เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ – ตอนที่ 339 การพิจารณาคตี ณ ตำหนักคุนหนิง ตอนที่

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

ตอนที่ 339 การพิจารณาคตี ณ ตำหนักคุนหนิง / ตอนที่ 340 เกิดเรื่องใหญ่ที่ตำหนักคุนหนิง

ตอนที่ 339 การพิจารณาคตี ณ ตำหนักคุนหนิง

เวลาผ่านไปหนึ่งถ้วยชา เดินผ่านโค้งไม่กี่โค้ง เฟิงอู๋โยวก็ถูกนำตัวมาถึงยังตำหนักคุนหนิง

นางค่อยๆ เงยหน้ากวาดมองการตกแต่งรอบๆ ตำหนักคุนหนิง ในใจยิ่งสับสน

เมื่อแหงนมองขึ้นไป เห็นอักษรคำว่า ‘พญาหงส์’ สีแดงสลักอยู่บนเสาสี่มุมรอบตำหนัก

ในตำหนัก คานทำด้วยไม้จันทน์ชั้นดี โคมไฟประดับหยกและผลึกหินใส มองดูหรูหรา ชวนประทับใจยิ่งนัก

ได้ยินว่าพระพันปีหลวงเห่อเหลียนเคร่งในพระธรรม นั่งกรรมฐานมานาน ว่าตามหลักแล้ว คนที่ศรัทธาในหลักธรรมน่าจะเป็นคนเรียบง่าย

แต่ตำหนักคุนหนิงกลับแกะสลักด้วยทองและหยกตัด ดูโอ่อ่าหรูหราไม่ธรรมดา ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสถานที่พำนักของนางสนมผู้ใฝ่สูงเสียมากกว่า

เวลาเดียวกัน พระพันปีหลวงเห่อเหลียนทรงประทับอยู่บนบัลลังก์พญาหงส์เคลือบทอง ใช้ปลอกนิ้วทองสลักเคาะที่ที่พักแขนไม่อยู่

นางใช้สายตามองมายังเฟิงอู๋โยวที่ถูกทหารราชองครักษ์คุมตัวเข้ามา ตรัสขึ้นด้วยสีหน้าดุดัน “เฟิงอู๋โยว เจ้าบังอาจยิ่งนักที่วางแผนหลอกล่อให้ฮ่องเต้เสวยยาพิษร้ายแรง”

“กระหม่อมจงรักภักดีต่อองค์ฮ่องเต้ ขอพระพันปีหลวงได้โปรดทรงพิจารณาไตร่ตรองอีกครั้ง” เฟิงอู๋โยวตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ท่านแม่ทัพเฟิง อยู่ต่อหน้าพระพันปีหลวง ไฉนท่านถึงไม่คุกเข่า” ท้าวนางกุ้ยที่ยืนอยู่ข้างๆ พระพันปีหลวงพูดเหน็บแหนม

เฟิงอู๋โยวตกอยู่ในความมึนงงชั่วขณะ ในที่สุดก็คุกเข่าลงอย่างมีมารยาทด้านหน้าตำหนัก

แต่ท้าวนางกุ้ยกลับไม่คิดจะปล่อยนางไปง่ายๆ แค่นี้

นางกรอกตาใส่เฟิงอู๋โยว พูดขึ้นอย่างชั่วร้าย “การคุกเข่าเคารพพระพันปีหลวง เป็นเรื่องที่พึงกระทำตามขนบธรรมเนียม สีหน้าของท่านแม่ทัพเฟิงไม่พอใจแบบนี้ หรือไม่ยอมต้องการปฏิบัติตาม”

“ยอม”

เพื่อลดปัญหาที่จะตามมา เฟิงอู๋โยวตอบอย่างว่าง่าย

แต่น่าเสียดาย พระพันปีหลวงเห่อเหลียนคิดมาตั้งแต่แรกแล้วว่าจะจัดการนางให้ได้ มีหรือจะยอมปล่อยนางไปโดยง่าย

นางคิดในใจ ขอแค่เฟิงอู๋โยวตาย จี้มั่วจื่อหยวนถึงจะมีโอกาสครองหัวใจของจวินมั่วหรัน

เมื่อคิดได้เช่นนี้ แววรังเกียจก็ฉายขึ้นในพระเนตรของพระพันปีหลวงเห่อเหลียน “ ท้าวนางกุ้ย จงรีบไปนำเอาแผงเข็มมาให้แม่ทัพเฟิงคุกเข่าเสียหน่อย แม่ทัพเฟิงแม้จะเป็นคนจากแคว้นเป่ยหลี ในเมื่อสวามิภักดิ์ต่อแคว้นตงหลินแล้วก็ควรที่จะได้รับโทษตามกฎของแคว้นตงหลิน”

“พระอาญามิพ้นเกล้า ข้าผู้น้อยทำผิดกฎบ้านเมืองของแคว้นตงหลินตั้งแต่เมื่อใดพะยะค่ะ”

เฟิงอู๋โยวยืดตัวตรงขึ้นมา มองตรงมายังพระพักตร์ที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นของพระพันปีหลวงเห่อเหลียน

“บังอาจ นี่เจ้าขัดขืนข้าหรือ ท้าวนางกุ้ย ตบปากนางเดี๋ยวนี้”

“พระพันปีหลวง ข้าน้อยเป็นถึงแม่ทัพที่องค์ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้ง หากทำผิดกฎของแคว้นตงหลินจริง ก็ควรเป็นศาลต้าหลี่เป็นผู้ลงทัณฑ์ตัดสิน การที่พระพันปีหลวงนำตัวข้าน้อยมาที่ตำหนักคุนหนิงเช่นนี้ ดูคล้ายกับว่าต้องการจะลงโทษข้าน้อยด้วยวิธีส่วนพระองค์ แล้วแบบนี้ถือว่าเป็นกฎหมายบ้านเมืองแบบใด”

เทื่อเฟิงอู๋โยวเห็นว่าพระพันปีหลวงเห่อเหลียนไม่เหลือพื้นที่ไว้ให้ตัวเองแบบนี้ ก็ลุกขึ้นพรวดพูดกับพระพันปีหลวงเห่อเหลียนด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก

พระพันปีหลวงเห่อเหลียนไม่คิดว่าเฟิงอู๋โยวจะกล้าทำถึงขนาดนี้ นางโมโหจนมือไม้สั่นระริก “ท้าวนางกุ้ย ตบปาก”

“เพคะ”

เมื่อได้รับคำสั่งดังนั้น ท้าวนางกุ้ยจึงรีบถกแขนเสื้อขึ้น ทำสีหน้านางยักษ์ เปล่งรังสีอำมหิตและพุ่งไปยังเฟิงอู๋โยว

จุยเฟิงเห็นเช่นนั้นจึงรีบเข้าไปบังเฟิงอู๋โยวเอาไว้ “แม่ทัพเฟิง ข้าจะปกป้องท่านเอง ท่านรีบหนีไป”

“ถอยไป ก็แค่แม่นมแก่ๆ คนเดียว ข้ารับมือได้”

รังสีอำมหิตของเฟิงอู๋โยวโหมกระพือทั่วทั้งตัว มือหนึ่งผลักจุยเฟิงออกไปอีกทาง มืออีกข้างจับข้อมือท้าวนางกุ้ยเอาไว้

“กำแหงนัก แม่ทัพเฟิง เจ้ารู้หรือไม่ว่าการขัดพระราชเสาวนีย์จะต้องโดนโทษประหารด้วยการเฉือนเนื้อ” ท้าวนางกุ้ยพยายามขัดขืน ใบหน้าฉายแววอำมหิตและถ่มน้ำลายใส่

“ท้าวนางกุ้ย ท่านรู้หรือไม่ การให้ร้ายขุนนาง โทษนี้ถึงขั้นประหารชีวิต”

เฟิงอู๋โยวเน้นทีละคำทีละประโยค นางออกแรงจับมือของท้าวนางกุ้ยขัดไว้ด้านหลังต่อหน้าทุกคนในตำหนักคุณหนิง จากนั้นก็ตบท้าวนางกุ้ยอย่างเต็มแรง

เพี้ยะ

เพี้ยะๆๆ

บัดนี้ ตำหนักคุนหนิงอันใหญ่โตมีเพียงเสียงตบดังก้องตำหนัก ทุกคนที่อยู่ในตำหนักได้แต่อ้างปากค้างมองดูความบ้าคลั่งของเฟิงอู๋โยว

ตอนที่ 340 เกิดเรื่องใหญ่ที่ตำหนักคุนหนิง

พระพันปีหลวงเห่อเหลียนเห็นท้าวนางกุ้ยโดยตบจนหน้าบวมฉึ่งก็ทรงยืนขึ้น จ้องตาเขม็งพร้อมแผดเสียงตะโกน “ต่อต้าน กระทำการต่อต้าน ทหาร! เฟิงอู๋โยวล่วงเกินเบื้องสูง ทำมิดีมิร้ายต่อหน้าสาธารณชนในตำหนักคุนหนิง ลากออกไปเฆี่ยนหนึ่งร้อยหวาย”

จวินฝูได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มของผู้ชนะ

นางรู้ดีว่าถ้าพระพันปีหลวงเห่อเหลียนโมโห เฟิงอู๋โยวจะต้องโชคร้ายมากกว่าโชคดี

เพื่อต้องให้เฟิงอู๋โยวถูกประหารชีวิต จวินฝูกุลีกุจอไปที่หน้าพระพักตร์ ปั้นน้ำตาร่ายทุกข์กล่าวหาเฟิงอู๋โยว “พระพันปีหลวงเพคะ เมื่อครึ่งชั่วยามก่อนหน้านี้ เฟิงอู๋โยวจิตใจเหี้ยมโหดใช้หม่อมฉันเป็นที่ระบายอารมณ์ สาวรับใช้ของหม่อมฉันถูกเฟิงอู๋โยวลอบวางยางพิษในอาหารจนกระอักเลือดตาย แล้วโดนโยนลงไปในบ่อหลังตำหนักหลวนชิน เสียชีวิตอย่างน่าอนาถ ไม่เพียงเท่านี้ หม่อมฉันยังโดนเฟิงอู๋โยวมัดไว้กับเสากลางตำหนักหลวนชินและถูกทำร้ายอย่างโหดร้าย”

ทหารองครักษ์พกดาบพูดเสริมด้วยน้ำเสียงสุขุม “พระอาญามิพ้นเกล้า คำพูดของท่านหญิงจวินฝูล้วนแต่เป็นความจริง หม่อมฉันทั้งหลายพบศพที่อยู่ในบ่อน้ำหลังตำหนักหลวนชินจริง จากการพิสูจน์ เป็นสาวรับใช้ของท่านหญิงจริงพะย่ะค่ะ”

พระพันปีหลวงเห่อเหลียนใช้พระหัตถ์ข้างหนึ่งตบโต๊ะ ต่อว่าเฟิงอู๋โยวด้วยน้ำเสียงดุดัน “เฟิงอู๋โยวนางตัวดี เริ่มจากการวางยาพิษฮ่องเต้ ซ้ำยังฆ่าสาวรับใช้เพื่อแก้แค้นส่วนตัว วันนี้เจ้ายังกล้ามาสร้างเรื่องที่ตำหนักคุนหนิงอีก เจ้ารู้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นความผิดกระทงไหน ก็ประหารชีวิตเจ้าได้ทั้งนั้น”

“พระพันปีหลวง ตามกฎของแคว้นตงหลินแล้ว มีเพียงต้องผ่านการไต่สวนจากศาลต้าหลี่และพิจารณาคดีผ่านสามสำนักเท่านั้นถึงจะตัดสินโทษได้ แต่ ณ ตอนนี้ ท่านเพียงฟังความของท่านหญิงจวินฝูเพียงข้างเดียว ก็ระบุโทษของกระหม่อมอย่างง่ายดาย คล้ายว่ากำลังจะพยายามปกปิดอะไรบางอย่าง”

เฟิงอู๋โยวเหวี่ยงท้าวนางกุ้ยที่ใบหน้าบวมเขียวออกไปอีกด้าน แล้วหันหน้ามองตาเขม็งมายังจวินฝูผู้โง่เขลาเหมือนหมู ที่เก่งแต่เรื่องซ้ำเติมผู้อื่น

ถ้าไม่สั่งสอนจวินฝูสักหน่อย นางคงได้กระอักเลือดอยู่ในใจ

จวินฝูสัมผัสได้ถึงสายตาอาฆาตของเฟิงอู๋โยว อยู่ๆ ก็ขนลุกขนหนาวสั่นขึ้นมา จึงรีบเผ่นไปอยู่ด้านหลังของทหารองครักษ์

เฟิงอู๋โยวตาไวมือไว มือหนึ่งคว้าสาบเสื้อของจวินฝู อีกมือหนึ่งง้างขึ้นสูง ตบลงไปที่ใบหน้าของจวินฝูอย่างจัง

พระเนตรของพระพันปีหลวงเห่อเหลี่ยนผุดแววหวาดหวั่นชั่วขณะ ในความคิดของนาง ความบ้าคลั่งของเฟิงอู๋โยวตอนนี้เหมือนกับจวินมั่วหรันไม่มีผิด

เมื่อพูดถึงจวินมัวหรัน พระพักตร์ของพระพันปีหลวงก็ยิ่งดูไม่งาม

นางครุ่นคิด ก่อนที่จวินมั่วหรันจะตามมาถึง ต้องรีบจัดการเฟิงอู๋โยวให้สิ้นซาก

“เฟิงอู๋โยวลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้ ต้องประหารทันที”

พระพันปีหลวงเห่อเหลียนตะโกนสั่งทหารราชองค์รักษ์ที่ถือดาบที่อยู่ด้านล่างตำหนักอย่างเด็ดขาด

ทหารองครักษ์มองหน้ากันเลิ่กลั่ก พวกเขาเคยได้ยินเรื่องระหว่างเฟิงอู๋โยวกับจวินมั่วหรัน กลัวว่าเมื่อจวินมั่วหรันทราบเรื่องนี้เข้าจะบุกมาฆ่าพวกเขาทั้งหมด

แต่หากขัดขืนคำสั่งของพระพันปีหลวงเห่อเหลียน แม้ไม่อยากจะทำ ก็จำเป็นต้องหัวชนฝาทำ

เฟิงอู๋โยวตบสั่งสอนจวินฝูไปสิบที เห็นใบหน้าริมฝีปากของจวินฝูบวมเป่งถึงได้หยุดมือ

นางปล่อยมือจวินฝูอย่างไม่ค่อยพอใจนัก แล้วรีบก้าวเท้าเคลื่อนกายมาอยู่หน้าพระพักตร์ของพระพันปีหลวงเห่อเหลียน

พระพันปีหลวงเห่อเหลียนตกใจจนหน้าซีดไปเช่นกัน มือหนึ่งกำลูกประคำ ริมฝีปากสั่นเล็กน้อย เปล่งน้ำเสียงสั่นเครือดังก้อง “คนทรยศ หากใครปล่อยเจ้าออกไปจากตำหนักคุนหนิง คนนั้นต้องถูกประหาร”

“พระพันปีหลวง ท่านทรงเข้าใจผิด ประการแรก กระหม่อมไม่เคยวางยาฮ่องเต้ เรื่องนี้รอให้ฮ่องเต้ฟื้นขึ้นมาก่อนแล้วรอว่าฮ่องเต้จะตรัสเรื่องนี้เยี่ยงไร ประการที่สอง กระหม่อมไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตายของสาวรับใช้ของท่านหญิงจวินฝู กระหม่อมไม่คิดว่าท่านหญิงจะพูดจาโกหกได้ขนาดนี้ เนื่องจากเซ่อเจิ้งหวางมีงานหลวงค่อนข้างรัดตัว ไม่มีเวลาอบรมสั่งสอนท่านหญิงจวินฝู กระหม่อมถึงได้ทำหน้าที่อบรมสั่งสอนน้องสาวแทนเซ่อเจิ้งหวางพะย่ะค่ะ”

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

Status: Ongoing
เพราะ ‘สัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ ทำให้ท่านอ๋องเย็นชาจอมเผด็จการแทบพลิกแผ่นดินตามหาตัวนาง เพื่อ…สังหาร!นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ พระเอกสุดโหด นางเอกสุดแซ่บ!เมื่อ เฟิงอู๋โยว หัวหน้าทหารรับจ้างสุดก๋ากั่นทะลุมิติมายังโลกยุคโบราณทั้งยังโดนวางยาปลุกกำหนัดเข้าทางรอดเร่งด่วนเพียงอย่างเดียวก็คือใช้บุรุษช่วยถอนพิษ!ชายหนุ่มมากมายหลายแสนนางไม่เลือกกลับไปพัวพันเข้ากับ จวินมั่วหรัน ท่านอ๋องแคว้นศัตรู ผู้ขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีและดุดันเหี้ยมโหดเกินใครแม้จะรอดตัวมาได้เพราะร่างนี้อยู่ในฐานะ ‘บุรุษ’ แต่ด้วยสถานะทหารแคว้นศัตรูทำให้นางต้องกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขาอีกครั้งตราบใดที่นางไม่พูด เขาคงไม่รู้กระมังว่านางคือคนในคืนนั้น?เอาเถอะ อย่างนั้นคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท