ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 153 ครอบครัวธรรมดา

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 153 ครอบครัวธรรมดา

ในตอนที่รถแล่นมาถึงโรงอีหลิว จางเลี่ยเฉินกำลังเดินไปเดินมาอยู่ตรงหน้าประตูใหญ่ เมื่อเห็นรถแล่นเข้ามา เขาก็กระวีกระวาดไปเปิดประตูใหญ่ด้วยตัวเองทันที

นี่เป็นเพราะได้ยินว่าแฟนสาวของหลินยวนจะมา ความกระตือรือร้นนี้นับเป็นการให้เกียรติในการพบหน้าครั้งแรก

“เขาคือลุงเฉินหรือเพคะ?” ลู่หงเยียนเอ่ยถาม หลังได้รับการยืนยันแล้ว เธอก็มองดูจางเลี่ยเฉินด้วยใบหน้าที่คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม

จางเลี่ยเฉินที่เปิดประตูยืนอยู่ข้างประตูพลางโบกมือ สื่อว่าให้ขับรถเข้ามาได้ นี่เป็นครั้งแรกที่หลินยวนได้รับการบริการแบบนี้จากลุงเฉิน

หลินยวนขับรถเข้ามาจอดไว้ในสวน จางเลี่ยเฉินที่ปิดประตูใหญ่เรียบร้อยหมุนตัวเดินเข้ามายืนอยู่ข้างรถ

หลินยวนลงมาจากรถ ประตูด้านข้างคนขับเองก็เปิดออกเช่นกัน หญิงสาวคนหนึ่งในชุดกระโปรงก้าวลงจากรถ ลู่หงเยียนได้พบหน้าจางเลี่ยเฉิน

จางเลี่ยเฉินยิ้มแย้มพลางเอ่ย “เสี่ยวหลินจึ สาวน้อยคนนี้เป็นใครเหรอ แนะนำหน่อยสิ”

เสี่ยวหลินจึ? ลู่หงเยียนหันไปมองหลินยวน มุมปากแอบอมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นไม่รอให้หลินยวนเอ่ยแนะนำ สะบัดกระโปรงเล็กน้อย ย่อตัวลงคารวะตามธรรมเนียมโบราณ “ลู่หงเยียนคารวะลุงเฉินค่ะ”

“ไอหยา ไม่ต้องมากพิธี ไม่ต้องมากพิธี” จางเลี่ยเฉินรีบยื่นมือไปพยุงพร้อมฉีกยิ้มกว้าง คล้ายได้เจอลูกสะใภ้อย่างไรอย่างนั้น กวาดตามองดูตั้งแต่หัวจรดเท้า ท่าทางพึงพอใจเป็นอย่างมาก

หลินยวนไม่สนใจทั้งสองคน เดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง

จางเลี่ยเฉินถามนั่นถามนี่ลู่หงเยียน จากนั้นเชิญเธอนั่งลง คอยเทชาเทน้ำไม่หยุด

เวลาผ่านไปได้สักพัก จางเลี่ยเฉินถามลู่หงเยียนว่าอยากกินอะไร เขาเตรียมจะไปซื้อกับข้าวมาทำให้กิน เหมือนครั้งนี้เตรียมจะยอมจ่ายเงินเสียหน่อย ไม่ได้ทำแค่โจ๊กธรรมดาๆ อีก

หลินยวนปรากฏตัวขึ้นมาพอดี “ไม่ต้องวุ่นวาย เดี๋ยวผมพาเธอออกไปกินข้างนอก”

จางเลี่ยเฉินกล่าว “ไม่วุ่นวาย ไม่วุ่นวาย ข้างนอกจะไปสบายเท่าในบ้านได้ยังไง”

หลินยวนกล่าว “ผมเพิ่งบอกบ้านตระกูลกวนไปว่าจะไปกินข้าวเย็นที่นั่น” จากนั้นเหลียวหน้าหันมาพูดกับลู่หงเยียนว่า “ไปเถอะ”

ลู่หงเยียนทำได้เพียงหันไปเอ่ยขอโทษกับจางเลี่ยเฉิน จากนั้นเดินตามหลินยวนขึ้นรถไป

ขณะที่เพิ่งจะขึ้นไปนั่งบนรถ ทั้งสองก็อดเหลียวหน้ากลับมามองด้านหลังไม่ได้ พวกเขาเห็นจางเลี่ยเฉินเปิดประตูหลังแล้วขึ้นมานั่งในรถเช่นเดียวกัน

เมื่อเห็นทั้งสองคนจ้องมองตัวเอง จางเลี่ยเฉินพลันถามกลับว่า “ทำไม? หงเยียนมาทั้งที ฉันจะไม่ไปด้วยก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?”

ลู่หงเยียนอมยิ้มขึ้นมา ชื่นชอบท่าทีของลุงเฉินผู้นี้เป็นอย่างมาก รู้สึกเหมือนเขามองเธอเป็นลูกสะใภ้อย่างไรอย่างนั้น

หลินยวนอยากจะพูดว่าก่อนหน้านี้ลุงยังบ่นว่าผมไม่ควรซื้อรถอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไร ขับพาทุกคนออกไปด้วยกัน

…..

ภายในห้องทำงานของผู้ช่วยประธานหอการค้าตระกูลฉิน กวนเสี่ยวชิงเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไป เดินไปตรงหน้าโต๊ะทำงานของไป๋หลิงหลง ลองเอ่ยถามว่า “ผู้ช่วยไป๋คะ วันนี้ฉันขอเลิกงานเร็วหน่อยได้ไหมคะ?”

ไป๋หลิงหลงที่ก้มหน้าจัดการเอกสารเอ่ยว่า “เหตุผล”

กวนเสี่ยวชิงกล่าวว่า “วันนี้ที่บ้านมีแขกมาค่ะ แม่ฉันให้ฉันกลับเร็วหน่อย จะได้ช่วยเก็บกวาดบ้านค่ะ”

นี่มันเหตุผลอะไร? ไป๋หลิงหลงกล่าว “แขกอะไรถึงได้สำคัญขนาดนี้?” ความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดคือสำคัญถึงขนาดทำให้เสียงานได้เลยเหรอ?

กวนเสี่ยวชิงเอ่ยว่า “แฟนของหลินยวนเดินทางมาจากเมืองหลวงแล้วค่ะ เย็นนี้หลินยวนจะพามากินข้าวที่บ้านฉันค่ะ”

เธอเองก็จงใจที่จะให้ไป๋หลิงหลงรู้เช่นกันว่าหลินยวนมีแฟนแล้วจริงๆ จะได้ไม่ต้องมาคอยนั่งถามว่าเธอกับหลินยวนไม่มีอะไรกันใช่ไหม?

ไป๋หลิงหลงเงยหน้าขึ้นมาอย่างมึนงง “แฟนของหลินยวนมาแล้ว?”

กวนเสี่ยวชิงพยักหน้า “ได้ยินแม่บอกว่าเพิ่งมาถึงเมืองปู๋เชวี่ยค่ะ ก่อนหน้านี้หลินยวนเองก็ไม่ได้บอกล่วงหน้า ทำเอาแม่ของฉันหัวหมุนไปหมด เตรียมตัวไม่ทันเลยค่ะ”

ไป๋หลิงหลงเงียบไป จ้องมองเธอพลางเอ่ยอย่างเนิบช้า “เธอก็รู้ว่าสถานะในหอการค้าของหลัวคังอันกับหลินยวนค่อนข้างพิเศษ จะติดต่ออะไรกับคนภายนอกต้องระวังเอาไว้หน่อย เอาแบบนี้แล้วกัน เธอกลับไปก่อน เดี๋ยวพอเจอแฟนของเขาแล้วเธอก็แอบถ่ายรูปแฟนของเขาส่งมาให้ฉันสักสองสามรูป เดี๋ยวทางหอการค้าจะสืบเอง”

“ค่ะ ทราบแล้วค่ะ” กวนเสี่ยวชิงพยักหน้าหงึกๆ

ไป๋หลิงหลงเอ่ย “ไปเถอะ””

“ขอบคุณผู้ช่วยไป๋ค่ะ” กวนเสี่ยวชิงโค้งตัวขอบคุณ จากนั้นเดินออกไป

กระทั่งเธอเดินออกไปแล้ว ไป๋หลิงหลงก็รีบลุกขึ้นมาจากโต๊ะ แต่ขณะที่เพิ่งเดินไปถึงหน้าประตูห้องทำงานของฉินอี๋ เธอก็หยุดชะงักไป มือที่กำลังจะเปิดประตูก็วางลง หมุนตัวเดินกลับมานั่งยังโต๊ะทำงานของตนอย่างเงียบๆ

ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่หอการค้าตระกูลฉินกำลังฟาดฟันกับหอการค้าตระกูลโจวและหอการค้าตระกูลพาน ทุกคนต่างกำลังระมัดระวังเป็นอย่างมาก เป็นช่วงเวลาที่ฉินอี๋ต้องใช้สมาธิอย่างมาก การจะให้ฉินอี๋รู้เรื่องนี้ในเวลานี้เหมือนจะไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไร

ยิ่งไปกว่านั้นฉินอี๋ในเวลานี้ก็ไม่ได้พักผ่อนมาสองวันเต็มแล้ว

และในความเป็นจริงฉินอี๋เองก็แทบจะไม่มีเวลาไปมีความรักเหมือนอย่างชายหญิงทั่วไป โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สำคัญของหอการค้าตระกูลฉินเช่นนี้

…..

ระยะทางที่กวนเสี่ยวชิงกลับบ้านใกล้กว่าพวกหลินยวนมากนัก แล้วก็กลับมาถึงบ้านเร็วกว่าพวกหลินยวน ทันทีที่กลับมาถึงบ้านก็ถูกเถาฮวาเรียกใช้ทำงาน ให้ไปช่วยเก็บกวาดทำความสะอาดบ้าน

กวนเสี่ยวไป๋ถูกไล่ให้ไปซื้อกับข้าว ร้านรับซื้อของเก่าที่อยู่ด้านล่างเหลือคนงานไว้เฝ้าเพียงแค่คนเดียว ส่วนคนงานอีกคนหนึ่งถูกเรียกให้มาช่วยทำความสะอาดบ้าน

เถาฮวาพร่ำบ่นไม่หยุด บ่นว่าหลินยวนทำไมไม่บอกล่วงหน้า บ้านรกแบบนี้จะรับแขกได้อย่างไร?

ความจริงหลินยวนเองก็เจตนาดี เดิมทีไม่อยากให้พวกเขาวุ่นวายอะไรมากนัก นอกจากนี้หลินยวนก็ไม่มีทางเปิดเผยร่องรอยคนของตัวเองล่วงหน้าด้วย

แต่ความหวังดีมักจะได้ผลที่ตรงข้าม เขาเองก็ไม่รู้ว่าตระกูลกวนจะให้ความสำคัญกับเขาขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าจะทำให้ตระกูลกวนวุ่นวายกันทั้งบ้านขนาดนี้

ส่วนตระกูลกวนเองก็หวังดี อยากจะเก็บกวาดบ้านให้สะอาดเพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ขายหน้า และเป็นหน้าเป็นตาให้แก่หลินยวน

ทุกคนหัวหมุนกันอยู่พักหนึ่ง ในตอนที่หลินยวนมาถึง ภายในบ้านก็นับว่าเก็บกวาดไปได้พอสมควรแล้ว

รถแล่นเข้ามา ทันทีที่หลินยวนลงจากรถ พวกเถาฮวาก็มองข้ามเขาไป แล้วก็มองข้ามจางเลี่ยเฉินที่ยิ้มแย้มลงมาจากทางด้านหลังรถอย่างมีความสุขด้วย สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังประตูข้างคนขับที่ค่อยๆ เปิดออก จนกระทั่งได้เห็นลู่หงเยียนที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างสง่างาม

เมื่อได้เห็นใบหน้าของลู่หงเยียน อีกทั้งบุกคลิกท่าทางที่ดูยิ้มแย้มและเป็นกังวล ทุกคนที่ออกมายืนต้อนรับต่างตกตะลึง นึกว่านางฟ้ามาเยือน

“สวยจัง…” คนงานที่อยู่ด้านข้างกล่าวพึมพำขึ้นมา ตาทั้งสองข้างจับจ้องลู่หงเยียนไม่วางตา

“ไปๆๆ ไปเฝ้าร้านของแกไป” เถาฮวาหันหน้ามาไล่เขาทันที

ใช้เสร็จก็โยนทิ้งเลยเหรอ? คนงานพูดไม่ออก ทำได้เพียงเดินออกไปอย่างกระอักกระอ่วน แต่ก็ยังอดใจเหลียวมองดูอยู่เป็นระยะไม่ได้

“คุณป้าครับ นี่ลู่หงเยียนครับ” หลินยวนพาลู่หงเยียนเข้ามาแนะนำให้เถาฮวารู้จัก

ลู่หงเยียนรีบคารวะอย่างอ่อนโยนงดงาม เอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “หงเยียนคารวะคุณป้าค่ะ”

เถาฮวารีบเข้าไปพยุงเธอ ยังคงจ้องมองเธอไม่วางตา สุดท้ายเอ่ยออกมาว่า “เป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ”

ลู่หงเยียนยิ้มหวาน “ก่อนหน้านี้เคยได้ยินหลินยวนพูดถึงคุณป้าบ่อยๆ วันนี้ในที่สุดก็ได้มาพบคุณป้าเสียที” กล่าวจบก็พลิกมือทีหนึ่ง ประคองกล่องของขวัญใบหนึ่งให้เธอ “หนูไม่รู้ว่าคุณป้าชอบอะไร นี่เป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ที่หงเยียนนำมาจากเมืองหลวงค่ะ หวังว่าคุณป้าจะไม่รังเกียจ”

ม่านตาของเถาฮวากับกวนเสี่ยวชิงหดเล็กน้อยทันที เข้าใจแล้ว ที่แท้ไม่ใช่แค่หน้าตางดงามเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้บำเพ็ญเพียรด้วย

“จะรับไว้ได้ยังไง” เถาฮวาปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นหลินยวนพยักหน้า เธอจึงฝืนรับเอาไว้อย่างลำบากใจ

ลู่หงเยียนมองไปยังผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เอ่ยถามว่า “เธอคือกวนเสี่ยวชิงใช่ไหม?”

กวนเสี่ยวชิงรีบพยักหน้า เมื่อยืนเทียบกับลู่หงเยียนแล้ว เธอรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเล็กน้อย เพราะอีกฝ่ายสวยเกินไปจริงๆ อีกทั้งยังมีรูปร่างที่งดงามเช่นนี้ โดยเฉพาะความรู้สึกที่แผ่กระจายออกมาจากกิริยาท่าทางของเธอ สมแล้วที่เป็นลูกสาวของตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง

ลู่หงเยียนพลิกมืออีกทีหนึ่ง ประคองกล่องของขวัญใบหนึ่งส่งให้ “เสี่ยวชิง อันนี้เป็นน้ำใจเล็กน้อย หวังว่าจะไม่รังเกียจ”

หลินยวนที่อยู่ข้างๆ เอ่ยช่วยว่า “คนกันเองทั้งนั้น ไม่ต้องเกรงใจ รับเอาไว้สิ”

กวนเสี่ยวชิงยิ้มพร้อมรับเอากล่องของขวัญไป “ขอบคุณพี่หงเยียนนะคะ”

ลู่หงเยียนเอ่ยว่า “ต่อไปถ้าไปเมืองหลวงต้องไปหาฉันนะ”

“ได้ค่ะ” กวนเสี่ยวชิงตอบยิ้มๆ เธอเองก็นับว่าทำงานอยู่ข้างการผู้บริหารระดับสูงของหอการค้าตระกูลฉินมาได้ระยะหนึ่งแล้ว จึงปรับสภาพจิตใจได้อย่างรวดเร็ว ตอบรับอย่างใจเย็น

จากนั้นเถาฮวาเรียกทุกคนเข้าไปในบ้าน ในเวลานี้ถึงจะสังเกตเห็นจางเลี่ยเฉินที่เดินยิ้มน้อยยิ้มใหญผ่านข้างกายไป จึงเอ่ยอย่างตกใจขึ้นมาทันที “ไอขี้เหนียวแซ่จาง แกมาได้ยังไงเนี่ย?” เธอยังอยากจะถามด้วยว่านี่แกคิดมากินฟรีใช่ไหม

จางเลี่ยเฉินเป่าลมพร้อมถลึงตา เอ่ยว่า “ยัยป้าเถา เธอหมายความว่ายังไง อยากจะทะเลาะกันต่อหน้าหงเยียนใช่ไหม?”

เมื่อเห็นลู่หงเยียนหันหน้ากลับมามอง เถาฮวาพลันฉีกยิ้มออกมาทันที ผลักจางเลี่ยเฉินทีหนึ่ง “เข้าไปๆๆ”

หลังเข้ามาในบ้าน ลู่หงเยียนนั้นค่อนข้างประหลาดใจจริงๆ เธอคิดไม่ถึงว่าข้างกายหลินยวนจะมีคนที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทรุดโทรมขนาดนี้ด้วย

เถาฮวาเอ่ยอย่างอับอายขึ้นมาทันที “ครอบครัวธรรมดาก็แบบนี้แหละ อัตคัดไปหน่อย” ขณะที่กล่าวก็โน้มตัวลงไปใช้แขนเสื้อเช็ดเก้าอี้ตัวหนึ่ง เชิญลู่หงเยียนนั่ง

ความกระทำของเถาฮวาทำให้หลินยวนขมวดคิ้วขึ้นมา พูดอีกอย่างคือไม่ค่อยสบอารมณ์ เพราะการที่เขาพาคนมาทำให้เถาฮวาต้องมีท่าทีน้อยเนื้อต่ำใจเช่นนี้

ลู่หงเยียนสังเกตดูสีหน้าท่าทาง รู้ว่าท่าทีของตนทำให้หลินยวนไม่พอใจ เธอรู้ดีว่าการทำให้หลินยวนโกรธจะมีผลลัพธ์เป็นเช่นไร ความเย็นชาไร้ความรู้สึก ความโหดเหี้ยมที่ไร้ความเมตตานั้นไม่ใช่สิ่งที่เธอจะแบกรับไหว คนก่อนหน้านี้ที่กระทำเรื่องทำนองนี้ตายไปอย่างน่าอนาถ!

เธอรีบทำท่าทางตกใจที่ได้รับความรักความเอ็นดู เอ่ยว่าที่นี่ดีมากแล้ว บอกว่าเมื่อก่อนที่บ้านเคยโยนเธอเข้าไปในทำงานในห้องเก็บของอะไรทำนองนั้น

จากนั้นเถาฮวาและเสี่ยวชิงก็คอยยกชาเติมน้ำต้อนรับแขก

กระทั่งกวนเสี่ยวไป๋หิ้วกับข้าวที่ซื้อมากลับมาแล้ว เถาฮวาและลูกสาวก็รีบรับของแล้วเข้าครัวทันที ให้กวนเสี่ยวไป๋คอยดูแลแขก

ความจริงกวนเสี่ยวไป๋อยากจะให้ไปกินที่ร้านอาหารข้างนอก ไม่จำเป็นต้องยุ่งวุ่นวายขนาดนั้น เขาคุยกับหลินยวนแล้ว แต่หลินยวนบอกว่าไม่จำเป็นต้องทำอะไรเป็นพิเศษ

ถึงแม้กวนเสี่ยวไป๋จะตกตะลึงในความสวยของลู่หงเยียน แต่ก็ไม่ถึงกับเผลอตัวเหมือนอย่างแม่ของตัวเอง เพราะเขาเป็นคนที่ใกล้ชิดกับเรื่องของหลินยวน สายตามองไปยังแหวนสารพัดนึกที่อยู่บนนิ้วของลู่หงเยียน ภายในใจครุ่นคิดว่าอีกฝ่ายเป็นใครกันแน่

หลังสองแม่ลูกเข้าไปในครัว เถาฮวาก็ถอนใจออกมา หลังได้เห็นตัวจริงของลู่หงเยียน เธอก็นับว่าตัดใจได้อย่างเด็ดขาดแล้ว อีกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นชาติตระกูล หน้าตาหรือว่ากิริยามารยาทก็ล้วนแต่ไม่ใช่คนที่ลูกสาวของตนจะไปเทียบได้เลย

ความจริงนับตั้งแต่แวบแรกที่ได้พบลู่หงเยียน สองแม่ลูกต่างก็คิดว่าตนรู้แล้วว่าเหตุใดตอนนั้นหลินยวนถึงปฏิเสธ

ในตอนที่สองแม่ลูกกำลังง่วนอยู่กับงานในห้องครัว ลู่หงเยียนก็มุดเข้ามา ม้วนแขนเสื้อขึ้น บอกว่าอยากจะช่วยงาน

สองแม่ลูกย่อมไม่ยอม คนที่แต่งตัวแบบนี้ไหนเลยจะเหมือนคนที่ทำงานประเภทนี้ได้

แต่ลู่หงเยียนกลับยืนกรานจะช่วยให้ได้ สองแม่ลูกไม่รู้จะทำเช่นไร จึงได้แต่ต้องฝืนรับปาก

ลู่หงเยียนนั้นตั้งใจจะเอาใจพวกเธอจริงๆ แต่จนปัญญาที่ทำอะไรไม่ค่อยเป็นจริงๆ มือไม้ดูงุ่มง่ามไปหมด เพราะในการใช้ชีวิตของเธอที่ผ่านมานั้นไม่จำเป็นต้องทำงานแบบนี้เลย ต่อให้เป็นผู้บำเพ็ญเพียรก็ไม่มีประโยชน์ ทำเอาสองแม่ลูกพากันหัวเราะขบขัน สุดท้ายจนปัญญา ทำได้เพียงช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ คุยเล่นเป็นเพื่อนสองแม่ลูก

ภายนอกเธอเหมือนจะเอาใจสองแม่ลูก แต่ความจริงเธอคิดจะเอาใจหลินยวน เธอนับว่ามองออกแล้วว่าหลินยวนมีความผูกพันกับครอบครัวนี้ มีแต่ตอนอยู่ที่นี่หลินยวนถึงจะมีรอยยิ้มอย่างแท้จริงที่ไม่มีทางได้เห็นในเวลาปกติ

แต่เธอเองก็ไม่รังเกียจงานแบบนี้เช่นเดียวกัน การที่หลินยวนพาเธอมาที่นี่ทำให้เธอรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการที่เธอได้ฟังเรื่องราวในอดีตของหลินยวนจากปากเถาฮวา เธอรู้สึกสนใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ตามกฎแล้วเรื่องราวในอดีตของหลินยวนคือสิ่งที่เธอไม่ควรถาม แต่เธอไม่อาจห้ามไม่ให้เถาฮวาเล่าออกมาได้

หลังทำอาหารเสร็จเรียบร้อย ลู่หงเยียนก็ยกอาหารออกมาพร้อมรอยยิ้มมีความสุข

สุดท้ายทุกคนก็นั่งล้อมวงทานอาหารเสมือนครอบครัวเดียวกัน บนโต๊ะอาหารอบอวลไปด้วยความสุข ลู่หงเยียนที่นั่งอยู่ข้างเถาฮวาพยายามเอาใจเถาฮวาไม่หยุด ทำเอาเถาฮวามีความสุขเป็นอย่างมาก

…..

ภายในรถที่กลับมาถึงคฤหาสน์ตระกูลฉิน ไป๋หลิงหลงที่นั่งอยู่ข้างคนขับหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมา เธอได้รับรูปที่กวนเสี่ยวชิงส่งมาให้ หลังเห็นรูปก็เหลียวหน้ากลับไปมองดูฉินอี๋ที่นั่งอยู่ด้านหลังเล็กน้อย เห็นว่าฉินอี๋กำลังมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง คล้ายกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ จึงเก็บโทรศัพท์มือถือไปอย่างเงียบๆ

………………………………………………………….

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน