Friends with benefits เพื่อนกันอันตราย NC25 – บทที่ 19 แต่งงานเพราะอะไร

Friends with benefits เพื่อนกันอันตราย NC25

เพราะอชิรู้สึกเหมือนคอนโดของกุ๊กไก่เป็นเสนียดชีวิตของเขาแล้ว กระทั่งของทุกอย่างที่อยู่ในนั้นเขายังสั่งให้คนไปเก็บแล้วเอาไปบริจาคทำบุญให้หมด

แน่นอนว่ากุ๊กไก่ไม่คัดค้าน เพราะข้าวของที่มีมันเก่าไปหมดแล้ว ของแบรนด์เนมเธอก็ขายแดกจนหมด ไม่มีเหลืออะไร แต่เธอก็ไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้รอดพ้น

“อชินายซื้อให้ฉันใหม่เลยนะ บ้าเหรอบริจาคเสื้อผ้าของฉันทั้งหมดได้ยังไง”

กุ๊กไก่แสร้งน้ำตาเล็ดน้ำตาคลอ

“ปลอมชมัด น้ำตาน่ะ”

อชิเองก็รู้ทัน

“ไอ้เลวเอ๊ย ทิ้งของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตยังจะมาหาว่าฉันปลอม คนอย่างฉันปลอมตรงไหนกัน ยิ่งหลัง ๆ นี่ยิ่งของแท้ กระทั่งเงินจะไปฉีดโบท็อกซ์หรือเติมฟิลเลอร์ใต้ตาฉันยังไม่มีเลย หน้าเนี่ยของแท้ ทั้งตัวก็แท้ดูสิน้ำหนักก็ลดลงแล้วเจอนายไม่กี่วันทำไมฉันได้ซูบขนาดนี้”

อชิส่ายหน้า เขาล่ะเบื่อแม่คนนี้ที่สามารถพูดได้น้ำไหลไฟดับจริง ๆ

“อยากให้ซื้ออะไรก็ว่ามา รำคาญว่ะแม่งบ่นอยู่ได้”

แน่นอนว่าสำหรับเพื่อนรักอย่างกุ๊กไก่เขาไม่เคยละเว้นที่จะสบทคำหยาบออกมาโดยไม่เคยรักษามารยาทตัวเอง

แต่ยัยนี่ยังแรงกว่าเขาคล้ายกลับว่ายิ่งอยู่ด้วยกันความสนิทชิดเชื้อเมื่อวันวานจะกลับมาสู่สภาพปกติ

สิบปีกว่าที่เขาหายไปไม่ได้ทำให้กุ๊กไก่มีมารยาทกับเขาขึ้นเลย ทำไมเขาต้องเก๊กท่าวางมาดด้วยล่ะ

ยกเว้นตอนเธอเมาที่ยังออดอ้อนออเซาะหวานหยดจนเขาหน้ามืดตามัวไปพักใหญ่

กุ๊กไก่ยิ้มอย่างอ่อนหวานออกมา กระโดดมาเกาะแขนเขาทันใด

“ผัวขา ผัวแค่จ่ายก็พอค่ะไม่รบกวนให้ผัวคนดีมาเดือดร้อนเลือกซื้อให้เมียหรอก”

อชิบ่น

“อะไรกันเงินน่ะให้ไปมากขนาดนั้นไม่คิดจะใช้เลยหรือไง”

กุ๊กไก่พูดตรง ๆ

“ไม่เอาหรอกเกิดนายหย่าขึ้นมากระทันหันแล้วไม่รักษาสัญญาอย่างน้อยฉันก็ยังมีเงินก้อนนี้ประทังชีวิตไปอีกหลายเดือน ไม่ต้องทำให้คนอื่นลำบาก”

กุ๊กไก่หมายถึงนาชาและลูกเกดที่ยังคุยกันในกรุ๊ปไลน์ แต่ระยะหลังมาสองคนมีลูกเล็กถึงสามีจะรวยล้นฟ้าพวกเธอกลับดูแลเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง

เพราะต่างคนต่างเป็นเด็กขาดพ่อขาดแม่จึงทำให้สองนางอยากจะทุ่มเทความรักให้ลูกด้วยตนเอง

ถึงเพื่อนจะรวยมหาศาลแต่กุ๊กไก่กลับไม่เคยคิดพึ่งพาหรือหยิบยืมจากเพื่อนให้ตัวเองด้อยค่า

เงินเพื่อนไม่ใช่เงินเธอสู้ให้เธอดิ้นรนด้วยตัวเองดีกว่า เธอไม่อยากได้ชื่อว่าเกาะเพื่อนกิน

ยิ่งเป็นเพื่อนรักก็ยิ่งต้องระวัง คนเราน่ะเลิกคบกันเพราะเรื่องเงินมามากแล้วถึงเธอจะรู้นิสัยลูกเกดและนาชาดีว่าไม่ปล่อยให้เธอลำบากแน่

แต่กุ๊กไก่ก็ไม่ปริปากเรื่องนี้เด็ดขาดแถมเธอยังทำร้านกาแฟสมบัติที่เพื่อนอุตส่าห์ปลุกปั้นขึ้นมาเจ๊งอีก

เธอต้องหาทางแก้ด้วยตัวเองเพียงแต่ว่าที่ผ่านมาแก้ด้วยเงินและสมองโง่ ๆ ของเธอจึงทำให้มันยิ่งแย่ลงไปอีก

แค่นี้ก็ละอายใจจะตายอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเพื่อนรักถามเรื่องที่ร้านกุ๊กไก่ก็ได้แต่โกหกว่าดีมาก

ยังบอกว่าตอนนี้กำลังปรับปรุงร้านจึงต้องปิดเอาไว้ก่อน ยังวีดีโอคอลให้เพื่อนดูด้วยความภูมิใจว่าช่างกำลังปรับปรุงตรงไหนบ้างเพื่อให้ร้านทันสมัย สู้คู่แข่งเขาได้

ยัยสองคนนั่นก็ชื่นชมเธอจนแทบตัวลอย โดยมีอชิยืนกอดอกมองเธอทั้งส่ายหน้าในความตอแหลหน้าไม่อายของเธอโดยไม่พูดอะไรให้เธอเสียหน้าสักคำ

อย่างน้อยมีอชิในตอนนี้ก็ดีที่สุดแล้ว

หลังจากวันนั้นอชิส่งสถาปนิกมือหนึ่งเรื่องการออกแบบให้คุยกับกุ๊กไก่

เธอเสนอความคิดที่เป็นตัวเองให้สถาปนิกฟัง เขารับฟังแล้วลองวาดคร่าว ๆ ว่าจะวางอะไรตรงไหน ไฟเป็นแบบไหนให้ความสว่างยังไงโดยละเอียด

กุ๊กไก่เองก็งงกระทั่งเธอหันไปมองอชิ ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่พ้นมืออชิที่ช่วยออกความเห็นและค่อย ๆ ช่วยสถาปนิกอธิบายให้เธอฟัง

“โอ้นายเก่งทุกอย่างจริง ๆ ด้วยสมแล้วที่ได้โอลิมปิกคณิตศาสตร์”

อชิม้วนกระดาษร่างเป็นทรงกระบอกแล้วตีหัวเธอเบา ๆ

“เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องได้เหรียญทองคนธรรมดาเขาฟังแล้วก็เข้าใจ มีแต่สมองขี้เลื่อยแบบเธอนี่แหละที่ไม่รู้เรื่องได้แต่พยักหน้าแบบเข้าใจ”

“ย่ะ”

กุ๊กไก่ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วจึงได้แต่หน้างอใส่เขา สองคนกำลังคุยกันอยู่หน้าร้านเด็กที่กุ๊กไก่จ้างเป็นบาริสต้ามาถึงพอดีกับเวลาที่กุ๊กไก่นัดเอาไว้

เด็กคนนั้นจำอชิได้ ผู้ชายที่มาช่วยเจ้านายของเธอในวันนั้นจึงมองอชิด้วยความชื่นชม

ในขณะที่กุ๊กไก่ก็แนะนำตัวอชิให้เด็กรู้จักด้วยความมั่นหน้ามั่นโหนก

“ติ๊กนี่คุณอชิเพื่อนเอ๊ยผัวพี่เอง”

ติ๊กงงมากจนยกมือมาเกาหัว เธอสวัสดีด้วยความมึนงง คิดในใจว่า

พี่กุ๊กเก่งแฮะ คนสวยก็งี้เปลี่ยนผัวเร็วยังกะเปลี่ยนกางเกงใน แล้วผัวแต่ละคนก็สุดจัดปลัดแตกหล่อล่ำอีกตะหาก ถ้าเธอมีเงินเธอจะไปทำศัลยกรรมให้สวยหาผัวรวย ๆ แบบพี่กุ๊กไก่

อชิยิ้มทั้งหัวเราะเบา ๆ เป็นครั้งแรกที่มีคนแนะนำเขาอย่างเป็นทางการในเชิงนี้ แต่คำว่าผัวนี่ก็ดูหนักแน่นจริงใจดี สมกับค่าจ้างที่ได้รับ

“ตั้งแต่วันนี้ไปพี่จะจ่ายเงินค่าแรงติ๊กปกติ แต่ไม่ต้องมาทำงาน”

ติ๊กตาโต

“พี่กุ๊กไก่ว่ายังไงนะคะ”

กุ๊กไก่ยิ้มอย่างมีความสุข ฐานะของเธอกลับมาแล้วทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนยังเคยยืมเงินค่ารถเมล์ไอ้ติ๊กเพราะหมุนไม่ทันด้วยซ้ำ

“ตามที่บอกแหละ ติ๊กเป็นคนดีไม่ทิ้งพี่ตอนตกอับค่าแรงพี่ยังค้างติ๊ก ยังยืมเงินติ๊กอีก”

อชิแทบจะพ่นน้ำลายออกมา ไอ้กุ๊กห่าเอ๊ยไม่รู้จักอับอายถึงขนาดไปยืมเงินเด็กในร้านทั้ง ๆ ที่ค้างค่าแรงเด็กอีก นี่มันต้องจนตรอกขั้นไหนวะ

ติ๊กรีบโบกมือ

“ไม่เป็นไรค่ะตอนที่พี่ชากับพี่เกดอยู่ติ๊กได้ทิปมาเยอะ ยังมีเงินเก็บเพราะร้านพี่อยู่ก้อนค่ะ ช่วยกันได้ก็ช่วยกันไปก่อนถ้าพี่ๆเขาไม่ไปเมืองนอกป่านนี้ร้านเราคงเจริญกว่านี้ค่ะ”

กุ๊กไก่สะดุ้ง มองหน้าติ๊กคนซื่อด้วยสายตาแบบว่า

ไอ้ติ๊ก มึงเหยียบไว้ มึงอย่าพูดให้กูอาย

แต่น้องนางคนนี้กลับพูดเป็นต่อยหอยไม่มองหน้าเธอ เพราะอชิหล่อมาก คนหล่อมาพูดกับเธอแบบนี้ใครๆ ก็ชอบ

อชิให้ติ๊กนั่งลงตรงข้ามกุ๊กไก่ยิ้มแล้วพูดว่า

“ติ๊กอันไหนที่สมควรเล่าค่อยเล่านะ”

“ค่ะ”

ติ๊กรับคำ กุ๊กไก่จึงค่อยโล่งใจ อชิพูดขึ้น

“เล่าให้พี่ฟังหน่อยทำไมร้านถึงแย่ขนาดนี้”

ติ๊กเริ่มเล่าในขณะที่กุ๊กไก่แทบจะเหยียบเท้าเธอให้หยุดพูดด้วยความอับอายในความไม่เอาไหนของตัวเอง

“คือแบบนี้ค่ะ…”

จากนั้นติ๊กก็เล่าสรุปใจความได้ตามนี้

ตอนนั้นเธอเป็นเพียงเด็กล้างจานถูพื้น ไม่ได้เป็นบาริสต้าด้วยซ้ำ แต่ยังดีที่พี่ ๆ บาริสต้าใจดีสอนเธอบ้างติ๊กเองก็ครูพักลักจำจนจำได้ว่าเขาทำยังไง พอจะทำได้บ้าง

แต่หลังจากพี่นาชาและพี่ลูกเกดย้ายไปต่างประเทศ ผู้จัดการก็เริ่มโกงร้านพี่กุ๊กไก่ก็ไม่เข้าร้านจนสุดท้ายที่ร้านเละเทะ

บาริสต้าก็ถูกดึงตัวไปที่ร้านคู่แข่งที่เขาจ่ายเงินดีกว่า กว่าพี่กุ๊กไก่จะรู้ตัวก็เจ๊งไปแล้วหนึ่งสาขา

เด็กออกทุกคนเพราะพี่กุ๊กเริ่มติดค่าแรงเหลือแค่เธอที่เด็กสุด

ติ๊กอายุแค่สิบเก้าปีเป็นเด็กหน้าตาน่ารักพื้นเพเป็นคนเหนือผิวเลยขาว ๆ พอดึงลูกค้าได้บ้างเพราะเจ้าของร้านและพนักงานหน้าตาดี แต่เหลือเธอคนเดียวเธอจึงจำเป็นต้องกลายมาเป็นบาริสต้า

เธอยังทำลวดลายบนกาแฟไม่เป็นด้วยซ้ำ ชงกาแฟก็ผิดสูตรพี่กุ๊กไก่ลงมือช่วยก็ยิ่งบรรลัยเพราะนางไม่เคยแตะอะไรเลย ได้ข่าวว่าเป็นลูกคุณหนูตกอับสุดท้ายแล้วยังไม่มีเงินกินข้าวเพราะจ่ายค่าเช่าหมดตัว

กุ๊กไก่ต้องอาศัยติ๊กช่วยเหลือมาสองเดือนที่ไม่ได้รับค่าจ้าง ยังมีหนี้นอกระบบอีก ต่อให้เจ้าของร้านสวยแค่ไหนถ้ารสชาติกาแฟแย่ก็ไม่มีใครมากิน

กระทั่งพนักงานบริษัทของคุณเควิลและของคุณสมชายเองก็ยังหลบหน้าไม่ยอมสั่งกาแฟที่ร้านของเธออีก

หลังจากนั้นวันหนึ่งขายกาแฟได้ไม่ถึงห้าแก้วด้วยซ้ำ เพราะแบบนี้ร้านก็เลยอยู่ไม่รอด

กุ๊กไก่ที่นั่งหน้าเขียวหน้าแดงตอนนี้รู้สึกหมดแล้ว ชีวิตกูไม่เหลืออะไรแล้ว ยัยติ๊กมันไม่ไว้หน้ากูเลยสักนิด

ติ๊กเล่าจบก็ส่งสายตาหวาน ๆ ให้อชิไปหลายครั้ง อชิหัวเราะจนปวดท้องเขาหันมาลูบหัวกุ๊กไก่เบา ๆ เหมือนกำลังลูบหัวน้องหมาตัวหนึ่งที่โง่ไม่มีที่สิ้นสุด

“ร้านมันก็อยู่ของมันดี ๆ ขายดีด้วย เธอนี่ก็เก่งมากนะกุ๊กทำมันเจ๊งได้ สุดยอดว่ะนับถือ”

กุ๊กไก่พ่นคำหนึ่งออกมา

“ไอ้เลวซ้ำเติมกันได้”

อชิได้ยินแต่เขาไม่ถือ กุ๊กไก่ก็เป็นแบบนี้แหละบทจะด่าก็ด่า

“ก็นี่ไงชีวิตเธอพอไม่มีฉันถึงลำบาก ยังงงว่าจบมหาลัยมาได้ยังไงอาจารย์คงกลุ้มใจที่มีลูกศิษย์สวยแต่โง่แบบเธอ”

กุ๊กไก่ไม่พูดแล้วแต่บิดหูอชิแทน

“จะหยุดพูดได้หรือยัง”

อชิร้องโอดโอย “ปล่อย เจ็บนะโว้ยยัยแม่มด พอแล้ว หยุดแล้วจ้า”

กุ๊กไก่ยิ้มเหี้ยมเกรียม กอดอกมองเขาอย่างหาเรื่อง

“จะให้ติ๊กมันทำไรก็บอกสิ มามัวฟังประวัติอะไรอีก”

อชิเลยบอกว่า

“ที่ให้เล่าเพราะจะได้รู้ว่าควรแก้ตรงไหน อย่างแรกเลยนะ ติ๊กเป็นคนดีช่วยพี่กุ๊กไก่มาขนาดนี้พี่มีข้อเสนอ”

ติ๊กตั้งใจฟังอย่างดี อชิยิ้ม

“ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ติ๊กต้องไปเทคคอร์สบาริสต้า เป็นคอร์สระยะสั้นพี่ให้ครูสอนพิเศษให้ เอาแค่พื้นฐานในการชงกาแฟทั่วไป แต่ให้ฝึกเยอะ ๆ ฝึกจนทำได้ดี กว่าร้านจะปรับปรุงเสร็จประมาณเดือนครึ่ง ติ๊กมีเวลาเรียนหนึ่งเดือนอีกครึ่งเดือนพี่จะฝากที่ร้านกาแฟเพื่อนพี่ ไปฝึกงานจริงที่นั่่น ระหว่างนี้ติ๊กจะได้ค่าเดินทางและค่าที่พักพร้อมทั้งเงินรายวันปกติ”

ติ๊กตื่นเต้นมาก ความจริงเธอก็กำลังหางานใหม่ตั้งแต่ร้านปิดปรับปรุงเพราะกุ๊กไก่ไม่ได้บอกอะไรกับเธอ ติ๊กก็ไม่แน่ใจว่าจะได้รับการว่าจ้างต่อจึงคิดหางานอื่น

“ขอบคุณพี่มากค่ะ หนูจะทำให้เต็มที่”

“ไม่ต้องห่วงนะค่าจ้างที่กุ๊กไก่ค้างวันนี้พี่จ่ายให้ติ๊กทั้งหมด แต่มีเงื่อนไขคือวันนี้ติ๊กต้องเซ็นสัญญาอยู่ที่ร้านของพี่เป็นเวลาห้าปี ถ้าผิดสัญญาคงไม่ต้องบอกนะว่าพี่จะจัดการยังไง”

ติ๊กรับคำ รายได้ที่อชิเสนอนั้นทำให้เธอตาโต ไม่คิดว่าเงินเดือนบาริสต้าจะสูงขนาดนี้ เขาลองให้ติ๊กชงกาแฟให้เขาดู ถึงเธอจะไม่เคยเรียนก็ยังชงออกมาใช้ได้ ผิดกับกุ๊กไก่ที่เขาแทบจะพ่นทิ้งทันทีจนหญิงสาวหน้าเขียว อชิเองก็ฝืนกินด้วยความยากลำบาก

เมื่อติ๊กรับปากอชิจึงกระดิกนิ้ว จู่ ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งโผล่ออกมาพร้อมเอกสาร

“เซ็นต์ซะ เอาบัตรประชาชนติ๊กมาแล้วเซ็นลงในกระดาษเปล่า บัตรพี่จะคืนให้วันหลัง”

“ได้ค่ะ”

ในขณะที่อชิจัดการ กุ๊กไก่ก็มองดูศึกษางานอย่างตั้งใจ เธอเท้าคางมองหน้าหล่อ ๆ ของอชิอย่างเพลิดเพลิน ตานี่ถ้าหุบปากก็ดูดีมาก ดูเพลินดีเหมือนกันนี่

อชิงอนิ้วเมื่อกุ๊กไก่อ้าปากหาวแล้วเขกลงไปที่หัวเธออย่างแรง

“โอ๊ย ไอ้บ้าเจ็บนะ”

อชิบ่น

“ถ้าไม่เจ็บจะหายง่วงเหรอ ร้านเธอมันกาแฟปลอมหรือไงกินแล้วง่วง”

กุ๊กไก่ทำหน้าเศร้า

“ไม่มีเงินไง พักหลังเลยซื้อของเกรดรองมาขายไม่เข้าใจหรือไง กินแล้วเลยง่วงแบบนี้แหละ”

“โอ๊ย ตูจะบ้าตาย”

อชิปวดหัวกับยัยเจ้าหญิงนี่แล้ว มือไม้อ่อนหยิบจับอะไรก็มีปัญหา ทำอะไรก็ไม่เป็นนี่โตมาจนป่านนี้ได้ยังไงนะ

“เรียบร้อยค่ะ”

ติ๊กพูดขึ้นทำลายสงครามย่อย ๆ ของสองสามีภรรยา เธอเองก็เริ่มที่จะคุ้นเคยกับคำพูดของผัวเมียคู่นี้แล้ว ท่าทางจะเป็นคู่ประหลาดอีกคู่ที่จ้องแต่จะจิกกัดกัน แต่คู่วัยรุ่นเขาก็เป็นแบบนี้แหละติ๊กเข้าใจ

“เอาล่ะ พรุ่งนี้จะมีคนส่งโลเคชั่นให้ แอดไลน์กับเลขาพี่ซะเดี๋ยวเรื่องเงินก็คุยกับเขาเลยเดี๋ยวเขาจัดการให้ด้วย วันนี้กลับบ้านได้ครับ”

ติ๊กลุกขึ้นยกมือไหว้อชิ เธอขอบคุณเขาอย่างจริงใจและดีใจมากที่เธออดทนรอจนกระทั่งมีวันนี้ การเป็นบาริสต้าคืองานที่เธอใฝ่ฝันแต่เธอไม่มีเงินเรียนเพราะค่าเรียนมันสูงมากสำหรับเธอ

อชิดึงแขนกุ๊กไก่ที่ดูจะงอแงให้ลุกขึ้นเมื่อเขาชวนเธอไปหาอ้อนอีกครั้ง

“ไม่ไปได้ป่ะ ฉันกลับไปรอที่คอนโด”

“ไม่ได้เราเป็นผัวเมีย ไปก็ต้องไปด้วยกัน”

“ไม่เอาอ่ะ ง่วงวันนี้นายลากฉันออกมาตั้งแต่แปดโมงนะ”

อชิหน้าบึ้ง

“นี่ยัยเจ้าหญิง ลากออกมานี่ธุระใครฮะใช่เรื่องของฉันหรือเปล่าเรื่องของเธอทั้งนั้น”

กุ๊กไก่ยังไม่หายงอแง เธอไม่ชอบเพื่อนอ้อนคนนี้เพราะชอบมองเธอด้วยสายตาแปลก ๆ วันนี้เธอเหนื่อยต้องการออมแรงเอาไว้

“ก็ฉันเหนื่อยนี่”

อชิบ่น

“เหนื่อยอะไร วันนี้มาก็นั่งเฉย ๆ ทั้งจะหลับแทบจะขี่คอฉันอยู่แล้ว”

กุ๊กไก่ตีแขนอชิอย่างแรง น้ำเสียงกระเง้ากระงอดยิ่งกว่าเดิม

“มันเป็นผลจากวันก่อนที่ฉันเมาและแทบไม่ได้นอน”

คราวนี้อชิถึงกับอึ้ง คิดถึงรสชาติความหอมหวานของกุ๊กไก่แล้วชักรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมา

ใช่เขาต้องการอีก

“เอาน่าจะชดเชยให้ เสื้อผ้าไม่ใช่เหรอที่อยากได้กระเป๋าด้วยฉันจ่ายให้เองจ่ายให้ทั้งหมดนั่นแหละไม่ต้องพูดมาก”

กุ๊กไก่ยิ้มกว้าง “ค่อยมีแรงเดินหน่อย ว่าแต่ว่านายทำไมต้องพาฉันไปด้วย”

อชิส่ายหน้าเมื่อเห็นคนสองหน้าในเวลาเพียงไม่กี่วินาที เมื่อกี้ยังบ่นบลาๆๆ ตอนนี้กลับยิ้มแป้นถามด้วยความกระตือรือล้น

“ก็เธออยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าฉันแต่งงานกับเธอเพราะอะไร ก็เลยจะพาไปหาคำตอบไง”

กุ๊กไก่เบ้ปาก

“นายนี่มันลีลาชมัด”

Friends with benefits เพื่อนกันอันตราย NC25

Friends with benefits เพื่อนกันอันตราย NC25

Status: Ongoing
กว่าจะเจอรักแท้เธอก็โดนเทจนเกือบจะปิดตายประตูหัวใจ แผลที่หายยากที่สุดคือบาดแผลจากความรู้สึก สุดท้ายแล้วคนบางคนก็เป็นเพียงแค่คนรู้จักที่หลงเหลือในความทรงจำเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท