Friends with benefits เพื่อนกันอันตราย NC25 – บทที่ 42 เป็นแค่เพื่อนกัน

Friends with benefits เพื่อนกันอันตราย NC25

“พี่เก่งอย่าบอกนาชาและลูกเกดเรื่องอชินะคะ เดี๋ยวกุ๊กพร้อมจะเล่าเองค่ะ”

กุ๊กไก่กระซิบบอกเก่งหลังจากสามสาวเพื่อนรักร้องห่มร้องไห้และเพื่อนสาวทั้งสองของเธอต่างก็แยกย้ายกันไปที่ระเบียงเพื่อโทรหาสามี

เก่งยิ้มแล้วพยักหน้าเขาเองไม่คิดจะก้าวก่ายเรื่องของอชิอยู่แล้ ต่อให้กุ๊กไก่ไม่บอกเขาก็จะปิดปากสนิท

“ขอบคุณมากค่ะ พี่เข้าใจ”

เก่งนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเธอเขาแล้วพยักหน้า

“ไม่ต้องห่วงพี่จะคอยมองห่าง ๆ ถ้าเกิดต้องการความช่วยเหลือพี่ขอแค่กุ๊กคิดถึงพี่ก็พอ”

สายตาที่แสดงออกถึงความจริงใจนั้นทำให้กุ๊กไก่รู้สึกผิด เธอรู้ตัวดีว่าไม่คู่ควรให้เขามาชอบ ทั้ง ๆ ที่ในตอนแรกคิดจะจีบเขาก่อนด้วยซ้ำ แต่ในตอนนี้เธอกลับคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมกับคนดี ๆ แบบเก่ง

เขาควรได้พบกับคนที่ดีพร้อมมากกว่าเธอ

“พี่เก่งคะ กุ๊กไม่ใช่คนดีเลยนะคะ กุ๊กไม่ดีพอ”

เก่งยิ้ม

“ดีเลวใครตัดสินล่ะ คนที่ไม่ดีพออาจจะเป็นพี่ก็ได้”

กุ๊กไก่ทั้งเกรงใจทั้งรู้สึกอึดอัดในความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขา ยังไงเธอก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียคนอื่นและเขาเองก็เฝ้าอยู่ข้างเตียงเธอไม่ห่างในขณะที่สามีของเธอหายหัวไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับว่าอชิไม่เคยอยู่บนโลกใบนี้

ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาเหมือนเป็นแค่ความฝันที่ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมามันมักจะสลายไปเสมอ

ดวงตาไหวระริกของกุ๊กไก่บ่งบอกถึงความไม่มั่นใจและหวาดหวั่น เก่งยิ้มอบอุ่นเขาไม่คิดจะกดดันเธอเลยสักนิด

“ถ้าไม่สบายใจก็คิดว่าพี่เป็นเพื่อนเหมือนนาชาและลูกเกดก็ได้ ดีหรือเปล่า”

“เพื่อน”

กุ๊กไก่ยิ้มแห้ง ๆ เพราะคำ ๆ นี้มันช่างเสียดแทงใจเธอเหลือเกิน มีอชิที่พยายามตอกย้ำสถานะว่าเขาและเธอเป็นเพียงเพื่อนมาคนหนึ่งแล้ว ยังมีพี่เก่งที่พยายามจะเป็นเพื่อนกับเธออีกเหรอ

แต่ผู้ชายคนนี้ด้วยสายตาอ่อนโยนที่กำลังมองมองเธอทำให้กุ๊กไก่ถึงกับพูดไม่ออก

“ก็ได้ค่ะ เพื่อนความสัมพันธ์แบบนี้บางทีอาจจะดีก็ได้”

จนกระทั่งเมื่อรู้สึกตัวกุ๊กไก่ก็ได้ยินเสียงกระแอมของนาชาและลูกเกดแล้ว พวกเธอคงกระแอมอยู่นานจนรู้สึกคอแห้งลูกเกดจึงเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบโค้กกระป๋องออกมาโยนให้นาชาแล้วเปิดโค้กให้ตัวเอง

นาชาพูดเบา ๆ เหมือนเกรงใจที่ตัวเองกำลังขัดจังหวะของเก่งและกุ๊กไก่

“ขอโทษนะคะพี่เก่ง เรารู้สึกว่าพวกเราเป็นส่วนเกินยังไงไม่รู้ อยากจะอยู่กันสองคนหรือเปล่าเดี๋ยวเปิดโอกาสให้สักครึ่งชั่วโมง ชากับไอ้เกดจะไปซื้ออะไรข้างล่างหน่อย”

เก่งยิ้ม

“ไม่ต้องมาแซวพี่เลย สองคนคุยกับกุ๊กไปเถอะ พี่เองก็มีงานต้องทำมีคนมาเฝ้ากุ๊กไก่แบบนี้ค่อยเบาใจหน่อย”

ลูกเกดหัวเราะยังแซวเสียงใส

“โอ๊ย พูดยังกะว่าเป็นสามีของเพื่อนเกดไปแล้ว ลับหลังพวกเราพัฒนาไปถึงไหนกันแล้วคะ แต่งเลยหรือเปล่า”

เก่งไม่ตอบอะไรเพียงแต่ยิ้มรับในขณะที่กุ๊กไก่อยากจะตีก้นสองสาวปากมากให้เงียบลงหน่อย

“พวกแกหุบปากเลย พี่เก่งกับฉันไม่มีอะไรทั้งนั้นย่ะเราเป็นแค่เพื่อน”

สองสาวพยักหน้าแต่ใบหน้าสวยยังล้อเลียน ลูกเกดหัวเราะ

“จ้ะ แค่เพื่อนจ้ะ เชื่อแล้วจ้า”

เก่งเองกลับหน้าแดง ปกติเขาอยู่กับเควิลและลูเซียโน่ยังพอมีพรรคพวกแต่ตอนนี้เขาตัวคนเดียวแล้ว ถูกสองสาวจู่โจมจนเขาตั้งรับไม่ทันจึงได้รีบขอตัว

“พี่ไปก่อนนะครับ เดี๋ยวเราค่อยคุยกันพรุ่งนี้พี่จะมาเยี่ยมใหม่”

“ขอบคุณค่ะพี่เก่ง ถ้าไม่สะดวกก็ไม่ต้องมานะคะกุ๊กเกรงใจ”

นาชากลับหัวเราะ

“พี่เก่งมาแต่เช้าแวะซื้อโจ๊กฮ่องกงเจ้าประจำมาให้ด้วยนะคะ ชาอยากกินงานไม่ต้องไปทำกุ๊กบอกพี่เคนแล้วว่าห้ามใช้งานพี่เก่งเด็ดขาดช่วงนี้ พี่เคนรับปากแล้ว”

ลูกเกดสำทับ

“ใช่ค่ะพี่สมชายส่งคนมาช่วยพี่เก่งแล้วด้วย ทุกการเคลื่อนไหวของพี่เราสองคนรู้หมดแล้วอย่าหาข้ออ้างที่จะไม่มา”

เก่งส่ายหน้า

“ครับ ภรรยาของเจ้าของบริษัทและหุ้นส่วนใหญ่ทั้งสองคนสั่งมาแบบนี้ผมคนนี้จะไปไหนได้ล่ะครับ อีกอย่างผมก็ห่วงกุ๊กไก่เหมือนกัน”

เขาพูดเป็นงานเป็นการกระทั่งสองสาวพอใจ ในขณะที่กุ๊กไก่กลับเกรงใจจนพูดไม่ออก

เมื่อเก่งออกไปแล้วกุ๊กไก่จึงตำหนิเพื่อนเสียงเขียว

“พวกแกไปทำความลำบากให้พี่เก่งทำไมวะ ที่ผ่านมาเขาก็เฝ้าฉันจนไม่เป็นอันทำงานแล้ว”

นาชากลับไม่สนใจ

“พี่เก่งเขาเก่งขนาดนั้น เรื่องงานจัดการเรียบร้อยแกไม่ต้องห่วงหรอก เขามาเมืองไทยคราวนี้ก็เหมือนมาพักร้อนแค่แวะไปดูความเรียบร้อยเท่านั้น โชคดีที่เขามาช่วงนี้พอดีเรื่องมันเป็นยังไงถึงได้มานอนอยู่นี่แบบนี้ได้”

กุ๊กไก่เล่าให้เพื่อนฟังถึงอาการไส้ติ่งอักเสบของเธอ โดยเลี่ยงที่จะพูดถึงอชิไม่ต้องการให้เพื่อนรับรู้กลัวว่าตัวเองจะอดทนไม่ร้องไห้ต่อหน้าเพื่อนรักได้

“กุ๊กเอ๊ย น่าสงสารจังเลยว่ะ”

นาชาถอนหายใจ น้ำตาของเธอไหลออกมาอีก

“บ้าสิ อย่าร้องไอ้ชาจะร้องอีกทำไมวะ”

ลูกเกดว่าเพื่อนแต่ตัวเองกลับน้ำตาไหลเสียเอง หลังจากนั้นสามสาวก็ต่างคนต่างเบือนหน้าหนีเช็ดน้ำตาป้อย ๆ เหมือนเด็กน้อยในวัยเยาว์ กุ๊กไก่คลายสะอื้นจึงถามเพื่อนด้วยความห่วงใย

“นี่พวกแกมาได้ยังไงวะ ลูกอีก”

“นั่งเครื่องส่วนตัวมาน่ะ ลูกก็ทิ้งให้ผัวเลี้ยงไปก่อนงอแงบ้างเล็กน้อยแต่ไม่มีปัญหา”

นาชาพูดขึ้นลูกเกดพยักหน้า

“ใช่งอแงแล็กน้อยแต่ก็เอาอยู่”

กุ๊กไก่เลิกคิ้วถาม

“หมายถึงลูกพวกแกงอแงเหรอ”

ทั้งนาชาและลูกเกดส่ายหน้าตอบแทบจะพร้อมกัน

“ผัวน่ะ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

กุ๊กไก่หัวเราะจนแผลสะเทือน “โอ๊ย ไอ้พวกบ้าฉันเจ็บแผลนะโว๊ย โอ๊ย มาขายขำอะไรตอนนี้ฟะ”

สองสาวจึงปาดน้ำตาหัวเราะตาม ไม่คิดว่าสามีของตัวเองจะเหมือนกันขนาดนั้น

“พี่เคนจะตามมาให้ได้ แต่ฉันยื่นคำขาดว่าให้ดูลูกให้ดี งอแงอยู่พักใหญ่จะหอบลูกมาด้วยแต่ฉันไม่ยอมกว่าจะยอมได้ก็ต้องดุกันเป็นชั่วโมง แล้วแกล่ะเกดพี่สมชายของแกอ่ะ”

ลูกเกดโบกมือ

“จะต่างอะไรกับของแกล่ะ บ้าบออ้อนอยู่นั่นแหละให้พามาด้วย ฉันก็ห่วงงานแทนเขาแต่เขาเหมือนไม่สนใจอะไรเลย สุดท้ายต้องดุกันเสียงเข้มไม่งั้นก็ไม่ยอมปล่อยฉันมาหรอก”

กุ๊กไก่ถอนหายใจ

“ฉันรู้สึกว่าเป็นตัวปัญหาให้พวกแกต้องเดือดร้อน”

ลูกเกดขยับขึ้นมานั่งบนเตียงกับกุ๊กไก่มองหน้าสดซีดเซียวแต่กระจ่างใสเหมือนเด็กมัธยมปลายของเพื่อนแล้วยิ้ม

“พูดมากน่า ที่ผ่านมาพวกเราก็เป็นตัวปัญหาของกันและกันมาตลอดไม่ใช่เหรอ”

กุ๊กไก่หัวเราะเบา ๆ เพราะยังเจ็บแผล นาชารีบพูดขึ้น

“ตอนนั้นที่แม่ฉันป่วยหนักก็เป็นฉันที่เป็นตัวปัญหา เงินไม่มีก็เพราะแกนะกุ๊กที่เปิดร้านกาแฟให้ฉันยังทำให้ฉันรู้จักกับพี่เคนอีก ได้ผัวดี ๆ ก็เพราะแก ตัวฉันสร้างปัญหาให้แกมากกว่านี้อีก”

ลูกเกดยิ้ม

“ใช่แกจำได้หรือเปล่าว่าสมัยนั้นฉันเปรี้ยวแค่ไหน ตบกับชาวบ้านไปทั่วก็เป็นแกที่วิ่งประกันตัวฉันไม่ต้องถูกขัง ตอนนั้นมีแต่แกที่ช่วยฉัน พวกเราต่างมีกันและกันมาตลอดไม่ใช่เหรอ”

กุ๊กไก่น้ำตาไหล ใช่ที่ผ่านมาเธอกับเพื่อนอยู่เคียงข้างกันมาตลอดแต่ตอนนี้มันต่างออกไปเพราะทุกคนต่างมีครอบครัวแล้ว เธอไม่อยากทำให้สามีของเพื่อนตำหนิได้ แต่ได้ยินเพื่อน ๆ พูดแบบนี้ก็ทำให้เธอสบายใจขึ้นและเธอตั้งใจจะทำร้านให้ดีไม่เป็นปัญหาของเพื่อน ๆ อีกต่อไป

ลูกเกดเห็นใบหน้าไร้สีเลือดของเพื่อนก็เกิดเป็นกังวลขึ้นมาอีก

“หน้าแกซีดมากเลยนะกุ๊กไม่เป็นอะไรแน่นะ”

กุ๊กไก่ส่ายหน้า

“ถ้าไม่เพราะแพ้ยาสลบคงออกจากโรงพยาบาลได้แล้วล่ะ คนผ่าตัดมานะจะให้หน้าแดงก่ำเป็นลูกตำลึงได้ยังไง”

นาชาขยับมาลูบผมที่มันแผล็บของเพื่อนทั้งยังมองกุ๊กไก่ด้วยความสงสาร

“แกไปอยู่เมืองนอกกับฉันนะกุ๊ก ที่นี่แกก็ไม่มีใครแล้ว เราไปเปิดร้านเล็ก ๆ กันช่วยกันทำงานเหมือนอยู่ที่เมืองไทย ฉันเองก็อยู่บ้านเฉย ๆ โคตรเบื่ออยากมีอะไรทำเหมือนกัน ถ้าแกไปอยู่กับฉันคงดีขึ้นมาก อีกอย่างพี่เก่งก็อยู่กับพี่โน่เป็นส่วนใหญ่แกกับเขาจะได้สานสัมพันธ์ด้วย ฉันเห็นนะแววตาที่เขามองแกคราวนี้มันแสดงออกชัดเจนว่าเขาคิดยังไง”

ลูกเกดเห็นด้วย

“ใช่ฉันเห็นด้วย ยังคิดเหมือนไอ้ชาเลยพวกเราทำร้านเล็ก ๆ ด้วยกันดีหรือเปล่าล่ะ พี่เก่งเขาก็ดีกับแกขนาดนี้ แต่ก่อนนะเพราะแกมีแฟนเขาเลยไม่กล้ายุ่งกับแกตอนนี้แกโสดแล้วลองคบกับเขาดีหรือเปล่า เผื่อว่าจะใช่คนที่แกตามหา”

กุ๊กไก่จับมือลูกเกดและนาชาเอาไว้ด้วยความซาบซึ้งใจ เธอในตอนนี้ไม่อยากจะเป็นภาระของเพื่อน ๆ อีกแล้ว

“แค่พวกแกทิ้งลูกทิ้งผัวนั่งเครื่องบินข้ามวันข้ามคืนมาหาฉันแบบนี้ก็เกรงใจมากแล้ว อย่าให้ฉันเกรงใจมากกว่านี้อีกเลยนะ ยังมีร้านกาแฟของเราอีกฉันไปไม่ได้หรอก ส่วนเรื่องพี่เก่งพวกเราคุยกันแล้วว่าจะเป็นแค่เพื่อนกัน”

“เพื่อนเหรอ”

สองสาวพูดแทบจะพร้อมกัน กุ๊กไก่พยักหน้า

“ใช่ เพื่อนเราสองคนคบกันในสถานะเพื่อนดีที่สุดแล้ว”

Friends with benefits เพื่อนกันอันตราย NC25

Friends with benefits เพื่อนกันอันตราย NC25

Status: Ongoing
กว่าจะเจอรักแท้เธอก็โดนเทจนเกือบจะปิดตายประตูหัวใจ แผลที่หายยากที่สุดคือบาดแผลจากความรู้สึก สุดท้ายแล้วคนบางคนก็เป็นเพียงแค่คนรู้จักที่หลงเหลือในความทรงจำเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท