ชายชราเฉิงหรงได้รับเม็ดยาจากเฟยหลงและกล่าวว่า
” ชายชราคนนี้เป็นหนี้ชีวิตเจ้าแล้วถ้ามีปัญหาอะไรเจ้าสามารถมาบอกข้าได้ข้าจะช่วยเจ้าอย่างแน่นอน ”
เฟยหลงได้กล่าวกับชายชราเฉิงหรงว่า
” ท่านเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากและนอกจากจะกำจัดพิษทลายใจแล้วเม็ดยานี้จะช่วยทำให้ร่างกายของเจ้านั้นมีความสามารถที่ต่อต้านพิษมากมายที่อยู่ระดับต่ำกว่าพิษทลายใจ ”
” แล้วยังช่วยลดความรุนเเรงของพอษที่มีีะดับเท่าเทียมกันอีกด้วยถ้าเจ้ายังเอิญไปโดนยาพิษเข้า ”
ชายชราเฉิงหรงได้กล่าวออกมาอย่างประหลาดใจอย่างมากว่า
” เม็ดยาที่เจ้าได้บอกสูตรเกี่ยวกับข้าให้ปรุงมันออกมานั้นมันคือเม็ดยาอะไรช่วยบอกชายชราที่ไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ด้วยได้หรือไม่ข้าไม่เคยเห็นเม็ดยาที่มหัศจรรย์เช่นนี้มาก่อน ”
เฟยหลงได้ยิ้มแล้วกล่าวว่า
” ชื่อของเม็ดยานี้นะคือ ”
” เม็ดยาชะล้าง ”
ชายชราเฉงหรงที่ได้ยินชื่อของเม็ดยาจึงกล่าวพึมพัมออกมาว่า
” ชื่อของมันคือเม็ดยาชะล้างหรือ ”
เฟยหลงไม่ได้สนใจชายชราเฉิงหรงต่อแบะกบ่่วว่า
” ท่านใช้เม็ดยานั้นรักษาตัวท่านเถอะส่วนข้านั้นมีเรื่องต้องทำอีกมากมายคงต้องขอตัวลาแล้ว ”
ชายชราเฉิงหรงได้ยืนขึ้นและกล่าวบอกกัยเฟยหลงว่า
” ถ้ามีเจ้ามีอะไรที่ต้องการข้าสามารถให้เจ้าได้ถ้าเป็นสมุนไพรที่มีอยู่ในศาลาโอสถแห่งนี้ ”
เฟยหลงได้ตอบกลับมาแค่สั้นๆว่า
” อืม ”
และได้เดินจากไป
ด้านชายชราเฉิงหรงนั้นได้มองเฟยหลงที่เดินออกไปและมีความคิดที่เเม้เต่ชายชราเฉิงหรงคาดเดาไม่ได้และกล่าวกับตนเองว่า
” เมืองเล็กๆอย่างเมืองฟ้ากระจ่างนั้นหยุดเขาไว้ไม่ได้หรอกแต่อย่างน้อยข้าก็ได้คว้าโอกาสที่จะเเสดงให้เห็นถึงความเป็นมิตรของข้านั้นถ้าในอนาคต ”
” เขาจะต้องตอบเเทนข้าได้คุ้มกว่าสิ่งที่ดีมากมายหลากหลาย ”
ชายชราได้บอกเฟยหลงเกี่ยวกับเรื่องบางอย่างซึ่งก็คือ
” และก็อีกอย่างถ้าเจ้าสนใจของแปลกประหลาดต่างๆเจ้าสามารถลองไปโรงประมูลหวังเปาได้ข้าคิดว่าบางที่เจ้าอาจจะเจอสิ่งที่น่าสนใจก็เป็นได้ ”
เมื่อเฟยหลงได้ยินว่ามีการประมูลที่โรงประมูลหวังเปาจึงคิดอยากจะลองไปดู
และแน่นอนอีกว่าเฟยหลงได้คาดเดาความคิดของชายชราเฉิงหรงออกแต่ก็ไม่ได้จะขัดขวางแต่อย่างไรเพราะเฟยหลงนั้น
ตั้งแต่อดีตที่เคยเป็นเซียนผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดจองโลกบรรพกาลแห่งนี้นั้นดีต่อคนที่ช่วยเหลือและทำดีต่อตนส่วนสำหรัยเหบ่าคนที่กล้าเป็นศัตรูของเฟยหลงนั้น
ไม่มีใครมีชีวิตต่อไปได้ถ้าเฟยหลงได้มองใครก็ตามว่าเป็นศัตรู
เมื่อเฟยหลงได้กลับมายังบ้านก็ได้เดินไปยังลานหลังบ้านซึ่งได้เห็นว่าซูซ่านกำลังบ่มเพาะพร้อมด้วนเมี่ยวไป๋ที่กำลังนอนอยู่ข้างซูซ่าน
เฟยหลงได้มองหากองสมุนไพรก็ได้พบว่ามันเหลือเพียงสิ่งที่รสชาติไม่อร่อยและมีความน่ากินแต่อย่างใดสำหรับเสี่ยวไป๋
” เห้อ… เสี่ยวไป๋เจ้าอย่าเลือกกินให้มันมากเลยไม่งั้นอนาคตข้าคงคิดได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ”
เสี่ยวไป๋ไม่ได้รู้ว่าตนนั้นสร้างความลำบากใจให้เฟยหลงซึ่งกำลังคิดเรื่องราวในอนาคตอยู่
ซูซ่านได้ลืมตาขึ้นมาหลังจากที่รู้สึตัวว่ามีคนใกล้เข้ามาเเล้วเมื่อได้รู้สึกกลิ่นอายที่คุ้นเคยจึงรู้ว่าใครที่กลับมาทำให้ซูซ่านรู้สึกผ่อนคลายมาก
เฟยหลงได้เดินมานั่งข้างๆซูซ่านและกล่าวว่า
” เจ้าอย่าเอาแต่บ่มเพาะทั้งวันอยู่อย่างนี้เลยมันจะรู้สึกว่าชีวิตของเจ้านั้นไม่มีอะไรน่าสนุกและน่าตื่นเต้น ”
ซูซ่านได้ตอบเฟยหลงว่า
” ข้า… ไม่กล้าออกไปเพราะกลัวว่าท่านอาจจะหาข้าไม่พบเมื่อท่านกลับมา ”
เฟยหลงที่ได้ยินจึงยิ้มออกมาอย่างขบขันว่า
” เจ้าไม่ต้องห่วงหรอกจ้ามีความวามารถมากกว่าที่เจ้าคิดไว้อีกกระทั้งหาสมบัติต่างๆที่ถูกซ่อนเอาไว้อย่างดีได้จนไม่มีใครรู้ได้กับเเค่เรื่องการหาตัวเจ้าคงถ้าข้าหาไม่เจอคงไม่มีหน้ามายืนอยู่ต่อหน้าเจ้าเเน่ ”
เฟยหลงได้กล่าวต่ออีกว่า
” จะไปออกไปเดินเล่นกับข้าหน่อยไหม ”