The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1250 – ปิดบัญชี

ตอนที่ 1250 - ปิดบัญชี

  อ๊ากกก!

  ในตอนนั้นเองเสียงตะโกนร้องอย่างเจ็บปวดดังท่ามกลางหมู่อสูรเจ้าดินแดนเมืองชมทะเล

  อสูรเจ้าดินแดนหกคนถูกลอบโจมตีกายหยาบแหลกสลาย มีสองคนที่สูญเสียดวงวิญญาณและถูกชิงแหล่งพลังเทพไป

  ผู้ที่จู่โจมก็คืออสูรเจ้าดินแดนทรยศที่ปะปนอยู่นั่นเอง!

  ฟึ่บ!ฟึ่บ! ฟึ่บ!

  อสูรเจ้าดินแดนสิบสามคนบินไปที่ด้านหลังอสูรเขตสิบจ้องมองเหล่าอสูรเจ้าดินแดนที่เหลืออีกสี่สิบคนในเมืองชมทะเลอย่างเย้ยหยัน

   พวกเจ้าก็ทรยศเรอะ! 

  ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ได้เห็นยามที่องค์หญิงเก้าครองบัลลังก์ พวกเขาดูภักดีและศรัทธาต่อนาง แต่เมื่อองค์หญิงเก้าบาดเจ็บหนัก พวกเขาก็ได้เผยธาตุแท้ออกมา

   พวกเจ้านั่นแหละที่ไร้เหตุผล! 

  เหล่าทรราชย์ไม่แยแส

  แม่ทัพอีกฝ่ายถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกและหยุดใช้พลังสายโลหิตเขายิ้มยั่วเมื่อเหลือบมอง

   องค์หญิงเก้าข้ารู้ว่าเจ้าดูการต่อสู้นี้อยู่ เจ้าตกใจหรือไม่? เจ้าชอบไหมล่ะ? 

  ไม่มีใครคิดว่าอสูรเจ้าดินแดนมากมายเช่นนี้จะหักหลัง!

  และการทรยศของอสูรเขตสิบยังเปลี่ยนแปลงสถานการณ์อย่างสิ้นเชิงซือหยูพ่ายแพ้ในตอนที่เขากำลังจะชนะอยู่แล้ว

  แม่ทัพยิ้มราวกับผู้ชนะเมื่อมองอสูรเจ้าดินแดนเมืองชมทะเลที่เหลือ

   ฟังคำสั่งข้า!ถึงเวลาเก็บเกี่ยวของพวกเราแล้ว! ฆ่าพวกมันให้หมด! อย่าให้มีใครรอดไปได้! ทรัพย์สมบัติของพวกมันจะเป็นของพวกเจ้า! 

  เหล่าเจ้าดินแดนที่เลือกทรยศมองหน้ากันราวกับฝูงหมาป่าที่หิวโหย

  อสูรเจ้าดินแดนล้วนเป็นว่าที่เทพย่อมต้องมีสมบัติติดตัวมากมายอยู่แล้ว

  เพียงแค่คิดก็ทำให้พวกเขาดีใจ

  กลับกันสีหน้าอสูรเจ้าดินแดนเมืองชมทะเลหม่นหมองด้วยความเศร้า ศัตรูมีกำลังมากกว่าสามเท่า และยังมีว่าที่เทพขั้นกลางที่มีพลังมหาศาลอีก จะไม่มีพวกเขาคนใดที่รอดชีวิตในวันนี้ได้เลย!

  ความเศร้าความแค้น ความโกรธ และความรู้สึกอื่นต่างแสดงบนใบหน้า

  แม่ทัพอีกฝ่ายที่ราวกับเป็นผู้ชนะแล้วสั่งการ

   ฆ่ามันให้หมด! 

  เขาสั่งอย่างเย็นชา!

  ฟึ่บ!ฟึ่บ! ฟึ่บ!   ทรราชย์ทั้งสิบสามเข้าต่อสู้ในแนวหน้าและได้เป็นฝ่ายลงมือก่อนทั้งสิบสามบุกเข้ามาด้วยความตื่นเต้น

  ปั้ง!

  แต่เมื่อทั้งสิบสามเริ่มเคลื่อนไหวหนึ่งคนก็ตายไป ร่างของเขาระเบิดอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย!

  ปั้ง!

  และก็มีคนที่สองตามด้วยคนที่สาม และสี่…

  ว่าที่เทพขั้นต้นสิบสามคนที่บุกมาด้วยความมั่นใจระเบิดไปทีละคนราวกับดอกเห็ดเป็นภาพอันน่าสยดสยอง

  พริบตาเดียวเหล่าทรราชย์เลือดเย็นก็หนีกลับดว้ยความสะพรึงกลัว

  แต่แม้จะหนีพวกเขาก็ระเบิดต่อไป แม้แต่ดวงวิญญาณก็แตกสลายไปกับสายลม ทั้งกายหยาบและดวงวิญญาณแหลกสลายไปพร้อมกัน!    อ๊าาา!!ข้าจะไม่สู้แล้ว ข้าจะไม่ฆ่าใครอีกแล้ว!! 

  ดวงวิญญาณทรราชย์หนีขึ้นท้องนภา

  แต่ดวงวิญญาณก็มิอาจพ้นชะตาดวงวิญญาณระเบิดหายไปเฉกเช่นคนอื่น

  ว่าที่เทพสิบสามคนตายในพริบตาเดียวไม่เหลือแม้แต่คนเดียวที่มีชีวิตรอด!

  เหล่าอสูรที่เห็นเหตุการณ์สังเกตได้ว่ากลุ่มแรกที่ตายในบรรดาทรราชย์นั้นคือหกคนที่สังหารฝ่ายตัวเอง!

  แต่ที่เหมือนกันก็คือความตายของทรราชย์ทั้งสิบสาม

  และเมื่อพวกเขาจ้องมองไปยังจุดที่ทรราชย์ตายพวกเขาก็ได้เห็นกระบี่สีเงินหลายเล่มปรากฏออกมา มันคือเพลงกระบี่เก้าสุริยา!

  เป็นฝีมือเขา!เป็นเขาจริง ๆ ด้วย!

  สีหน้าอสูรเขตสิบซีดเผือดเหงื่อเย็นผุดออกมาจากหน้าผาก เขาหันลำคอที่แข็งจนแทบไม่ขยับไปยังศพของซือหยู

  รอยยิ้มของผู้ชนะยังประดับบนบหน้าของแม่ทัพแต่แววตานั้นแทนที่ด้วยความสะพรึงกลัวและตกตะลึง เขาหันไปมองศพของซือหยูด้วยความลำบากเช่นกัน

  แต่ไหนล่ะร่างของเขา?ไม่มีแม้แต่โลหิตให้เห็นสักหยด เหลือเพียงพื้นที่ยังชุ่มชื้นและมีชีวิตชีวา!

   อยู่ไหน…มันอยู่ไหน? 

  อสูรเขตสิบฝืนกลืนน้ำลายเขาใจเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ เขาหวาดกลัวอย่างหนัก

  เขาหวาดกลัวราวกับกำลังยืนอยู่ที่ขอบหน้าผาสูงชันไร้ก้นบึ้ง

   จะยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไง!ดวงวิญญาณมันเองก็สลายไปแล้วนี่! 

  ฝ่ามือแม่ทัพเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็นเขาเบิกตากว้าง

  เพลงกระบี่เคลื่อนไหวตรงไปยังตำแหน่งประหลาดล้อมรอบพื้นที่ว่างเปล่า  ทุกคนมองไปยังที่ว่างนั้นด้วยความเงียบราวกับป่าช้า

  ไม่มีใครกล้าพูดออกมาแม้สักคำพวกเขาทำได้แค่จ้องมองที่ตรงนั้นโดยไม่แม้แต่กระพริบตา

  ความหวังกลับมาที่แววตาเศร้าหมองของเจ้าดินแดนเมืองชมทะเลอีกครั้ง

  กลับกันกับฝ่ายศัตรูที่หวังว่าจะเป็นอีกอย่าง

  ไม่ใช่เขาต้องไม่ใช่เขา!

  ฟึ่บ!

  เสียงเบาดังชั้นแสงห้าสีเปล่งประกายในความว่างเปล่า อสูรผมสีเงินหล่อเหลายืนอยู่ท่ามกลางแสงนั้นด้วยความสง่าผ่าเผย

   ท่านเจ้าเมือง!!นั่นท่านเจ้าเมืองของเรา!! 

  อสูรเจ้าดินแดนฝ่ายซือหยูระเบิดเสียงยินดีออกมาราวกับผู้กอบกู้โลกได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง!   ยากที่จะจินตนาการว่าเมื่อไม่นานมานี้พวกเขากำลังคิดร้ายและไม่พอใจต่อซือหยู

  เวลานี้พวกเขาทุกคนทั้งเคารพและตื่นเต้น!

  สีหน้าข้าศึกและอสูรเขตสิบตรงกันข้ามกับพวกเขาอย่างสิ้นเชิง

   ไม่เป็นไปไม่ได้! เจ้าจะยังมีชีวิตหลังจากรับกระบี่นั้นไปแล้วได้ยังไง? 

  อสูรเขตสิบปากสั่นเขารู้ว่าเขาไม่มีโอกาสเอาชีวิตรอดจากซือหยู เพราะเขาได้เห็นพลังของซือหยูกับตา

  ที่นี่ตอนนี้ซือหยูผู้กลับมาจากความตายได้ทำให้เขาหนาวสั่นหัวจรดเท้า

  ซือหยูจ้องอสูรเขตสิบอย่างไร้อารมณ์เขาไม่ตอบ สิ่งที่เกิดขึ้นคือกระบี่นั้นเอาชีวิตเขาไปแล้วจริง ๆ เขาคืนชีพมาได้ก็เพราะพลังของหม้อเก้ามังกร

  แม่ทัพอีกฝ่ายสูดหายใจเข้าลึกมองร่างไร้วิญญาณของคนทรยศที่นอนเกลื่อนพื้นและมองไปที่เหล่าอสูรเจ้าดินแดนที่ถูกซือหยูสั่งไม่ให้ต่อสู้ เขาใจสั่นอย่างรุนแรง

  เขาพูดสิ่งแม้แต่ตัวเองก็ไม่อยากจะเชื่อออกมา

   หรือว่าเจ้าจะเรียกพวกมันมาเพื่อดูการต่อสู้แต่ความตั้งใจจริงของเจ้าคือการกำจัดพวกข้าจนหมด…ไปพร้อม ๆ กับพวกคนทรยศในเมืองชมทะเล? 

  ซือหยูพยักหน้าเบาๆ ยืนยันบทสรุปของแม่ทัพ

  เสียงของแม่ทัพเบาจนแทบไม่ได้ยิน

   หากเป็นเช่นนั้นจริงเจ้าก็จงใจให้อสูรเขตสิบฆ่าเจ้าสินะ? 

  ซือหยูพยักหน้าอีกครั้ง

   ถ้าข้าไม่ตายทรราชย์ทั้งหมดจะถูกล่อให้ออกมาหรือ? 

  อสูรเขตสิบถอยหลังไปหลายก้าวเขาไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองถูกหลอก!

  แม่ทัพไม่พูดอะไรอีกแล้วทีแรก เขาคิดว่าการบ่มเพาะหนอนบ่อนไส้ในเมืองจะทำให้องค์หญิงเก้าตกใจ แต่เขาไม่รู้เลยว่ามีเรื่องที่น่าตกใจยิ่งกว่ารอเขาอยู่

  เขาลงทุนมหาศาลเพื่อที่จะซื้อใจอสูรเจ้าดินแดนทั้งสิบสามให้ยอมย้ายข้างเพื่อให้ทุกคนนั้นถูกซือหยูสังหารอย่างรวดเร็วจนหมดสิ้นจากกลอุบายอันโหดเหี้ยมของเขา

  แม่ทัพจ้องซือหยูด้วยความชิงชังสุดหัวใจและสัมผัสของความกลัว

   อสูรเขตสิบ… 

  เขาตะโกน

   มันไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!มาช่วยข้าฆ่ามันด้วยกันเถอะ! 

  อสูรเขตสิบกลัวมากแต่หากเป็นเช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่มีทางหนีได้อีก เขาตะโกนตอบรับ

   เอาเลย! 

  แม่ทัพสั่งอีกครั้ง

   ทุกคนจงฟังคำสั่งข้า!สังหารอสูรเจ้าดินแดนของพวกมันให้หมดทุกคน! แล้วจงหาองค์หญิงเก้าให้เจอ! 

  การต่อสู้ทั้งกองทัพเริ่มขึ้นแล้ว!

  หากองค์หญิงเก้าถูกจับตัวไปซือหยูจะไร้ซึ่งฐานอำนาจในแดนอสูร

  เหล่าอสูรเจ้าดินแดนต้องต่อสู้พวกเขาไม่มีโอกาสนอกจากเสี่ยงชีวิต!

  ถึงแม้โอกาสชนะของอีกฝ่ายจะนับว่าสูงตราบเท่าที่ซือหยูต้องรับมือกับอสูรเขตสิบและแม่ทัพ คงเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่ทัพที่มากกว่าจะสังหารพวกเขาจะตายหมดและไปตามหาองค์หญิงเก้า

  หากองค์หญิงเก้าถูกเจอตัวทุกอย่างก็เป็นอันจบสิ้น!

  ซือหยูยิ้มเมื่อมองทัพอีกฝ่ายที่กำลังมั่นใจ

   ความกล้าเจ้าน่าชื่นชมแต่น่าเวทนานัก ข้าไม่ให้โอกาสเปลี่ยนชะตาของพวกเจ้าหรอก    ตู้ม!ตู้ม! ตู้ม!

  เถาวัยล์นับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาจากพื้นรอบตัวซือหยูแผ่ขายไปถึงขอบนภามันปิดตายพื้นที่กว้างเอาไว้

   ทุกคนบุก! 

  แม่ทัพตะโกนและเข้ามาต่อสู้กับซือหยูพร้อมอสูรเขตสิบ

  แม่ทัพใช้พลังสายโลหิตอีกครั้งอสูรเขตสิบเองก็ใช้วิชากระบี่อันน่าตกใจ

  ทั้งสองร่วมมือกันด้วยพลังของทั้งคู่ แม้ซือหยูจะแข็งแกร่งเพียงใด เขาก็มิอาจต่อสู้กับสองคนพร้อมกันได้

  แต่ถ้าหากซือหยูมีร่างอมตะเล่า?

  ซือหยูหลับตาช้าๆ ในท้องนภาเหนือศีรษะ เนตรขนาดยักษ์ได้กลายเป็นเนตรสีมรกต ลำแสงมรกตแล่นออกจากเนตรไปที่ตัวซือหยู

  ซือหยูราวกับเป็นแก้วมรกตกระจ่างใจเขางดงามราวกับภูติในนิยาย  เมื่อกระบี่ที่มีพลังฎีกาสวรรค์ของอสูรเขตสิบซัดซือหยูขาดเป็นสองท่อนดวงวิญญาณของซือหยูแตกดับไปพร้อมกับร่างกาย

  แต่ก่อนที่อสูรเขตสิบจะได้ดีใจซือหยูที่ตายไปต่อหน้าต่อตากลับขยับมือขวา พลังเทพมังกร พลังห้าธาตุ และพลังดูดซับได้หลอมรวมเป็นหนึ่ง มันทะลวงร่างเขาในพริบตา

  อสูรเขตสิบมองร่างที่กำลังรวมตัวกันคนตายจะยังใช้พลังได้ยังไง?

  อสูรเขตสิบบินพาแหล่งพลังเทพหนีเมื่อกายหยาบของตัวเองถูกทำลาย

  พอเขาคิดว่ามันอาจจะเป็นการดิ้นรนครั้งสุดท้ายก่อนซือหยูตายคุกสวรรค์เทพอสูรก็ได้ปรากฏที่มือซ้ายของซือหยู เขาโยนมันขึ้นฟ้า

  อสูรเขตสิบหวาดกลัวมากนี่ไม่ใช่การดิ้นรนก่อนตาย! ซือหยูไม่ได้ตายต่างหาก!    หลีกไป! 

  แม่ทัพกรีดร้องตะโกนสุดเสียงเขาบินอย่างรวดเร็วและใช้หมัดโลหิตซัดไปที่คุกสวรรค์เทพอสูร

  แต่ซือหยูที่ขาดเป็นสองท่อนก็โจมตีอีกครั้งภูเขาห้าสีลอยออกจากมือของเขาและขยายขนาดเป็นพันศอก กดทับลงมาอย่างแรง

  แม่ทัพตะโกนและซัดภูเขาห้าธาตุด้วยสองหมัดแต่ทันทีที่ปะทะกับภูเขา พลังมหาศาลของภูเขาก็ถูกปลดปล่อยออกมา พลังนั้นขจัดพลังสายโลหิตของเขาไป!

   ไม่นะ! 

  แม่ทัพกลัวมากเขาไม่เคยคิดว่าซือหยูจะมีภูเขาย่อส่วนที่มีพลังห้าธาตุอันน่ากลัวเช่นนี้อยู่กับตัว

  แต่มันก็สายไปแล้วเขากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว

  กระบี่เงินเก้าเล่มที่มีแสงห้าสีล้อมรอบทะลวงร่างของแม่ทัพ

  ทันทีที่กระบี่แทงทะลุพลังสลายก็เข้าสู่ร่าง มันสลายร่างอสูรเป็นห้าธาตุ

  เหลือแต่เพียงดวงวิญญาณและแหล่งพลังเทพเท่านั้น!

   เป็นไปไม่ได้!เจ้ามันตัวบ้าอะไรกันแน่? ทำไมถึงฆ่าเจ้าไม่ได้กัน? 

  แม่ทัพหวาดกลัวจนอธิบายเป็นคำพูดไม่ออกเขาไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้

  ซือหยูตายไปสองครั้งแต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่น่าเชื่อเลย

  โดยเฉพาะตอนนี้!เขาเห็นอยู่กับตาว่าซือหยูขาดเป็นส่องท่อนและตายแล้ว แต่ทำไมถึงยังไม่ตายเล่า?

   เจ้าอยากรู้รึ? 

  ในตอนนั้นเองร่างอีกครึ่งของซือหยูก็เริ่มพูด ร่างที่ขาดสองท่อนกลับมาผสานกันอีกครั้ง แม้แต่ดวงวิญญาณก็กลับมาสู่สภาพเดิม  ว่าที่เทพขั้นกลางทั้งสองแทบจะสำลักน้ำลาย

   เจ้า…เจ้ามีกายาอมตะเรอะ? 

  ซือหยูยิ้มจางๆ

   พูดให้ถูกคือขอบเขตชีวิต!ในขอบเขตนี้ ข้ามีชีวิตเป็นนิรันดร์ ไม่ว่าจะสังหารข้าสักกี่ครั้ง ข้าจะไม่มีวันตาย 

   เอาเถอะข้าไม่อยากจะพูดอะไรแล้ว พวกเจ้าไปสู่สุขติซะเถอะ! 

  ตู้ม!

  คุกสวรรค์เทพอสูรทำงานอีกครั้งมันขังว่าที่เทพขั้นกลางทั้งสองไว้ภายใน

  ซือหยูประกบมือเรียกคุกสวรรค์กลับมา

  ด้านในคุกสวรรค์แม่ทัพกรีดร้องทุรนทุราย

   องค์หญิงฝ่าบาท ช่วยข้าด้วย!! 

  แต่ทันใดนั้นเองคลื่นพลังเทพก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากคุกสวรรค์เทพอสูร!   มันไม่ใช่พลังเทพของว่าที่เทพแต่เป็นพลังเทพอันน่ากลัวที่มีแต่จิตวิญญาณเทพที่สมบูรณ์แล้วจะปลดปล่อยได้

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท