ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 247 มาแล้ว มาจริงๆ ด้วย!

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 247 มาแล้ว มาจริงๆ ด้วย!

ไหนบอกว่าไม่มีของดีอะไรไง? หลังคังอันแอบกระแนะกระแหนเธอลับหลัง แล้วยังด่าเธอไปทีหนึ่งด้วย ทำไมถึงมาอีกแล้วล่ะ?

ไม่ว่าจะเป็นหลัวคังอันหรือว่าหลินยวน ก็ล้วนแต่มองไปยังหญิงชราที่เด็กสาวพาเข้ามาผู้นั้น

ในมือถือไม้เท้า ผมขาวเหมือนดอกเลา ร่างกายกลับถือว่ายังแข็งแรง ผ้าตาข่ายสีดำสองแถบห้อยปรกลงมาตรงสองข้ามแก้ม แกว่งไกวไปมาเบาๆ หลังเข้ามาในร้านก็หันมองซ้ายมองขวา

หลัวคังอันส่งเสียง ‘เอ๋’ ประหลาดใจ กล่าวกลับเด็กสาวคนนั้นว่า “ทำไมคุณกลับมาอีกแล้วล่ะ?”

เด็กสาวเชิดหน้าด้วยท่าทีเย่อหยิ่งเล็กน้อย “ทำไม? ไม่ต้อนรับลูกค้าที่กลับมาใช้บริการใหม่เหรอ?”

“ลูกค้าที่กลับมาใช้บริการใหม่?” หลัวคังอันกวาดตามองดูเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาบ่งบอกออกมาว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เธอเนี่ยนะลูกค้าที่กลับมาใช้บริการใหม่?

หญิงชราคนนั้นมองดูท่าทีของเด็กสาวที่อยู่ข้างกายกับหลัวคังอัน พอจะคาดเดาได้ถึงอะไรบางอย่าง จึงเอ่ยออกไปว่า “นี่คุณกำลังไล่ลูกค้าเหรอ?”

สองมือของหลัวคังอันล้วงเข้าไปในแขนเสื้อซ้ายขวา “เปล่าครับ” ก่อนจะเบี่ยงตัวหลีกทางให้ ท่าทางเหมือนจะบอกว่าอยากซื้อก็ซื้อ ไม่ซื้อก็แล้วแต่

หญิงชราเดินยันไม้เท้าเข้าไปในร้าน ในตอนที่เดินผ่านหลัวคังอัน เธอหันหน้าไปทางหลัวคังอันเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าดมกลิ่นที่อยู่บนร่างของหลัวคังอันไปทีหนึ่ง หลังเดินผ่านหลัวคังอันไปก็เดินดูเครื่องหอมต่างๆ ภายในร้านโดยมีเด็กสาวคอยเดินอยู่เคียงข้าง

แต่ท่าทางการสูดดมเพียงเล็กน้อยของเธอในครั้งนี้ได้ทำให้หลัวคังอันหันหน้ากลับไปทันที สบตาเข้ากับหลินยวน

ก่อนหน้านี้ตอนที่หลินยวนให้เขาแต้มน้ำหอมลงไปบนตัวเองทุกๆ หนึ่งชั่วยาม อีกฝ่ายก็ได้แอบบอกเขาเอาไว้แล้วว่าถ้าเป็นคนที่ถูกกลิ่นหอมนี้ดึงดูดมาที่ร้าน หลังเข้ามาในร้านและได้กลิ่นบนตัวของเขาก็จะต้องมีการตอบสนองอย่างแน่นอน

ปฏิกิริยาของหญิงชราคล้ายไปสะกิดถูกสายกับดักที่ทั้งสองคนตั้งใจวางขึ้นมาเป็นอย่างดี ทำให้ทั้งสองคนตื่นตัวขึ้นมาทันที

หลินยวนส่งสายตาเล็กน้อย หลัวคังอันคอยเดินตามทั้งสองคนที่กำลังดูเครื่องหอมอยู่ภายในร้านอย่างช้าๆ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่เดินตามหลังอย่างช้าๆ เท่านั้น

ความจริงเด็กสาวเองก็กำลังเดินตามหญิงชรา ท่าทางเหมือนกำลังดูของภายในร้านเป็นเพื่อน หญิงชราที่เดินกลับไปกลับมาหยิบเอาเครื่องหอมต่างๆ ขึ้นมาดู แล้วก็ก้มหน้าดมๆ ดูอยู่เป็นพักๆ แต่กลับส่ายหน้าออกมาเล็กน้อยอยู่เป็นระยะ

ความเคลื่อนไหวของเธอทำให้หลินยวนและหลัวคังอันที่กำลังแอบลุ้นรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะว่าไม่ได้มีท่าทางการดมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ที่หลินยวนว่าเอาไว้แบบนั้นปรากฏออกมา

หลังเดินจนครบหนึ่งรอบ สุดท้ายหญิงชราก็หมุนตัวทำท่าว่าจะเดินออกจากร้าน คล้ายไม่ถูกใจเครื่องหอมภายในร้าน แต่ขณะที่เดินผ่านข้างกายหลัวคังอัน เธอก็หยุดฝีเท้าแล้วดมกลิ่นที่อยู่บนตัวเขาอีกครั้งหนึ่ง สายตาจ้องมองไปที่หลัวคังอัน ก่อนจะหมุนตัวมองไปทางหลินยวนที่อยู่ด้านหลังโต๊ะเก็บเงินอีกครั้ง “เถ้าแก่ ที่นี่ยังมีเครื่องหอมที่ดีกว่านี้ยังไม่ได้เอาออกมาวางขายใช่หรือเปล่า?”

หลัวคังอันมองไปทางหลินยวน

หลินยวนที่อยู่ด้านหลังโต๊ะเก็บเงินตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเฉยชา “มีน่ะมี แต่ว่าราคามันค่อนข้างสูง”

หญิงชราร้องอ้อ เดินค้ำไม้เท้าตรงมายังหน้าโต๊ะเก็บเงินอย่างช้าๆ เมื่อเข้าไปใกล้แล้วจึงถามว่า “ถ้าไม่เอาออกมาให้ลูกค้าดู แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าลูกค้าซื้อไหวหรือเปล่า? ทำการค้าแบบนี้มันใช้ได้ซะที่ไหน”

หลินยวนกล่าว “คุณยาย ของที่เอาออกมาวางไม่แน่ว่าจะเป็นของที่ต้องการขาย ที่นี่คือเมืองหมอก ของบางอย่างขายแต่เฉพาะคนที่รู้เรื่องเท่านั้น เรื่องนี้คิดว่าผมคงไม่ต้องพูดมาก”

หญิงชรากล่าว “เอาของออกมาให้ฉันชมหน่อยได้ไหม?”

“ไม่มีปัญหา” หลินยวนพยักหน้า หยิบเอาน้ำหอม ผงหอมและครีมหอมชนิดต่างๆ ออกมาจากในแหวนสารพัด วางเรียงเป็นแถว ผายมือสื่อว่าเชิญดู

หญิงชรายื่นไม้เท้าส่งให้เด็กหญิงที่อยู่ข้างๆ เด็กหญิงที่รับเอาไม้เท้าเอาไว้มองดูสินค้าที่หลินยวนเพิ่งเอาออกมาวางเรียงด้วยความอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน

หญิงชราหยิบเอาครีมหอมที่บรรจุอยู่ในกระปุกขึ้นมาดูก่อน บิดฝาออก เห็นด้านในเป็นครีมสีชมพู จากนั้นก้มหน้าดมดู แต่ดมแค่เพียงนิดเดียวก็เงยหน้าขึ้นมา หยุดชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าลงไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับเบือนหน้าไปทางซ้ายเล็กน้อยแล้วดมอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นเบือนหน้าไปทางขวาแล้วดมอีกครั้งหนึ่ง สุดท้ายเงยหน้าขึ้นมา คล้ายสูดดมกลิ่นหอมเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น หรี่ตาหวนนึกถึงกลิ่นนั้น ท่าทางดูคล้ายเพลิดเพลินดื่มด่ำ

เพียงแค่เห็นภาพนี้ หลัวคังอันที่ยืนมองอยู่ข้างๆ ก็ใจเต้นระรัวขึ้นมา ภายในใจส่งเสียงตะโกนด้วยความคุ้มคลั่ง มาแล้ว มาแล้ว มาจริงๆ ด้วย!

ก่อนหน้านี้เขายังนึกสงสัยอยู่ว่าสิ่งที่หลินยวนพูดมาเป็นความจริงหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อรออยู่ตั้งนานก็ยังไม่เห็นเป้าหมายปรากฏตัวขึ้นมา ตอนนี้เมื่อได้เห็นกับตาตัวเองแล้ว เขาถึงได้รู้ว่ามีคนที่มีนิสัยชอบดมกลิ่นหอมแบบนี้อยู่จริงๆ ถึงแม้มันจะคลาดเคลื่อนไปจากที่บรรยายเอาไว้บ้าง แต่เขาก็มั่นใจว่ามันต้องเป็นท่าทางเช่นนี้อย่างแน่นอน

เขามองไปทางหลินยวน คิดอยากจะเตือน แต่เมื่อเห็นท่าทางสุขุมเยือกเย็นของหลินยวนแล้ว ภายในใจก็รู้ตัวขึ้นมา คิดว่าไม่จำเป็นต้องเตือนอีกฝ่าย แล้วก็รีบทำให้ตัวเองใจเย็นลง เพื่อจะได้ไม่เผยพิรุธอะไรออกมา

เหตุผลนั้นง่ายมาก อีกฝ่ายอยู่ตรงหน้าหลินยวนแล้ว อีกฝ่ายทำท่าทางเช่นนี้ออกมา ขอเพียงหลินยวนไม่ใช่คนตาบอด เขาก็ไม่มีทางที่จะมองไม่ออก หลินยวนจะต้องรู้แล้วอย่างแน่นอน เขาใจเย็นกว่าตัวเองมากนัก!

ถูกต้อง หลินยวนที่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยรู้ว่าในที่สุดเป้าหมายที่รอคอยก็ปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว ขอเพียงข้อมูลที่ผู้อาวุโสรุ่นก่อนให้มาไม่ผิดพลาด เช่นนั้นหญิงชราที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ก็น่าจะเป็นคนที่เขาต้องการตามหา

ในเวลานี้เอง เขารู้ว่าทิศทางการวางแผนของตนเองก่อนหน้านี้ผิดพลาดไปเล็กน้อย ไม่ใช่ว่ากลิ่นหอมอะไรก็ได้จะทำให้คนผู้นี้ถูกใจได้ ต่อให้ก่อนหน้านี้คนผู้นี้เคยเข้ามาในร้านเครื่องหอม แต่ถ้าไม่มีเครื่องหอมที่ถูกใจ อีกฝ่ายก็ไม่มีทางเผยความเคลื่อนไหวตามความเคยชินเวลาที่สูดดมกลิ่นหอมออกมา ไม่ใช่กลิ่นหอมอะไรก็ได้จะคู่ควรให้อีกฝ่ายตั้งใจสูดดม

หากไม่ได้เป็นเพราะเปลี่ยนวิธีการตามหา เขาก็คงจะไม่ได้เจอกับเป้าหมาย

แต่แน่นอน นี่เป็นเพราะว่าผู้อาวุโสรุ่นก่อนให้ข้อมูลมาไม่ครบถ้วน แล้วก็เป็นเพราะว่าตัวเขาไม่เข้าใจผู้หญิง

แต่ของบางอย่างเขาก็ไม่สะดวกจะเอาออกมาวางขายอย่างโจ่งแจ้งจริงๆ อย่างเช่นของที่ลักลอบเอามาจากโลกมนุษย์นั้นไม่สามารถเอาออกมาวางขายอย่างเปิดเผยได้ กระทั่งของที่นำออกมาวางให้อีกฝ่ายชมดูตรงหน้านี้ เขาก็ได้ทำการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์มาแล้ว

เขากำลังแอบสังเกตดูหญิงชราที่อยู่ตรงหน้า ภายในใจลอบบ่นพึมพำขึ้นมาเล็กน้อย นี่คือเทพแห่งความฝันคนนั้นอย่างนั้นเหรอ?

หลังคังอันเองก็ลอบสังเกตดูอีกฝ่าย กำลังทำการเปรียบเทียบอีกฝ่ายกับคำว่า ‘สวยมากๆ’ อยู่ เขามองไม่เห็นความสวยอะไรจากตัวอีกฝ่ายเลย จึงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

แต่จะว่าไปแล้ว หากทำแบบนี้แล้วสามารถหาดวงตาแห่งความฝันเจอได้ อย่างนั้นก็ถือว่าไม่เหนื่อยเปล่า

แล้วก็จริงอย่างที่ว่า ไม่ใช่กลิ่นหอมอะไรก็ได้ที่จะทำให้หญิงชราผู้นี้ถูกใจได้

น้ำหอมที่แอบลักลอบนำเข้ามาจากโลกมนุษย์ หญิงชรากลับไม่ถูกใจเลยแม้แต่อันเดียว เพียงแค่สูดดมดูเล็กน้อยเท่านั้น กลับเป็นกลิ่นหอมที่ทางหอการค้าตระกูลฉินให้ผู้เชี่ยวชาญทำขึ้นมาถึงทำให้หญิงชราเผยท่าทางสูดดมแบบนั้นออกมาได้

หยิบสินค้าอย่างแล้วอย่างเล่าขึ้นมา ก่อนจะวางสินค้าอย่างแล้วอย่างเล่าลงไป ในที่สุดก็ดมกลิ่นสินค้าทุกอย่างจนหมด สุดท้ายหญิงชรายังคงชี้ไปที่ครีมหอมที่หยิบขึ้นมากระปุกแรกกระปุกนั้น เอ่ยถามว่า “ขายไม่ขาย?”

หลินยวนกล่าว “ดูเหมือนคุณยายจะไม่รู้เรื่องจริงๆ”

หญิงชราเข้าใจความหมายในคำพูดของเขา ร้านค้าส่วนใหญ่ภายในเมืองหมอกล้วนมักจะไม่ได้ขายในสิ่งที่นำออกมาวางขายอยู่ในร้าน เกรงว่าของที่เพิ่งนำออกมาวางให้ตนเองดูนี้น่าจะมีความหมายอย่างอื่นแอบซ่อนอยู่ น่าจะเป็นสัญญาณบางอย่างที่เอาไว้สื่อสารกับคนที่จะเข้ามาซื้อขาย เห็นได้ชัดว่าท่าทางคำพูดของตนเมื่อครู่นี้ไม่ได้ตรงกับสัญญาณที่ตกลงกันเอาไว้ เครื่องหอมอื่นๆ สามารถขายได้ แต่เกรงว่าเครื่องหอมเหล่านี้คงจะไม่ขาย

เธอถอนใจพลางกล่าว “แบบนี้แสดงว่าเถ้าแก่จะไม่ขายใช่ไหม?”

หลินยวนกล่าว “ทำการค้าก็เพื่อจะหาเงิน ขอเพียงให้ราคาที่เหมาะสม ไม่ว่าอะไรก็ขายทั้งนั้น ถ้าคุณยายอยากจะซื้อจริงๆ อย่างนั้นก็เอาไปหนึ่งแสนมุก!” ขณะที่พูดก็เก็บพวกกระปุกเครื่องหอมกลับขึ้นไป

เด็กสาวที่อยู่ข้างๆ ตะโกนขึ้นมา “ของแค่นี้ ขายตั้งหนึ่งแสนมุกเลยเหรอ?”

หลินยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ประตูอยู่ด้านหลังพวกคุณ เชิญ!” ท่าทางเหมือนบอกว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อก็แล้วแต่พวกคุณ ไม่มีทางบังคับฝืนใจ

“หนึ่งแสนมุก…” หญิงชราดูลังเลขึ้นมาเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็คล้ายว่าสติจะเอาชนะกิเลสได้ จึงส่ายหน้าเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “แพงเกินไป ซื้อไม่ไหว เถ้าแก่ ขอโทษด้วย รบกวนแล้ว” กล่าวจบก็ยื่นมือไปขอไม้เท้าจากเด็กสาว ถอนใจพลางหมุนตัวเดินออกไป เด็กสาวที่เดินอยู่ข้างกายยังหันมาถลึงตาอย่างดุร้ายใส่หลินยวนด้วย

หลินยวนยื่นมือไปเก็บครีมหอมกลับมา

กระทั่งคนเดินออกไปแล้ว หลัวคังอันจึงรีบเดินเข้ามาหาหลินยวน เอ่ยถามเสียงเบาๆ ว่า “ใช่เธอใช่ไหม? ถ้าใช่ เธอชอบเครื่องหอมพวกนี้ไม่ใช่เหรอ? ทำไมเธอถึงไม่ซื้อล่ะ? แล้วทำไมนายถึงเรียกราคาแพงขนาดนั้น?”

หลินยวนสอนเขา “นี่เรียกว่าการดูไพ่ของอีกฝ่าย ถ้าเธอสามารถจ่ายเงินหนึ่งแสนมุกซื้อของนี่ได้ นั่นก็แสดงว่าสถานะที่เธอใช้ปิดบังตัวตนอยู่ในเมืองหมอกนั้นไม่ธรรมดา แต่ถ้าเธอซื้อไม่ไหว นั่นก็แสดงว่าสถานะที่เธอใช้ปิดบังตัวตนนั้นธรรมดา การที่ชอบแต่ไม่ซื้อมันหมายความว่าอย่างไร?”

หลัวคังอันเข้าใจขึ้นมาทันที ตอบเสียงเบาๆ ว่า “แสดงว่าสถานะที่ใช้ปกปิดตัวตนของเธอธรรมดา ถ้าซื้อก็จะทำให้คนสงสัยได้ง่าย เข้าใจแล้ว ให้ฉันตามไปไหม?”

“ฝีมือของอีกฝ่ายไม่ธรรมดา แกตามคนแบบนี้ไม่ได้ อีกฝ่ายจะต้องรู้ตัวแน่ เฝ้าร้านไว้” หลินยวนเอ่ยกำชับสั้นๆ ก่อนจะเดินออกมาจากด้านหลังโต๊ะเก็บเงินอย่างรวดเร็ว ออกจากประตูแล้วหายตัวเข้าไปในหมอกที่มืดสลัว

โดนดูถูกอีกแล้ว หลัวคังอันรู้สึกไม่สบอารมณ์ ยกมือขึ้นมาลูบหนวดบนปากของตัวเอง แต่เมื่อลูบไปถึงได้นึกขึ้นมาได้ เพื่อจะปลอมตัวแล้ว หลินยวนได้บังคับให้เขาโกนหนวดออกจนหมด

แต่จะว่าไปแล้ว เขาก็ยังหวังว่าหลินยวนออกไปครั้งนี้จะสามารถจัดการได้อย่างราบรื่น ขอเพียงหาดวงตาแห่งความฝันกลับมาได้ เกียรติยศชื่อเสียงที่เมืองปู๋เชวี่ยก็กำลังรอเขาอยู่!

หลินยวนที่ออกไปข้างนอกหลบอยู่ในที่ลับตาคน หยิบเอาผ้าคลุมสีดำผืนหนึ่งออกมาคลุมไปบนร่างของตัวเอง เดินตามเสียงไม้เท้าที่ดังแว่วไปเรื่อยๆ

…..

ด้านหลังก้อนหินก้อนหนึ่งที่อยู่เยื้องๆ กับโรงจอมยุทธ์พเนจร หลินยวนได้วิเคราะห์จากทิศทางการเดินของเป้าหมายแล้วมาดักรออยู่ก่อนแล้ว

ผลปรากฏว่าหญิงชราและเด็กสาวไม่ได้เดินผ่านหน้าเขาไป หากแต่ตรงเข้าไปในโรงจอมยุทธ์พเนจร เมื่อดูจากท่าทางการทักทายของคนเฝ้าประตูแล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเธอเป็นคนในโรงจอมยุทธ์พเนจร นี่ทำให้หลินยวนค่อนข้างประหลาดใจ

หลินยวนไม่ได้รั้งอยู่ที่นี่นานนัก หลังมั่นใจแล้วว่าคนในโรงจอมยุทธ์พเนจรรู้จักเป้าหมาย เขาก็หมุนตัวจากไปทันที

ในตอนที่กลับมาถึงร้าน ผ้าคลุมสีดำบนร่างของเขาได้ถูกเอาออกไปแล้ว หลัวคังอันรีบเดินเข้ามาพลางเอ่ยถามเสียงเบาๆ “เป็นยังไงบ้าง?”

“เฝ้าร้านไว้” หลินยวนเอ่ยกำชับแล้วเดินไปที่ห้องด้านหลัง ขึ้นไปบนชั้นสอง เข้าไปในห้อง หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา โทรไปหาลู่หงเยียน “ฉันเอง เจอเป้าหมายแล้ว”

กระทั่งลู่หงเยียนที่พอจะรู้อยู่ในใจแล้วว่าอาจจะหาเป้าหมายพบก็ยังรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เธอซ่อนตัวอยู่ในเมืองหมอกจริงๆ เหรอเพคะ?”

หลินยวนกล่าว “ถ้าข้อมูลที่ผู้อาวุโสรุ่นก่อนให้มาไม่ผิดพลาด อย่างนั้นก็น่าจะใช่เธอ”

ลู่หงเยียนรู้ว่าที่เขาติดต่อเธอมาตอนนี้จะต้องมีอะไรสั่งการอย่างแน่นอน จึงถามว่า “จะให้หม่อมฉันทำอะไรเพคะ?”

หลินยวนกล่าว “เป้าหมายอยู่ในโรงจอมยุทธ์พเนจร ตอนนี้ฉันยังไม่สามารถตรวจสอบตัวตนของเธอได้ ไม่มีช่องจะลงมือ เป้าหมายเป็นหญิงชราที่ถือไม้เท้า ในโรงจอมยุทธ์พเนจรน่าจะมีเป้าหมายแบบนี้เพียงคนเดียว ข้างกายเธอยังมีเด็กสาวอยู่อีกคนหนึ่ง ฉันต้องการตัวตนและข้อมูลของพวกเธอ”

“โรงจอมยุทธ์พเนจร?” ลู่หงเยียนดูประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด เทพแห่งความฝันไปซ่อนตัวอยู่ในโรงจอมยุทธ์พเนจรอย่างนั้นหรือนี่ จึงตอบกลับไปว่า “เรื่องนี้จัดการได้ไม่ยากเพคะ วางใจได้เพคะ ภายในสามชั่วยามจะต้องมีข้อมูลในโรงจอมยุทธ์พเนจรของพวกเธอให้พระองค์แน่นอนเพคะ!”

หลินยวนกล่าว “ถ้านั่นเป็นเธอจริงๆ ล่ะก็ ด้วยความสามารถของเธอแล้วน่าจะบุกเข้าไปหาตรงๆ ไม่ได้ คนที่แอบซ่อนตัวเช่นนี้ น่าจะไม่เก็บคนไว้ข้างตัวง่ายๆ การที่เด็กสาวคนนั้นคอยตามติดอยู่ข้างกายเธอได้ ดูแล้วว่าจะเป็นคนที่เธอให้ความสำคัญ ข้อมูลของเด็กสาวคนนั้นสำคัญมาก”

ลู่หงเยียนได้ฟังก็เข้าใจ ท่านอ๋องได้เลือกเป้าหมายที่จะลงมือแล้ว พอจะรู้แล้วว่าควรจะเลือกเก็บข้อมูลจากทางด้านไหน จึงตอบกลับไปว่า “ทราบแล้วเพคะ”

………………………………………………………………

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท