เฟยหลงได้ยิ้มมุมปากก่อนจะกล่าวออกมาว่า
” เเต่ข้าว่าเจ้าจะไม่มีโอกาศอยู่ดูผลลัพธ์สุดท้ายอย่างเเน่นอน ”
เมื่อเฟยหลงกล่าวจบเศษเสี้ยววิญญาณตระกูลพยัคฆ์ตนนั้นที่ได้ร่างกายชั่วคราวที่เป็นเพียงเเค่กลุ่มก้อนพลังงานได้ใช้กรงเล็บของมันโจมตีใส่หุ่นเชิดเงาปีศาจ
” ตู้ม……………………. ”
เสียงระเบิดได้ดังขึ้นเเละทำให้หุ่นเชิดเงาปีศาจที่โดนกรงเล็บของเศษเสี้ยวจิตวิญญาณตระกูลพยัคฆ์ตนนั้นทำลายอย่างรวดเร็ว
เฟยหลงไที่เห็นดังนั้นก็ได้พยักหน้าอย่างพึงพอใจก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยนำเสียงราบเรียบว่า
” ข้าคิดว่าปีศาจตนนั้นน่าจะโกรธไม่น้อยที่ข้าทำลายหุ่นเชิดเงาปีศาจของมัน ”
ซึ่งมันก็เป็นจริงตามที่เฟยหลงได้กล่าวออกมาปีศาจที่อยู่ในผนึกที่ได้รับความเสียหายบางส่วนนั้นได้คำรามออกมาอย่างโกรธเเค้น
” เจ้ามนุษย์เเกบังอาจทำลายหุ่นเชิดเงาปีศาจที่ข้าสร้างขึ้นมาเเบบนี้เราจะได้เห็นดีกัน ”
หชังจากที่เฟยหลงได้ส่งให้เศษเสี้ยวจิตวิญญาณตระกูลพยัคฆ์ตนนั้นทำลายหุ่นเชิดเงาปีศาจเเล้วจึงเริ่มดำเนินการเเผนขี้นต่อไปอย่างรวดเร็ว
” ดูเหมือนว่าอีกไม่นานเเล้วที่ปีศาจตนนั้นจะต้องโกรธเเค้นข้าอย่างมากเเละใช้ไพ่อีกใบของมัน ”
ทางด้านหลังสุดของกองทัพซากศพนั้นอยู่ๆก็เกิดการเปลี่ยนเเปลงอย่างมหาศาลที่ก่อให้เกิดเมฆสีดำที่ให้ความรู้สึกอึดอัดใจปกคลุมสนามรบ
เฟบหลงได้เงยหน้ามองท้องฟ้าก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบของตน
” ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มลงมือเเล้ว ”
ทางด้านปีศาจที่ถูกขังอยู่ในผนึกนั้นกำลังใช้วัตถุดิบที่มันได้รับมาในทำลายค่ายกลที่ผนึกมันเอาไว้ด้วยความโกรธ
” เจ้ามนุษย์รอข้าในอีกไม่นาน ”
ค่ายกลแปลกประหลาดได้เริ่มก่อตัวขึ้นเเละปลดปล่อยพลงัปราณสีดำเหมือนกับที่ปล่อยออกมาจากตัวทหารซากศพเเต่มันกลับเเตกต่างอยู่นิดหน่อย
ตรงที่พลังปราณสีดำนี้นั้นให้ความรู่สึกถึงอันตรายมากกว่าพลังปราณสีดำของทหารซากศพพวกนั้น
ทางด้านสนามรบในตอนนี้นั้นกงอกำลังของทหารซกาศพได้ถูกกงอทัพของอาณาจักรสาลมเเละพวกเฟยหลงทำลายลงจนเหลืออยู่เพียงเเค่3ใน10
เเละหลังจากเมฆสีดำนั้นได้ปกคลุมเหล่าทหารซกาศพที่เหลืออยู่ก็ได้เริ่มมีอาการเเปลกประหลาดก่อนที่จะหยุดนิ่งไปอย่างที่พวกเขาไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น
เพราะเเม้เเต่สัตว์อสูรซากศพขอบเขตหลอมรวมก็หยุดนิ่งไปด้วยเช่นกัน
” นี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นทำไมกงอทัพซากศพพวกนี้ถึงหยุดโจมตีเเล้วละ ”
” ใช่ทำไมอยู่ๆพวกมันถึงล้มลงไปอย่างอย่างนั้นละ ”
” ข้ารู้สึกว่ามันจะมีเรื่องร้ายเเรงบางอย่างเกิดขึ้น”
เสียงของเหล่าทหารเเละรองเเม่ทัพทั้งหลายได้กล่าวพูดคุยกัน
ทางด้านจ้าวเฉินนั้นก็ไม่ต่างกันซึ่งตีวจ้าวเฉินนั้นได้กล่าวบอกกับเเม่ทัพคนอื่นๆว่า
” พวกเจ้าจำสิ่งที่ข้ากล่าวออกมาได้หรือไม่ ”
เหล่าเเม่ทัพพยามครุ่นคิดก่อนที่จะกล่าวออกมา
” ที่ท่านเเม่ทัพจ้าวกล่าวลอกกับพกวเราว่ายังมีศัตรูที่เข็งแกร่งกว่านี้ใช่หรือไม่ ”
จ้าวเฉินที่ได้ยินดังนั้นก็ได้กล่าวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอันเต็มไปด้วยความหนักเเน่น
” ตามที่เจ้ากล่าวนั้นเเหละ ”
” ปีศาจตนนั้นกำลังหนีออกมาจากผนึกที่ขังมันไว้เเล้ว ”
ทางด้านเฟยหชงพวกซูซ่านได้กล่าวถามออกมาด้วยคสามสงสัย
” มันเกิดอะไรขึ้นเหรอท่านพี่เฟยหลง ”
” ใช่ท่านอาจารย์เกิดอะไรขึ้น ”
” พี่มหญ่เกิดอะไรขึ้นเหรอ ”
เฟยหลงได้กล่าวตอบกลับไปอย่างรสดเร็วด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
” ผนึกกำลังถูกทำลายโดยฝีมือปีศาจตนนั้นเเละข้าคาดว่าคงใช้เวลาอีกไม่นานนักที่มันจะทำสำเร็จ ”
เมื่อพวกซูศ่านได้ยินเช่นนั้นก็ได้กล่าวออกมาด้วยคใามกังวลว่า
” เเล้วพวกเราจะทำยังไงต่อไปดีละ ”
” ถ้าเราไปขัดขวางการคลายผนึกยังคงทำได้ไหมท่านอาจารย์ ”
” ใช่เเล้วพี่ใหญ่ทำได้ไหม ”
เฟยหลงได้กล่าวออกมาโดยที่สายตาของเขาในตอนนี้กำลังมองไปทางด้านจุดศูนย์กลางที่เป็นต้นกำเนิดของพลังปราณสีดำนี้
” ไม่ทันเเล้วละพวกเราในตอนนี้ได้เเค่รอเพียงเท่านั้น “