เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – บทที่ 51 ไม่ได้รักกันจริง

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

ได้แต่งงานกับผู้ชายที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ ถึงว่าล่ะไป๋มู่ชิงถึงได้ติดอกได้ใจขนาดนั้น เธอเดินตรงไปในทิศทางของหนานกงเฉิน

หนานกงเฉินเดินลงจากเวทีก็มีผู้คนมากมายอ้อมล้อมเข้าไปหาเขา เขาก็รับมือได้อย่างสบายๆ

คุณหญิงท่านหนึ่งเอ่ยชมขึ้นว่า “คุณชายเฉินหล่อมากจริงๆ หล่อกว่าดารานายแบบอีกแถมภรรยาก็สวยมากด้วย คุณหญิงน้อยไปไหนแล้วล่ะ?”

“ขอบคุณครับ เธอน่าจะอยู่ในห้องรับรอง” หนานกงเฉินยิ้มอ่อนให้เธอพร้อมทั้งชนแก้ว จากนั้นก็ขอตัวเดินอ้อมหลังเธอไป

ถึงแม้ท่าทางของเขาจะดูให้เกียรติมีมารยาทมาก แต่ก็ไม่ยอมเสียเวลาพูดคุยอะไรมากนัก

“คุณชายเฉิน” ก่อนที่เขาจะพบปะกับแขกคนอื่นต่อ ไป๋ยิ่งอันก็เดินมาตรงหน้าเขาแล้วยิ้มอย่างเจ้าเสน่ห์ให้เขา

“คุณหนูไป๋” หนานกงเฉินยกแก้วขึ้นเล็กน้อย “ขอบคุณที่มาร่วมงานครับ”

ไป๋ยิ่งอันก็ยกแก้วขึ้นไปชนกับแก้วของเขาพร้อมจ้องมองเขาด้วยสายตาเยาะเย้ย “คุณชายเฉินคงยังไม่รู้สินะ ว่าภรรยาสุดสวยของคุณไม่ได้อยู่ที่ห้องรับรอง แต่กลับอยู่กับแฟนเก่าบนทางเดินอีกชั้นนึง”

“หือ?” คิ้วของหนานกงเฉินกระตุกเล็กน้อย

ไป๋ยิ่งอันมองใบหน้าอันหล่อเหลานี้ เขาควรจะเป็นของเธอแต่แรก แต่เธอก็ยังพยายามเก็บอาการไว้ “คุณชายเฉินคงยังไม่รู้ล่ะสิว่าพี่สาวฉันน่ะยังรักอันหนานอยู่ โดยไม่สนใจว่าตัวเองจะแต่งงานแล้ว แถมยังไม่สนอีกว่าอันหนานเป็นน้องเขยเธอด้วย เมื่อกี้เธอเจออันหนานบนทางเดินก็เอาแต่ตอแยเขาไม่เลิก จนตอนนี้ก็คงยังอยู่ที่เดิม คุณชายช่วยไปพาตัวอันหนานออกมาหน่อยได้มั้ยคะ”

หนานกงเฉินยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย แล้วเดินจากไป

ไป๋ยิ่งอันเห็นเขาเดินผ่านผู้คนกลับไปในห้อง มุมปากขยับขึ้นด้วยสีหน้าได้ใจ

ซูวยาหยงที่เห็นเหตุการณ์นี้เข้าก็เดินทะลุผู้คนมาหาไป๋ยิ่งอัน พร้อมมองไปทางที่หนานกงเฉินเดินไป “ลูกพูดอะไรกับเขา?”

“ไม่หนิคะ” ไป๋ยิ่งอันตอบยิ้มๆพร้อมยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ จากนั้นก็หันไปพูดว่า “จะว่าไปแล้วตระกูลหลินก็แค่ทาสรับใช้ของตระกูลหนานกง ตอนนี้หลินอันหนานไม่จำเป็นแล้วค่ะ”

“งั้นลูก……”

“หนูจะเอาหนานกงเฉิน”

“พูดบ้าอะไรเนี่ย?”

“เขาควรจะเป็นของหนูตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”

“แต่ว่า เขา……”

“ร่างกายเขาแข็งแรงดี” ไป๋ยิ่งอันรีบพูดตัด ยกมือขึ้นวางบนบ่าของแม่เธอพร้อมพูดว่า “ไว้เราค่อยกลับไปคุยกันที่บ้านนะคะคุณแม่ ที่นี่อาจจะไม่เหมาะ”

หลังจากที่ไป๋ยิ่งอันเดินจากไป บนทางเดินก็เหลือแค่ไป๋มู่ชิงกับหลินอันหนาน บรรยากาศช่างน่าอึดอัดเหลือเกิน

ตั้งแต่ที่เขาไปคบกับไป๋ยิ่งอัน ทั้งสองก็ไม่เคยพบหน้ากันสองต่อสองแบบนี้เลย ไม่แม้แต่จะทักทายกันด้วยซ้ำ สถานการณ์แบบนี้ทำให้ทั้งสองคนไม่เป็นตัวของตัวเองเลย

ไป๋มู่ชิงคิดว่าเธอควรเดินเข้าไปตบหน้าเขาแรงๆสักที แล้วด่าระบายออกมา แต่ตอนนี้เธอรู้สึกเฉยๆ อาจจะเป็นเพราะเธอไม่ได้รักเขาแล้ว ก็เลยไม่สนใจในสิ่งที่เขาเคยทำอีก

แต่กลับเป็นหลินอันหนานที่ยิ้มทักทายเธอก่อน “มู่ชิง……”

“คุณชายหลิน โปรดเรียกฉันว่ายิ่งอัน” ไป๋มู่ชิงพูดแทรกตัดคำพูดเขา “ก็คุณชายหลินกับคุณหนูไป๋เป็นคนยัดเยียดฉันให้กับตระกูลหนานกงเอง คุณก็ต้องรักษาความลับนี้ไว้สิคะ แต่ถ้าคุณชายหลินไม่กลัวว่าหนานกงเฉินจะรู้ว่าคุณร่วมมือกับคุณหนูไป๋หลอกเขา งั้นก็เรียกฉันมู่ชิงก็ได้”

“ครั้งหน้าผมจะระวัง” หลินอันหนานพยักหน้ารับ

“ค่ะ” ไป๋มู่ชิงก็พยักหน้ากลับแล้วกำลังจะเดินไปทางห้องน้ำ

“ยิ่งอัน” แต่หลินอันหนานกลับจับแขนเธอไว้

ไป๋มู่ชิงอึ้งเล็กน้อย หันไปมองเขา “คุณชายหลิน ปล่อยมือค่ะ อย่าลืมสถานะของตัวเอง”

เหมือนคำพูดนึงที่ว่า สูญเสียไปแล้วค่อยมาเสียใจทีหลัง

เขาที่เพิ่งทะเลาะกับไป๋ยิ่งอันแล้วมาเจอกับไป๋มู่ชิง ทำให้นึกถึงความหลังระหว่างเขากับเธอ หลินอันหนานจับแขนเธอไว้แน่นพร้อมพูดด้วยสีหน้าสำนึกผิด “ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะใส่ร้ายคุณ”

ตอนนั้นเขาหลงไป๋ยิ่งอันหัวปักหัวปำ ถ้าไม่ให้ไป๋มู่ชิงแต่งงานไป เขาก็คงเปิดตัวกับไป๋ยิ่งอันไม่ได้ ไม่สามารถรับช่วงดูแลบริษัทของตระกูลไป๋ด้วย แต่เขาคาดไม่ถึงเลย ถึงเขาจะคิดมารอบคอบแค่ไหน แต่สุดท้ายก็โดนหมายหัวไว้เหมือนกัน

ถึงจะให้อีกสัก20บริษัทของตระกูลไป๋ แต่ก็ไม่อาจต่อกรกับตระกูลหนานกงได้

“ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ยังไงคุณก็ทำร้ายฉันแล้วหนิ?” ไป๋มู่ชิงยิ้มอย่างเย็นชาใส่เขา “คุณชายหลินเพิ่งหมั้นกับคุณหนูไป๋ แต่กลับมาจับเนื้อต้องผู้หญิงคนอื่น มันไม่น่าอายเหรอ?”

“ผมกับไป๋ยิ่งอันเราไม่ได้รักกันจริง” หลินอันหนานรีบอธิบาย “คุณคิดดูสิว่าผมจะชอบผู้หญิงที่เห็นแกตัวอย่างนั้นได้ยังไง ผม……”

“นี่คุณยังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า?” ไป๋มู่ชิงสะบัดมือไปโดนหน้าเขา โกรธจนกัดฟันแน่น “คุณเพิ่งรู้จักเธอเหรอ แล้วตอนนั้นคุณจะตัดสินใจคบกับเธอทำไม? ในเมื่อเลือกแล้ว ก็ควรใช้ชีวิตไปกับเธอ”

“เธอเป็นคนบีบให้ผมเป็นคนบอกเลิกไม่ใช่เหรอ?” หลินอันหนานนำมือมาจับที่หน้าเขาเบาๆ

“ฉัน……”ไป๋มู่ชิงไม่รู้จะพูดอะไร

ตอนนั้นเธอแค่พูดลอยๆไป ไม่คิดว่าเขาจะถอนหมั้นกับไป๋ยิ่งอันจริง ยิ่งคิดไม่ถึงว่าคุณหญิงหลินจะเชื่อด้วย

แต่ถึงยังไง ไม่ว่าเขากับไป๋ยิ่งอันจะปล่อยเธอไปหรือเปล่าเธอไม่สนใจเลย ที่เธอโกรธก็เพราะเขาเปลี่ยนผู้หญิงเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วยิ่งไปกว่านั้นเธอเองก็เคยรักผู้ชายอย่างนี้อีก

หลินอันหนานยิ้มอ่อน “ที่คุณรีบทำให้เราแตกแยกกันแบบนี้ เพราะในใจคุณยังมีผมอยู่เหรอ? ตอนนี้ผมก็เลิกกับเธอแล้วก็คงสมใจคุณแล้วสินะ?”

“นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันแต่งงานแล้ว”

“คุณก็รู้อยู่แกใจหนิว่าหนานกงเฉินจะอยู่รอดไม่เกิน30”

“ก็สมใจอยากนะ” เสียงเข้มดังมาจากอีกฝั่งของทางเดิน ไป๋มู่ชิงรีบสะบัดมือออกแล้วหันหลังเดินไป

มือข้างนึงของหนานกงเฉินล้วงกระเป๋าอยู่ส่วนอีกข้างก็ถือแก้วไวน์ ถึงแม้บนใบหน้าจะมีรอยยิ้มแต่ก็แอบแฝงด้วยความหงุดหงิด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

Status: Ongoing
ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท