ตอนที่ 288 ชิงหยวนจอมปลอม
ในห้องด้านในของเรือนแพทย์พยากรณ์ ไอหมอกขมุกขมัวเคลื่อนไหวและสลายไปกับสายลม
เฟิงอู๋โยวนั่งบนขอบอ่าง เหยียดนิ้วเท้างามดุจหยกออกมาสัมผัสความอุ่นของน้ำ
เธอถอดเสื้อคลุมสองชุดที่คลุมร่างของเธอออกพร้อมกับพึมพำกับตัวเอง “เจ้าพวกบุรุษเหม็นขี้หน้า มีทุกกลิ่นอยู่บนตัว!โดยเฉพาะฟู่เย่เฉิน ดูงดงามสดใส แต่บนตัวมีแต่กลิ่นศพ”
พึบๆๆ
มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้นจากนอกเรือน
เฟิงอู๋โยวที่ยังไม่ได้กระโจนลงไปในอ่าง หันศีรษะไปถามเสียงทุ้ม “ชิงหลวน?”
“ท่านชาย ข้าเอง”
เมื่อได้ยินเสียงนั้น เฟิงอู๋โยวก็ถอนหายใจเฮือกยาวอย่างโล่งอก “เข้ามา เอาเสื้อผ้าสะอาดๆ มาให้ข้าด้วย”
“เจ้าค่ะ”
เฟิงอู๋โยวเป็นคนกลัวน้ำ ช่วงแรกๆ ที่ข้ามมิติมา สิ่งที่เธอกลัวที่สุดคือการจมน้ำ
ในช่วงไม่กี่วันมานี้ โรคกลัวน้ำของเธอดีขึ้นอย่างมาก
แต่เมื่อไรที่ระดับน้ำสูงกว่าหน้าอก เธอจะเกิดภาพหลอนของการจมน้ำขึ้น ทำให้เธอตื่นตื่นกลัวจนหายใจไม่ออก
มันคงเป็นเรื่องเพ้อฝันที่จะบอกว่าคนที่กลัวน้ำและความสูงได้กลายเป็นหัวหน้าทหารรับจ้างแห่งสี่จตุทหารจากต่างภพ
จะว่าไปแล้ว การเดินทางข้ามมิติของเธอกินเวลาแค่เดือนกว่าๆ
แต่เธอรู้สึกราวกับว่าได้ใช้ชีวิตในแคว้นตงหลินมาครึ่งค่อนชีวิต
เมื่อนึกถึงตอนที่พบกับจวินมั่วหรันครั้งแรก เฟิงอู๋โยวก็หน้าแดงขึ้นมา นางพูดกับตัวเอง “ครั้งที่แล้ว ยังไม่ได้ดื่มด่ำเพลิดเพลินกับรสชาตินั้น ไม่รู้ว่าครั้งต่อไปจะเป็นเมื่อไหร่”
ท่ามกลางไอหมอก เธอนอนเอนตัวในอ่าง เส้นผมสีดำแผ่สยายแตกตัวลอยอยู่ในน้ำปนกับกลีบดอกมู่หลานราวกับตาข่ายปีศาจที่ดึงดูดผู้คนให้จมลงไป
พึบ
พึบๆ
หลังม่าน มีเสียงฝีเท้าอันนุ่มนวลดังขึ้นอีกระลอก
เฟิงอู๋โยวลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว จ้องมองม่านผ้าขาวบางอย่างเยือกเย็น แล้วถามขึ้นเสียงขรึม “ใคร”
“ท่านชาย ข้าเอง”
“เจ้าเป็นใคร”
ดวงตาเฉียวคมของเฟิงอู๋โยวฉายแววเย็น เพราะเงาร่างที่อยู่นอกม่านสูงกว่าชิงหลวนอย่างเห็นได้ชัด
ทันใดนั้น มือใหญ่ที่เห็นข้อกระดูกชัดเจนก็ค่อยๆ เปิดผ้าม่านออก ทำให้ลูกปัดแก้วที่ร้อยติดกับผ้าม่านส่งเสียง
ชั่วเวลาต่อมา หยุนเฟยไป๋ก็มุดตัวเข้าไปในผ้าม่านและเดินไปหาเฟิงอู๋โยวที่นอนแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำ
ดวงตาสีม่วงอ่อนของเขาส่องประกาย มุมปากผุดขึ้นเป็นมุมโค้งฉายแววน่ากลัว แต่น้ำเสียงของเขากลับนุ่มนวลผิดปกติ เกือบจะเหมือนกับเสียงแหลมสูงของชิงหลวน
“เฟิงอู๋โยว ต้องการให้ฉันช่วยน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือไม่”
“ไม่จำเป็น”
เฟิงอู๋โยวลดตัวลงในน้ำทันที เธอต้องการยื่นมือออกไปหยิบเสื้อคลุมผ้าที่พาดไว้บนผนังกั้นลม แต่หยุนเฟยไป๋อยู่ใกล้มากจนเธอไม่กล้าขยับ
หยุนเฟยไป๋เหลือบมองกลีบดอกไม้บนผิวน้ำที่ปกคลุมเงาสะท้อนใต้ผิวน้ำไว้อย่างมิดชิด เขารู้สึกไม่พอใจ “เฟิงอู๋โยว เจ้าเป็นบุรุษ ไฉนต้องอาบน้ำด้วยกลีบดอกไม้”
“ไฉนบุรุษจะอาบน้ำด้วยกลีบดอกไม้ไม่ได้ บุรุษก็สามารถตัวหอมและผิวลื่นได้เหมือนกัน”
เฟิงอู๋โยวโต้เถียง เธอกอดอกแน่น สายตามองหยุนเฟยไป๋ที่ชั่วร้ายอย่างไม่สบายใจ
“ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นบุรุษหรือไม่ วันนี้ข้าตรวจสอบด้วยมือตัวเอง คนที่ทำให้เซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นตงหลินเฝ้าคะนึงหา แท้จริงแล้วมีเรือนร่างอันน่าพิศวงเยี่ยงไร”
หยุนเฟยไป๋พูดขึ้นอย่างนึกสนุก มือข้างหนึ่งพลันจุมลงไปในอ่างอาบน้ำ
ซ่า
ทันใดนั้น สายน้ำพลันสาดกระเซ็นเคล้าเสียงน้ำสาด
เฟิงอู๋โยวตกใจและโกรธ เธออยากบีบคอของเขาให้ตายเสียตรงนี้
แต่ระดับน้ำที่สูงขึ้นทำให้โรคกลัวน้ำของเธอกำเริบอีกครั้ง เป็นเหตุให้เธอรู้สึกหายใจไม่ออกรุนแรงขึ้น
ในช่วงนาทีคับขัน เฟิงอู๋โยวปากลีบดอกไม้ปิดตาหยุนเฟยไป๋ ลุกขึ้นพรวดและดึงเสื้อคลุมสีดำที่พาดอยู่มาคลุมร่างตัวเองอย่างรวดเร็ว
หยุนเฟยไป๋ตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ มือข้างหนึ่งยกขึ้นปาดกลีบดอกไม้ที่เปียกออกจากเปลือกตา อีกมือหนึ่งพลันอัดน้ำด้วยฝ่ามือวายุจนแตกกระจาย
“โฉมงามตัวน้อย จงเชื่อฟัง ข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี”
หยุนเฟยไป๋รู้สึกถึงลมหายใจที่กระเพื่อมอยู่ข้างหลัง จึงหันกลับไปกางแขนทั้งสองข้างใส่
“องค์รัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉิน โปรดสำรวม”
แววสังหารสะท้อนออกมาจากดวงตาสีดำประกายทองของจวินมั่วหรัน หากไม่เป็นเพราะเขาโอสถลมบูรพาไร้ฤทธิ์ที่ระงับการโคจรกำลังภายในของเขาอยู่ในตอนนี้ เขาสับหยุนเฟยไป๋เป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน
หยุนเฟยไป๋เงยหน้าขึ้น รับรู้ได้ว่าว่าเขากอดผิดคน ทำให้โกรธจัดเพราะความอับอาย
“เซ่อเจิ้งหวาง ไฉนถึงมาอยู่ที่นี่”
เขาปล่อยมือออกอย่างขุ่นเคือง และใช้มือข้างหนึ่งเช็ดหยดน้ำบนร่างกาย อารมณ์พลันเริ่มขุ่นมัวขึ้นทันที
หลังจากที่เฟิงอู๋โยวสวมเสื้อผ้าเสร็จ เธอก็โผล่ศีรษะครึ่งหนึ่งออกมาจากด้านหลังจวินมั่วหรัน สายตามองไปที่หยุนเฟยไป๋ด้วยความโกรธ “น่ารังเกียจ ไร้ยางอาย!”
จวินมั่วหรันเสียพลังต่อสู้ไปครึ่งหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
กลัวว่าหากขยับจะเผยพิรุธ
หยุนเฟยไป๋ขยับคอเสื้อของเขาอย่างหงุดหงิด ดวงตาสีม่วงอ่อนผุดแววปีศาจ “เฟิงอู๋โยว ในเมื่อเจ้ายอมรับเซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นตงหลินได้ เจ้าจะต้องยอมรับตัวข้าผู้นี้ได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะด้านไหน ตัวข้าล้วนเป็นเลิศกว่าเซ่อเจิ้งหวางอยู่อีกระดับ เหตุใดเจ้าไม่ลองพิจารณาข้าผู้นี้ดูหน่อย”
“พิจารณาเจ้าเรื่องอะไร เหล่าขุนนางพลเรือนในท้องพระโรงล้วนเห็นกับตาว่าเจ้าไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการเท่าข้า แล้วเจ้ายังมีอะไรที่คู่ควรจะได้รับความสนใจจากข้าเป็นพิเศษ”
หยุนเฟยไป๋จ้องมองเฟิงอู๋โยวที่พูดฉอดๆ อย่างเยือกเย็น เขาอยากจะลากเธอออกมาจากด้านจวินมั่วหรันให้รู้แล้วรู้รอด
อีกนิดเดียว! อีกนิดเดียวแล้วแท้ๆ ที่เขาจะได้รู้ว่าเฟิงอู๋โยวเป็นบุรุษหรือสตรี
น่าเสียดายที่จวินมั่วหรัน มาผิดเวลา! กลับมาโผล่ด้านหน้าเฟิงอู๋โยวในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้
“ไสหัวไป”
จวินมั่วหรันไม่สามารถโคจรพลังงานภายในของเขาได้ แขนขาของเขาอ่อนแรง จึงไม่สามารถทำอะไรหยุนเฟยไป๋ได้ ดังนั้นเขาจึงได้แค่ข่มขู่ด้วยการตวาดเสียง
“เซ่อเจิ้งหวาง ไฉนจึงต้องโกรธเพราะบุรุษไร้ค่าเพียงคนเดียว หลังจากที่ข้าแต่งงานอภิเษกกับจวินฝู ข้าต้องเรียกท่านว่าท่านพี่เหมือนฝูเอ๋อร์”
หยุนเฟยไป๋ได้ลิ้มลองฝ่ามือวายุของจวินมั่วหรันเข้าไปตอนอยู่ในท้องพระโรง ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
หลังจากพูดจบ ก็ต้องจากไปอย่างเสียหน้า
จวินมั่วหรันหันศีรษะกลับมา เมื่อเห็นว่าเฟิงอู๋โยวยังคงท่าทางตกใจ ตามเส้นผมของนางยังมีหยดน้ำไหลอยู่ เขาจึงยกมือขึ้นลูบศีรษะของเธอเบาๆ “กลัวใช่หรือไม่”
เฟิงอู๋โยวพยักหน้า “หยุนเฟยไป๋มีฝีปากค่อนข้างดี เขาเกือบหลอกข้าได้”
“ฝีปาก?”
เสียงลงท้ายของจวินมั่วหรันสูงขึ้น เขาเข้าใจผิด ทำให้ไฟโทสะปะทุขึ้นมา