ตอนที่ 306 เต็มใจกระนั้นหรือ / ตอนที่ 307 โอสถคุมกำเนิด
ตอนที่ 306 เต็มใจกระนั้นหรือ
“เฟิงอู๋โยว บอกข้ามา เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“เมื่อคืน ทันทีที่ข้าเพิ่งเข้ามาในห้องก็พบว่ามีคนอยู่มากมาย จากนั้น…”
เฟิงอู๋โยวกุมศีรษะของตนอย่างทรมานและพูดต่อไปไม่ได้
“จากนั้นเจ้าก็ถูกกามตัณหากลืนกินจิตใจ จนทรยศข้าและทำตัวเป็นดอกซิ่งออกนอกกำแพงกระนั้นหรือ”
จวินมั่วหรันเค้นถามเฟิงอู๋โยวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น เขาโมโหจนแทบอยากบีบคอนางให้ตาย
โชคดีที่ยังพอมีสติอยู่
“ข้าไม่ได้ตั้งใจ”
เฟิงอู๋โยวหมดคำจะเอ่ย นางไม่มีคำจะพูดแก้ต่างเพื่อปกป้องตัวเอง
เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นกะทันหันเกินไปสำหรับนาง!
เมื่อเห็นแสงเย็นฉายวาบขึ้นในดวงตาของจวินมั่วหรัน นางจึงยื่นมือออกไปจับชายเสื้อคลุมของเขาอย่างระมัดระวัง “จวินมั่วหรัน คนที่ข้าชอบมาตลอดก็คือเจ้า”
“ชอบข้าผู้นี้ แต่กลับหลับนอนกับชายอื่นอย่างสบายใจกระนั้นหรือ เฟิงอู๋โยว เจ้าอยากจะบอกข้าว่าเจ้าแยกแยะความรักกับความอยากออกจากกันได้อย่างชัดเจนกระนั้นหรือ”
“ไม่ใช่ ข้าไม่ได้ต้องการพวกเขา ข้าก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร อยู่ๆ ก็ไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไปคล้ายถูกผีสิง…”
“ถ้าเช่นนั้น เจ้ากำลังอ้อนวอนขอให้ข้ายกโทษให้เจ้าอยู่กระนั้นหรือ จะให้ข้ายกโทษเรื่องที่เจ้าเสพสมกับบุรุษทั้งเจ็ดคนในคราเดียวกระนั้นหรือ”
จวินมั่วหรันโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขารู้สึกว่าตัวเองถูกเฟิงอู๋โยวสวมเขา
เมื่อไป๋หลี่เหอเจ๋อเห็นเช่นนั้นก็เผยยิ้มจางๆ ออกมา “เซ่อเจิ้งหวางจิตใจคับแคบเหลือเกิน บัดนี้ ข้ากับอู๋โยวเป็นสามีภรรยากันแล้ว บางทีท้องของนางอาจตั้งครรภ์เลือดเนื้อของข้าอยู่ก็เป็นได้ หากท่านทนไม่ได้ก็จงออกไป อย่าตะคอกขึ้นเสียงใส่สตรีของข้า”
“หุบปาก!”
จวินมั่วหรันโกรธเป็นสายฟ้าฟาด ทันใดนั้นก็ชักดาบสะบั้นมังกรออกมาและฟันไปที่ไป๋หลี่เหอเจ๋อ
รอยยิ้มที่มุมปากของไป๋หลี่เหอเจ๋อเด่นชัดขึ้น เขารีบถอยหนีแต่ก็ไม่ลืมที่จะหันมาบอกเฟิงอู๋โยว “ดูแลตัวเองให้ดี”
เฟิงอู๋โยวนั่งขดตัวกอดเข่าอยู่ที่มุมเตียง
นางสัมผัสได้ถึงความโกรธของจวินมั่วหรันและความผิดหวังในดวงตาของเขา
อันที่จริง นางเองก็ไม่ชอบตัวเองที่ทำตัวเสเพลแบบนี้เช่นกัน
นางนึกไม่ออกว่านางทำตัวแบบนี้ได้เยี่ยงไร ทั้งที่มีสติอยู่
“ท่านชายเป็นอะไรหรือขอรับ”
“ท่านชาย เมื่อคืนสุดยอดมากเลย!”
“ท่านชายเหนื่อยหรือไม่ เดี๋ยวโหรวโหรวทุบไหล่ให้นะขอรับ”
อาจเป็นเพราะเกิดเรื่องอลหม่านขึ้นภายในห้อง เหล่าบุรุษที่นอนเกลื่อนอยู่บนพื้นก็ทยอยตื่นขึ้นมา
เช่นเดียวกับเฟิงอู๋โยว พวกเขาถูกฉู่สือซื่อชักนำเข้าสู่ห้วงมายาเช่นกัน
ดังนั้นพวกเขาจึงหลงเชื่อว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่อธิบายไม่ได้กับเฟิงอู๋โยว
“อย่าเข้ามา!”
เฟิงอู๋โยวตวาดเสียงดุดัน ดวงตาเย็นเฉียบราวกับน้ำ
เหล่านายบำเรอที่อยู่ใต้เตียงมองหน้ากันอย่างตกตะลึง พวกเขาไม่กล้าปีนขึ้นไปบนเตียงเพราะกลัวดาบสะบั้นมังกรที่สั่นไหวอยู่ในมือของจวินมั่วหรัน
เหล่านายบำเรอรีบหอบเสื้อผ้าอย่างลนลานและหนีตามไป๋หลี่เหอเจ๋อไปทันที
จวินมั่วหรันถือกระบี่สะบั้นมังกรด้วยมือข้างหนึ่ง ปลายกระบี่ชี้ไปที่ปลายจมูกของเฟิงอู๋โยว
“คนที่กล้าทรยศข้า จุดจบไม่สวยแน่นอน”
“ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
เฟิงอู๋โยวโถ้เถียงกลับไปอย่างไร้เรี่ยวแรง ตอนนี้นางปวดใจไม่ต่างจากจวินมั่วหรัน
เคล้ง!
กระบี่สะบั้นมังกรร่วงลงพื้น
จวินมั่วหรันอยากฆ่านางให้หนำใจ แต่ความรักของเขาที่มีต่อนางถลำลึกเกินไป
แม้ว่าเฟิงอู๋โยวจะทรยศเขาแต่เขาก็ไม่สามารถลงมือกับนางได้
เขาเงยหน้าขึ้นช้าๆ มองไปที่เฟิงอู๋โยวในสภาพตื่นตระหนก พูดขึ้นเสียงขรึม “เฟิงอู๋โยว เจ้าโกหกข้าไม่ได้หรือ ข้าผู้นี้เต็มใจจะเชื่อทุกคำที่เจ้าพูด”
เฟิงอู๋โยวไม่ตอบ นางเอาแต่มุดศีรษะไว้ระหว่างเข่า จิตใจสับสนวุ่นวายเหมือนเส้นด้ายพันกัน
นางไม่มีเรี่ยวแรงจะอธิบายและไม่สามารถเผชิญหน้ากับนายบำเรอดัดจริตที่อยู่ด้านนอกประตูได้ ยิ่งไปกว่านั้น นางไม่รู้ว่าจะรั้งจวินมั่วหรันกลับมาได้เยี่ยงไร
“ข้าจะถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าถูกบังคับหรือไม่”
“จวินมั่วหรัน ข้ารู้ว่ามันยากสำหรับเจ้าที่จะยอมรับเรื่องทั้งหมดนี้ พูดตามตรง ข้าเองก็ไม่อยากยอมรับเช่นกัน ข้าไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดตัวข้าถึงทำเรื่องบ้าบอคอแตกไปอย่างไม่รู้สึกตัว”
“เจ้าเต็มใจ”
จวินมั่วหรันพูดเน้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ไร้ความอบอุ่นใดๆ ในน้ำเสียง
เฟิงอู๋โยวไม่รู้จะตอบเยี่ยงไร นางขดตัวอยู่ที่มุมห้องโดยไม่พูดอะไรสักคำ
จวินมั่วหรันเหลือบมองเสื้อคลุมที่เปื้อนเลือดของนาง ก็คิดว่านางได้มอบครั้งแรกให้ไป๋หลี่เหอเจ๋ออย่างมักง่ายไปเสียแล้ว
ตอนที่ 307 โอสถคุมกำเนิด
หลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว ริมฝีปากเรียวบางของเฟิงอู๋โยวก็เอ่ยพูดเสียงสั่น “เซ่อเจิ้งหวาง หลังจากนี้ต่อไปอย่ามาที่นี่อีกเลย”
“พอมีรักใหม่ก็ไม่ต้องการข้าแล้วใช่หรือไม่”
เฟิงอู๋โยวหันศีรษะไปทางอื่น พยายามข่มความเศร้าโศกในดวงตา
นางในตอนนี้รู้สึกไร้ที่พึ่งพิงเป็นที่สุด
นางอยากพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของจวินมั่วหรันเพื่อปลอบโยน
แต่นางทำไม่ได้
เมื่อคืนที่ผ่านมา เรื่องที่ทั้งไม่น่าเชื่อและแปลกประหลาดตลอดทั้งคืนได้ทำลายความพยายามของเฟิงอู๋โยวจนราบคราบ
ตอนนี้ แม้แต่ตัวนางเองก็ยังรู้สึกว่าร่างกายนี้สกปรกเกินไป นับประสาอะไรที่จะปล่อยให้นางเผชิญหน้ากับจวินมั่วหรันด้วยร่างผีๆ[1]
เขาเป็นคนรักความสะอาดอยู่เสมอ ดังนั้นเขาจะต้องไม่ชอบสตรีสำส่อนอย่างนางแน่นอน
เป็นไปอย่างที่คิด จวินมั่วหรันไม่ต้องการแตะต้องนางไปมากกว่านี้
จวินมั่วหรันลุกขึ้นอย่างเฉยเมยและเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
ทันทีที่เขาก้าวไปข้างหน้า เฟิงอู๋โยวรู้สึกราวกับว่าทั่วทั้งร่างกายถูกสูบพลังออกไปจนว่างเปล่า แขนขาอ่อนแรง ล้มลงนอนแผ่บนเตียง
นางจ้องมองมุ้งกระโจมบนเพดานอย่างเลื่อนลอย แม้ไม่อยากนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แต่นางก็ลองหวนนึก
ที่น่าแปลกคือนางจำได้เพียงแค่ว่านางมีความสัมพันธ์บางอย่างกับไป๋หลี่เหอเจ๋อและนายบำเรอทั้งหกที่อยู่นอกประตู แต่กลับจำรายละเอียดไม่ได้เลย
เฟิงอู๋โยวขมวดคิ้ว จากนั้นรีบตรวจสอบเสื้อผ้าบนร่างกาย
ผ้ารัดหน้าอก กางเกงชั้นใน เสื้อซับในและชุดชั้นในที่ใส่มาเพื่อยั่วยวนจวินมั่วหรันเป็นพิเศษล้วนอยู่ครบ
ที่น่าแปลกยิ่งกว่านั้นก็คือจิตใต้สำนึกของนางรู้สึกเหมือนว่าขาทั้งสองข้างอ่อนแรง ซึ่งคล้ายกับความรู้สึกอ่อนล้าหลังจาก ‘ศึกอันหนักหน่วง’
แต่เมื่อลองตั้งสติพิจารณาอย่างละเอียดก็พบว่าไม่มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายเลยแม้แต่น้อย
หรือว่านางถูกสะกดจิต
ความสงสัยพลันผุดขึ้นในใจของเฟิงอู๋โยว นางรวบรวมสติและต้องการจะถอดเสื้อผ้าตรวจร่างกายตัวเองอย่างละเอียด
หากนาง ‘ทำศึก’ กับบุรุษทั้งเจ็ดตลอดทั้งคืนจริงๆ ก็คงจะมีร่องรอยทิ้งไว้บนร่างกายไม่มากก็น้อย
นางยังคงมีความหวังสุดท้ายเหลืออยู่ ครั้นแล้วจึงปลดกระดุมเสื้ออย่างกังวล
ในเวลานี้ อยู่ๆ จวินมั่วหรันก็กลับมา
เขาเดินย้อนแสงเข้ามาอย่างเย็นชา เย่อหยิ่ง ไร้ความรู้สึก
“ดื่มเสีย”
ขณะที่ตกตะลึงอยู่นั้น เขายื่นถ้วยโอสถน้ำสีดำสนิทให้เฟิงอู๋โยวพร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเมินเฉย
เฟิงอู๋โยวเข้าใจผิดคิดว่าสิ่งที่จวินมั่วหรันยื่นให้คือยาพิษ สีหน้าจึงซีดลงฉับพลัน
หลังจากนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง นางจึงส่ายหัวปฏิเสธอย่างมีเหตุผล “ตัวข้าในตอนนี้ย่ำแย่มาก็จริง แต่ข้าไม่อยากตาย ข้ายังอยากมีชีวิตอยู่”
“ไม่ตายหรอก แค่โอสถคุมกำเนิด”
ทันทีที่จวินมั่วหรันพูดจบ ก็ไม่เปิดโอกาสให้นางลังเล เขาจับคางของนางด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างถือถ้วยโอสถน้ำคุมกำเนิด จากนั้นก็เทโอสถน้ำรสขมใส่ปากของเฟิงอู๋โยว
โอสถน้ำคุมกำเนิดมีรสขมยิ่งนัก อีกทั้งถูกจวินมั่วหรันจับกรอกปากอย่างรวดเร็ว ทำให้ใบหน้าอันสวยงามของเฟิงอู๋โยวบูดเบี้ยว
นางบีบแขนของจวินมั่วหรันแน่นด้วยมือทั้งสองข้าง พยายามที่จะหลุดจากพันธนาการของเขา แต่เขาไม่สะทกสะท้านจนกระทั่งนางดื่มโอสถน้ำหยดสุดท้ายเข้าไป เขาจึงปล่อยนาง
“โอ้ก…”
เฟิงอู๋โยวยกมือทั้งสองข้างกุมหน้าอกและอาเจียนแต่ลมออกมา
เดิมทีจวินมั่วหรันอยากจะยื่นมือเข้าไปช่วย แต่เมื่อเห็นคราบเลือดอันสะดุดตาบนเสื้อคลุมของนาง เขาก็กลายเป็นคนใจดำขึ้นทันที
ชายแขนเสื้อกว้างสีหมึกโบกสะบัด เสียงถ้วยโอสถพลันตกลงพื้น กล่องยาโอสถหยกที่ยังไม่ได้เปิดใต้แขนเสื้อถูกโยนใส่อ้อมแขนของเฟิงอู๋โยวทันที
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังยัดผลไม้รสหวานใส่มือของนาง
เฟิงอู๋โยวจ้องมองผลไม้รสหวานในมือของตัวเองอย่างหลากอารมณ์
การกระทำทั้งหมดของนางเมื่อคืนนี้ทำลายอนาคตของนางกับจวินมั่วหรันจนป่นปี้
แต่ที่เหนือความคาดหมายก็คือ จวินมั่วหรันกลับส่งโอสถหยกกับผลไม้รสหวานให้นางกับมือ
แบบนี้แสดงว่าหัวใจของเขายังมีนางอยู่
แต่คำถามคือนางมีสิทธิ์อะไรไปรั้งเขาเอาไว้
ด้วยร่างกายอันโสโครกของนางหรือด้วยความรักจากลมปากของนาง
ช่างเถิด หากไม่เหมาะสมกันจริงๆ ก็เป็นไปตามนั้น
เฟิงอู๋โยวถอนหายใจเฮือกใหญ่ นางรู้สึกว่าความขมจากต่อมรับรสในปากของนาง เทียบกับความขมขื่นในใจตอนนี้ไม่ได้แม้แต่น้อย
“จุ้ยเฟิงยังคงโง่เขลาอยู่ เขายังแต่งกลอนใช้เป็นวาทศิลป์ไม่ได้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปอย่าลืมเผื่อเวลามาสอนข้าที่ตำหนัก”
เฟิงอู๋โยวพยายามสงบสติอารมณ์และเอ่ยเสียงแผ่ว “ช่วงนี้เรือนแพทย์ทำกำไรได้เพียงเล็กน้อย เอาไว้วันหลังข้าจะสั่งให้คนรับใช้ในเรือนแพทย์ไปคืนเงินค่าจ้างให้เจ้า เดิมทีจุยเฟิงก็เป็นเลิศทั้งสายบู๊และสายบุ๋นอยู่แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องเรียนรู้การแต่งกลอนแม้แต่น้อย”
จวินมั่วหรันกังวลว่านางจะจากไปแล้วไม่กลับ อยู่ๆ ก็กระวนกระวายขึ้นมา ดังนั้นจึงใช้จุยเฟิงเป็นข้ออ้างเพียงเพื่อหลังจากนี้จะได้พบนางอีก
แต่นึกไม่ถึงว่านางต้องการตัดความสัมพันธ์กับเขาอย่างไร้เยื่อใย!
“แล้วแต่เจ้า”
จวินมั่วหรันโกรธจัด เขาลุกขึ้นพรวด สะบัดชายแขนเสื้อและออกไปทันที
[1]ร่างผีๆ เป็นภาษาถิ่นของคนมณฑลเสฉวน หมายถึงรูปร่างหรือท่าทางที่ทำให้คนอื่นรังเกียจ