อ๊ากกก!
ในตอนนั้นเองเสียงตะโกนร้องอย่างเจ็บปวดดังท่ามกลางหมู่อสูรเจ้าดินแดนเมืองชมทะเล
อสูรเจ้าดินแดนหกคนถูกลอบโจมตีกายหยาบแหลกสลาย มีสองคนที่สูญเสียดวงวิญญาณและถูกชิงแหล่งพลังเทพไป
ผู้ที่จู่โจมก็คืออสูรเจ้าดินแดนทรยศที่ปะปนอยู่นั่นเอง!
ฟึ่บ!ฟึ่บ! ฟึ่บ!
อสูรเจ้าดินแดนสิบสามคนบินไปที่ด้านหลังอสูรเขตสิบจ้องมองเหล่าอสูรเจ้าดินแดนที่เหลืออีกสี่สิบคนในเมืองชมทะเลอย่างเย้ยหยัน
พวกเจ้าก็ทรยศเรอะ!
ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ได้เห็นยามที่องค์หญิงเก้าครองบัลลังก์ พวกเขาดูภักดีและศรัทธาต่อนาง แต่เมื่อองค์หญิงเก้าบาดเจ็บหนัก พวกเขาก็ได้เผยธาตุแท้ออกมา
พวกเจ้านั่นแหละที่ไร้เหตุผล!
เหล่าทรราชย์ไม่แยแส
แม่ทัพอีกฝ่ายถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกและหยุดใช้พลังสายโลหิตเขายิ้มยั่วเมื่อเหลือบมอง
องค์หญิงเก้าข้ารู้ว่าเจ้าดูการต่อสู้นี้อยู่ เจ้าตกใจหรือไม่? เจ้าชอบไหมล่ะ?
ไม่มีใครคิดว่าอสูรเจ้าดินแดนมากมายเช่นนี้จะหักหลัง!
และการทรยศของอสูรเขตสิบยังเปลี่ยนแปลงสถานการณ์อย่างสิ้นเชิงซือหยูพ่ายแพ้ในตอนที่เขากำลังจะชนะอยู่แล้ว
แม่ทัพยิ้มราวกับผู้ชนะเมื่อมองอสูรเจ้าดินแดนเมืองชมทะเลที่เหลือ
ฟังคำสั่งข้า!ถึงเวลาเก็บเกี่ยวของพวกเราแล้ว! ฆ่าพวกมันให้หมด! อย่าให้มีใครรอดไปได้! ทรัพย์สมบัติของพวกมันจะเป็นของพวกเจ้า!
เหล่าเจ้าดินแดนที่เลือกทรยศมองหน้ากันราวกับฝูงหมาป่าที่หิวโหย
อสูรเจ้าดินแดนล้วนเป็นว่าที่เทพย่อมต้องมีสมบัติติดตัวมากมายอยู่แล้ว
เพียงแค่คิดก็ทำให้พวกเขาดีใจ
กลับกันสีหน้าอสูรเจ้าดินแดนเมืองชมทะเลหม่นหมองด้วยความเศร้า ศัตรูมีกำลังมากกว่าสามเท่า และยังมีว่าที่เทพขั้นกลางที่มีพลังมหาศาลอีก จะไม่มีพวกเขาคนใดที่รอดชีวิตในวันนี้ได้เลย!
ความเศร้าความแค้น ความโกรธ และความรู้สึกอื่นต่างแสดงบนใบหน้า
แม่ทัพอีกฝ่ายที่ราวกับเป็นผู้ชนะแล้วสั่งการ
ฆ่ามันให้หมด!
เขาสั่งอย่างเย็นชา!
ฟึ่บ!ฟึ่บ! ฟึ่บ! ทรราชย์ทั้งสิบสามเข้าต่อสู้ในแนวหน้าและได้เป็นฝ่ายลงมือก่อนทั้งสิบสามบุกเข้ามาด้วยความตื่นเต้น
ปั้ง!
แต่เมื่อทั้งสิบสามเริ่มเคลื่อนไหวหนึ่งคนก็ตายไป ร่างของเขาระเบิดอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย!
ปั้ง!
และก็มีคนที่สองตามด้วยคนที่สาม และสี่…
ว่าที่เทพขั้นต้นสิบสามคนที่บุกมาด้วยความมั่นใจระเบิดไปทีละคนราวกับดอกเห็ดเป็นภาพอันน่าสยดสยอง
พริบตาเดียวเหล่าทรราชย์เลือดเย็นก็หนีกลับดว้ยความสะพรึงกลัว
แต่แม้จะหนีพวกเขาก็ระเบิดต่อไป แม้แต่ดวงวิญญาณก็แตกสลายไปกับสายลม ทั้งกายหยาบและดวงวิญญาณแหลกสลายไปพร้อมกัน! อ๊าาา!!ข้าจะไม่สู้แล้ว ข้าจะไม่ฆ่าใครอีกแล้ว!!
ดวงวิญญาณทรราชย์หนีขึ้นท้องนภา
แต่ดวงวิญญาณก็มิอาจพ้นชะตาดวงวิญญาณระเบิดหายไปเฉกเช่นคนอื่น
ว่าที่เทพสิบสามคนตายในพริบตาเดียวไม่เหลือแม้แต่คนเดียวที่มีชีวิตรอด!
เหล่าอสูรที่เห็นเหตุการณ์สังเกตได้ว่ากลุ่มแรกที่ตายในบรรดาทรราชย์นั้นคือหกคนที่สังหารฝ่ายตัวเอง!
แต่ที่เหมือนกันก็คือความตายของทรราชย์ทั้งสิบสาม
และเมื่อพวกเขาจ้องมองไปยังจุดที่ทรราชย์ตายพวกเขาก็ได้เห็นกระบี่สีเงินหลายเล่มปรากฏออกมา มันคือเพลงกระบี่เก้าสุริยา!
เป็นฝีมือเขา!เป็นเขาจริง ๆ ด้วย!
สีหน้าอสูรเขตสิบซีดเผือดเหงื่อเย็นผุดออกมาจากหน้าผาก เขาหันลำคอที่แข็งจนแทบไม่ขยับไปยังศพของซือหยู
รอยยิ้มของผู้ชนะยังประดับบนบหน้าของแม่ทัพแต่แววตานั้นแทนที่ด้วยความสะพรึงกลัวและตกตะลึง เขาหันไปมองศพของซือหยูด้วยความลำบากเช่นกัน
แต่ไหนล่ะร่างของเขา?ไม่มีแม้แต่โลหิตให้เห็นสักหยด เหลือเพียงพื้นที่ยังชุ่มชื้นและมีชีวิตชีวา!
อยู่ไหน…มันอยู่ไหน?
อสูรเขตสิบฝืนกลืนน้ำลายเขาใจเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ เขาหวาดกลัวอย่างหนัก
เขาหวาดกลัวราวกับกำลังยืนอยู่ที่ขอบหน้าผาสูงชันไร้ก้นบึ้ง
จะยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไง!ดวงวิญญาณมันเองก็สลายไปแล้วนี่!
ฝ่ามือแม่ทัพเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็นเขาเบิกตากว้าง
เพลงกระบี่เคลื่อนไหวตรงไปยังตำแหน่งประหลาดล้อมรอบพื้นที่ว่างเปล่า ทุกคนมองไปยังที่ว่างนั้นด้วยความเงียบราวกับป่าช้า
ไม่มีใครกล้าพูดออกมาแม้สักคำพวกเขาทำได้แค่จ้องมองที่ตรงนั้นโดยไม่แม้แต่กระพริบตา
ความหวังกลับมาที่แววตาเศร้าหมองของเจ้าดินแดนเมืองชมทะเลอีกครั้ง
กลับกันกับฝ่ายศัตรูที่หวังว่าจะเป็นอีกอย่าง
ไม่ใช่เขาต้องไม่ใช่เขา!
ฟึ่บ!
เสียงเบาดังชั้นแสงห้าสีเปล่งประกายในความว่างเปล่า อสูรผมสีเงินหล่อเหลายืนอยู่ท่ามกลางแสงนั้นด้วยความสง่าผ่าเผย
ท่านเจ้าเมือง!!นั่นท่านเจ้าเมืองของเรา!!
อสูรเจ้าดินแดนฝ่ายซือหยูระเบิดเสียงยินดีออกมาราวกับผู้กอบกู้โลกได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง! ยากที่จะจินตนาการว่าเมื่อไม่นานมานี้พวกเขากำลังคิดร้ายและไม่พอใจต่อซือหยู
เวลานี้พวกเขาทุกคนทั้งเคารพและตื่นเต้น!
สีหน้าข้าศึกและอสูรเขตสิบตรงกันข้ามกับพวกเขาอย่างสิ้นเชิง
ไม่เป็นไปไม่ได้! เจ้าจะยังมีชีวิตหลังจากรับกระบี่นั้นไปแล้วได้ยังไง?
อสูรเขตสิบปากสั่นเขารู้ว่าเขาไม่มีโอกาสเอาชีวิตรอดจากซือหยู เพราะเขาได้เห็นพลังของซือหยูกับตา
ที่นี่ตอนนี้ซือหยูผู้กลับมาจากความตายได้ทำให้เขาหนาวสั่นหัวจรดเท้า
ซือหยูจ้องอสูรเขตสิบอย่างไร้อารมณ์เขาไม่ตอบ สิ่งที่เกิดขึ้นคือกระบี่นั้นเอาชีวิตเขาไปแล้วจริง ๆ เขาคืนชีพมาได้ก็เพราะพลังของหม้อเก้ามังกร
แม่ทัพอีกฝ่ายสูดหายใจเข้าลึกมองร่างไร้วิญญาณของคนทรยศที่นอนเกลื่อนพื้นและมองไปที่เหล่าอสูรเจ้าดินแดนที่ถูกซือหยูสั่งไม่ให้ต่อสู้ เขาใจสั่นอย่างรุนแรง
เขาพูดสิ่งแม้แต่ตัวเองก็ไม่อยากจะเชื่อออกมา
หรือว่าเจ้าจะเรียกพวกมันมาเพื่อดูการต่อสู้แต่ความตั้งใจจริงของเจ้าคือการกำจัดพวกข้าจนหมด…ไปพร้อม ๆ กับพวกคนทรยศในเมืองชมทะเล?
ซือหยูพยักหน้าเบาๆ ยืนยันบทสรุปของแม่ทัพ
เสียงของแม่ทัพเบาจนแทบไม่ได้ยิน
หากเป็นเช่นนั้นจริงเจ้าก็จงใจให้อสูรเขตสิบฆ่าเจ้าสินะ?
ซือหยูพยักหน้าอีกครั้ง
ถ้าข้าไม่ตายทรราชย์ทั้งหมดจะถูกล่อให้ออกมาหรือ?
อสูรเขตสิบถอยหลังไปหลายก้าวเขาไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองถูกหลอก!
แม่ทัพไม่พูดอะไรอีกแล้วทีแรก เขาคิดว่าการบ่มเพาะหนอนบ่อนไส้ในเมืองจะทำให้องค์หญิงเก้าตกใจ แต่เขาไม่รู้เลยว่ามีเรื่องที่น่าตกใจยิ่งกว่ารอเขาอยู่
เขาลงทุนมหาศาลเพื่อที่จะซื้อใจอสูรเจ้าดินแดนทั้งสิบสามให้ยอมย้ายข้างเพื่อให้ทุกคนนั้นถูกซือหยูสังหารอย่างรวดเร็วจนหมดสิ้นจากกลอุบายอันโหดเหี้ยมของเขา
แม่ทัพจ้องซือหยูด้วยความชิงชังสุดหัวใจและสัมผัสของความกลัว
อสูรเขตสิบ…
เขาตะโกน
มันไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!มาช่วยข้าฆ่ามันด้วยกันเถอะ!
อสูรเขตสิบกลัวมากแต่หากเป็นเช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่มีทางหนีได้อีก เขาตะโกนตอบรับ
เอาเลย!
แม่ทัพสั่งอีกครั้ง
ทุกคนจงฟังคำสั่งข้า!สังหารอสูรเจ้าดินแดนของพวกมันให้หมดทุกคน! แล้วจงหาองค์หญิงเก้าให้เจอ!
การต่อสู้ทั้งกองทัพเริ่มขึ้นแล้ว!
หากองค์หญิงเก้าถูกจับตัวไปซือหยูจะไร้ซึ่งฐานอำนาจในแดนอสูร
เหล่าอสูรเจ้าดินแดนต้องต่อสู้พวกเขาไม่มีโอกาสนอกจากเสี่ยงชีวิต!
ถึงแม้โอกาสชนะของอีกฝ่ายจะนับว่าสูงตราบเท่าที่ซือหยูต้องรับมือกับอสูรเขตสิบและแม่ทัพ คงเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่ทัพที่มากกว่าจะสังหารพวกเขาจะตายหมดและไปตามหาองค์หญิงเก้า
หากองค์หญิงเก้าถูกเจอตัวทุกอย่างก็เป็นอันจบสิ้น!
ซือหยูยิ้มเมื่อมองทัพอีกฝ่ายที่กำลังมั่นใจ
ความกล้าเจ้าน่าชื่นชมแต่น่าเวทนานัก ข้าไม่ให้โอกาสเปลี่ยนชะตาของพวกเจ้าหรอก ตู้ม!ตู้ม! ตู้ม!
เถาวัยล์นับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาจากพื้นรอบตัวซือหยูแผ่ขายไปถึงขอบนภามันปิดตายพื้นที่กว้างเอาไว้
ทุกคนบุก!
แม่ทัพตะโกนและเข้ามาต่อสู้กับซือหยูพร้อมอสูรเขตสิบ
แม่ทัพใช้พลังสายโลหิตอีกครั้งอสูรเขตสิบเองก็ใช้วิชากระบี่อันน่าตกใจ
ทั้งสองร่วมมือกันด้วยพลังของทั้งคู่ แม้ซือหยูจะแข็งแกร่งเพียงใด เขาก็มิอาจต่อสู้กับสองคนพร้อมกันได้
แต่ถ้าหากซือหยูมีร่างอมตะเล่า?
ซือหยูหลับตาช้าๆ ในท้องนภาเหนือศีรษะ เนตรขนาดยักษ์ได้กลายเป็นเนตรสีมรกต ลำแสงมรกตแล่นออกจากเนตรไปที่ตัวซือหยู
ซือหยูราวกับเป็นแก้วมรกตกระจ่างใจเขางดงามราวกับภูติในนิยาย เมื่อกระบี่ที่มีพลังฎีกาสวรรค์ของอสูรเขตสิบซัดซือหยูขาดเป็นสองท่อนดวงวิญญาณของซือหยูแตกดับไปพร้อมกับร่างกาย
แต่ก่อนที่อสูรเขตสิบจะได้ดีใจซือหยูที่ตายไปต่อหน้าต่อตากลับขยับมือขวา พลังเทพมังกร พลังห้าธาตุ และพลังดูดซับได้หลอมรวมเป็นหนึ่ง มันทะลวงร่างเขาในพริบตา
อสูรเขตสิบมองร่างที่กำลังรวมตัวกันคนตายจะยังใช้พลังได้ยังไง?
อสูรเขตสิบบินพาแหล่งพลังเทพหนีเมื่อกายหยาบของตัวเองถูกทำลาย
พอเขาคิดว่ามันอาจจะเป็นการดิ้นรนครั้งสุดท้ายก่อนซือหยูตายคุกสวรรค์เทพอสูรก็ได้ปรากฏที่มือซ้ายของซือหยู เขาโยนมันขึ้นฟ้า
อสูรเขตสิบหวาดกลัวมากนี่ไม่ใช่การดิ้นรนก่อนตาย! ซือหยูไม่ได้ตายต่างหาก! หลีกไป!
แม่ทัพกรีดร้องตะโกนสุดเสียงเขาบินอย่างรวดเร็วและใช้หมัดโลหิตซัดไปที่คุกสวรรค์เทพอสูร
แต่ซือหยูที่ขาดเป็นสองท่อนก็โจมตีอีกครั้งภูเขาห้าสีลอยออกจากมือของเขาและขยายขนาดเป็นพันศอก กดทับลงมาอย่างแรง
แม่ทัพตะโกนและซัดภูเขาห้าธาตุด้วยสองหมัดแต่ทันทีที่ปะทะกับภูเขา พลังมหาศาลของภูเขาก็ถูกปลดปล่อยออกมา พลังนั้นขจัดพลังสายโลหิตของเขาไป!
ไม่นะ!
แม่ทัพกลัวมากเขาไม่เคยคิดว่าซือหยูจะมีภูเขาย่อส่วนที่มีพลังห้าธาตุอันน่ากลัวเช่นนี้อยู่กับตัว
แต่มันก็สายไปแล้วเขากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว
กระบี่เงินเก้าเล่มที่มีแสงห้าสีล้อมรอบทะลวงร่างของแม่ทัพ
ทันทีที่กระบี่แทงทะลุพลังสลายก็เข้าสู่ร่าง มันสลายร่างอสูรเป็นห้าธาตุ
เหลือแต่เพียงดวงวิญญาณและแหล่งพลังเทพเท่านั้น!
เป็นไปไม่ได้!เจ้ามันตัวบ้าอะไรกันแน่? ทำไมถึงฆ่าเจ้าไม่ได้กัน?
แม่ทัพหวาดกลัวจนอธิบายเป็นคำพูดไม่ออกเขาไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้
ซือหยูตายไปสองครั้งแต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่น่าเชื่อเลย
โดยเฉพาะตอนนี้!เขาเห็นอยู่กับตาว่าซือหยูขาดเป็นส่องท่อนและตายแล้ว แต่ทำไมถึงยังไม่ตายเล่า?
เจ้าอยากรู้รึ?
ในตอนนั้นเองร่างอีกครึ่งของซือหยูก็เริ่มพูด ร่างที่ขาดสองท่อนกลับมาผสานกันอีกครั้ง แม้แต่ดวงวิญญาณก็กลับมาสู่สภาพเดิม ว่าที่เทพขั้นกลางทั้งสองแทบจะสำลักน้ำลาย
เจ้า…เจ้ามีกายาอมตะเรอะ?
ซือหยูยิ้มจางๆ
พูดให้ถูกคือขอบเขตชีวิต!ในขอบเขตนี้ ข้ามีชีวิตเป็นนิรันดร์ ไม่ว่าจะสังหารข้าสักกี่ครั้ง ข้าจะไม่มีวันตาย
เอาเถอะข้าไม่อยากจะพูดอะไรแล้ว พวกเจ้าไปสู่สุขติซะเถอะ!
ตู้ม!
คุกสวรรค์เทพอสูรทำงานอีกครั้งมันขังว่าที่เทพขั้นกลางทั้งสองไว้ภายใน
ซือหยูประกบมือเรียกคุกสวรรค์กลับมา
ด้านในคุกสวรรค์แม่ทัพกรีดร้องทุรนทุราย
องค์หญิงฝ่าบาท ช่วยข้าด้วย!!
แต่ทันใดนั้นเองคลื่นพลังเทพก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากคุกสวรรค์เทพอสูร! มันไม่ใช่พลังเทพของว่าที่เทพแต่เป็นพลังเทพอันน่ากลัวที่มีแต่จิตวิญญาณเทพที่สมบูรณ์แล้วจะปลดปล่อยได้