เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ – ตอนที่ 4 เขาลืมใส่กางเกงไปหนึ่งตัว ตอนที่ 5 ตามจับนา

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

ตอนที่ 4 เขาลืมใส่กางเกงไปหนึ่งตัว / ตอนที่ 5 ตามจับนางทุกวิถีทาง

ตอนที่ 4 เขาลืมใส่กางเกงไปหนึ่งตัว

ฟุบ

จวินมั่วหรันกำหมัดแน่นขึ้นกว่าเดิม เขามองเฟิงอู๋โยวเหมือนเป็นจุดด่างพร้อยที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตที่ผ่านมาของเขา แทบอยากจะหักคอเรียวของเฟิงอู๋โยวส่งกลับประจิมทิศ[1]ด้วยน้ำมือตัวเอง

เฟิงอู๋โยวถูกมือขนาดใหญ่ของจวินมั่วหรันบีบจนแทบหายใจไม่ออก เดิมทีเขาเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ทำให้เขาไม่สนใจลูกไม้ประจบอ้อนวอนอันแพรวพราวไปโดยปริยาย

ในเสี้ยวพริบตา นางสูดลมหายใจเข้าหนึ่งเฮือก มือซ้ายสะบัดทำเหมือนจะสู้กลับ ขู่ให้จวินมั่วหรันสะดุ้งตกใจจนปล่อยมือออกเอง

“เจ้า!”

จวินมั่วหรันรู้สึกเหมือนมีแรงอัดของลมเฉี่ยวผ่านเป้ากางเกง จึงถอยหลังกลับหลายก้าวอย่างระมัดระวัง จนเกือบจะชนเข้ากับผนังไม้แกะสลักเทพดุร้ายขนาดเท่าตัวคนที่กำลังทำหน้าเหี้ยมเกรียมอยู่

เฟิงอู๋โยวมองจวินมั่วหรันที่หันหลังให้ตัวเองและกำลังกำหมัดต่อยผนังไม้แกะสลักอย่างตื่นตระหนก ก็ตระหนักได้ถึงเรื่องหนึ่งทันที

ดูเหมือนดวงตาของจวินมั่วหรันจะมีปัญหา

มิเช่นนั้น ต่อให้โมโหจนน่ามืดตามัวแค่ไหนก็คงไม่ระบายอารมณ์ใส่สิ่งของไร้ชีวิตอย่างผนังไม้นั่นหรอก

“น่าเสียดาย ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติแบบนี้ ที่แท้ก็ตาบอดนี่เอง”

เฟิงอู๋โยวอุทานออกมาอย่างใจหาย ครั้นเหลือบไปเห็นผ้าสีอ่อนที่วางอยู่บนเตียง อยู่ๆ ก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจ

เพี้ยะ

กว่าจวินมั่วหรันจะรู้ตัวว่าหมัดของตัวเองไม่โดนเฟิงอู๋โยว เฟิงอู๋โยวก็เดินเขย่งเท้ามาที่ด้านหลังของเขา จากนั้นก็ตบก้นของเขาอย่างเต็มแรง

เสียงดังชัดเจน ดังยิ่งกว่าเสียงร้องของนกกระจิบยามค่ำคืนเสียอีก

ใบหน้าขาวซีดของจวินมั่วหรันก่อนหน้านี้แดงก่ำขึ้นทันที เนื่องจากถูกเฟิงอู๋โยวตบก้น

ฟุบ

ฟุบ ฟุบ ฟุบ

เขารีบหันกลับมาและโจมตีด้วยผ่ามือวายุไปทางเฟิงอู๋โยวอยู่หลายระลอก แต่ทำได้แค่ต่อยอากาศ

ฝ่ามือวายุห่อหุ้มไปด้วยไอสังหารอันเข้มข้นอันตรายถึงชีวิต

เฟิงอู๋โยวคลี่ยิ้มพลางดึงมือกลับ จากนั้นก็หันกลับไปหยิบกางเกงชั้นในของจวินมั่วหรันที่วางอยู่บนเตียงขึ้นมา ก่อนวิ่งไปที่หน้าต่างและกระโดดออกไปทันที

“จวินมั่วหรันใช่หรือไม่ ท่านจงซึมซับความอาภัพนี้ไว้แต่โดยดีเสียเถอะ จงอย่าได้ไล่ฆ่าข้าเลย มิเช่นนั้น เช้าวันรุ่งขึ้น ข้าจะเอากางเกงชั้นในของท่านแขวนอวดผู้คนที่หน้าประตูเมือง”

“ไม่เพียงเท่านี้ ข่าวฉาวที่ว่าก้นงอนๆ ของเซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นตงหลินถูกทหารผู้ต่ำต้อยลวนลามจะแพร่สะพัดไปทั่วสารทิศแน่นอน!”

เฟิงอู๋โยวคิดในใจ จวินมั่วหรันผู้เปี่ยมด้วยอำนาจเช่นนี้จะต้องห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองแน่นอน

ด้วยเหตุนี้ นางจึงใช้กางเกงชั้นในของจวินมั่วหรันเพื่อต่อรองขอทางรอด

ตู้ม

น้ำเสียงของนางเพิ่งสิ้นสุดลง จวินมั่วหรันก็ต่อยเข้าไปที่บานหน้าต่างอีกครั้ง

เสียงบานหน้าต่างแตกกระจายดังขึ้น ทำเอาจุยเฟิงที่อยู่บนหลังคาตกใจและรีบตามมาเข้าทันที

ขณะที่รอจุยเฟิงมาถึงเรือนมั่วหรัน จวินมั่วหรันก็กระอักเลือดออกมาเนื่องจากออกแรงมากเกินไป ผนวกกับโทสะรุมเร้า

“ขอท่านใต้เท้าโปรดให้อภัยที่ข้าน้อยมาช่วยสายเกินไป!”

จุยเฟิงนั่งคุกเข่าลงหนึ่งข้าง แต่ภายในดวงตาของเขาที่อัดแน่นไปด้วยความกังวลกลับแฝงไปด้วยความสงสัย

ในความคิดของจุยเฟิง ถึงแม้โดยปกติจวินมั่วหรันไม่ค่อยสนใจเรื่องเครื่องแต่งกายและไม่ละเมียดละไมกับเสื้อผ้าอาภรณ์เท่าไหร่ แต่เขาก็เป็นคนรู้กาลเทศะไม่มีทางเปลือยกายล่อนจ้อนทำตัวเป็นกันเองถึงขนาดนั้น

แต่ที่น่าสงสัยยิ่งกว่าคือมีคราบเลือดอยู่ที่ขาจวินมั่วหรัน

บัดนี้ สติทั้งหมดของจวินมั่วหรันกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง เมื่อครู่ เขาสติเลือนรางไปชั่วคราวจากโรคเก่าที่ไม่มียารักษา ย้อนกลับมาเล่นงานเขาอีกครั้ง

จวินมั่วหรันจ้องมองจุยเฟิงที่ยังงัวเงียอยู่อย่างเย็นชา จากนั้นก็จัดระเบียบเสื้อผ้าของตัวเองก่อนหันกลับไปพลางเอ่ยเสียงเย็น “ไสหัวออกไป”

“ท่านใต้เท้าขอรับ ตอนนี้เตียงของท่านใต้เท้าพังหมดแล้ว มิทราบว่าต้องการให้ข้าน้อยหาคนมาซ่อมหรือไม่ขอรับ”

จุยเฟิงติดตามจวินมั่วหรันมาหลายปี ดังนั้นเขาจึงรับรู้ได้ว่าจวินมั่วหรันกำลังโมโหอยู่ แต่เขาก็ยังดันทุรังถามจวินมั่วหรันด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

ครั้นจวินมั่วหรันนึกถึงเรื่องที่เฟิงอู๋โยวปีนป่ายขึ้นมาบนเตียงของเขา ไฟโทสะก็ปะทุขึ้นกลางใจอีกครั้ง “ปิดเมือง ต่อให้ต้องพลิกแผ่นดินหาก็ต้องจับสตรีน่าตายนางนั้นให้จงได้!”

ตอนที่ 5 ตามจับนางทุกวิถีทาง

ดวงตาของจุยเฟิงค้างชะงัก เขามองจวินมั่วหรันที่กำลังเดือดดาลด้วยสีหน้าตกตะลึง

“มองอะไร” จวินมั่วหรันมองจุยเฟิงที่เหม่อลอยอยู่พักใหญ่ด้วยสายตาเย็นชา สีหน้าของเขาเริ่มไม่สบอารมณ์ยิ่งกว่าเดิม

“ท่านใต้เท้าขอรับ ปกติแล้วสตรีน่าตายทั่วไปมักมีรูปโฉมอัปลักษณ์ มิสู้ให้ข้าน้อยหากุลสตรีชาติตระกูลดีน่ารักอ่อนหวานสักสองคนมาให้ท่านใต้เท้า?”

น้ำเสียงของเขาเพิ่งสิ้นสุดลง มวลความเย็นพลันแทรกซึมผ่านชั้นเสื้อผ้าเข้ามากัดเซาะกระดูก

เขาเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาลุ่มลึกที่ฉาบเคลือบไปด้วยความขุ่นเคือง เป็นดวงตาเกรี้ยวกราดที่อัดแน่นเป็นด้วยความอาฆาต ทำเอาเขาถึงกับกลืนน้ำลายอย่างอึดอัด

“เจ้าติดตามข้ามานานเท่าใดแล้ว” จวินมั่วหรันกดเส้นเลือดเต้นตุบข้างหน้าผากแรงๆ น้ำเสียงเย็นชาเปี่ยมเสน่ห์ทั้งยังเต็มไปด้วยแรงดึงดูด

จุยเฟิงรู้สึกใจหวิวขึ้นมาทันที เขาคุกเข่าตัวตรงแน่วตรงหน้าจวินมั่วหรัน ก่อนตอบกลับอย่างเคร่งขรึม “เรียนท่านใต้เท้า สตรีน่าตายในเมืองหลวงแบ่งออกเป็นสองประเภท ประเภทแรกคือสตรีที่ล่วงเข้าสู่วัยชรา อายุมากเกินไปกลืนยากแต่ประสบการณ์โชกโชน อีกประเภทคือสตรีป่วยอายุสั้น อ่อนแอเกินไปยากจะลงมือ แต่พวกนางมักปลุกเร้าความปรารถนาจะปกป้องในตัวบุรุษขึ้นมาได้”

“หุบปาก!”

จวินมั่วหรันถูกจุยเฟิงกวนประสาท แต่เมื่ออยากจะถอยกลับไปนั่งพักที่เตียงสักพัก ก็พบว่าเตียงพังไปแล้วจึงหันไปนั่งบนโต๊ะแทน ก่อนหยิบพู่กันขึ้นมาวาดรูปสตรีนางนั้นอย่างตั้งใจ

จุยเฟิงตามเข้ามาติดๆ ก่อนช่วยจวินมั่วหรันฝนหมึกอย่างขะมักเขม้น “ท่านใต้เท้าขอรับ สตรีที่ท่านใต้เท้ากำลังวาดอยู่ช่างดูพิเศษยิ่งหนัก ริมฝีปากหนาใหญ่ แต่แขนกลับเล็กลีบเหมือนถูกประตูหนีบ”

“ปากของสตรีนางนั้นดุจป้องปืน วาจาแกร่งกล้าอวดเบ่ง แค่นางปริปากพูด ข้าก็จำได้ เจ้าจงนำภาพนี้ไปป่าวประกาศให้ทั่วเมือง จงตามหาและจับนางด้วยทุกวิถีทางที่มี!” จวินมั่วหรันสะบัดชายแขนเสื้อออกคำสั่ง แต่ไม่ยอมบอกจุยเฟิงว่าทำไมจึงวาดสะโพกของนางเล็กแบบนั้น

“รับทราบขอรับ”

จุยเฟิงรับภาพวาดของสตรีมาอย่างรวดเร็ว แม้ภายในใจยังมีความสงสัยแต่ทำได้แค่เก็บงำเอาไว้

ตอนแรก จุยเฟิงคิดว่าเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบของจวินมั่วหรัน หลังจากได้รับการรักษาโรคครั้งแรก จวินมั่วหรันก็มักจะรู้สึกเห็นใจสตรีอายุสั้น เป็นความรักที่เกิดจากความสงสาร

ณ บัดนี้ จุยเฟิงกลับคิดว่าสิ่งที่ตัวเองวิเคราะห์เอาไว้ก่อนหน้านี้ผิดมหันต์

จากที่เขาเห็น จวินมั่วหรันจะต้องฝัน (เปียก) แน่นอน แต่อาจเป็นฝันที่ไม่สมบูรณ์แบบนัก ฝันถึงสตรีที่หยามหมิ่นตัวเองก็ย่อมหงุดหงิดและขาดสติเป็นธรรมดา

คิดได้เช่นนี้ ใบหน้าของจุยเฟิงก็ปรากฏแววเบิกบานใจขึ้นทันที

เมื่อออกจากเรือนมั่วหรัน จุยเฟิงก็รีบวิ่งไปหาเถี่ยโส่วและคว้าแขนเขามาอย่างดีใจ จากนั้นก็พูดกดเสียงต่ำ “มีความลับบางอย่างจะบอกเจ้า ท่านใต้เท้าของพวกเราโตเป็นหนุ่มแล้ว”

“ห๊ะ!” เถี่ยโส่วมองจุยเฟิงที่หน้าหน้าแดงเรื่ออย่างไม่อยากเชื่อ “นี่เจ้ากำลังจะนินทาอยู่หรือ”

“ถุย! ให้ตายเถอะ เจ้ามองในแง่ดีไม่ได้หรือไร” จุยเฟิงสะบัดมือเถี่ยโส่วออก แต่ก็ไม่วายกลับไปพูดกับเถี่ยโส่วด้วยน้ำเสียงดีใจเป็นที่สุด “ท่านใต้เท้าฝัน (เปียก) แล้ว จนเตียงนอนพังไปเลย ไม่เพียงเท่านี้ ท่านใต้เท้ายังสั่งปิดเมืองเพื่อตามหาสตรีในฝันนางนั้นอีกด้วย”

“บางทีอาจไม่ใช่ฝัน (เปียก) ก็ได้”

หลังจากนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง เถี่ยโส่วก็พูดขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง “เวลาครึ่งก้านธูปก่อนหน้านี้ มีเงาตะคุ่มโฉบผ่านหน้าข้าไป เดิมทีข้าคิดจะสะกดรอยตามไป แต่ดูเหมือนเงานั่นจะไม่มีกำลังภายใน ข้าก็เลยคิดว่าอาจจะเป็นท่านหญิงจวินฝู จึงไม่ได้ตามไป”

ในเวลาเดียวกัน เฟิงอู๋โยวที่หลบซ่อนอยู่ด้านหลังเขาเจี่ยซานตรงบริเวณเรือนประจิมในตำหนักมั่วหรันกำลังแอบบฟังเรื่องที่จุยเฟิงกำลังพูด ทำเอารู้สึกหวั่นใจใจขึ้นมาทันที

ก่อนหน้านี้คิดว่าจวินมั่วหรันจะห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองจนยอมสงบศึกและอยู่นิ่งๆ แต่โดยดี

นึกไม่ถึงว่าจวินมั่วหรันจะออกคำสั่งปิดเมืองเพื่อตามหานาง

“เจ้าเส้นเลือดน้อย เจ้าอย่ากลั่นแกล้งกันเกินไปสิ!”

เฟิงอู๋โยวกระวนกระวายใจ จากนั้นจึงรีบกระโดดข้ามกำแพงตำหนักเซ่อเจิ้งหวางหนีไปทันที

แต่เท้าของนางยังไม่ทันแตะพื้น เท้าข้างหนึ่งก็ถูกมือขนาดใหญ่คว้าจับเอาไว้แน่น ช่างโชคร้ายกระไรเช่นนี้

[1] ส่งกลับประจิมทิศ หมายถึงตายกลับสู่สวรรค์

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

Status: Ongoing
เพราะ ‘สัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ ทำให้ท่านอ๋องเย็นชาจอมเผด็จการแทบพลิกแผ่นดินตามหาตัวนาง เพื่อ…สังหาร!นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ พระเอกสุดโหด นางเอกสุดแซ่บ!เมื่อ เฟิงอู๋โยว หัวหน้าทหารรับจ้างสุดก๋ากั่นทะลุมิติมายังโลกยุคโบราณทั้งยังโดนวางยาปลุกกำหนัดเข้าทางรอดเร่งด่วนเพียงอย่างเดียวก็คือใช้บุรุษช่วยถอนพิษ!ชายหนุ่มมากมายหลายแสนนางไม่เลือกกลับไปพัวพันเข้ากับ จวินมั่วหรัน ท่านอ๋องแคว้นศัตรู ผู้ขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีและดุดันเหี้ยมโหดเกินใครแม้จะรอดตัวมาได้เพราะร่างนี้อยู่ในฐานะ ‘บุรุษ’ แต่ด้วยสถานะทหารแคว้นศัตรูทำให้นางต้องกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขาอีกครั้งตราบใดที่นางไม่พูด เขาคงไม่รู้กระมังว่านางคือคนในคืนนั้น?เอาเถอะ อย่างนั้นคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท