เมื่อเห็นท่าทางดีใจที่ชายชราหนานกงได้แสดงให้เฟยหลงก็ได้แต่ส่ายหัวเเล้วเรียกชายชราหนานกง
” ท่านเลิกดีใจได้แล้วตอนนี้ท่านต้องหาสมุนไพรที่ข้าต้องการมาให้ได้แล้วข้าจะสอนท่านเรื่องสูตรเม็ดยา ”
เฟยหลงจึงได้บอกรายชื่อสมุนไพรนอกจากสองอย่างแรกที่ชายชราหนานกงได้มีเก็บไว้มากมาย
” สมุนไพรนี้เจ้าต้องไปหามาคือ สมุนไพรเพลิงจิตวิญญาณ และอย่างสุดท้ายคือเลือดสัตว์อสูรสิงโตเพลิงถ้าท่านหนานกงสามารถหามาให้ข้าหมดแล้วเราจะเริ่มการปรุงเม็ดยาจิตวิญญาณได้ ”
” ถ้าจะให้ดีท่านก็รีบหามาข้าขี้เกียรรอนานข้าจะได้ไปทำภารกิจหรือไม่ก็บ่มเพาะต่อเสลาของข้ามีค่ามากนะท่านหนานกงรู้ไหม ”
เมื่อชายชราได้ยินสมุนไพรและสิ่งต่างๆที่ต้องใช้เมื่อจดจำได้ทั้งหมดจึงบอกกับเฟยหลงว่า
” สมุนไพรเพลิงจิตวิญญาณข้ามีอยู่สามต้นแต่เลือดสัตว์อสูรสิงโตเพลิงข้าคงต้องไปยังศาลาโอสถเพื่อแลกเปลี่ยนดู ”
เมื่อพูดจบชายชราได้หายไปอย่างรวดเร็วซึ่งไม่ต้องบอกก็รู่ว่าต้องไปศาลาโอสถด้วยความเร็วสูงสุดของชายชราหนานกงที่จะทำได้
เฟยหลงำด้เเต่นั้นรอชายชราหนานกงกลับมาก็เท่านั้นแต่แล้วตอนนั้นเองที่มีหัวน้อยๆยื่นออกมาจากชุดของเฟยหลงซึ่งมีรูปร่างเหมือนแมวที่มีขนสีขาดออกมาจาผ้าคุลมสีดำของเฟยหลง
ซึ่งได้มันได้เดินดูสิ่งรอบด้านที่ไม่คุ้นเคยด้วยความสงสัยที่เห็นได้ชัดในประกายของดวงตา
เมื่อมันเดินเล่นรอบเเละสำรวจสิ่งต่างๆที่มันอยากรู้แล้วจึงหันมามองเฟยหลงที่นั่งอยู่แล้วเดินเข้ามานอนบนขาของเฟยหลงแล้วร้องออกมา
” อ๋าว ”
ซึ่งเสียงร้องตอนนี้ไม่ได้ดังมากและดูน่ารักมากกว่าน่าเกรงขามเมื่อเฟยหลงได้เห็นจึงได้ลูบศรีษะอย่างนุ่มนวล
เสี่ยวไป๋เห็นว่าเฟยหลงกำลังลูบหัวของมันอย่างเบามือและให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลามมากเสี่ยวไป๋จึงเริ่มที่จะอยากนอนหลับแต่ก็ระแวงสิ่งรอบข้างมากจึงพยามที่จะควบคุมสติเพื่อไม่ห้หลับ
เมื่อเฟยหลงเห็นว่าเสี่ยวไป๋เริ่มที่จะหลับเเล้วแต่ก็ยังระแวงสิ่งรอบข้างจึงพูดกัยมันเบาว่า
” หลับเถอะเสี่ยวไป๋ข้าไม่ไปไหนหรอกข้าจะอยู่ข้างเจ้าเสมอ ”
เมื่อเสียวไป๋ได้ปล่อยความกังวลรอบตัวแล้วจึงหลับตาลงอย่างสบายใจซึ่งเมื่อเสี่ยวไป๋ได้หลับไปไม่นานได้ชายชราหนานกงได้กลับมาถึงภูเขาและวิ่งเข้ามาในบ้านแล้วหาห้องปรุงยาจึงรีบวิ่งต่อไปและเปิดประตูเข้าไปอย่างรวดเร็ว
และมองมาทางเฟยหลงอย่างดีแล้วพูดว่า
” ในที่สุดข้าก็ได้มาแล้วข้าได้เลือดสัตว์อสูรสิงโตเพลิงมาแล้วถึงจะมีแค่หนึ่งขวดแต่ก็ยังดีกว่าไม่มี ฮ่า ฮ่า ฮ่า ”
เมื่อชายชราหนานกงได้หัวเราะเสร็จก็ได้รู้สึกตัวว่าทีสัตว์อสูรตัวหนึ่งที่ดูเหมือนแมวนอนอยู่บนขาของเฟยหลงจึงได้ค่อยมองมันอย่างพิจารณาแล้วพูดกับเฟยหลงว่า
” เป็นพยัคฆ์เมฆาหรือถึงจะยังเด็กแต่ก็เป็นสัตว์อสูรขอบเขตวิญญาณซึ่งอนาคตก็แข็งแกร่งมาก”
เมื่อเฟยหลงได้เห็นว่าชายชราหนานกงได้ให้ความสนใจเสี่ยวไป๋จึงพูดขึ้นมาว่า
” ข้าไม่ขายเสี่ยวไป๋ท่านหนานกงมาเริ่มปรุงเม็ดยากันดีกว่า ”
เมื่อชายชราได้ยินตำพูดของเฟยหลง
” วางใจได้ข้าแค่สนใจนิดหน่อยว่าเจ้าไปได้ลูกของพยัคฆ์เมฆามาได้อย่างไรแต่ข้าไม่คิดขโมยหรือแย่งมันมาโดนใช้พลังของข้าหรอก ”
เมื่อเฟยหลงได้เห็นชายชราบอกว่าไม่สนใจเสี่ยวไป๋จึงทำให้รู้สึกโล่งใจมากเพราะตัวเฟยหลงเองก็ใช้ชีวิตกับเสี่ยวไป๋มาหลายวันเเล้วจึงไม่อยากแยกจากเสี่ยวไป๋เลย
จึงได้แต่ถอนหายใจและพูดกับชายชราหนานกงว่า
” เริ่มปรุงเม็ดยากันเลยเถอะ ”
เมื่อชายชราหนานกงได้ยินว่าจะได้ปรุงยาก็กระตือรือร้นอย่างมากในการฟังคำแนะนำต่างๆของเฟยหลงเมื่อได้อธิบายให้ฟัง