ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก – ตอนที่ 216 ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 216 ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง…

ตอนที่ 216 ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง…

ทั้งสองคนสู้รบกันโดยไม่มีดินปืนในห้องประชุม ยืดเยื้ออยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมง เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปก่อนที่จะได้ร่วมงานกัน

ซูเถาอยากจะยัดเขากลับเข้าไปในเครื่องมือสื่อสารจริง ๆ

การคุยงานกับกู้หมิงฉือต่อหน้า ยากกว่าการคุยโทรศัพท์เยอะมาก เขาไม่ประนีประนอมเลย อีกทั้งยังแข็งแกร่งมาก

หุยซู่ที่กำลังนั่งตากแอร์ ดื่มเครื่องดื่ม กินขนม ดูหนัง จนแทบจะอยากไถลตัวนอนลงตรงนี้

เขาหลับไปโดยไม่รู้ตัวและเมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าทั้งสองหยุดการต่อสู้กันแล้ว พวกเขานั่งเผชิญหน้ากันอย่างสงบ และกำลังนั่งดื่มน้ำแก้กระหาย

“เป็นยังไงบ้าง” หุยซู่ถามถึงผลลัพธ์

กู้หมิงฉือชำเลืองมองเขา ความสุขที่เขามีเมื่อครู่ก็พังทลายลง

หุยซู่ก้มหน้าลงทันที

ปากของซูเถาแห้งผาก และความอดทนของเธอก็หมดลงเช่นกัน

“ถ้างั้นคุณจ่าย 30% ได้ไหม ฉันไม่เคยเห็นคนอย่างคุณเลยจริง ๆ เห็นได้ชัดว่าเงินแค่นี้คุณไม่เดือดร้อนหรอก แต่คุณต้องการต่อรองกับฉัน คุณจงใจหรือเปล่า”

กู้หมิงฉือตั้งใจจริง ๆ เขาแค่อยากเห็นเธอปวดหัวและปวดใจเพราะเงิน มันทำให้เขารู้สึกสดชื่นมาก ดังนั้นเขาจึงระงับอารมณ์ที่สนุกสนานและพูดอย่างหนักแน่นว่า

“ไม่ได้”

ซูเถาโกรธจนเหมือนปลาปักเป้า เธอจ้องมองเขาด้วยดวงตาเบิกกว้างเป็นเวลานาน

“ฟรีก็ฟรี แต่คุณอย่ามากลืนน้ำลายตัวเองทีหลังแล้วกัน จากนี้ไปจงเกาอี้จะอยู่เคียงข้างฉันอย่างสมบูรณ์ ถ้าในอนาคตคุณต้องการความช่วยเหลือจากเขา คุณต้องได้รับความยินยอมจากฉันก่อน ห้ามมาหาเขาเป็นการส่วนตัว และทำให้เขา จวงหว่านและลูก ๆ ทั้งสองเดือดร้อน”

กู้หมิงฉือชื่นชมดวงตากลมโตของเธออยู่พักหนึ่งแล้วพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

“ผมยกคนให้คุณแล้ว ไปเถอะ พาผมไปหาปู่”

หุยซู่หาวและเดินตามไป

ระหว่างทางกู้หมิงฉือก็ถามเธอว่า “ผมได้ยินมาว่าคุณปล่อยเช่าที่ดินเหรอ”

ซูเถาพยักหน้า

กู้หมิงฉือเลิกคิ้ว “พื้นที่ใกล้เถาหยางเหรอ?”

ซูเถาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอมีทั้งภูเขาผานหลิว และยังมีพื้นที่ที่ยังขยายได้ที่สถานีเถาฉือ ดังนั้นเธอจึงส่ายหัวและพูดว่า

“ที่อื่นก็มีด้วย ทำไม? อยากเช่าเหรอ”

กู้หมิงฉือดูเหมือนไม่อยากจะแยแส “ก็แค่ถามดู”

หุยซู่ “…”

ก่อนที่คุณจะมามันไม่ใช่แบบนี้! คุณยังให้ผมออกไปสืบเลยว่าใครเป็นคนเช่า!

กู้หมิงฉือหันหน้าไปมองเขาทันที

หุยซู่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกัดฟันและเอ่ยปากถามซูเถาให้เขา

“เถ่าแก่ซู ปกติคุณคิดค่าเช่ายังไง ผมมีเพื่อนคนหนึ่งที่ต้องการสิ่งนี้”

ซูเถาไม่สงสัยเขา คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า

“คิดค่าเช่าตามขนาดพื้นที่ ถ้าไม่รวมการก่อสร้างและตกแต่ง ค่าเช่าต่อ 1,000 ตารางเมตร ต่อเดือนก็แค่ 100,000 เหลียนปัง”

“แต่ถ้ารวมการสร้างและตกแต่ง จะมีราคาตั้งแต่ 200,000 ถึง 500,000 เหลียนปัง”

กู้หมิงฉือยังคงจ้องมองไปที่หุยซู่

หุยซู่ใช้สมองของเขาเพื่อค้นหาคำถามที่เขาต้องการถาม

“อ๋อ ๆ แล้ว ที่ดินที่ปล่อยเช่ามีกำแพงป้องกัน แล้วก็เกราะหรือโดมอะไรนั่นไหม?”

กู้หมิงฉือพยักหน้าเบา ๆ แสดงให้เห็นว่าคำถามที่ถามออกไปนั้นเป็นคำถามที่ดี

ซูเถากระปรี้กระเปร่าในทันที “มีเงินก็มีของ เพื่อนของคุณมีเงินไหม”

เธอคงมีความสุขมากหากมีคนมีเงินที่ตรงไปตรงมาเช่นกลุ่มเป้าถู

หุยซู่พยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่าและพูดคำเยินยอ

“มีเงินมีเงิน เขาเป็นคนใจกว้าง ไม่เรื่องมาก”

ดวงตาของซูเถาเป็นประกาย “เขาต้องการเช่าพื้นที่เท่าไหร่?”

เขาเดินหน้าไปอย่างมีความสุขและกล่าวว่า “3,000 ตารางเมตร”

รอยยิ้มของซูเถาลดลงทันที “ลืมไปเถอะ”

เขาถอยหลังไปครู่หนึ่ง ไม่กล้ามองหน้าเจ้านายของเขาและถามอย่างกระวนกระวาย

“ทำไมล่ะ?”

ซูเถาถอนหายใจ “ตอนนี้ฉันไม่มีที่ดินมากขนาดนั้น ถ้าสัก 500 หรือ 1,000 ตารางเมตรก็ยังพอได้ แต่ 3,000 ตารางเมตรก็มากเกินไป”

3,000 ตารางเมตรต้องการผลึกนิวเคลียส 30 อัน

เธอไม่สามารถทำอะไรได้มาก

ถ้าเธอมีที่ดินมากมายจริง ๆ เธอจะใช้มันเพื่อขยายเถาหยางก่อน อาคารที่พักสูงขึ้นเรื่อย ๆ และระยะห่างระหว่างอาคารก็น้อย ซึ่งกระทบกับการรับแสง ทั้งยังคิดที่จะขยายเขตที่อยู่อาศัยและสร้างอาคารที่พักเพิ่มอีกสองสามอาคาร

หุยซู่ก้มหัวลงและมองไปที่เจ้านายอย่างเงียบ ๆ และแน่นอนว่าเขาเม้มริมฝีปาก และเป็นกังวล

หุยซู่เกาหัวแล้วถามอีกครั้ง “ตอนนี้เถ้าแก่ซูมีพื้นที่ให้เช่าเท่าไหร่”

ซูเถาพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง “500 ตารางเมตร ถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็ต้องรอ”

มีข่าวว่าเถาหยางมีเสบียงกระจายออกไปในวงกว้าง ผู้คนต้องการซื้อขายกับเธอมากขึ้น และค่าสมาชิกซึ่งก็คือผลึกนิวเคลียส ก็น่าจะได้เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

ในปัจจุบัน เธอมีเพียงช่องทางนี้เท่านั้นที่จะได้รับผลึกนิวเคลียส

หุยซู่ดูสีหน้าของเจ้านาย มองจากริมฝีปากที่โค้งขึ้นเล็กน้อย ก็แสดงให้เห็นว่าเขายังไม่พอใจ ดังนั้นเขาจึงขอโทษและพูดว่า “เถ้าแก่ซู งั้นผมให้เพื่อนลองพิจาณาดูก่อนแล้วกัน”

ซูเถาพยักหน้าอย่างร่าเริง

ทันทีที่พวกเขามาถึงอาคารที่พัก ก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นทันที มีผู้คนเดินไปมาอยู่ข้างล่างพร้อมกับถือกระเป๋าอยู่ในมือ พร้อมพูดคุยและหัวเราะ โดยมุ่งหน้าไปทางอาคารเถาฮวา

แม้แต่ชายชรากู้ยังขอให้นางพยาบาลถือตะกร้าใบเล็กไว้ และทั้งสองเดินผ่านกู้หมิงฉือไปอย่างมีความสุข

กู้หมิงฉือที่ถูกเมินก็มองไปที่ซูเถาด้วยความไม่พอใจและขอคำอธิบาย

ถ้าปู่จำเขาไม่ได้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่พยาบาลก็จำเขาไม่ได้เหมือนกันเหรอ จะรีบไปไหนกัน

เมื่อเห็นท่าทางที่เศร้าโศกของเขา ซูเถายิ้มและพูดว่า

“วันนี้มีผักใหม่วางขาย พวกเขาคงรีบไปต่อแถว”

กู้หมิงฉือ “ผมก็อยากได้เหมือนกัน เอามาให้ผมก่อนออกไป ไม่ต่ำกว่า 20 จิน”

“…คุณจะไร้ยางอายไปถึงไหน” ซูเถา

กู้หมิงฉือยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “คุณให้ผมฟรี แล้วช่วยหาคนขนไปที่รถให้ผมด้วย”

ซูเถาทนไม่ได้อีกต่อไปและยกขาขึ้นทำท่าจะเตะเขา

หุยซู่วิ่งเข้ามาห้ามพวกเขาทันที โดยรู้ตัวว่าตนต้องทำหน้าที่เป็นเกราะกำบัง ซูเถาถอนเท้าออกและเลือกที่จะไม่สนใจอีกฝ่าย

ในเวลานี้ต้าจุ่ยวิ่งมาพร้อมกับท้องขนาดใหญ่ของเขา และไปต่อคิวซื้อผัก

กู้หมิงฉือมองที่ด้านหลังของเขาและขมวดคิ้วโดยคิดว่าเขาเคยเห็นชายอ้วนคนนี้ที่ไหนมาก่อน

แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก

หุยซู่ไม่สนใจและริเริ่มที่จะวิ่งไปเรียกพยาบาลของนายท่าน ที่ยังเดินไปได้ไม่ไกล

พยาบาลรู้สึกประหลาดใจมากที่เห็นกู้หมิงฉือ และกำลังจะบอกชายชราเกี่ยวกับเรื่องนี้

กู้หมิงฉือส่ายหัวให้เธอจากระยะไกล

จู่ ๆ พยาบาลก็เข้าใจว่าบอสคงแค่ต้องการดูนายท่านจากระยะไกลก็พอใจแล้ว คงเกรงว่านายท่านจะดุและตีเมื่อเห็นเขา

พยาบาลลอบถอนหายใจ และหาข้ออ้างที่จะพาชายชราไปพูดคุยตรงจุดนั้น เพื่อให้บอสของเธอได้เห็นอย่างใกล้ชิด

กู้หมิงฉือยืนอยู่ตรงจุดเดิมและจ้องมองอย่างตั้งใจ

จนกระทั่งนางพยาบาลต้องขอตัว เธอพยักหน้าขอโทษกู้หมิงฉือและเดินตามชายชรากู้ที่กำลังหยิบผักทันที

เมื่อเห็นว่าพวกเขาหายลับไปไกลจนมองไม่เห็น แต่กู้หมิงฉือยังอยู่ที่เดิม หัวใจของซูเถาก็อ่อนลงเล็กน้อย

แต่ตอนนี้เธอต้องอดทนกับพฤติกรรมของเขา ที่มาเหยียบจมูกเธอถึงที่

20 จินก็ 20 จิน แล้วเธอจะหาคนขนไปที่รถให้เขาในภายหลัง

เสบียง 400,000 เหลียนปัง หลังจากที่เธอให้เขาไปแล้ว เธอจะไม่สนใจเขาอีก

กู้หมิงฉือยืนมองอยู่สิบนาทีก่อนที่จะหันกลับมาและพูดว่า

“อาการของปู่ดีขึ้นมาก เขาไม่เคยออกไปนอกเขตตะวันออกมาก่อน”

เมื่อมองย้อนกลับไป เขาก็ต้องถอนหายใจ ใครก็ตามที่อาศัยอยู่ในเถาหยาง มักจะชอบออกไปเดินเล่น การได้เห็นสภาพแวดล้อมที่ดีเช่นนี้สามารถทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นได้

มีอารมณ์ที่ดี สุขภาพก็ดีตามขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม เขาเห็นว่าชายชราเงียบขรึมกว่าเดิมมาก

ซูเถารู้สึกว่ากู้หมิงฉือก้าวร้าวน้อยลง ซึ่งทำให้เจริญตามากขึ้น

ทันใดนั้นกู้หมิงฉือก็เงียบไปชั่วคราว และพูดสองคำอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณ”

ดวงตาของซูเถาเบิกกว้าง คิดว่าเธอหูแว่วไป

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
คอยดูเถอะ…วันสิ้นโลกแบบนี้ฉันจะยืนด้วยด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท