เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ – ตอนที่ 16 ยืนยันตัวตน ตอนที่ 17 เซ่อเจิ้งหวางถูกเยาะเย้ย!

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

ตอนที่ 16 ยืนยันตัวตน / ตอนที่ 17 เซ่อเจิ้งหวางถูกเยาะเย้ย!

ตอนที่ 16 ยืนยันตัวตน

“ท่านใต้เท้า โปรดระวัง!”

เฟิงอู๋โยวตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นางวิ่งเข้าไปหาจวินมั่วหรันดั่งลมกรด

นางไตร่ตรองแล้วว่า ต่อให้เขาไม่รู้ว่านางเกี่ยวข้องอะไรกับกล่องหยกแปดช่อง แต่อย่างน้อยการทำดีชดเชยความผิดเยี่ยงวีรบุรุษช่วยสาวงาม คงหักล้างกับโทษฐานที่ขโมยกล่องหยกแปดทิศได้

หากเป็นเช่นนี้ บางทีจวินมั่วหรันน่าจะมองเห็นความซื่อสัตย์ของนาง ความสงสัยใดๆ จะจางหาย และเริ่มปฏิบัติดีต่อนาง

แต่นึกไม่ถึงว่าขณะเฟิงอู๋โยวยังพุ่งเข้าไปยังไม่ถึงเท้าของจวินมั่วหรัน เขาก็ได้โต้ตอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน

เพียงเสี้ยวขณะ ฝุ่นผงลอยตลบ เงาสีเข้มพลันแฉลบผ่านสายตาเฟิงอู๋โยวไปอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้า

จวินมั่วหรันนึกไม่นึกเช่นกันว่าเฟิงอู๋โยวจะเคลื่อนไหวว่องไวขนาดนี้ เดิมทีท่อนขาเรียวยาวจะต้องพุ่งไปเตะกล่องหยกแปดช่องให้กระเด็นพ้นทาง แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นหล่นใส่หัวเฟิงอู๋โยวแทน

ปั่ก

เสี้ยวพริบตาต่อมา เฟิงอู๋โยวยังไม่ทันเงยหน้า กล่องหยกแปดช่องหล่นใส่หัวนางอย่างแรง

“เจ็บ…เจ็บชะมัด”

ผงฝุ่นที่เกิดจากการไถลเท้าเมื่อครู่เข้าปากเฟิงอู๋โยวไปเต็มๆ นางอยากจะถุยเศษผงฝุ่นใส่จวินมั่วหรันให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ไม่กล้า

คิ้วเรียวราวกระบี่ของจวินมั่วหรันย่นเข้าหากันเล็กน้อย สายตาหลุบต่ำจ้องมองเฟิงอู๋โยวอย่างเย็นชา “จงเงยหน้าขึ้นมา”

เฟิงอู๋โยวปัดฝุ่นตามตัวของตัวเองพลางสะกดความกลัวเอาไว้ในใจ และเมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับสายตาลุ่มลึกเกินหยั่งถึงของจวินมั่วหรันเข้า

เมื่อตาสบตา รังสีอำมหิตของจวินมั่วหรันพลันแผ่ซ่าน เฟิงอู๋โยวเผชิญหน้ากับมันอย่างเยือกเย็น โดยที่ไม่ตกเป็นรองเลยแม้แต่น้อย

“น่าสนใจ”

ริมฝีปากเรียวบางของจวินมั่วหรันยกขึ้น ดวงตาเจือแววยิ้ม

เฟิงอู๋โยวลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลก่อนเอ่ยเสียงต่ำ “ขออภัยที่ล่วงเกินท่านใต้เท้าขอรับ กระหม่อมไม่ได้เจตนา ขอท่านใต้เท้าผู้สูงส่งโปรดอย่าถือโทษกระหม่อมด้วยขอรับ”

“นับว่ากล้าหาญที่ริอาจแสดงกิริยาอวดเบ่งต่อหน้าข้า” ดวงตาของจวินมั่วหรันเยือกเย็นลงฉับพลัน แล้วทันใดนั้นก็ยื่นมือออกไปบีบคอเฟิงอู๋โยว

“ท่านใต้เท้าหมายความว่าเยี่ยงไรขอรับ”

เฟิงอู๋โยวถูกเขาบีบคอจนแทบหายใจไม่ออก แต่ขณะเดียวกันก็เตรียมเข็มเงินใต้แขนเสื้อเอาไว้จู่โจม

นางตัดสินใจแล้วว่า หากจวินมั่วหรันไม่ยอมปล่อยมือ นางก็พร้อมจะจบชีวิตไปพร้อมกับเขา

ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน จี้มั่วอิ้นเหรินก็โผล่แทรกเข้ามาระหว่างเฟิงอู๋โยวกับจวินมั่วหรัน เขาสวมกอดเข้าที่เอวหนาๆ ของจวินมั่วหรันแน่น “เซ่อเจิ้งหวาง ข้าไม่อยากเห็นให้ท่านเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ข้ากลัว”

“จี้มั่วอิ้นหรัน ในฐานะท่านอ๋องเพียงหนึ่งเดียวของแคว้น ท่านมิอาจ ‘เกรงกลัว’ ต่อสิ่งใดได้” จวินมั่วหรันมองจี้มั่วอิ้นเหรินที่สีหน้าตื่นตระหนกด้วยสายตาเรียบนิ่ง และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ

จี้มั่วอิ้นเหรินไม่ย่อท้อแม้ต้องเผชิญกับความเยือกเย็นของจวินมั่วหรัน เขาคลายแขนออกแล้วลูบหน้าอกของจวินมั่วหรันอย่างเอาใจ “เซ่อเจิ้งหวางได้โปรดปล่อยตัวสหายผู้น้อยคนนี้ด้วยเถิด”

“ขอเหตุผล”

“เพราะ เพราะเขาก็เหมือนข้าที่เคารพนับถือในตัวท่านยิ่งนัก” ในเวลาแบบนี้ จี้มั่วอิ้นเหรินคิดหาเหตุผลไม่ออก จึงได้แต่ไหลไปตามน้ำ

จวินมั่วหรันที่ได้ยินเช่นนั้นก็แค่นเสียงหึในลำคอ “ลักลอบเข้าตำหนักยามวิกาลและลักขโมยของมีค่าออกจากตำหนัก คือเคารพนับถือในตัวข้าอย่างนั้นหรือ”

เมื่อน้ำเสียงของเขาสิ้นสุดลงก็คลายมือออกจากคอเฟิงอู๋โยวทันที จากนั้นก็หันไปสั่งจุยเฟิงด้วยสายตาว่า “ยืนยันตัวตน”

จุยเฟิงเข้าใจสิ่งที่จวินมั่วหรันต้องการจะสื่อทันที ทว่าเขากลับไม่กล้าแตะต้องตัวเฟิงอู๋โยว

เพราะถ้าหากเฟิงอู๋โยวเป็นสตรีขึ้นมาจริงๆ การฉีกเสื้อผ้าของเขากลางถนนเช่นนี้คงเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม

แต่คำสั่งของจวินมั่วหรันมาแบบนี้ จุยเฟิงจึงต้องฝืนเข้าไปจับตัวเฟิงอู๋โยวที่กำลังกุมคอตัวเองและหายใจหืดหอบ

เฟิงอู๋โยวมองใบหน้าไร้ความรู้สึกของจุยเฟิงอย่างหวาดระแวง จากนั้นก็หันกลับไปส่งสายตา ‘อ้อนวอน’ ให้จวินมั่วหรัน พร้อมกับพูดแถเอาตัวรอดเพื่อพยายามโน้มน้าวใจจวินมั่วหรัน

“เสียชีพได้ เสียเกียรติได้ แต่จะไม่ยอมเปลือยกายกลางถนน แม้กระหม่อมผู้ต้อยต่ำไร้ประโยชน์ แต่รูปโฉมดูดีเป็นที่สุด หากปลดเสื้อผ้าของกระหม่อมกลางถนนเยี่ยงนี้ เกรงว่าเหล่าสตรีที่เห็นรูปร่างอันสวยงามของกระหม่อมจะมีความคิดชั่วร้ายจนอาจละทิ้งสามีและลูกๆ ของพวกนางมาอุทิศตัวให้กับกระหม่อมอย่างหัวปักหัวปำก็เป็นได้”

นางพูดพลางชะเง้อคอเพื่อให้คนรอบๆ เห็นลูกกระเดือกที่นูนขึ้นมาเล็กน้อยของนาง

จุยเฟิงตะลึงราวกับถูกฟ้าผ่า เขาไม่เคยเจอคนประหลาดขนาดนี้มาก่อน ช่างหลงตัวเอง หน้าด้านยิ่งกว่ากำแพงเมือง บ้าบิ่นเป็นที่สุด

เฟิงอู๋โยวเห็นว่าคำพูดของตัวเองเริ่มเห็นผลขึ้นมาบ้าง นางกลืนน้ำลายลงคอก่อนเริ่มพูดขึ้นอย่างน้ำไหลไฟดับอีกครั้ง “ควรให้กระหม่อมเล่าถึง ‘สิ่งนั้น’ ของกระหม่อมในที่ลับไม่ดีกว่าหรือขอรับ เพื่อเลี่ยงไม่ให้เหล่าสตรีแตกตื่น โปรดอย่ายืนยันตัวตนของกระหม่อมที่นี่เสียดีกว่า”

ตอนที่ 17 เซ่อเจิ้งหวางถูกเยาะเย้ย!

เมื่อเฟิงอู๋โยวพูดออกไปเช่นนั้น คนที่อยู่รอบๆ ต่างพร้อมใจมองไปที่ร่างกายที่ตัวเล็กกว่าจวินมั่วหรันเป็นสายตาเดียวกัน

ใบหน้าของจุยเฟิงเผยความสงสัย เขาไม่มีทางเชื่อว่าคนรูปร่างผอมบางกระดูกเล็กอย่างเฟิงอู๋โยวจะมี ‘สิ่งนั้น’ ใหญ่โตตามที่กล่าวอ้าง

จี้มั่วอิ้นเหรินยิ้มร่า เพราะเท่าที่เขารู้ สิ่งสำคัญที่สุดในการปกครองบ้านเมืองคือความสงบสุข ไม่สร้างความแตกตื่น

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นคนที่กล้าพูดถึง ‘สัญลักษณ์ความเป็นชาย’ ได้หน้าตาเฉยแบบนี้มาก่อน

จวินมั่วหรันชำเลืองตามองร่างกายอันผอมบางของเฟิงอู๋โยว จากนั้นก็ก้าวออกไปข้างหน้าก่อนยื่นมือข้างหนึ่งไปกระชากปลอกคอเสื้อ “รู้ใช่หรือไม่ว่าโทษฐานของการลวงหลอกคืออะไร”

เฟิงอู๋โยวรู้สึกว่าจวินมั่วหรันกำลังได้เปรียบอยู่ เขากำลังจงใจย่ำยีความภาคภูมิใจของนาง

ถ้าเทียบขนาดตัว จวินมั่วหรันสูงกว่านางประมาณยี่สิบเซนติเมตร

ดูจากบารมีแล้ว เขาช่างสูงส่งทรงอำนาจ ทำให้นางเป็นได้เพียงคนตัวเล็กผู้ต้อยต่ำและถูกกดจนจมดิน

“ท่านใต้เท้าขอรับ หากท่านไม่เชื่อ ท่านกล้าเทียบพิสูจน์…ขนาดเล็กใหญ่กับกระหม่อมหรือไม่!” เฟิงอู๋โยวเงยหน้ารับสายตาดูถูกของจวินมั่วหรันพลางคลี่ยิ้ม

นางยักคิ้วหลิ่วตาด้วยเจตนาวิงวอนขอร้องต่อจวินมั่วหรัน

ทว่าจวินมั่วหรันกับเข้าใจความหมายที่นางต้องการจะสื่อผิด เข้าใจว่านางกำลังยั่วยุเขาอยู่

และแล้ว ภายในเวลาอันรวดเร็วดุจประกายไฟ จวินมั่วหรันจู่โจมเข้าที่ระหว่างขาของนางอย่างฉับพลัน

ประสาทสัมผัสทั่วร่างกายของเฟิงอู๋โยวพลันตื่นตัว อีกนิดก็เกือบสบถคำว่า ‘ไอ้สถุน’ ออกไปแล้ว

นางไม่กลัวว่าจวินมั่วหรันจะรับรู้ถึงความผิดปกติของนางเพราะนางเตรียมตัวไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ หลังจากคืนที่หนีออกมาจากตำหนักเซ่อเจิ้งหวาง นางได้ใช้มัดกิ่งไม้มัดหนึ่งยัดเข้าไปแทนที่ตัวเดียวอันเดียวที่เป็นความภาคภูมิใจของบุรุษเพศ สิ่งที่ตัวเองไม่อาจมีได้

นางไม่มีทางปล่อยให้ความแตกแน่นอน นอกเสียจากจวินมั่วหรันเกิดบ้าคลั่งฉีกเสื้อผ้าของนางกลางถนน

แต่คนอย่างเฟิงอู๋โยวไม่ยอมตกเป็นเป้าให้ถูกเล่นงานต่อหน้าผู้คนเช่นนี้แน่นอน

สำหรับนาง ภาพลักษณ์หน้าตาเป็นเรื่องใหญ่ยิ่งกว่าสิ่งใด

นางคิดจะกระทำการใดที่ทำให้จวินมั่วหรันผู้หยิ่งยโสทระนงตนเป็นการเสียหน้า ทว่าภาพลักษณ์หน้าตาสามารถกู้กลับคืนมาได้ ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องเอาชีวิตรอด

หลังจากครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ ในที่สุดเฟิงอู๋โยวก็หยุดคิดเรื่องการไว้หน้าให้แก่จวินมั่วหรัน

นางอ้าปากหัวเราะลั่นรับสายตาของจวินมั่วหรัน ซ้ำยังเอามือกุมท้องแสร้งทำเป็นหัวเราะจนท้องแข็ง ทำเอาผู้คนรอบข้างุนงงไปตามๆ กัน ต่างพากันคิดว่านางกำลังจงใจเยาะเย้ยจวินมั่วหรันอยู่

แม้แต่จวินมั่วหรันก็ยังรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกเยาะเย้ยอยู่

ทว่าเขาเปรียบเทียบเฟิงอู๋โยวที่หัวเราะปากกว้างอยู่ด้านหน้าเป็นเหมือนเผือกร้อน เมื่อคิดได้เช่นนั้นก็หยุดการกระทำทุกอย่างลง

“เกิดอะไรขึ้นหรือขอรับท่านใต้เท้า”

เมื่อเฟิงอู๋โยวเห็นว่าเขาไม่ยอมตอบโต้กลับ ก็ปั้นหน้าเป็นคนดีแสร้งถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

ตอนนี้จวินมั่วหรันแน่ใจแล้วว่าเฟิงอู๋โยวตั้งใจจะทำให้เขาอับอาย ทำเอานิ้วมือเรียวยาวของเขาเริ่มสั่นเล็กน้อย

ความอับอายแปรเปลี่ยนเป็นความโมโห และขณะที่จวินมั่วหรันกำลังจะตบเฟิงอู๋โยวอย่างเต็มแรง เถี่ยโส่วก็วิ่งเข้ามาอย่างลนลาน

เขานำภาพวาดมาด้วยม้วนหนึ่ง “ท่านใต้เท้า โปรดดูสิ่งนี้ด้วยขอรับ”

“มันคืออะไร”

จวินมั่วหรันปล่อยเฟิงอู๋โยวไว้อยู่แบบนั้น

“ซือมิ่งส่งรายงานมาว่าเมื่อคืน แม่ทัพแซ่เฟิงแห่งเป่ยหลีนามว่าเฟิงอู๋โยวได้กระทำการหยามหมิ่นองค์หญิงหลีอิน เป็นเหตุให้ถูกอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายแห่งแคว้นเป่ยหลี่นามว่าอ๋าวเช่อไล่สังหารมาจนถึงเขตชายแดนของแคว้นตงหลิน นี่คือภาพวาดของแม่ทัพเฟิงขอรับ ขอใต้เท้าโปรดดู”

จวินมั่วหรันยังไม่ทันรับม้วนภาพมา เพียงแค่ชำเลืองตาดูภาพวาดในมือของเถี่ยโส่วอย่างหน่ายอารมณ์

เฟิงอู๋โยวก็เหลือบไปมองภาพนั้นเช่นกัน นางเห็นภาพตัวเองในมาดชายฉกรรจ์ ขณะเดียวกันก็นึกถึงภาพที่จวินมั่วหรันวาดในคืนนั้น อยู่ๆ ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา

เพราะก่อนหน้านี้ นางคิดว่าผู้คนในโลกภพนี้จะฝีมือวาดภาพไม่เอาไหนเหมือนจวินมั่วหรันไปเสียหมด ไม่มีใครสามารถวาดความงามสง่าของนางออกมาได้ ทว่าไม่คิดไม่ฝันเลยว่าแคว้นเป่ยหลีจะเป็นคนที่มีฝีมือการวาดที่ดีเยี่ยมเช่นนี้ สามารถดึงตัวตนของนางออกมาผ่านภาพวาดผืนนี้ได้อย่างไร้ที่ติ

“เฟิงอู๋โยวอย่างนั้นหรือ”

จวินมั่วหรันแสยะยิ้ม น้ำเสียงเย้ายวนเจือแววบ้าอำนาจ ทำเอาผู้คนที่ได้ยินหวาดกลัวไปตามๆ กัน

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

Status: Ongoing
เพราะ ‘สัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ ทำให้ท่านอ๋องเย็นชาจอมเผด็จการแทบพลิกแผ่นดินตามหาตัวนาง เพื่อ…สังหาร!นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ พระเอกสุดโหด นางเอกสุดแซ่บ!เมื่อ เฟิงอู๋โยว หัวหน้าทหารรับจ้างสุดก๋ากั่นทะลุมิติมายังโลกยุคโบราณทั้งยังโดนวางยาปลุกกำหนัดเข้าทางรอดเร่งด่วนเพียงอย่างเดียวก็คือใช้บุรุษช่วยถอนพิษ!ชายหนุ่มมากมายหลายแสนนางไม่เลือกกลับไปพัวพันเข้ากับ จวินมั่วหรัน ท่านอ๋องแคว้นศัตรู ผู้ขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีและดุดันเหี้ยมโหดเกินใครแม้จะรอดตัวมาได้เพราะร่างนี้อยู่ในฐานะ ‘บุรุษ’ แต่ด้วยสถานะทหารแคว้นศัตรูทำให้นางต้องกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขาอีกครั้งตราบใดที่นางไม่พูด เขาคงไม่รู้กระมังว่านางคือคนในคืนนั้น?เอาเถอะ อย่างนั้นคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท