แต่งรักมัดใจบอส – บทที่ 429 ธีรเมทออกโรงช่วยชีวิต

แต่งรักมัดใจบอส

มุกดามองไม้เท้าที่งดงามประณีตอันนั้นแล้ว เธอก็รู้สึกประทับใจต่อชายสวมผ้าคลุมศีรษะร่างสูงใหญ่คนนี้มากกว่าเดิม แม้ว่าตัวเองจะมีชีวิตแบบนี้ ทว่าในตอนนี้ เธอก็ไม่เคยคิดจะหลบหนี ขาของตัวเอง จะวิ่งก็วิ่งไม่ได้ ไม่สู้อาศัยความไม่เปลี่ยนแปลงมาวางแผนรับมือกับความเปลี่ยนแปลงล่วงหน้าจะดีกว่า

“ขอบคุณคุณมาก!” มุกดายิ้มหวานให้กับธีรเมทที่สวมผ้าคลุมศีรษะอยู่

รอยยิ้มของเธอทำให้นัยน์ตาของธีรเมทเป็นประกาย นานมากแล้วที่เขาไม่ได้ใกล้ชิดกับมุกดาแบบนี้ ในอดีตเป็นเพียงแค่ความสัมพันธ์ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันเท่านั้น ที่แท้รอยยิ้มของเธอก็มีผลกระทบมากถึงเพียงนี้

ธีรเมทพยักหน้าให้มุกดาแล้วก็ออกไป ยิ่งรีบร้อนยิ่งไม่ประสบความสำเร็จอะไรนั่นเขาล้วนประสบพบเจอมาแล้ว สำหรับผู้หญิงเช่นมุกดานั้น เขาทำได้เพียงแค่ใช้ความอ่อนโยนไปหลอมละลายเธอ

ถูกขังอยู่หลายวัน มุกดาก็มีอิสรเสรีมาโดยตลอด ไม่มีใครทำอะไรกับเธอ และไม่มีใครให้เธอทำอะไร ทั้งหมดนี้ล้วนทำให้มุกดารู้สึกประหลาดใจมาก

“คือว่าเฮ้ คุณรู้ไหมว่าพวกเขาลักพาตัวฉันมาเพื่ออะไร ถ้าหากว่าต้องการเงิน ก็ไม่เห็นว่าจะไปเรียกเงินจากคนในครอบครัวของฉัน ถ้าหากว่าต้องการคน ก็ไม่มีใครทำอะไรกับฉัน หรือว่าหลังจากลักพาตัวฉันมาแล้ว ก็เลี้ยงเอาไว้ที่นี่เฉยๆหรือ” สุดท้ายมุกดาก็ทนไม่ไหว เธอถามธีรเมทที่สวมผ้าคลุมศีรษะอยู่

ธีรเมทไม่พูดอะไร เพียงแค่ฟังคำพูดของมุกดาเงียบๆ มุกดาพูดจบแล้วก็เพิ่งจะค้นพบว่าตัวเองพูดกับคนใบ้คนหนึ่งอยู่นานสองนาน เธอจึงเงียบลง

ธีรเมทยื่นมือไปลูบมือของมุกดาและจับเอาไว้ มุกดาถอนหายใจ ตอนนี้ตัวเองถูกขังเอาไว้ที่นี่ ใครก็ไม่รู้แล้วจะมีคนมาช่วยตัวเองออกไปได้อย่างไร ขาของตัวเองก็มีปัญหา ให้หนีก็เป็นไปไม่ได้ ทำอย่างไรดีนะ?

ธีรเมทจับมือของมุกดาอีกครั้ง สายตาของเขาร้อนแรง

“หมายความว่าอะไร คุณจะช่วยฉันหรือ” จู่ๆมุกดาก็รู้สึกคุ้นเคยกับสายตานั้นขึ้นมา แต่กลับนึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

ธีรเมทพยักหน้าผ่านผ้าคลุมศีรษะ

“ฉันเคยพบคุณที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า ทำไมฉันถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับคุณมาก” จู่ๆมุกดาก็ถามธีรเมทขึ้นมาประโยคหนึ่ง คำพูดของเธอทำให้ธีรเมทชะงัก แต่ว่าเขาก็กลับสู่สภาพนิ่งสงบได้อย่างรวดเร็ว

“อ๊า อ๊า อ๊า!” ธีรเมทชี้ไปที่ปากของตัวเอง หลังจากนั้นก็ส่งเสียงประหลาดออกมา มุกดาที่ได้ยินก็มองไปที่ธีรเมท บางทีตัวเองอาจจะสงสัยมากเกินไป

ธีรเมทมองไปที่มุกดาอีกครั้ง เขาหมุนตัวเดินออกไป ตอนที่เขาเดินนั้นช้ามาก มุกดามองแผ่นหลังนั้นและไม่ได้คิดอะไรอีก

เที่ยงคืน มุกดาพลิกตัวไปมาพลิกตัวมาอย่างนอนไม่หลับ ตอนที่เธอหลับไปเพราะเหนื่อยนั้นไม่ง่ายเลย ก็มีเงาร่างหนึ่งปีนเข้ามาทางหน้าต่างจากด้านนอก เมื่อเดินเข้ามาใกล้เตียงของมุกดาก็เลิกผ้าห่มมุกดาขึ้น และมุดเข้าไป

“อ๊า!” มุกดารู้สึกว่ามีคนมุดเข้ามาในผ้าห่มตัวเอง เธอคิดจะถีบ แต่ขาของตัวเองกลับไร้เรี่ยวแรง เธอจึงทำได้เพียงแค่ใช้มือต่อต้าน แต่พละกำลังของทั้งสองฝ่ายห่างชั้นกันมากเกินไป ในไม่ช้ามุกดาก็ถูกฝ่ายตรงข้ามควบคุมเอาไว้ได้ เธอถูกคนคนนั้นทับเอาไว้ใต้ร่าง คนคนนั้นใช้มือฉีกทึ้งเสื้อผ้าเธอ

“ปล่อยฉันนะๆ แกมันคนเลวๆ!” แม้ว่ามุกดาจะยังบิดตัวอยู่ แต่ปากที่ส่งกลิ่นเหม็นของฝ่ายตรงข้ามเคลื่อนเข้ามาแล้ว คนคนนั้นไม่พูดอะไรแต่ลงมือทันที

ในตอนที่มุกดาสิ้นหวัง ประตูก็ถูกกระแทกให้เปิดออก มีเงาร่างสูงใหญ่ของคนคนหนึ่งบุกเข้ามา เขาเดินมาข้างเตียงของมุกดา ยื่นมือหิ้วชายคนนั้นขึ้นมา และชกต่อยไปยกหนึ่ง

“โอ๊ย โอ๊ย! มึงเป็นใครกัน มึงกล้าต่อยกู!” ในที่สุดชายคนนั้นก็พูดออกมาแล้ว อาจจะเพราะถูกคนต่อยแรงเกินไป

ทันใดนั้นก็มีชายหลายคนเข้ามาจากประตู ช่วยกันจัดการชายที่เข้ามาช่วยมุกดาคนนั้น แม้ว่าฝีมือของคนคนนั้นจะค่อนข้างคล่องตัว แต่ว่าคนมากเกินไป เขาจึงถูกคนมัดเอาไว้

ตอนนี้มุกดาถึงเห็นว่าคนที่มาช่วยตัวเองเป็นธีรเมท!

“คุกเข่าเสีย ผิดปกติจริงๆ เรื่องดีๆของกูในวันนี้ถูกมึงทำลายทิ้งหมดแล้ว ลากลงไปซ้อม! ยังมี พวกมึงเฝ้าประตูกันยังไง? ทำไมถึงปล่อยให้มันบุกเข้ามาได้ ลากออกไปจัดการเสีย!” ชายคนนั้นกุมใบหน้าตัวเองที่ถูกธีรเมทต่อยจนบาดเจ็บเอาไว้ ขณะเอ่ยอย่างมีโทสะ

คนที่เป็นลูกน้องพวกนั้นลากธีรเมทออกไป ธีรเมทมองมุกดาอย่างลึกซึ้งครู่หนึ่ง เขาเอ่ยโดยไม่มีเสียงว่า “รอผม!” จากนั้นก็ถูกลากออกไปแล้ว

“หึ ทำลายความสนุกของกู ผู้หญิงพูดพล่ามไร้สาระ เป็นตัวปัญหาจริงๆ พวกแกลากผู้หญิงคนนี้ออกไปให้ฉันสิ ขังอยู่ในห้องมืดนั่น!” ความสนุกของชายคนนั้นถูกทำให้ขาดตอนลง ตอนนี้จึงมีโทสะราวกับสายฟ้าฟาด ไม่ได้เกรงใจมุกดาอีก ให้คนลากเธอออกไปแล้วโยนเข้าไปในห้องดำ

สภาพภายในห้องดำไม่ได้ดีเหมือนห้องใหญ่ขนาดนั้น ห้องดำแห่งนี้ใหญ่ขนาดไหน มุกดาก็ไม่รู้ ถึงอย่างไรภายในห้องก็มืดสนิท มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น

ผ่านไปครู่หนึ่ง มุกดาถึงคุ้นชินกับแสงภายในห้อง ดูเหมือนว่าเธอจะเห็นว่าในห้องไม่ได้มีเธอคนเดียว ยังมีอีกคนหนึ่งที่นอนขดตัวอยู่ที่มุมกำแพง

“เฮ้ๆ คุณเป็นอย่างไรบ้างคะ” แม้ว่ามุกดาจะมีความกล้าไม่น้อย แต่ถ้าหากว่าในห้องมีคนตายแล้วล่ะก็ เธอก็ยังเครียดอยู่บ้าง

ฝ่ายตรงข้ามไม่ส่งเสียงอะไรแม้แต่น้อย มุกดาอยู่ห่างจากคนคนนั้นเล็กน้อย แต่เธอก็เหมือนกับจะรู้สึกได้ว่าคนคนนั้นยังไม่ตาย

มุกดาปลุกความกล้าหาญ เขย่าร่างและใช้มือกระแทกไปที่คนคนนั้น คนคนนั้นครางออกมา มุกดาจึงโล่งใจ ที่แท้ก็ไม่ใช่คนตาย เพียงแค่ไม่ใช่คนตายก็ดีแล้ว

“คุณเป็นอะไรไปน่ะ” มุกดาเขยิบเข้าไปใกล้ เธอลูบไปที่คนคนนั้น ยังมีชีวิตอยู่จริงๆ ยังอุ่นๆอยู่

เพียงแต่ไม่รู้ว่าลูบไปโดนตรงไหนเข้า มือของมุกดาถึงได้เหนียวเหนอะ เธอวางไว้ด้านหน้าจมูกเพื่อดม ก็เป็นกลิ่นคาวเลือด

“คุณได้รับบาดเจ็บ?” มุกดาก็ไม่สนใจจะพูดอะไรอีก เธอประคองคนคนนั้นขึ้นมา คนคนนั้นเจ็บจนร้องครางออกมา เพียงแต่ว่าเสียงครางนั้นล้วนเต็มไปด้วยความอดกลั้น

“ใครก็ได้ ใครก็ได้ คนคนนี้ได้รับบาดเจ็บแล้ว พวกคุณไม่สามารถทำให้เขาตายได้นะ พันแผลให้เขาหน่อยเถอะ!” มุกดาตะโกนใส่ประตู แต่ด้านนอกกลับไม่มีความเคลื่อนไหว เธอจึงอาศัยความทรงจำคลานไปถึงประตู ออกแรงตบลงที่ประตู ตบไปพลาง ตะโกนไปพลาง

ในตอนนี้ก็มีคนเอ่ยขึ้นที่หน้าประตูเสียที

“เห่าหอนอะไร มันได้รับบาดเจ็บก็สมน้ำหน้ามันแล้ว!” คนที่อยู่หน้าประตูเอ่ยอย่างโหดเหี้ยม

“ถ้าหากว่าเขาตาย พวกคุณก็ฆ่าคนแล้ว! พวกคุณคิดเอาเองก็แล้วกัน!” มุกดารู้ว่าตอนนี้ข่มขู่ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร แต่เธอก็ทำได้เพียงแค่ข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น

หน้าประตูมีเสียงก๊อกแก๊ก ประตูถูกเปิดออก ยาขวดหนึ่งถูกโยนเข้ามา หลังจากนั้นก็ตามด้วยผ้าพันแผลม้วนหนึ่งที่ถูกโยนเข้ามา

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

Status: Ongoing
ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท