หลายวันต่อมาข่าวไฮโซณัฐถูกกลุ่มคนร้ายดักซุ่มทำร้ายที่ลานจอดรถห้างดังหลังจากออกมาจากโรงหนังกับกิ๊กวัยรุ่นคนหนึ่งโดยที่ตอนนี้ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ แต่เรื่องที่ชาวเน็ตสนใจกลับเป็นเรื่องของเด็กสาวนิรนามที่เป็นบ้านเล็กของไฮโซณัฐคนนั้น
หลายเสียงฟันธงว่าเป็นแฟนเก่าของเขาที่ตัดไม่ขาดชื่อกุ๊กไก่ที่เป็นพริตตี้ แต่เวลาต่อมาก็มีคนมาปล่อยภาพในวันนั้นว่าเห็นกุ๊กไก่ควงสามีอี๋อ๋อนั่งซบกันบนห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่อยู่คนละฝั่งกับสถานที่ที่ไฮโซณัฐถูกทำร้าย ข่าวนี้จึงตกไป
คนเริ่มขุดคุ้ยกันมากขึ้นนั่นเป็นเพราะภรรยาของไฮโซณัฐเป็นอดีตนางงามคนดังและยังเคยแสดงละครหลายเรื่องจนมีคนตามมากมาย ข่าวนี้เรียกว่าเป็นข่าวฉาวประจำปีเลยก็ว่าได้เมื่อสื่อให้ความสนใจไปทั่วบ้านทั่วเมือง
เรื่องผัวๆ เมีย ๆ น่าสนใจ แต่เรื่องคนรุมทำร้ายกลับไม่มีใครพูดถึง
กุ๊กไก่เลื่อนอ่านข่าวไปเรื่อย ๆ ระหว่างรออชิทำงาน เขาเดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้กระทั่งเธอรู้สึกตัวเขาก็มาอยู่ข้างหลังเธอแล้ว
“ใครกันนะไปดักตีไอ้ณัฐสะใจชะมัด”
กุ๊กไก่ชม อชิยิ้มอย่างมีความสุขแล้วเขาก็เดินกลับมาทำงานเงียบ ๆ โดยที่เธอไม่รู้ตัว หญิงสาวยังสนใจข่าวของไฮโซณัฐและเธอเพิ่งรู้ว่าในตอนที่เขาคบกับเธอนั้นเขาเองก็มีผู้หญิงอีกหลายคนที่เลี้ยงดูเป็นตัวตน
คนพวกนั้นยินดีที่จะเป็นเมียน้อยแต่ไม่ยอมเลิกกับเขามีเพียงกุ๊กไก่ที่โง่คนเดียวที่คิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญของไฮโซณัฐและคิดว่าเขามีเธอเพียงคนเดียว
“ไอ้เลวเอ๊ย”
ถึงเธอจะเจ็บแต่เธอก็ทำใจได้แล้ว ยิ่งรู้ว่าเขาเป็นแบบนี้เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ไม่ได้แต่งงานกับเขา หญิงสาวยิ้มอย่างโล่งใจ
อชิทำงานเสร็จแล้วเขาจึงเดินมานั่งลงข้าง ๆ เธอ ยกขาไขว่ห้างแขนพาดมาด้านหลังกุ๊กไก่คล้ายกับโอบเธอเอาไว้กลาย ๆ
“ดูไรตั้งใจเชียว”
กุ๊กไก่ยิ้มเลื่อนโทรศัพท์ให้เขาดู
“ข่าวแฟนเก่าน่ะ เพิ่งรู้ว่าตัวเองโง่และตอนนี้โชคดีแค่ไหน แต่ไม่รู้ใครไปดักทำร้ายเขาเน๊อะ เนี่ยอ่านแล้วว่าอาจจะเป็นคู่แข่งทางธุรกิจหรือไม่ก็คนร้ายทั่วไปที่ต้องการชิงทรัพย์ กล้องจับไม่ได้พวกมันเตรียมตัวมาดู หายเข้าไปในกลีบเมฆเลยตอนนี้เห็นว่าบาดเจ็บมากนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ขาน่าจะหักน่ะ”
อชิทำหน้าตึง
“ทำไมต้องอ่านละเอียดขนาดนั้น มันจะเป็นจะตายก็ช่างมันดิเลิกกันแล้ว”
“เลิกแล้วยิ่งต้องสนใจ ไอ้ห่าเอ๊ยน่าจะตาย ๆ ไปซะ คนเลว สะใจชมัดนี่ต้องขอบคุณคนที่ทำร้ายมันเลยนะเนี่ย สะใจอ่ะ”
อชิอมยิ้มเหมือนถูกชมเสียเอง
“ไม่ใช่ยังห่วงเขานะ อยากไปเยี่ยมป่ะจะพาไป”
กุ๊กไก่ส่ายหน้า
“ไม่ไปหรอกสมน้ำหน้าแล้ว วันนี้อารมณ์ดีพาไปเที่ยวหน่อยสิ”
อชิไม่ชอบเที่ยวผับเขาจึงส่ายหน้า
“ไม่เอาหรอก ไม่ชอบเข้าผับเธอก็รู้และไม่ให้เธอไปด้วยอันตราย”
“ไม่ได้อยากไปผับ”
กุ๊กไก่เองก็เบื่อ ไม่มีลูกเกดไม่มีนาชาเธอไปผับไม่สนุกและคิดว่าตัวเองพ้นวัยเข้าผับเข้าบาร์แล้ว
“แล้วอยากไปไหน”
“ไปทะเลน่ะ”
อชิยิ้ม
“ฉันไม่ว่าง”
“ถ้าไม่ว่างฉันไปเองแค่นายอนุญาต”
อชิส่า่ยหน้าอีก กุ๊กไก่ทำหน้างอ เขาถอนหายใจแล้วบอกว่า
“วันสองวันเคลียร์งานให้ลูกน้องดูแทนแล้วพาไปก็ได้ ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้เลยใครเขาจะหาว่าฉันรังแก”
“เย้ สามีดีที่สุดเลย”
กุ๊กไก่กระดูดจูบแก้มเขาเบา ๆ อชิหัวเราะแล้วกดปากของตัวเองลงบนริมฝีปากของเธอ กุ๊กไก่เต็มใจให้เขาจูบลิ้นพัวพันกันอย่างดูดดื่ม กระทั่งกุ๊กไก่ดันหน้าเขาออก
“พอแล้ว นายเป็นผัวจริง ๆ แค่บนเตียงนะไม่ใช่ที่ทำงาน”
อชิเม้มปาก
“แต่ทะเบียนสมรสเรื่องจริง ต้องเป็นผัวได้ทุกที่”
กุ๊กไก่ดันหน้าเขาออกแล้วเปลี่ยนเป็นซบหน้าลงที่แขนของเขาแทน อชิมองเธอเมื่อกุ๊กไก่พูดเบา ๆ
“ขอบใจนายมากนะที่เข้ามาในชีวิตฉันตอนนี้ ดีจริง ๆ”
อชิไม่พูดอะไรอีก เขายกมือลูบผมเธอเบา ๆ กระทั่งเลขาของเขาเคาะประตูสองคนจึงผละออกจากกัน
“บอสคะมีคนมาขอพบค่ะ ชื่อคุณอ้อนค่ะบอกเป็นเพื่อนบอสไม่ได้นัดเอาไว้”
กุ๊กไก่มองหน้าอชิ
“มาทำไมนัดก็ไม่ได้นัด”
อชิกลับบอกพนักงาน
“ให้เธอขึ้นมา ดูแลเธอด้วยเธอเป็นเพื่อนผม”
“ค่ะบอส”
เลขาออกไปแล้ว กุ๊กไก่ยังหน้างอไม่หาย
“เป็นอะไรไม่ชอบเหรอ”
กุ๊กไก่พยักหน้า
“นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบยัยนั่น ชอบทำตัวเก่งวางท่าว่าตัวเองสวยตายล่ะเห๊อะ”
อชิยิ้ม
“เขาเป็นเพื่อนเธอนะ เพื่อนตั้งแต่มัธยม”
“ก็แล้วไงคนไม่ชอบหน้ากันต่อให้รู้จักกันตั้งแต่เป็นอสุจิก็ไม่ชอบอยู่ดี”
“ยัยบ้า พูดไปเรื่อย”
“จริงนี่ มีอะไรถึงมาหาถึงนี่”
อชิยกไหล่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ปล่อยให้กุ๊กไก่บ่นคนเดียวโดยไม่สนใจเธออีก
ไม่นานเลขาก็พาอ้อนมาส่งพร้อมกับแม่บ้านนำกาแฟและขนมของว่างมาให้ กุ๊กไก่ยิ้มทักทายคุยกับอ้อนเล็กน้อยตามมารยาท
“วันนี้ลมอะไรหอบเธอมานี่ได้ล่ะ”
เช่นเคยอชิคุยกับอ้อนโดยมีกุ๊กไก่หนีบอยู่ข้าง ๆ เขาและเงียบเหมือนไม่มีตัวตนอยู่ที่นี่ กุ๊กไก่ตอนนี้เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาจิ้มโทรศัพท์กำลังแชทกับใครบางคน
อ้อนมองกุ๊กไก่แล้วพูดว่า
“ไม่คิดว่าจะเจอกุ๊กไก่ที่นี่”
กุ๊กไก่ไม่ตอบเพราะไม่สนใจใคร เธอยังสนใจเพียงโทรศัพท์ของเธอ
อชิจึงตอบแทน
“เขาอยู่บ้านแล้วเบื่อ เลยขอติดมาทำงานด้วยทุกวันน่ะยังช่วยฉันเป็นเลขาเล็กน้อยด้วย”
อชิพูดเหมือนภูมิใจนักหนา ทั้ง ๆ ที่ตำแหน่งเลขาที่ว่ากุ๊กไก่ไม่เคยทำเลยแม้แต่ครั้งเดียว อ้อยกเว้นวันแรกที่เธอยอมลงไปซื้อกาแฟสดให้เขา เพราะเขาแกล้งเธอก็เท่านั้น หลังจากนั้นมาก็ไม่รู้ว่าใครเป็นเลขาของใครแล้ว หลังยัยนี่ก็กลับมาใช้เขายิ่งกว่าทาสเหมือนเดิม
“ดีจังเลยนะได้อยู่ด้วยกันตลอด”
เสียงอ้อนเศร้า ๆ เธอส่งเค้กให้อชิแล้วพูดว่า
“ฉันลองทำเค้กดู จะเอาเป็นเมนูในร้านไม่รู้อร่อยหรือเปล่าเพื่อนสนิทมีไม่มากคิดถึงนายด้วยเลยทำมาให้ลองชิม กินแล้วบอกด้วยว่าเป็นยังไง”
อชิยิ้ม
“ดีเลย ฉันกำลังทำร้านกาแฟให้กุ๊กไก่ถ้าเค้กอร่อยก็จะได้เอามาขายตีแบรนด์เลยดีหรือเปล่า”
อชิพูดไปเรื่อยในขณะที่เรียกเลขาเข้ามา
“ให้คนในออฟฟิศช่วยกันชิมนะ ฉันยังไม่บอกว่าเป็นของเธอดูว่าพวกเขาจะว่ายังไงบ้าง”
อ้อนหน้าเสียเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าอชิยกเค้กให้คนในออฟฟิศทั้งก้อน
“เอ้อ นายจะไม่ชิมหน่อยเหรอ ฉันก็ต้องการความเห็นนาย กินหน่อยสิสักชิ้น”
กุ๊กไก่คราวนี้กับพูดแทรกขึ้น
“เขาไม่ชอบกินขนมหวาน ถามไปก็ไม่รู้เรื่องหรอก”
อ้อนส่ายหน้า
“ตอนมัธยมฉันเห็นนายกินเค้กฝอยทอง ขนมไทย อะไรพวกนั้นตั้งมากจนน้ำหนักขึ้นไปขนาดนั้นเพราะของพวกนี้ไม่ใช่เหรอ ตอนนั้นนายบอกเองว่าชอบกิน”
กุ๊กไก่หัวเราะขำอย่างแรง ตอบอ้อนทั้งรอยยิ้ม
“นั่นมันเป็นเค้กและขนมที่ฉันทำ เขาไม่กินของคนอื่นหรอกเขากินขนมของฉันคนเดียว”
อ้อนหน้าเสีย เธอหันไปมองอชิพูดทีเล่นทีจริง
“กุ๊กไก่ล้อเล่นหรือเปล่า”
กุ๊กไก่พูดต่อ
“ก็ถามดูจิ ว่าพูดเล่นพูดจริง”
อชิพยักหน้ายอมรับ เขาไม่ได้โกหกอ้อน เขากินของยัยนี่จริง ๆ ด้วยเหตุผลที่ได้บอกกุ๊กไก่แล้ว
“ใช่ ถ้าไม่ใช่ขนมที่ยัยนี่ทำฉันไม่แตะเลยเพราะไม่ชอบของหวานน่ะ”
“อ่อ”
อ้อนรู้สึกเหมือนอะไรจุกคอหอย กุ๊กไก่ยังพิงหัวของตัวเองเข้าที่ไหล่ของอชิอย่างสบาย แชทมือถือต่อโดยไม่สนใจพวกเขา อชิลูบหัวของเธอด้วยความเคยชินพูดเบา ๆ
“อย่าดูมือถือใกล้ขนาดนั้นแสงสีฟ้าทำลายสายตา เดี๋ยวฉันตัดแว่นสำหรับเล่นมือถือให้เธอโดยเฉพาะดีกว่าเอามั๊ย”
เขารู้ว่าเธอมาทำงานกับเขาแล้วเบื่อ ส่วนตัวเขาก็ไม่มีอะไรจะใช้เธอยิ่งนานวันก็ยิ่งไม่กล้าที่จะใช้ให้กุ๊กไก่ลำบาก ยังเป็นเบี้ยล่างรองมือรองเท้าเธอเหมือนตอนเด็กไม่มีผิด
อชิคิดว่านี่เป็นความเคยชินของเขาไปแล้ว จึงได้แต่ยอมรับ เขาหันไปถามอ้อนต่อ
“ว่าแต่ว่าเรื่องที่ดินเจ้าของเขาว่ายังไง”
อ้อนเป็นนายหน้าให้อชิ เพราะรู้จักเจ้าของที่ดินนั้น เธอจึงเป็นคนแนะนำและติดต่อให้เขาด้วยตัวเองเพราะอาชีพอีกอาชีพของเธอคือนายหน้าค้าที่ดินนั่นเอง
“กำลังเจรจาอยู่ ราคาประเมินอาคารมาแล้วนะน่าจะเพิ่มสักสิบล้านนายมีปัญหาหรือเปล่า”
อชิส่ายหน้า
“ไม่มีหรอก ขอให้เขาขายเถอะทำยังไงก็ได้ให้เขายอมขาย”
อ้อนยิ้มเธอมองกุ๊กไก่ด้วยความอิจฉา
“ที่ทุ่มเทขนาดนี้เพราะกุ๊กไก่ชอบเหรอ”
กุ๊กไก่ยิ้มพูดออกมาโดยไม่มองหน้าใคร
“แน่ล่ะ อันไหนที่ฉันชอบอชิไม่เคยขัดอยู่แล้ว”
อชิถอนหายใจ
“ยุ่งกับโทรศัพท์ของเธอไป อย่าวุ่นวายผู้ใหญ่เขาจะคุยกัน”
“เห๊อะ”
นี่คือคำที่เธอพูดออกมาแล้วหันไปสนใจโทรศัพท์ต่อ ยังถามเขาเป็นระยะว่าแต่ละคำในภาษาอังกฤษพูดว่าอะไร พิมพ์ยังไง สะกดยังไง อชิตอบทั้งสะกดให้เธอย่างช้า ๆ โดยไม่รู้สึกรำคาญหรือเบื่อเลย
“ขยันจังเลยนะ คำง่าย ๆ ยังสะกดไม่ได้เหมือนไม่ได้เรียนหนังสือมาเลย”
กุ๊กไก่ค้อนเขา
“นายว่าฉันโง่อีกแล้วนะ ฉันแค่ขี้เกียจกลับหน้าจอไปถามกูเกิ้ลถามนายมันง่ายกว่า”
อชิยีหัวเธอ
“เออ ฉันน่ะเป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว แต่ดีใจจริง ๆ ที่คิดขยันเรียนภาษาอังกฤษ”
กุ๊กไก่ยิ้มรับ
“ฉันเองก็ไม่ธรรมดานะ นายอย่าลืมสิ”
สองคนคุยกันไปมายังหยอกกันไม่หยุด กระทั่งอ้อนกระแอมว่าเธอยังอยู่ตรงนี้ อชิหันมามองเธอแล้วร้องอ้อ
“เป็นหนึ่งนะจะให้คนมาสรุปให้ฟังว่ารสชาติเป็นยังไง”
“ขอบใจจ้ะ”
อชิเรียกเลขามา และให้พนักงานที่ได้กินเค้กเข้ามาทุกคนแล้วบอกความรู้สึกที่ได้ชิมมาให้หมด ทุกคนต่างคิดว่าอชิจะเปิดร้านเค้กให้เมียตัวเองและไม่รู้ว่าอ้อนเป็นคนทำจึงให้คำตอบที่เป็นความจริง
“สรุปคือทุกคนบอกอร่อย หวานกำลังดีกินแล้วอยากกินอีกใช่หรือเปล่า”
พนักงานกว่ายี่สิบคนตอบพร้อมกัน
“ใช่ค่ะ”
อชิยิ้มแล้วบอกให้ทุกคนออกไปได้
“ขอบคุณมากนะ ฉันมั่นใจแล้วถ้านายต้องการฉันจะทำเผื่อที่ร้านกาแฟให้ด้วย”
อชิพยักหน้า
“ดีเลย”
เมื่อหมดธุระอ้อนจึงขอตัวกลับ ทั้งที่ในใจคิดจะชวนอชิไปคุยเรื่องที่ดินต่อแต่กุ๊กไก่เริ่มงอแงอยากกลับบ้าน เธอจึงไม่กล้ารบกวนเขา เวลาของเธอกับอชิยังมีอีกมากเธอไม่รีบ
ด้วยนิสัยเจ้าหญิงของกุ๊กไก่ที่เป็นแบบนี้ อ้อนคิดว่าอชิหรือผู้ชายคนไหนย่อมทนอยู่กับเธอไม่ได้แน่ ๆ กุ๊กไก่โบกมือให้อ้อนแบบไม่ใส่ใจก่อนจะหันมาเล่นมือถือต่อ
อชิลงไปส่งอ้อนที่หน้าลิฟท์ด้วยตัวเอง กระทั่งเขากลับมาเห็นกุ๊กไก่ยังวุ่นวายกับมือถือจึงเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ
“ฝึกภาษาอังกฤษอยู่เหรอ”
“อืม”
“แอพอะไร”
เสียงของกุ๊กไก่ตอบเรียบ ๆ แต่ทำให้อชิถึงกลับหน้าแดงด้วยความโกรธ
“แอพหาคู่น่ะ กำลังคุยกับฝรั่งรูปหล่อคนหนึ่ง”