ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 149 เดรัจฉานเลี้ยงไม่เชื่อง

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 149 เดรัจฉานเลี้ยงไม่เชื่อง

“คุณ…” คำต่อว่าด้วยความโกรธเกรี้ยวของสวีเฉียนไม่สามารถไปถึงหูอีกฝ่ายได้ เพราะอีกฝ่ายไม่ให้โอกาสนั้นแก่เขา

เขาวางโทรศัพท์ลง ภายในใจทั้งตกใจและโกรธเกรี้ยว รู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนการของผู้หญิงคนนี้ แล้วก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังยุแยงให้พวกเขาแตกคอกัน

จะไม่รู้ก็คงไม่ได้ ฉินอี๋พูดกับเขาตรงๆ แล้วว่าเธอกำลังยุแยงให้พวกเขาแตกคอกัน อีกฝ่ายไม่ได้ปิดบังอำพรางใดๆ แม้แต่น้อย โอหังอวดดีเป็นอย่างมาก!

ยิ่งอีกฝ่ายพูดคุยกับเขาอย่างเปิดเผย เขาก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัว นี่แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก!

แล้วก็รู้เช่นกันว่าที่ผู้หญิงคนนี้โทรมาหาเขาในเวลานี้อาจจะไม่ได้มีเจตนาดี แต่เขาก็ยังอดกวาดตามองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวงไม่ได้

สิ่งสำคัญคือพานหลิงเยวี่ยอาจจะทำเรื่องที่ฉินอี๋ว่ามาจริงๆ ได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีโอกาสสูงมากด้วย

รอบด้านที่ในเวลานี้ยังคงเป็นปกติ แต่ในสายตาเขากลับคล้ายว่ามีอันตรายแอบแฝงอยู่โดยรอบ

ในขณะที่เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี เท้าทั้งสองข้างยากจะก้าวเดินออกไปได้ กูเป่ยที่เป็นผู้ติดตามคนสนิทของพานหลิงเยวี่ยก็มาถึง สวีเฉียนมองดูเขาเดินเข้ามา ใจเต้นระรัวขึ้นมา ลอบรู้สึกหวาดระแวง กังวลว่ากูเป่ยจะมาทำอะไรตน

เขาหันกลับไปเหลือบมองดูเรือนที่เซียงหลัวเซ่อพักอยู่ในทันที ก่อนจะเห็นว่าผู้คุ้มกันของทางนั้นก็กำลังจ้องมองมาทางนี้เช่นกัน จึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย

เมื่อมีคนของเซียงหลัวเซ่อมองดูอยู่ ความเป็นไปได้ที่กูเป่ยจะลงมือก็ลดน้อยลงไปเช่นกัน

กูเป่ยรับรู้ได้ถึงความผิดปกติบนสีหน้าของสวีเฉียน

แต่ในตอนที่เดินไปถึงตรงหน้าสวีเฉียน เขายังคงยิ้มทักทายอย่างเกรงใจ “ผู้ช่วยสวี”

สวีเฉียนเอ่ยถาม “มีอะไรเหรอ?”

กูเป่ยกล่าว “คุณหนูรองขอเชิญคุณไปพบหน่อยครับ”

ม่านตาของสวีเฉียนหดเล็กลงทันที พยักหน้าพลางเอ่ยว่า “ได้ นายไปก่อน เดี๋ยวฉันตามไป”

กูเป่ยพยักหน้า “ได้ครับ รบกวนผู้ช่วยสวีไปเร็วหน่อยนะครับ อย่าให้คุณหนูรองรอนาน” กล่าวจบก็โค้งกายเล็กน้อย หมุนตัวเดินออกไป ในตอนที่เดินไปได้ระยะหนึ่ง เขาเหลียวหน้ากลับมามองอีกครั้ง พบว่าสวีเฉียนยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม กำลังจ้องมองมาที่ตัวเอง จึงรีบส่งยิ้มตอบกลับไปทันที จากนั้นหันหน้าเดินออกไป

ทว่าบนใบหน้าเขาได้มีเมฆหมอกแห่งความสงสัยก่อตัวขึ้นมาแล้ว

สวีเฉียนในเวลานี้ยากจะก้าวเท้าออกไปได้จริงๆ เขาไม่รู้ว่าควรจะตัดสินใจอย่างไรดี ถึงแม้ปากจะรับปากกูเป่ยเอาไว้ว่าจะตามไป แต่อันที่จริงแล้วเขาไม่กล้าไป

คำพูดของฉินอี๋กดทับอยู่ในใจเขา ยากจะยกออกไปได้ แล้วก็รู้ว่าฉินอี๋อาจจะกำลังปั่นหัวเขาอยู่ แต่เขาไม่กล้าวัดดวง ไม่กล้าเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงดูว่าคำพูดของฉินอี๋นั้นจริงหรือไม่

พานหลิงเยวี่ยรู้เรื่องที่เขาเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลฉินตามลำพัง รู้ว่าเขาได้พบกับฉินอี๋ นอกจากนี้ยังเคยถามเขาด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้น

เขาบอกพานหลิงเยวี่ยไปตามตรง ดังนั้นพานหลิงเยวี่ยจึงรู้ว่าหอการค้าตระกูลฉินจะยอมแบ่งผลประโยชน์และสนับสนุนให้เขาเป็นประธานหอการค้าตระกูลพาน

พานหลิงเยวี่ยย่อมต้องรู้เช่นกันว่าเซียงหลัวเซ่อเรียกเขาไปพบเป็นการด่วน ตระกูลเซียงหลัวคิดจะทำอะไร เกรงว่าพานหลิงเยวี่ยก็คงจะคาดเดาได้แล้วเช่นกัน

ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ที่เป็นภัยต่อตระกูลพาน พานหลิงเยวี่ยจะทำอย่างไร?

อย่าว่าแต่พานหลิงเยวี่ยเลย หากเปลี่ยนเป็นเขาต้องไปยืนอยู่ในจุดเดียวกับพานหลิงเยวี่ย เขาก็อาจจะลงมือจัดการตัวเขาในเวลานี้เช่นเดียวกัน ก็เหมือนอย่างที่ฉินอี๋ว่ามา เพื่อตัดปัญหาที่จะตามมาในภายหลัง!

หลังคิดทบทวนไปมา เขาก็เริ่มก้าวเท้าถอยหลัง ถอยหลังไปอย่างช้าๆ จากนั้นพลันหมุนตัวกลับไป เดินเข้าไปในเรือนที่เซียงหลัวเซ่อพักอยู่

เขารู้ว่าทันทีที่เดินเข้าไป ตัวเองจะไม่มีทางให้ถอยกลับแล้ว แต่เขาไม่กล้าเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง

เมื่อได้ยินว่าเขากลับมา เซียงหลัวเซ่อก็มาพบเขาทันที เมื่อพบหน้าก็เอ่ยถามว่า “ทำไม เปลี่ยนใจแล้วเหรอ?”

สวีเฉียนกล่าวว่า “เรื่องที่ท่านเสมียนใหญ่เสนอมา ผมสามารถรับปากได้ แต่ผมมีเงื่อนไขเล็กน้อยข้อหนึ่ง”

สีหน้าของเซียงหลัวเซ่อดูไม่พอใจขึ้นมาทันที คิดไม่ถึงว่าจะกล้ามาต่อรองกับตัวเอง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ สุดท้ายยังคงถามออกมาอย่างใจเย็นว่า “ลองว่ามาสิ”

สวีเฉียนกล่าวว่า “พานหลิงเยวี่ยรู้เรื่องที่หอการค้าตระกูลฉินจะยอมแบ่งผลประโยชน์และสนับสนุนให้ผมเป็นประธานหอการค้าตระกูลพาน เธอจะต้องเข้ามาขัดขวางอย่างแน่นอน ผมหวังว่าจะทำให้พานหลิงเยวี่ยหายตัวไปได้ครับ”

นี่ก็เป็นความจริงใจที่เขาอยากจะได้รับจากตระกูลเซียงหลัว ขอเพียงตระกูลเซียงหลัวสังหารพานหลิงเยวี่ย เช่นนั้นตระกูลเซียงหลัวก็จะไม่มีทางให้ถอยเช่นเดียวกัน แล้วก็มีแต่ต้องช่วยสนับสนุนให้เขาเป็นประธานหอการค้าตระกูลพาน

เซียงหลัวเซ่อขมวดคิ้วขึ้นมา “พานหลิงเยวี่ยรู้ได้อย่างไร?”

สวีเฉียนกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้เธอรู้เรื่องที่ผมไปคฤหาสน์ตระกูลฉิน ก็เลยโทรหาผม ผมเลยบอกเธอไปตามตรง”

เซียงหลัวเซ่ออดกรอกตาใส่เขาไม่ได้ นับว่ายอมใจเขาจริงๆ “นายนี่ก็ซื่อจริงๆ เรื่องแบบนี้ก็ยังไปบอกเธออีกเนอะ?”

เขาหารู้ไม่ว่าสวีเฉียนเองก็จนปัญญาเช่นกัน ฉินอี๋แสดงท่าทีออกมาอย่างชัดเจนว่าต้องการยุแยงให้พวกเขาแตกคอกัน ต่อให้เขาปิดบังไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร สุดท้ายฉินอี๋ก็ต้องทำให้พานหลิงเยวี่ยรู้เรื่องนี้อยู่ดี ทันทีที่พานหลิงเยวี่ยรู้เรื่องนี้ แต่เขากลับปิดบังไม่ยอมเล่าอะไรออกมา อย่างนั้นมันก็จะยิ่งกลายเป็นปัญหาใหญ่ เมื่อถึงตอนนั้นจะไม่ให้พานหลิงเยวี่ยนึกสงสัยว่าเขาคิดไม่ซื่อก็คงจะเป็นไปได้ยากแล้ว

ได้แต่ต้องโทษที่ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ตัดสินใจทรยศพานชิ่ง เอาแต่คิดว่าไม่อาจหลงกลฉินอี๋ได้ สุดท้ายตอนนี้ถึงได้พบว่าฉินอี๋ได้โยนเขาลงไปในบ่อโคลนแล้ว ร่างกายจมลงไปในบ่อโคลนไม่อาจปีนออกมาได้ แล้วก็เลิกคิดเรื่องที่จะทำให้เนื้อตัวสะอาดสะอ้านไปได้เลย

สวีเฉียนเน้นย้ำอีกครั้ง “ผมรู้จักภรรยาของผมดี ผมมั่นใจว่าจะเกลี้ยกล่อมเธอได้ แต่พานหลิงเยวี่ยจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางอย่างแน่นอน ขอท่านเสมียนใหญ่โปรดทบทวนด้วยครับ!”

“ความหมายของนายคือต้องการฆ่าพานหลิงเยวี่ย?” เซียงหลัวเซ่อกล่าวถามอย่างสงสัย เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่พูดอะไร ก็รู้แล้วว่าเป็นจริงดั่งว่า จึงเกิดความลังเลไม่แน่ใจขึ้นมาทันที สุดท้ายส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า “ไม่ได้ ตอนนี้หอการค้าตระกูลฉินยังไม่เซ็นสัญญา การจะบุ่มบ่ามลงมือกับพานหลิงเยวี่ยนั้นไม่เหมาะ ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถอธิบายกันพานชิ่งได้”

นี่มันหมายความว่ายังไง? สวีเฉียนเบิกตาโตทันที ที่แท้ตระกูลเซียงหลัวของแกก็คิดจะจับปลาสองมือ ไม่ว่าฝั่งไหนก็ไม่อยากเสียไป เห็นฉันเป็นตัวอะไร?

ความโกรธเกรี้ยวภายในใจยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ที่แท้ตนเองก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งของตระกูลเซียงหลัวเท่านั้น

เมื่อครุ่นคิดดูเล็กน้อยก็พบว่าเป็นเช่นนั้นจริง ตระกูลใหญ่เหล่านี้อยู่เหนือคนอื่นจนเคยชิน อย่าว่าแต่ตัวเขาเลย เกรงว่ากระทั่งทั้งหอการค้าตระกูลพานก็คงเป็นแค่เพียงเครื่องมือในการหาผลประโยชน์ของอีกฝ่ายเท่านั้น ไหนเลยจะมองพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกันได้ ขอเพียงเป็นผลประโยชน์ที่ทางตระกูลต้องการ เกรงว่าหอการค้าตระกูลพานก็คงจะถูกสังเวยทิ้งได้ทุกเมื่อ

เซียงหลัวเซ่อมองดูท่าทีของเขา รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร จึงรีบกล่าวว่า “เรื่องนี้ยังมีวิธีที่นุ่มนวลกว่านี้อยู่ ไม่เสียหายกันทั้งสองฝ่าย นายวางใจได้ ในเมื่อฉันมาจัดการที่นี่ด้วยตัวเอง ฉันก็ไม่มีทางยอมให้พานหลิงเยวี่ยมาทำอะไรตามใจชอบได้ ต้องจับตัวพานหลิงเยวี่ยเอาไว้ก่อน!”

เขาเหลียวหน้ากลับไปตะโกนสั่งการ “ใครก็ได้ ไปเรียกพานหลิงเยวี่ยมาหน่อย บอกให้เธอรีบมาที่นี่!”

“ครับ!” มีคนรับคำสั่งแล้วรีบออกไปทันที

…..

ภายในเรือนเล็ก เมื่อเห็นว่ามีเพียงกูเป่ยคนเดียวที่กลับมา พานหลิงเยวี่ยที่ยืนอยู่ตรงริมหน้าต่างจึงเหลียวหน้ามาถามว่า “สวีเฉียนล่ะ เขาไม่ยอมมาเหรอ?”

กูเป่ยลังเลเล็กน้อย กล่าวตอบว่า “เขาบอกว่าอีกเดี๋ยวจะรีบตามมาครับ”

อีกฝ่ายติดตามตัวเองมานาน พานหลิงเยวี่ยมองออกถึงความผิดปกติที่อยู่ในสีหน้าของเขา จึงกล่าวถามว่า “ยังมีอะไรที่ไม่ได้บอกฉันอีก?”

กูเป่ยลังเลเล็กน้อย “ผมรู้สึกว่าท่าทีของสวีเฉียนดูแปลกไปครับ”

พานหลิงเยวี่ยหมุนตัวกลับมา จ้องมองเขาพลางกล่าวว่า “แปลกยังไง?”

กูเป่ยส่ายศีรษะ “บอกไม่ถูกครับ แต่ว่าไม่เหมือนผู้ช่วยสวีในเวลาปกติคนนั้นแน่นอน รู้สึกเหมือนเขากำลังระแวงผมอยู่”

“ระแวง….” พานหลิงเยวี่ยเงียบไป สีหน้าพลันดูแย่ขึ้นมาทันที “ทำไมถึงต้องระแวง?”

กูเป่ยรีบกล่าวเสริมขึ้นมา “อาจจะเป็นผมที่คิดมากไปเองครับ”

ในเวลานี้เอง ด้านล่างพลันมีคนรีบวิ่งขึ้นมา “คุณหนูรองครับ” อีกฝ่ายเอ่ยทำความเคารพพานหลิงเยวี่ยก่อน จากนั้นกล่าวรายงานกูเป่ยว่า “ผู้ช่วยสวีไม่ได้มาที่นี่ครับ เขากลับไปที่เรือนของท่านเสมียนใหญ่อีกครั้งครับ”

กูเป่ยกล่าวว่า “จับตาดูต่อไป ถ้าออกมาแล้วให้รีบมาแจ้งฉันทันที”

“ครับ” คนที่มารายงานเดินออกไปอีกครั้ง

พานหลิงเยวี่ยหมุนตัวกลับไปมองด้านนอกหน้าต่าง นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา สีหน้าคร่ำเคร่งเป็นอย่างมาก

ผ่านไปไม่นาน คนที่เซียงหลัวเซ่อส่งมาก็มาถึง เขาเดินตรงขึ้นไปชั้นบน แล้วก็ไม่ได้เอ่ยทักทายอะไร พอเห็นพานหลิงเยวี่ยก็เอ่ยไปตรงๆ ว่า “คุณหนูรอง ท่านเสมียนใหญ่ขอเชิญไปพบครับ”

พานหลิงเยวี่ยกล่าวถามทันที “ท่านเสมียนใหญ่เชิญไปพบเรื่องอะไร?”

คนที่มาเอ่ยว่า “นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมควรถามครับ ไม่ทราบ”

พานหลิงเยวี่ยกล่าว “ได้ เดี๋ยวขอฉันเตรียมตัวหน่อย อีกประเดี๋ยวจะตามไป”

คนที่มาเอ่ยอย่างไม่เกรงใจ “ไม่จำเป็นครับ ท่านเสมียนใหญ่บอกให้คุณรีบไปทันทีครับ”

พานหลิงเยวี่ยอึกอักคล้ายอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็จำต้องทำตามคำสั่ง พยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินตามไป

กูเป่ยและโกวซิงสบตากัน รีบเดินตามไปทันที

ในตอนที่พวกเขามาถึงด้านนอกประตูเรือนที่เซียงหลัวเซ่อพักอยู่ ผู้คุ้มกันที่อยู่ด้านหน้าประตูไม่เพียงแต่จะไม่ขวางพวกเขา แต่ยังหันหน้ามากล่าวเชิญคนที่ติดตามมาด้วย “พวกคุณสองคนก็เข้าไปด้วย”

กูเป่ยกับโกวซิงที่เดิมทีคิดจะยืนรออยู่ตรงหน้าประตูงุนงงเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็เดินตามเข้าไปอย่างที่อีกฝ่ายบอก พานหลิงเยวี่ยที่เข้าไปข้างในแล้วพลันหยุดฝีเท้าทันที รับรู้ได้ถึงความผิดปกติในทันใด ปกติเรือนพำนักของท่านเสมียนใหญ่ไม่มีทางปล่อยให้คนนอกเข้ามาด้านในง่ายๆ วันนี้คล้ายจะผิดแปลกไป

เธอหันหน้ากลับไปอีกครั้ง เห็นคนจำนวนหนึ่งพุ่งตัวออกมาอย่างรวดเร็ว ยืนขวางประตูทางเข้าเอาไว้ ตัดขาดทางหนีของพวกเขา

คนที่ปรากฏตัวขึ้นมาจากรอบด้านจ้องมองพวกเขาอย่างดุร้าย

กูเป่ยและโกวซิงกวาดตามองไปรอบๆ ใจร่วงตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม รับรู้ได้ถึงความผิดปกติเช่นเดียวกัน

คนที่นำทางผายมืออีกครั้ง “คุณหนูรอง เชิญ!”

พานหลิงเยวี่ยกล่าว “ฉันเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่ามีของบางอย่างอยากจะนำมาฝากให้ท่านเสมียนใหญ่ เดี๋ยวให้ฉันกลับไปเอาของหน่อยแล้วจะรีบกลับมา”

“ไม่ต้อง อีกประเดี๋ยวค่อยส่งมาก็ยังไม่สาย” เสียงของเซียงหลัวเซ่อดังขึ้น ทั้งสามคนหันหน้ากลับไปมอง ก่อนจะเห็นเซียงหลัวเซ่อเดินออกมาจากในโถงรับแขก ยืนสองมือไพล่หลังอยู่บนบันไดที่อยู่ใต้ชายคาประตู ใบหน้าดูทรงอำนาจเป็นอย่างมาก

พานหลิงเยวี่ยรู้ว่ามีปัญหาแล้ว ต้องโทษความลังเลไม่เด็ดขาดของตัวเอง ทั้งๆ ที่นึกสงสัยแล้วว่าสวีเฉียนอาจจะมีปัญหา แต่ก็ยังไม่รีบจัดการ

หันมองซ้ายมองขวาดูผู้คุ้มกันที่พากันจ้องเขม็งมาทางนี้ ภายในใจรู้ว่าผู้คุ้มกันแต่ละคนของเซียงหลัวเซ่อล้วนเป็นยอดฝีมือ ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาที่นี่ก็อย่าได้คิดที่จะออกไปอีก จะเรียกคนมาช่วยก็ไม่ทันการเสียแล้ว จึงรีบเดินไปยังด้านล่างบันไดแล้วทำการคารวะทันที “คารวะท่านเสมียนใหญ่ค่ะ”

เซียงหลัวเซ่อไม่อ้อมค้อมแม้แต่น้อย “คุณหนูรอง ครั้งนี้ที่เชิญเธอมา เกรงว่าคงมีเรื่องให้เธอต้องลำบากใจหน่อยนะ”

พานหลิงเยวี่ยตกใจ “ท่านเสมียนใหญ่กล่าวเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรคะ?”

เซียงหลัวเซ่อยกมือขึ้นลูบเคราพลางกล่าวว่า “พานชิ่งถูกขังคุก ขวัญและกำลังใจของหอการค้าตระกูลพานในเวลานี้ระส่ำระสาย เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครก่อความวุ่นวาย ฉันเลยเห็นว่าจำเป็นต้องควบคุมสถานการณ์เอาไว้ ตอนนี้คุณหนูรองทนลำบากใจสักเล็กน้อย เอาไว้พานชิ่งกลับมาแล้ว ฉันจะต้องคืนลูกสาวสุดที่รักให้เขาโดยไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนแน่นอน!” กล่าวจบก็โบกมือเล็กน้อย

มีคนพุ่งตัวเข้ามาทันที คุมตัวพานหลิงเยวี่ยเอาไว้

กูเป่ยและโกวซิงตกใจเป็นอย่างมาก คิดอยากจะพุ่งตัวเข้าไปช่วย แต่ก็ถูกผู้คุ้มกันเข้ามาล้อมเอาไว้ ทั้งสองคนจำเป็นต้องหันหลังชนกัน ตั้งท่าระแวดระวัง

ในกลุ่มคนที่ล้อมเข้ามามีคนตะโกนขึ้นมาว่า “ทำไม พวกแกสองคนคิดจะลงมือที่นี่เหรอ? ท่านเสมียนใหญ่บอกแล้วว่าแค่คุมตัวไว้ชั่วคราวเท่านั้น ถ้าใครกล้าขัดขืน ฆ่าได้ไม่เว้น!”

ทั้งสองคนเหลียวหน้าไปมองพานหลิงเยวี่ยที่ถูกคุมตัวเอาไว้ทันที รู้ว่าไม่อาจช่วยอะไรได้แล้ว จึงจำต้องค่อยๆ วางมือลง ยอมให้อีกฝ่ายกุมตัวไป

มีคนล้อมเข้ามาทันที คุมตัวทั้งสองคนเอาไว้

พานหลิงเยวี่ยที่พยายามดิ้นรนตะโกนด้วยเสียงน้ำเสียงโศกเศร้า “สวีเฉียน ไอเดรัจฉานเลี้ยงไม่เชื่อง! ท่านเสมียนใหญ่ ฉันอยากเจอสวีเฉียน!”

เซียงหลัวเซ่อกล่าว “ตอนนี้อย่าเพิ่งเจอกันจะดีกว่า จะได้ไม่ทะเลาะกันให้เจ็บช้ำน้ำใจ เขายังมีเรื่องต้องจัดการ เธอไปพักผ่อนก่อนเถอะ”

เขาโบกมือเล็กน้อย ทั้งสามคนที่ถูกคุมตัวเอาไว้ถูกพาไปขังไว้ทันที

ในเวลานี้เอง สวีเฉียนถึงจะค่อยๆ เดินออกมาจากด้านในโถงรับแขก สีหน้าคร่ำเคร่ง คำว่า ‘เดรัจฉาน’ ที่พานหลิงเยวี่ยตะโกนออกมา เขาได้ยินมันอย่างชัดเจน

จู่ๆ เรื่องราวก็ดำเนินมาถึงขั้นนี้ นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคิดถึงมาก่อน เขาเงยหน้าแล้วถอนใจออกมายาวๆ

…………………………………………………………………………….

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน