

แต่ก็ยังทำอะไรอวี้หลานซีพร่ำเพรื่อไม่ได้ เธอเป็นคนสำคัญของหนานกงจวิ้น หากทำอะไรเธอจะส่งผลให้เกิดเรื่องเดือดร้อนไม่น้อย เหลิ่งรั่วปิงรู้ชัดข้อนี้เป็นอย่างดี ดังนั้นเธอจึงไม่เลือกที่จะจัดการอวี้หลานซีทันที เธอไม่อยากให้หนานกงเยี่ยกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถึงแม้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาพ่อลูกจะไม่ดีเท่าไร แต่เธอไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาแย่กว่าเดิมเพราะเธอเป็นต้นเหตุ หรือทำให้พวกเขาต้องเป็นศัตรูกัน

ทุกคนต่างรู้ดี ตอนนี้คนที่มีอำนาจที่สุดในตระกูลหนานกงคือหนานกงเยี่ย และคนที่ควบคุมบรรยากาศในตระกูลมีแค่เหลิ่งรั่วปิงคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าปฏิบัติตัวไม่ดี คำพูดของเหลิ่งรั่วปิงถือเป็นคำสั่งสูงสุด เธอต้องการขนย้ายข้าวของอวี้หลานซีให้เสร็จก่อนเที่ยง พ่อบ้านไม่กล้าชักช้า เรียกสาวใช้มากว่าสิบคน ย้ายข้าวของเครื่องใช้ของอวี้หลานซีออกไปด้วยความรวดเร็ว จากนั้นตามทีมตกแต่งภายในมาตามความต้องการของเหลิ่งรั่วปิง ตกแต่งห้องที่อวี้หลานซีเคยนอนใหม่ทั้งหมด พูดได้ว่า ร่องรอยของอวี้หลานซีหายไปภายในวันเดียว

ฐานะของอวี้หลานซีแตกต่างจากเดิมคนละขั้ว เมื่อพวกสาวใช้เห็นลมเปลี่ยนทิศ สาวใช้โดยมากจึงไม่สนใจอวี้หลานซีอีก สวนมรกตที่อวี้หลานซีอยู่ กลายเป็นสวนที่เงียบเหงาที่สุดของคฤหาสน์หนานกง

เมื่อชีวิตตกต่ำลงกะหันหัน ทำให้อวี้หลานซีไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ หงุดหงิดง่ายขึ้นกว่าเดิม เธอโมโหวันละหลายครั้ง เขวี้ยงปาข้าวของ โทรศัพท์ไปหาหนานกงจวิ้น เพื่อระบายความทุกข์ในใจ

หญิงสาวที่เคยเป็นกุลสตรีและสง่างามในอดีต เป็นภรรยาและแม่ของลูกที่ดี เวลานี้กลายเป็นผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความแค้นเคือง

นับตั้งแต่อวี้หลานซียิงปืน เหลิ่งรั่วปิงตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ให้อวี้หลานซีมีชีวิตที่มีความสุขอีก แต่เธอมีความอดทนมาก หลังจากไล่อวี้หลานซีไปอยู่ที่สวนมรกต ไม่ได้ถามถึงอวี้หลานซีไปหลายวัน ได้ยินพวกสาวใช้บอกว่าอวี้หลานซีอาละวาดทุกวัน เขวี้ยงปาข้าวของ ทั้งยังโทรไปหาหนานกงจวิ้นเพื่อระบายความทุกข์ในใจ ทว่าเหลิ่งรั่วปิงกลับไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น เธอเพียงแค่ยกมุมปากเล็กน้อย เธอรู้ การอยู่เงียบๆ แล้วทรมานอวี้หลานซีแบบนี้ ทำให้อวี้หลานซีทุกข์ทนมากยิ่งกว่าเดิม

ทางด้านหนานกงเยี่ยก็ไม่ได้พูดอะไร เขายังคงดูแลเหลิ่งรั่วปิงด้วยความใส่ใจ พาเธอไปด้วยทุกที่ ไม่เคยพูดคำว่าไม่กับทุกอย่างที่เหลิ่งรั่วปิงทำ

ทว่าก่วนอวี้กลับทุกข์ใจมาก ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าอวี้หลานซีเป็นคนผิด แต่เขาก็ยังคงสงสารเธอ เพียงแต่ ความสงสารของเขาช่างต่ำต้อย และทำอะไรไม่ได้

วันที่ห้าหลังจากเหลิ่งรั่วปิงเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หนานกง กินข้าวเสร็จ หนานกงเยี่ยรับสายหนานกงจวิ้นหัวหน้าตระกูลหนานกง หนานกงจวิ้นโทรมายังโทรศัพท์บ้านของคฤหาสน์หนานกง ตอนที่หนานกงเยี่ยรับสายเขาไม่ได้เลี่ยงเหลิ่งรั่วปิง แต่เปิดลำโพงให้เธอฟัง

“เยี่ย เป็นเพราะพ่อไม่ได้กลับเมืองหลงมาหลายปี ทำให้แกคิดว่าพ่อแก่จนทำอะไรไม่ได้แล้วใช่ไหม” เสียงของหนานกงจวิ้นหนักแน่นมีกำลัง ราวกับระฆัง คล้ายกับฟ้าผ่า กล่าวโทษอย่างรุนแรง

เดิมพันเสน่หา

เดิมพันเสน่หา

Status: Ongoing
หลังจากพ่อของเธอถูกสังหารจนชีวิตต้องระหกระเหินอยู่ในมรสุมแห่งความยากลำบาก สิบปีให้หลัง เหลิ่งรั่วปิง นักฆ่าสาวฝีมือดีของประเทศซีหลิงเจ้าของฉายานางฟ้ารัตติกาลผู้แสนเย็นชาและไร้หัวใจจึงกลับมาที่เมืองหลงอีกครั้งเพื่อเอาคืนเจ้าของหนี้แค้นที่พรากครอบครัวและทำให้เธอต้องสูญเสียทุกสิ่งไปอย่างสาสมและใบเบิกทางของแผนการแก้แค้นในครั้งนี้ก็คือ หนานกงเยี่ย ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลหนานกงหนึ่งในคุณชายทั้งสี่ของเมืองหลงที่ผู้หญิงทุกคนต่างใฝ่ฝัน เขาคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยกรุยทางให้เธอไปถึงจุดหมายเพราะฉะนั้นต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม เธอก็ยินดีที่จะทำ ถึงแม้ว่าสิ่งๆ นั้นจะเป็นร่างกายหรือหัวใจของเธอเองก็ตามที

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท