จอมนางข้ามภิภพ – บทที่ 638 ท่านพ่อ เอา

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่638 ท่านพ่อ เอา

มู่เซียวเซียวรอมาสองปี และตอนนี้นางได้กลายเป็นนางสนมคนโปรดของฝ่าบาทแล้ว และได้ควบคุมจักรพรรดิแห่งแคว้นเทียนจิ่วไว้ อาจกล่าวได้ว่าอำนาจอยู่ในมือ และบวกกับที่มีความช่วยเหลือจากผิงหนานอ๋อง มู่เซียวเซียวสาบานในใจว่าคราวนี้จะให้จวินหย่วนโยวสามีภรรยานี้มีมาไม่มีกลับอย่างแน่นอน

“ข้ารอข่าวดีของเจ้า” ผิงหนานอ๋องกล่าวอย่างแผ่วเบา

“อืม!” มู่เซียวเซียวหันหลังและจากไป

ชายในชุดดำ ที่เอาผ้าดำปิดหน้าไว้ ปรากฏขึ้นมาอย่างกับปีศาจร้าย

“นายท่าน ท่านเชื่อจริงๆหรือว่านางสามารถฆ่าจวินหย่วนโยวได้?” เสียงที่แหลมของหมอตี๋ดังมา

มุมปากของผิงหนานอ๋องโค้งขึ้นด้วยความชั่วร้าย แตกต่างจากเขาที่เฉยเมยและมีไมตรีในปกติไปอย่างสิ้นเชิง”แน่นอนว่าข้าไม่เชื่อ แต่ก็อย่าได้ดูถูกความแค้นของผู้หญิงคนหนึ่ง

จวินหย่วนโยวกำจัดหอเทพเซียนทิ้ง กับมู่เซียวเซียวแล้วเป็นความแค้นในการล้างตระกูล แน่นอนว่ามู่เซียวเซียวก็ต้องทุ่มเทหมดตัวเพื่อแก้แค้น ไม่เช่นนั้นข้าจะร่วมมือกับนางได้อย่างไร

เจ้าสามารถควบคุมจวินหย่วนโยว ซึ่งเป็นอาวุธที่ได้เปรียบที่สุดของพวกข้า เจ้าจับตาดูอย่างลับๆ หากมู่เซียวเซียวทำพลาด เจ้าก็ช่วยนางหน่อย แต่อย่าถูกคนพบเห็น”

“ขอรับ!” หมอตี๋บินออกไป

ตาของผิงหนานอ๋องฉายแววโหดเหี้ยม จวินหย่วนโยวในเมื่อเจ้ามาส่งตายเอง เช่นนั้นก็อย่าโทษข้าละ

เช้าวันถัดไป องค์หญิงสามเริ่นเซวียนเอ๋อร์ กำลังคัดแยกสมุนไพรในลาน เมื่อจู่ๆ ก็มีจดหมายนกพิราบตัวหนึ่งปรากฏขึ้น เริ่นเซวียนเอ๋อร์นำจดหมายขึ้นมาทันที และเมื่อเห็นเนื้อหาบนจดหมายนั้น นางก็ตกตะลึงยิ่งนัก

หยุนถิงยังมีชีวิตอยู่ ดียิ่งนัก

เริ่นเซวียนเอ๋อร์ซาบซึ้งที่ตอนนั้นหยุนถิงช่วยชีวิจของอาจารย์ตัวเองไว้ ต่อมาได้ยินว่าหยุนถิงตกหน้าผา นางยังไปหาไปช่วงหนึ่ง

สองปีที่ผ่านมานี้ เมื่อใดก็ตามที่เริ่นเซวียนเอ๋อร์เดินไปเล่น ก็จะสอบถามที่อยู่ของหยุนถิง เพียงแต่ว่าหาไม่เจอสักที

ตอนนี้เห็นจดหมายของหยุนถิง เริ่นเซวียนเอ๋อร์ตื่นเต้นจนหลั่งน้ำตาเลย

นางถือว่าหยุนถิงเป็นคนสนิทในด้านทักษะทางการแพทย์ แถมหล่อนยังเคยช่วยชีวิตของอาจารย์ตัวเองไว้ด้วย ดังนั้นเริ่นเซวียนเอ๋อร์จึงถือว่าหยุนถิงเป็นผู้มีพระคุณของตัวเอง และนับถือหล่อนเป็นเพื่อน

ทว่า เหตุใดนางต้องให้ตัวเองไปจวนผิงหนานอ๋อง หรือว่าตอนนั้นที่หยุนถิงตกหน้าผานั้นเกี่ยวข้องกับเสด็จอา เป็นไปไม่ได้นี่นา เสด็จอาอยู่ในแคว้นเทียนจิ่วไม่เคยจากไปเลย

เริ่นเซวียนเอ๋อร์ไม่เข้าใจ และไม่อยากไปคิด ในเมื่อเป็นคำสั่งของหยุนถิง นางช่วยหล่อนจับตาดูอย่างสุดกำลังก็ได้แล้ว

ดังนั้นเริ่นเซวียนเอ๋อร์จึงเลือกสมุนไพรสองสามอย่าง และตรงไปที่จวนผิงหนานอ๋อง

สองปีที่ผ่านมา ร่างกายของเซียจิ่วเซียวได้รับการรักษาโดยเริ่นเซวียนเอ๋อร์มาโดยตลอด ตอนนั้นเริ่นเซวียนเอ๋อร์จงใจโกหกองค์หญิงใหญ่ว่านางสามารถช่วยเซียจิ่วเซียวรักษาได้ ต่อมาองค์หญิงใหญ่ถูกคุมตัวไว้ในแคว้นต้าเยียน ผิงหนานอ๋องและจักรพรรดิร่วมมือกำจัดอำนาจขององค์หญิงใหญ่ทิ้ง แต่เริ่นเซวียนเอ๋อร์ก็ไม่มีทางเลือกอื่นจริง จึงได้เขียนจดหมายขอความช่วยเหลือจากหยุนถิง และเป็นหยุนถิงที่ให้คนส่งยามา

ในความเป็นจริงหยุนถิงไม่ได้รักษาเซียจิ่วเซียว เพียงแต่ว่าเขายังไม่ถึงเวลาตาย อยากเหลือทางหนีทีไล่เอาไว้

ตอนนี้ โอกาสก็มาแล้วไม่ใช่หรือ

เมื่อคนของจวนผิงหนานอ๋องเห็นว่าองค์หญิงสามมา ก็เคารพเป็นอย่างมาก

เซียจิ่วเซียวที่อยู่ในลานกำลังเล่นจิ้งหรีด เมื่อเห็นเริ่นเซวียนเอ๋อร์มา ก็ทำหน้ารังเกียจ”น้องสามเจ้ามาอีกแล้วหรือ ตอนนี้ข้าเห็นเจ้าแล้วก็ปวดหัวยิ่งนัก”

สองปีนี้ เซียจิ่วเซียวกินยาที่เริ่นเซวียนเอ๋อร์นำมาไปไม่น้อยเลย เปรี้ยว หวาน ขมต่างก็ลิ้มรสมาหมดแล้ว ทำเอาเขาทรมานยิ่งนัก แต่ก็ไม่กินไม่ได้ เพื่อฟื้นฟูร่างกาย เขาก็ทำได้เพียงอดทน

ดังนั้นตอนนี้เห็นเริ่นเซวียนเอ๋อร์ เซียจิ่วเซียวจึงมีปมในใจ

“เจ้าไม่อยากกินก็ได้ งั้นข้าเอาไปแล้ว!” เริ่นเซวียนเอ๋อร์หันหลังและจากไป

“อย่าสิ ข้าก็แค่พูดไปงั้นๆ ข้ารู้ว่าเจ้าทำเพื่อข้า ก็เป็นเพราะกินยาเยอะเกินไป จนหวัดกลัวไปหมดเลย!” เซียจิ่วเซียวบ่น

“ของคราวนี้อร่อย เหมือนซุปหวานเลย ตอนนี้ร่างกายของเจ้าฟื้นฟูพอสมควรแล้ว เพียงแค่ต้องพักฟื้นเท่านั้น แต่ก็ต้องระวัง” เริ่นเซวียนเอ๋อร์กำชับ

“เช่นนี้ก็ยังดีหน่อย สองปีนี้ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย มัวแต่บำรุงรักษา ตอนนี้สามารถเดินได้เหมือนคนปกติได้สักที ข้าไม่กล้าทำตัวเองอีกแล้ว ” เซียจิ่วเซียวถอนหายใจ

เมื่อนึกถึงวันเวลาที่อยู่ในจวนซื่อจื่อ มันน่ากลัวยิ่งกว่าอยู่ในนรกอีก ชีวิตตายทั้งเป็นนั้นชาตินี้เซียจิ่วเซียวก็ไม่อยากเจออีกแล้ว

ดังนั้นสองปีนี้เขาไม่ได้ไปที่ไหนเลย อยู่ในจวนอ๋องดีๆ

“เช่นนั้นก็ดี เสด็จอาละ ทำไมไม่เห็นเขา?” เริ่นเซวียนเอ๋อร์ถาม

“ใครจะไปรู้ว่าเสด็จพ่อยุ่งอะไรอยู่ วันวันก็ไม่เห็นคนเลย” เซียจิ่วเซียวตอบ

“งั้นข้าก็ฝึกฝนกับเจ้าอีกหน่อย”

“อืม!”

……………………………….

แคว้นชางเยว่

จวินหย่วนโยวและพรรคพวกพาลูก ๆ ไว้ ดังนั้นจึงเดินทางได้ไม่เร็วนัก เดินทางไปสิบกว่าวันก็ถึงที่เมืองฉีแห่งแคว้นชางเยว่

นี่เป็นทางผ่านทางเดียวที่จะไปยังแคว้นเทียนจิ่วได้ ตอนนี้ใกล้จะปลายปีแล้ว ในเมืองก็ครึกครื้นยิ่งนัก สองข้างทางเต็มไปด้วยพ่อค้าแผง จวินเสี่ยวเทียนกับจวินเสี่ยวเหยียนถูกของเล่นพวกนั้นดึงดูดในทันที

ก่อนหน้านี้พวกเขาอาศัยอยู่ในเผ่าตลอด ต่างก็เป็นชนเผ่าเร่ร่อน ของกินของเล่นก้มีเพียงแค่นั้น เด็กสองคนดีใจยิ่งนัก

“ท่านพ่อ เอา!” จวินเสี่ยวเทียนชี้ไปที่ของเล่น

“ท่านพ่อ เอาเอา!” จวินเสี่ยวเหยียนก็พูดเช่นกัน

“ได้ พ่อพาพวกเจ้าไปซื้อ ชอบอะไรก็ซื้อให้หมดเลย!” จวินหย่วนโยวมีความสุขมาก จึงตัดสินใจอุ้มลูกทั้งสองลงจากรถม้าเลย มือหนึ่งอุ้มคนหนึ่งแล้วตรงไปที่พ่อค้าแม่ค้าขายแผง

หลิงเฟิงกับรั่วจิ่งก็รีบตามไป ดูแลอยู่ซ้ายขวา

หยุนถิงเหน็ดเหนื่อยจากการดูแลเด็กทั้งสองตลอดทาง ตอนนี้ก็พึ่งกลับไปไม่นาน ดังนั้นจวินหย่วนโยวจึงไม่ให้คนรบกวนนาง

ขอแค่เป็นสิ่งที่จวินเสี่ยวเทียนกับจวินเสี่ยวเหยียนอยากได้ หรือแค่เหลือบมองดู จวินหย่วนโยวก็จะซื้อให้หมด

ตลาดครึ่งหนึ่งก็ยังเดินไม่ถึง ในมือของหลิงเฟิงและองครักษ์ลับทั้งหมดก็เต็มไปหมดแล้ว ในที่สุดไม่มีทางอื่น รั่วจิ่งจึงต้องขับรถม้าไป และวางของทั้งหมดที่ซื้อมาไว้บนรถเข็น

จวินหย่วนโยวเดินนำหน้าพร้อมกับเด็กสองคนในอ้อมแขน หลิงเฟิงก็จ่ายเงินตามหลัง และขับรถม้า องครักษ์ลับคนอื่น ๆ ก็เอาของวางไว้บนรถม้า

ดีใจจนจวินเสี่ยวเทียนปรบมือและพูดว่าเยี่ยม”ท่านพ่อเยี่ยม เยี่ยมมาก ชอบชอบ!” ขณะที่พูด ก็กอดคอของจวินหย่วนโยวและหอมแก้มของเขา

จวินเสี่ยวเหยียนเห็นเช่นนี้ ก็เอนตัวไปหอมแก้มอีกข้างของจวินหย่วนโยว

“ฮ่าฮ่า!” จวินหย่วนโยวหัวเราะเบาๆ เจ้าหนูตัวแสบสองตัวนี้น่ารักเกินไปแล้ว ทำให้เขาชอบจากใจ

ความรู้สึกนี้ดียิ่งนัก ถูกเด็กสองคนชอบดีกว่าสิ่งใดๆอีก

หยุนถิงบนรถม้ายังหลับอยู่ จู่ๆ ก็มีธนูหักยิงออกมาจากกลางฟ้า และยิงเข้าไปในรถม้าโดยตรง

องครักษ์ลับที่อยู่นอกรถม้าอยากจะห้ามเอาไว้แต่กลับไม่ทัน ตะโกนเสียงดัง”ซื่อจื่อเฟย ระวัง!”

หยุนถิงที่เดิมหลับอยู่นั้น รู้สึกถึงกระแสลมในอากาศ ก็รีบหลบทันที ธนูหักนั้นก็ยิงไปที่ไม้ข้าง ด้านบนยังมีข้อความผูกติดเอาไว้

หยุนถิงเปิดแผ่นกระดาษทันที และเมื่อเห็นเนื้อหาที่เขียนไว้ด้านหน้า สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้น

ตั้งแต่ที่รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับจวนผิงหนานอ๋อง หยุนถิงก็ได้ส่งจดหมายนกพิราบไปยังกองทัพขนหงส์แห่งแคว้นเทียนจิ่ว ให้พวกนางสืบ

ใครจะไปคิดว่าผิงหนานอ๋องที่เฉยเมย ไม่ยุ่งเรื่องคนอื่น ขี้เกียจและไร้ประโยชน์นั้น กลับได้แอบฝึกฝนอำนาจมากมายอย่างลับๆ ที่เกี่ยวข้องกับทุกสาขาอาชีพ ดูเหมือนว่าเขาจงใจแสดงความอ่อนแอเพื่อทำให้ทุกคนสะเพร่า คนอดกลั้นเช่นนี้รับมือยากยิ่งนัก

จอมนางข้ามภิภพ

จอมนางข้ามภิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท