ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 215 ใจที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 215 ใจที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เป็นผู้หญิงที่สวยมาก! จูลี่ลอบชื่นชมในใจ

จิ้นเซียวเองก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นภาพอะไรแบบนี้

หลินยวนดูเคอะเขินขึ้นมาเล็กน้อยอย่างที่ยากจะเห็นได้ในเวลาปกติ เขากระแอมเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “รองประธานมาหรือยัง?”

ลู่หงเยียนกล่าว “รองประธานบอกว่ามีธุระนิดหน่อย ให้คุณพาคนไปรอที่แผนกโฆษณาก่อน เดี๋ยวเขาจะรีบตามไปค่ะ”

หลินยวนรีบเอ่ยขอโทษจูลี่ทันที “คุณจูลี่ อาจจะต้องรอท่านรองประธานสักครู่ รบกวนรอก่อนนะครับ”

จูลี่พยักหน้าพลางยิ้มเล็กน้อย “ได้ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ทราบว่าคุณคนนี้คือ…” สายตากลับยังคงสำรวจดูลู่หงเยียน คล้ายอยากจะให้หลินยวนแนะนำเสียหน่อย

แต่หลินยวนกลับทำเหมือนฟังไม่เข้าใจ ผายมือเชิญจูลี่อีกครั้ง จูลี่กระอักกระอ่วนเล็กน้อย ได้แต่ต้องเดินตามเขาไปพร้อมกับจิ้นเซียว

ส่วนหลินยวนกับลู่หงเยียนก็ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น สีหน้าท่าทางดูจริงจัง

แต่จูลี่ที่คอยสังเกตดูทั้งสองคนกลับกำลังแอบวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในใจอย่างเงียบๆ ในสายตาที่จ้องมองไปทางหลินยวนแฝงไว้ด้วยความรู้สึกเย้ยหยัน ปกติดูเหมือนเป็นคนจริงจังไม่พูดไม่จา คิดไม่ถึงว่าจะมาโอบกอดกับผู้หญิงในสำนักงานใหญ่ของหอการค้าตระกูลฉินด้วย คิดไม่ถึงว่าจะเป็นพวกมั่วไม่เลือกที่เหมือนหลัวคังอันที่เข้าไปทำเรื่องสกปรกในเทพมหาวิญญาณเลย นิสัยเหมือนกันก็อยู่ด้วยกันได้จริงๆ

ทั้งกลุ่มอยู่ห่างจากประตูของแผนกโฆษณาไม่ไกล ไม่นานก็เข้าไปในแผนก เมื่อเห็นจูลี่ที่ทำงานร่วมงานมาเป็นเวลานานเดินเข้ามาที่แผนก พนักงานที่กำลังทำงานอยู่ด้านในก็พากันเอ่ยทักทาย

จูลี่เองก็คุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างมากเช่นกัน เรียกได้ว่ารู้จักกับพนักงานในแผนกแทบจะทั้งหมด เธอเองก็โบกมือทักทายทุกคนเช่นเดียวกัน

เมื่อเห็นว่ามีคนจำนวนไม่น้อยอยู่ที่นี่ จิ้นเซียวก็วางใจลงไม่น้อย มีคนทำงานอยู่เยอะแยะแบบนี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น

หลินยวนหาที่นั่งว่างๆ ในแผนก เชิญจูลี่กับจิ้นเซียวนั่งรอก่อน จากนั้นหันไปสั่งกำชับพนักงานในแผนกเล็กน้อย ให้ไปยกน้ำชามาให้ทั้งสองคน ก่อนจะเอ่ยกับทั้งสองคนอย่างเกรงใจว่า “รบกวนทั้งสองท่านรอก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะไปแจ้งท่านรองประธานให้ว่าทั้งสองท่านมาแล้ว ดูว่าท่านรองประธานกำลังติดธุระอะไรอยู่”

จูลี่พบว่าคนผู้นี้แสดงความขันแข็งในการทำงานออกมาได้ไม่เลวทีเดียว จึงยิ้มพลางกล่าวว่า “ได้ค่ะ” สายตามองดูหลินยวนเดินจากไป

ไม่ว่าหลินยวนจะแสดงได้เหมือนแค่ไหน ไม่ว่าหลัวคังอันจะเป็นลูกศิษย์ของหลงซืออวี่หรือไม่ สรุปแล้วคือเธอยังคงรู้สึกสงสัย

จุดที่จิ้นเซียวรู้สึกสงสัยคือเรื่องที่คนที่ลงมือในคืนนั้นถามหากล้องวงจรปิด จูลี่ยังไม่รู้เรื่องนี้ รวมไปถึงเรื่องที่เขาประมือกับคนผู้นั้นในคืนนั้นด้วย จิ้นเซียวล้วนแต่ไม่ได้บอกเธอ เพราะกลัวเธอจะตกใจและหวาดกลัว แล้วก็กลัวว่าผู้หญิงที่เรื่องมากคนนี้จะไปก่อปัญหาอะไรที่ไม่จำเป็นเพิ่มขึ้นมา

ถึงแม้จูลี่จะไม่รู้เรื่องเหล่านี้ แต่เธอก็มีลางสังหรณ์ของเธอ แล้วก็มีเหตุผลของเธออยู่ ก็เหมือนอย่างที่เธอเพิ่งจะถามหลินยวนไปเมื่อครู่นี้ว่าชอบเทพธิดาคนไหน

เธอมีความมั่นใจของเธออยู่ว่าหลินยวนจะต้องรู้จักกับเทพธิดาอาเหิงอย่างแน่นอน แต่ทั้งสองคนเพียงแค่ทำเป็นไม่รู้จักกัน

เพราะว่าอาเหิงนั้นเป็นหนึ่งในเทพธิดาระดับสูงสุดของดินแดนเซียน นักเรียนของหลิงซานที่เรียนมาสามร้อยปีก็ยังเรียนไม่จบ แล้วตอนนี้ยังมาทำงานเป็นลูกกระจ๊อกให้คนอื่นอยู่ที่นี่ ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นเทพธิดาที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของดินแดนเซียน การที่ทั้งสองคนนี้มีความสัมพันธ์กันได้มันก็เป็นเรื่องที่น่าสงสัยแล้ว!

ในสายตาของเธอ เรื่องที่น่าสงสัยเช่นนี้แม้นจะไม่มีหลักฐาน แต่เธอก็เชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง!

แต่ความสนใจของเธอในเวลานี้อยู่ที่ตัวอีกคนหนึ่ง ความสนใจของเธออยู่ที่ตัวลู่หงเยียน ไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ดูสวยงามและเด่นสะดุดตาเช่นนี้เป็นใคร ทำไมผู้หญิงที่หน้าตางดงามเช่นนี้ถึงมาโอบกอดอยู่กับหลินยวนได้?

สัญชาตญาณของเธอบอกเธอว่า บางทีผู้หญิงคนนี้อาจจะเป็นกุญแจที่ใช้เปิดประตูแห่งความลับของหลินยวนบานนั้นก็เป็นได้

“ฉันไปห้องน้ำหน่อยนะคะ” ลู่หงเยียนที่นั่งพูดคุยอยู่กับพนักงานผู้หญิงคนหนึ่งของแผนกโฆษณาลุกขึ้นยืน แสดงความต้องการว่าจะไปเข้าห้องน้ำเล็กน้อย

ห่างจากตรงนี้ออกไปไม่ไกล จูลี่ที่คอยสังเกตดูอากัปกิริยาของลู่หงเยียนได้ยินเช่นนี้เข้า สายตามองตามลู่หงเยียนที่เดินออกไป เธอเองก็ลุกขึ้นยืนทันที เอ่ยกับจิ้นเซียวว่า “เดี๋ยวฉันไปห้องน้ำหน่อย”

จิ้นเซียวที่นั่งอยู่ไม่พูดอะไร เขาย่อมต้องเห็นว่าจูลี่กำลังจับตาดูลู่หงเยียนอยู่ แล้วก็คอยระวังสาวสวยคนนี้อยู่เช่นกัน อีกฝ่ายดูไม่คล้ายพนักงานของหอการค้าตระกูลฉิน แล้วก็ย่อมต้องได้ยินว่าลู่หงเยียนจะไปไหน

ผลปรากฏว่าลู่หงเยียนจะไปห้องน้ำ ผู้หญิงคนนี้ก็ลุกขึ้นแล้วจะไปห้องน้ำเช่นกัน

หลังติดตามจูลี่มานานขนาดนี้ มีหรือที่เขาจะไม่รู้ว่าจูลี่เป็นคนยังไง ไหนเลยจะไปเข้าห้องน้ำอะไรนั่น เห็นๆ อยู่ว่าในใจเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้ นี่จะตามไปสำรวจดูอีกแล้ว

นี่เรียกว่าโรคบ้าอะไรเนี่ย? จิ้นเซียวรู้สึกเหนื่อยใจ ลุกขึ้นตามไปเช่นกัน

ลู่หงเยียนที่เดินออกมามองดูกระจกบานหนึ่งที่ติดอยู่บนกำแพง มองเห็นจูลี่ที่เดินตามมาข้างหลัง มุมปากอดยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้

ตามมาจริงๆ ด้วย! ก่อนหน้านี้ตอนที่หลินยวนบอกแผนการกับเธอ เขาบอกว่าผู้หญิงคนนี้มีความอยากรู้อยากเห็นที่รุนแรงเป็นอย่างมาก เธอยังนึกกังวลว่าแผนการจะไม่สำเร็จ ตอนนี้ดูแล้วเหมือนจะเป็นอย่างที่ท่านอ๋องว่าไว้จริงๆ ไม่ผิดแม้แต่นิดเดียว เพียงแค่การกอดอย่างมีลับลมคมในเพียงครั้งเดียวก็ทำให้อีกฝ่ายติดกับได้แล้ว คิดไม่ถึงว่าจะตามมาจริงๆ

ดูเหมือนแผนสำรองที่เตรียมเอาไว้คงไม่ต้องใช้แล้ว

จูลี่ที่เดินตามมาถึงตำแหน่งนี้ก็มองเห็นคนที่เดินตามหลังตัวเองมาในกระจกเช่นกัน จึงหยุดฝีเท้าแล้วหมุนตัวกลับไป จ้องมองจิ้นเซียวที่เดินตามหลังเข้ามา ทำท่าเหมือนเหนื่อยใจ “นายไม่ได้ยินเหรอว่าฉันจะไปไหน? ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ เรื่องแค่นี้นายก็จะตามมาด้วยอย่างนั้นเหรอ?”

จิ้นเซียวกล่าว “กลัวคุณไม่ปลอดภัย”

จูลี่ยกมือตบหน้าผากตัวเอง ท่าทีดูจนปัญญาเป็นอย่างมาก แต่เรื่องแบบนี้คล้ายจะเป็นเรื่องปกติ ตอนที่อยู่ในปู๋เชวี่ยวิดีโอ เจ้าหมอนี่ก็ทำแบบนี้เหมือนกัน ตัวเองไปเข้าห้องน้ำ เจ้าหมอนี่ก็มาเฝ้าอยู่ตรงหน้าประตูห้องน้ำ ดูแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก

พูดยังไงก็ไม่ฟัง แต่พอผ่านไปพักหนึ่งเธอก็รู้สึกเคยชินไปเช่นกัน

เธอขยับเข้าไปหาเขาก้าวหนึ่ง เอ่ยกระซิบว่า “ที่นี่ไม่ใช่สถานีของพวกเรา ที่นี่คือสำนักงานใหญ่ของหอการค้าตระกูลฉิน เป็นสถานที่ของคนอื่น นายเป็นผู้ชายมายืนเฝ้าอยู่หน้าห้องน้ำหญิงแบบนี้ นายจะให้คนอื่นที่เดินเข้าๆ ออกๆ เขามองยังไง? นายไม่อาย แต่ฉันอาย กลับไป ห้ามตามมาอีก!” กล่าวจบก็หมุนตัวเดินออกไป แต่ขณะที่เพิ่งจะเดินออกไปได้ไม่กี่ก้าว เธอก็หมุนตัวกลับมาชี้จิ้นเซียวที่ยังคงเดินตามมาแล้วเอ่ยเตือนว่า “ห้ามตามมา ไม่อย่างนั้นอย่ามาโทษถ้าฉันไล่นายกลับไปที่สถานี”

จิ้นเซียวยืนนิ่งอยู่กับที่

จูลี่ถึงจะก้าวอาดๆ ออกไป ยิ่งไปกว่านั้นยังเร่งความเร็วฝีเท้าขึ้นเล็กน้อยด้วย

ทว่าจิ้นเซียวไม่ได้เดินกลับไป กระทั่งเธอเลี้ยวพ้นตรงหัวมุมไปแล้ว เขาก็เดินตามขึ้นไปอีกครั้ง เดินไปถึงตรงหัวมุมแล้วฟังเสียง พอมั่นใจว่าจูลี่เข้าห้องน้ำไปแล้ว เขาถึงจะปรากฏตัวขึ้น เดินไปเฝ้าอยู่ตรงหน้าประตูห้องน้ำ

หากไม่เป็นเพราะสถานที่แบบนี้ไม่สะดวกให้ผู้ชายเข้าไป หากไม่เป็นเพราะเรื่องแบบนี้ไม่สะดวกที่จะไปจ้องมอง เขาก็คงจะเข้าไปดูจูลี่เข้าห้องน้ำแล้ว

สภาพแวดล้อมของที่นี่ค่อนข้างแปลกหน้า ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของเขา อีกทั้งเนื่องจากความหวาดระแวงที่มีต่อหลินยวนและหลัวคังอัน เขาจึงอยากจะจับตาดูทุกๆ ความเคลื่อนไหวของจูลี่ถึงจะรู้สึกวางใจได้

หลักการที่ว่า ‘ชายหญิงต่างกัน’ เป็นเหมือนกำแพงแห่งกฎเกณฑ์อันสูงใหญ่ที่มองไม่เห็นที่ขวางกั้นเขาเอาไว้ด้านนอกประตู ทำให้เขาไม่กล้าย่างเท้าเข้าไป

ภายในห้องน้ำ ลู่หงเยียนกำลังจัดการตัวเองอยู่ตรงหน้ากระจกที่ล้างมือ

จูลี่เดินเข้ามา เมื่อเห็นลู่หงเยียน เธอก็เดินไปตรงอ่างล้างหน้าที่อยู่ข้างอีกฝ่าย ล้างมือไปพลาง ยิ้มทักทายลู่หงเยียนที่อยู่ในกระจกไปพลาง กล่าวว่า “สวัสดีค่ะ”

ลู่หงเยียนเองก็ยิ้มตอบ “สวัสดีค่ะ”

จูลี่กล่าว “คุณสวยจริงๆ เลยนะคะ”

ไม่ว่าจะเอ่ยชมด้วยใจจริงหรือไม่ ผู้หญิงก็ล้วนแต่ชอบฟัง ลู่หงเยียนยิ้มหวานพลางกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ”

จูลี่เปิดน้ำล้างมือ “ฉันสนิทกับคนในแผนกโฆษณาของหอการค้าตระกูลฉิน แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นคุณเลย คุณไม่ใช่พนักงานของแผนกโฆษณาหรือคะ?”

ลู่หงเยียนกล่าว “ไม่ใช่ค่ะ ฉันเพิ่งจะมาที่เมืองปู๋เชวี่ยได้ไม่นาน วันนี้ไม่มีอะไรทำ ก็เลยแวะมาหาหลินยวนน่ะค่ะ”

จูลี่ร้องอ้อ “ฉันกับหลินยวนเป็นเพื่อนกัน ทำไมเมื่อก่อนฉันไม่เคยเห็นคุณเลยล่ะค่ะ ไม่ทราบว่าคุณกับหลินยวนเป็น…?”

ลู่หงเยียนกล่าว “ฉันเป็นแฟนของหลินยวนน่ะค่ะ ฉันเคยได้ยินหลินยวนเอ่ยถึงคุณ ผู้อำนวยการของปู๋เชวี่ยวิดีโอ อายุยังน้อยอยู่เลย แต่มีความสามารถจริงๆ เลยนะคะ”

แฟน? เป็นแฟนของหลินยวนอย่างนั้นเหรอเนี่ย? จูลี่รู้สึกประหลาดใจ แล้วก็เข้าใจทันที มิน่าถึงมาโอบกอดกันอยู่ในหอการค้าตระกูลฉินได้ ที่แท้ก็ไม่ได้เป็นคนที่ทำงานอยู่ในหอการค้าตระกูลฉิน จูลี่ยิ้มขึ้นมาทันที “ฉันรู้จักเขามานานขนาดนี้ ไม่รู้จริงๆ นะคะว่าเขามีแฟนด้วย ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรหรือคะ เป็นคนที่ไหนหรือคะ?”

ลู่หงเยียนกล่าว “ลู่หงเยียนค่ะ ลู่ที่แปลว่าแผ่นดิน หงที่แปลว่าดอกไม้สีแดง เยียนที่แปลว่างดงาม เป็นคนเมืองหลวง ฉันเองก็เพิ่งมาที่เมืองปู๋เชวี่ยเป็นครั้งแรก เมื่อก่อนไม่เคยเจอกัน คุณจูลี่ไม่รู้จักฉันก็ไม่แปลกหรอกค่ะ”

จูลี่ร้องไอหยา ท่าทางดูดีใจเป็นอย่างมาก “บังเอิญจังเลยค่ะ ฉันเองก็ทำงานอยู่ที่สถานีออกอากาศของเมืองหลวงอยู่หลายปี วิ่งไปตามที่ต่างๆ ในเมืองหลวงอยู่บ่อยๆ ก็ถือว่าคุ้นเคยกับเมืองหลวงอยู่เหมือนกัน ไม่ทราบว่าคุณลู่เป็นคนที่ไหนของเมืองหลวงหรือคะ?”

เมื่อสบโอกาส คำถามก็เรียกได้ว่าพรั่งพรูออกมาจากปากของเธอไม่หยุด แต่ว่าเดิมทีนี่ก็เป็นความเคยชินในอาชีพของเธออยู่แล้ว การที่เธอจงใจมาเข้าห้องน้ำก็เพื่อจะมาสืบหาข้อมูลไม่ใช่เหรอ ด้วยคิดที่จะหาช่องทางเข้าไปไขความลับของหลินยวน

ช่วยไม่ได้ เธอเคยจับตาดูหลินยวน พบว่าการใช้ชีวิตของหลินยวนมีความเป็นกฎเกณฑ์ แล้วก็มีความตายตัวอย่างมาก แทบจะทำทุกๆ อย่างเหมือนเดิมทุกวัน เวลาที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์เหล่านั้นเธอก็มองไม่เห็น จึงไม่รู้ว่าควรจะเริ่มลงมือจากตรงไหน

ลู่หงเยียนกลับอ่อนโยนว่างาย อีกฝ่ายถามมาก็ตอบไป “หอการค้าตระกูลลู่ที่อยู่ทางใต้ของเมืองค่ะ”

จูลี่ครุ่นคิดเล็กน้อย “หอการค้าตระกูลลู่ที่อยู่ทางใต้….หอการค้าตระกูลลู่ที่ดูแลเรื่องการขนส่งสินค้าน่ะหรือคะ?”

ลู่หงเยียนตอบ “ใช่ค่ะ”

จูลี่เอ่ยถามด้วยความสงสัย “คุณเองก็แซ่ลู่ เป็นคนครอบครัวเดียวกับประธานของหอการค้าตระกูลลู่หรือคะ?”

ลู่หงเยียนกล่าว “เป็นพ่อฉันค่ะ”

จูลี่มึนงงไปเล็กน้อย ครั้งนี้เรียกได้ว่าค่อนข้างประหลาดใจจริงๆ การเงินของหอการค้าตระกูลลู่อาจจะอยู่แค่ในระดับล่างของเมืองหลวง แต่ก็ถือว่าเป็นมหาเศรษฐีแล้ว ขนาดของหอการค้าเมื่อเทียบกับหอการค้าตระกูลฉินตอนที่ยังไม่สามารถเอาชนะการประมูลได้ บางทีอาจจะเล็กกว่าไม่เท่าไร ผู้หญิงคนนี้ถือได้ว่าเป็นลูกมหาเศรษฐีอย่างแท้จริง

แต่ผู้หญิงแบบนี้กลับมาเป็นแฟนของหลินยวนที่เรียนที่หลิงซานมาสามร้อยปีก็ยังเรียนไม่จบ ทั้งยังถ่อมาหาหลินยวนถึงที่นี่ นี่ถือว่าเป็นจุดที่น่าสงสัยหรือเปล่า? เธอเอ่ยด้วยความประหลาดใจอย่างมากว่า “คุณกับหลินยวนรู้จักกันที่เมืองหลวงหรือคะ?”

ลู่หงเยียนตอบว่า “รู้จักกันตอนที่เขาเรียนอยู่ที่หลิงซานค่ะ”

“อย่างนั้นก็ถือเป็นพรหมลิขิตจริงๆ เลยนะคะ” จูลี่เอ่ยเอาใจ ก่อนจะถามอีกว่า “ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณลู่พักอยู่ที่ไหนหรือคะ?” จากนั้นกล่าวอธิบายว่า “เมืองปู๋เชวี่ยนี่ฉันก็ถือว่าคุ้นเคยอยู่เหมือนกัน คนรู้จักก็มีอยู่ไม่น้อย รู้จักสถานที่สนุกๆ หลายที่ ถ้ามีเวลาว่าง หากคุณลู่ไม่รังเกียจล่ะก็ พวกเราไปเที่ยวกันบ่อยๆ ได้นะคะ”

เธอมีความคิดที่อยากจะไปมาหาสู่กับอีกฝ่ายบ่อยๆ จริงๆ ยังคงเป็นเหตุผลนั้น เธออยากจะใช้ผู้หญิงแซ่ลู่คนนี้เป็นกุญแจไขความลับของหลินยวน

ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีโอกาสแบบนี้ เธอไม่อยากปล่อยให้โอกาสหลุดมือไปง่ายๆ

ลู่หงเยียนเอ่ยอย่างเขินอายเล็กน้อย “หลินยวนอยู่ที่ไหน ฉันก็อยู่ที่นั่นนั่นแหละค่ะ”

จูลี่ลองถาม “โรงอีหลิวหรือคะ?”

“อื้อ” ลู่หงเยียนพยักหน้า

“อย่างนั้นเอาไว้ว่างๆ ฉันไปหาคุณนะคะ”

“ได้ค่ะ”

ขณะที่เพิ่งกล่าวจบ โทรศัพท์มือถือของลู่หงเยียนก็ดังขึ้นมา เธอหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย ฟังปลายสายถามมา จากนั้นส่งเสียง ‘อื้อ’ ก่อน แล้วถึงจะเอ่ยว่า “คุณจูลี่อยู่กับฉันนี่แหละ…อื้อ ได้ เดี๋ยวฉันบอกเธอให้”

หลังวางสายไป เธอก็กล่าวกับจูลี่ว่า “หลินยวนโทรมาค่ะ เขาบอกว่าเขากำลังหาคุณอยู่ เขาบอกสถานที่ฉันมา บอกให้ฉันพาคุณไปหารองประธานหลัวค่ะ”

…………………………………………………..

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน