มุกดาก็แปลกใจเหมือนกันว่าแฟนทศพรจะเป็นยังไง เธอเลยตกลงคำเชิญของทศพร ผู้หญิงแบบไหนที่จะได้ใจของทศพรไปครอบครองนะ มุกดาตั้งตารอคอยมากจริงๆ พริบตาเดียวก็มาถึงสุดสัปดาห์แล้ว มุกดากับชลธีขับรถไปยังสถานที่ที่นัดกันไว้
ทศพรมารอที่นี่นานแล้ว สีหน้าเขาดูสดใสอย่างมาก ขนาดผมเผ้ายังจัดการหวีมาอย่างเนี้ยบ
“มุก ชลพวกเธอมาแล้วเหรอ? แฟนฉันไปซื้อของน่ะ เดี๋ยวก็มา” ทศพรบอกกับทั้งสอง
มุกดานึกขึ้นได้ว่าตัวเองก็ต้องไปซื้อของเหมือนกัน เธอเลยไปซูเปอร์มาร์เก็ตข้างๆ
ซื้อน้ำและของของกินไป มุกดาอยากซื้อทิชชูเสียหน่อย พอเดินไปโซนทิชชู
“จัน?” มุกเห็นจันวิภายืนอยู่ตรงนั้น
“มุก?” จันวิภามองดูมุกดา ของในมือทั้งสองคล้ายกันมาก มีน้ำกับของกินเหมือนกัน
“มุด พวกเธอจะไปไหนกันเหรอ?” จันวิภาถาม เธอรู้สึกว่าเจอมุกดาที่นี่เป็นเรื่องที่แปลกมากเลย
“พวกเราจะไปภูเขาฟ้าร้องน่ะ เธอจะไปไหนเหรอ?” เห็นของที่จันวิภาถืออยู่ มุกดาก็รู้สึกแปลกมากเหมือนกัน
“พวกเราก็จะไปภูเขาฟ้าร้องเหมือนกัน บังเอิญจังเลยนะ งั้นพวกเราไปด้วยกันเถอะ” จันวิภาไม่รู้ว่าทศพรนัดมุกดาไว้อยู่แล้ว เธอรู้แค่ว่าทศพรชวนเพื่อนสองคนไปด้วย
“ได้เลย งั้นพวกเราก็ไปด้วยกันเลยนะ” มุกดาจับมือจันวิภาเดินออกมาจากซูเปอร์มาร์เก็ต มาถึงตรงที่ชลธีกับทศพรรอพวกเธออยู่
“นี่ ทศพร คนที่นายชวนคงไม่ใช่พวกเขาหรอกนะ?” จันวิภาแม้จะสะเพร่าแค่ไหน ถึงตอนนี้แล้วก็ต้องรู้สึกเอะใจบ้างล่ะ
“ใช่ ฉันชวนมุกกับชลมา ฉันแนะนำก่อนนะ นี่คือแฟนของฉันจันวิภา เซอร์ไพรส์หรือเปล่า?” ทศพรดึงจันวิภาเข้ามาในอ้อมกอด
แม่เจ้า นี่มันไม่ใช่แค่เซอร์ไพรส์หรอกนะ แต่ตกใจมากกว่า มุกดาอึ้งมากจนพูดไม่ออก
จันวิภาหน้าแดงระเรื่อ เธอเห็นท่าทีที่ตกใจของมุกดา ก็คิดว่ามุกดาโกรธเสียอีก
“มุก ฉันว่าจะบอกเธอหลังจากไม่กี่วันนี้ แต่ไม่คิดว่าจะมาบอกวันนี้ได้ ฉันตื่นเต้นน่ะ ยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่” จันวิภารีบอธิบายกับมุกดา
“ไม่หรอกๆ ไม่ใช่แบบนั้น ไม่เป็นไรเลย พวกเธอคบกันก็เหมาะสมกันอยู่หรอก” มุกดารีบพูด
ถ้าเมื่อวานชลธีไม่บอกตัวเองว่าทศพรยังซิงอยู่ เธอคงไม่ชอบเพลย์บอยที่ลือกันให้แซดอย่างนายทศพรหรอกนะ และยิ่งมาคบกันเพื่อนตัวเองแล้วด้วย เธอยิ่งไม่ยอมเข้าไปใหญ่
แต่ตอนนี้รู้ความลับของทศพรแล้ว และทศพรยังเป็นคนที่จันวิภาคิดถึงมาตลอดด้วย ตอนจบแบบนี้ดีที่สุดแล้วล่ะ
ทั้งสี่คนขับรถมุ่งหน้าไปทางภูเขาฟ้าร้อง
ผู้ชายสองคนนั่งข้างหน้า ผู้หญิงสองคนนั่งด้านหลัง ทั้งสองกระซิบพูดเสียงเบาอยู่ด้านหลัง
“มุก เธอคงคิดสินะว่าทำไมฉันถึงชอบเพลย์บอยอย่างเขาได้?” จันวิภาก็ยังคงกังวลว่าเพื่อนตัวเองจะไม่ชอบทศพร
“ไม่หรอก เธอเลือกถูกแล้วล่ะ ฉันจะบอกเธอให้นะ ทศพรยังซิงอยู่ เมื่อวานชลบอกกับฉันเอง ข่าวลือไม่ดีเกี่ยวกับเขาน่ะเป็นข่าวปลอมทั้งหมด เขาอยากหาผู้หญิงที่ตัวเองชอบจริงๆ ดังนั้นเลยสร้างข่าวลือแบบนี้ขึ้นมา” มุกดาแอบบอกความลับของทศพรให้จันวิภา
“จริงเหรอ? ฉันคิดว่าเขาหลอกฉันเสียอีก” ที่จริงตอนที่ทศพรพูด จันวิภายังไม่เชื่อ แต่พอมุกดาพูดออกมาตอนนี้ เธอก็เชื่อทั้งหมดในทันที
แม้คนอื่นๆจะบอกว่าทศพรเปลี่ยนแฟนบ่อยๆไม่หยุด แล้วยังเห็นเขามีข่าวลือกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แต่เหมือนไม่เคยเห็นผู้หญิงที่เดินเที่ยวกับเขาเลย
ที่แท้ตัวเองก็เก็บพลอยได้นี่เอง จันวิภาคิดแล้วก็ดีใจมาก เธอคิดอยู่นั้น ก็หัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว
“มุก ฉันรู้สึกว่าฉันโชคดีมากเลย เธอว่าฉันธรรมดาขนาดนี้ เขาสมบูรณ์แบบขนาดนั้น เขาจะมาชอบฉันได้ยังไงกัน?” จันวิภายังคงดีใจที่ได้เป็นแฟนของเขาอยู่
“เธอไม่สมบูรณ์แบบตรงไหน? เธอสมบูรณ์แบบและสมบูรณ์แบบมากด้วย อย่าดูถูกตัวเองไป เธอเป็นหนึ่งเดียวในโลกนี้ เธอดีที่สุดแล้ว” มุกดาให้กำลังใจจันวิภา
“จริงเหรอ?” จันวิภาได้ยินคำพูดของมุกดา เธอก็มีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้ง
ทั้งสี่คนมาถึงภูเขาฟ้าร้อง ภูเขาฟ้าร้องความหมายตามชื่อเลยก็คือเป็นภูเขาของเหลยกงหรือก็คือเทพเจ้าแห่งสายฟ้า ตรงนั้นยังมีจมูกและปากปลายแหลม ดูมีบุคลิกมากเลย
“วันนี้พวกเรามาภูเขาฟ้าร้อง ก็เพื่อมารับแสงตะวันของธรรมชาติ ภูเขาฟ้าร้องมีอย่างหนึ่งที่ต่างกับภูเขาอื่นนั่นก็คือ บนยอดเขามีหิมะตลอด พวกเราไปเช่าเสื้อผ้ากัน เสื้อผ้าบนตัวกันหนาวไม่ได้หรอก” ทศพรบอกกับทุกคน
พอได้ยินว่าจะต้องหนาวมาก จันวิภาก็รู้สึกอยากถอยขึ้นมา เธอค่อนข้างกลัวความหนาวน่ะ
“หนาวขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันกลัวหนาวน่ะ” จันวิภาพูด
“ไม่เป็นไรหรอก มีฉันอยู่ทั้งคน จะไปเช่าเสื้อกันหนาวอยู่นี่?” ทศพรก้มหน้าลงจับมือเธอไว้แน่น
จันวิภามองดูมุกดากับชลธีที่กำลังตื่นเต้นกันสุดๆ เธอก็เลยไม่ได้พูดอะไร มาทั้งทีก็ต้องเล่นให้เต็มที่สิ
ทศพรเช่าเสื้อกันหนาวขนนกหนาและรองเท้าหิมะหนาๆ แต่งตัวให้หญิงสาวทั้งสองแบบเต็มเครื่อง
“วันนี้คนไม่เยอะ พวกเราก็ไม่ต้องไปตรงเขตพิเศษแล้วกัน เที่ยวตามคนอื่นๆก็น่าสนุกดีนะ” ทศพรแนะนำ
ภูเขาฟ้าร้องเป็นธุรกิจหนึ่งของเขา แต่เที่ยวเล่นพร้อมคนอื่นๆ ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน
“ได้เลย ฉันก็ไม่อยากไปกันสี่คนเหมือนกัน ไปกันเยอะๆจะได้สนุก” จันวิภารีบตอบตกลง เธอเพิ่งตกลงคบกับทศพร มีหลายครั้งที่เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ดังนั้นทั้งสี่ก็ซื้อตั๋วแล้วต่อแถวเพื่อนั่งกระเช้าไฟฟ้าชมแสง
ในกระเช้าไฟฟ้ามีทั้งหมดสิบสองคน ทุกคนต่างก็มาชมบรรยากาศของภูเขาฟ้าร้องทั้งนั้น ในตอนที่ด้านล่างเป็นฤดูร้อนที่ร้อนจัด ที่นี่ก็หนาวจัดไม่ต่างกันเลย
เด็กสองคนนั่งอยู่ในกระเช้าไฟฟ้า มองดูบรรยากาศด้านล่างก็ดีใจจนกระโดดโลดเต้นขึ้นมา กระเช้าไฟฟ้าส่ายไปมาทำให้มุกดาที่กลัวความสูงอยู่แล้ว กลัวยิ่งขึ้นไปอีก
“คือว่า บนกระเช้าไฟฟ้าจะกระโดดไม่ได้นะคะ ขอความกรุณาอย่าให้เด็กกระโดดเล่นเลยนะคะ” ชลธีรู้สึกได้ว่ามุกดาจับมือตัวเองไว้แน่น จากนั้นก็พูดกับผู้ปกครองเด็กสองคนนั้น
“นั่นต้องกระโดดแรงๆ ลูกของเรากระโดดเบาๆ ไม่เป็นไรหรอก ถ้ากลัวก็ไม่ควรมาแต่แรก” แต่ผู้ปกครองของเด็กสองคนนั้นกลับงี่เง่าเสียเอง
“คุณว่ายังไงนะ กระเช้าไฟฟ้าเป็นพื้นที่ของทุกคน ไม่ใช่ของบ้านคุณสักหน่อย ด้านบนเขียนไว้อย่างชัดเจนว่าห้ามกระโดด พวกคุณไม่เห็นกันหรือไง?” จันวิภาอารมณ์ร้อนขึ้นมาทันที
เธอลืมไปเลยว่ามุกดากลัวความสูง เธอกอดไหล่มุกดาไว้แน่น
“ไม่เห็นแล้วจะทำไม พวกคุณจะทำอะไรพวกเราได้? ภูเขาฟ้าร้องไม่ใช่ของบ้านคุณเสียหน่อย ฉันอยากทำอะไรก็ทำ” คนเป็นแม่คนนั้นพูดจาไม่มีเหตุผลมากขึ้นเรื่อยๆ ท่าทีที่ทะเลาะนั้นเหมือนไก่ชนที่พร้อมจิกมาทุกครั้ง