ตอนที่ 391 เถาหงตั้งครรภ์ / ตอนที่ 392 ทำลายนาง
ตอนที่ 391 เถาหงตั้งครรภ์
ณ เรือนพำนักแห่งแคว้นตงหลิน
แพทย์หลวงประจำตัวนั่งคุกเข่าตัวสั่นระริกด้านหน้าหยุนเฟยไป๋ พูดขึ้นอย่างตะกุกตะกัก “องค์รัชทายาทขอรับ หลอดเลือดเส้นลมหลักถูกรักษาเอาไว้แล้ว เพียงแต่…”
“เพียงแต่อะไร”
“ข้าน้อยไม่รู้ว่าจะสามารถใช้การได้หรือไม่ จำเป็นต้องดูอาการหลังฟื้นฟูขอรับ”
แพทย์หลวงประจำตัวก้มหน้าหลุบตา หยดเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลลงจากหน้าผาก
เขาระมัดระวังอย่างเห็นได้ชัด กลัวว่าพูดผิดแล้วจะนำภัยมาถึงตัวเอง
“แพทย์ไร้น้ำยา!”
หยุนเฟนไป๋ได้ยินเช่นนั้นก็โมโหขึ้นฉับพลัน
เขาขว้างแก้วชาในมือใส่ศีรษะของแพทย์หลวงประจำตัวอย่างโมโห “หากเจ้ารักษาข้าไม่ได้ เจ้ารอความพังทลายของตระกูลเจ้าได้เลย!”
“ข้าน้อยจะพยายามอย่างสุดความสามารถขอรับ!”
แพทย์หลวงประจำตัวตอบอย่างตัวสั่น
หยุนเฟยไป๋นอนตะแคงอยู่บนเตียงอยู่กับนางสนมอย่างหงุดหงิด เขาอยากจะฆ่าจวินมั่วหรันให้หนำใจ
ทว่าวิชานอกรีตของเขาก็ไม่สำเร็จผล หากดันทุรังแก้แค้นในเวลานี้ จะต้องหลีกเลี่ยงการโต้กลับของจวินมั่วหรันไม่ได้แน่นอน
เมื่อพูดถึงวิชานอกรีต อารมณ์ของหยุนเฟยไป๋ก็ยิ่งหงุดหงิดกว่าเดิม
ช่วงนี้เขาไม่สามารถใช้วิธีปฏิสัมพันธ์ธาตุหยินธาตุหยาง[1]เพื่อใช้ธาตุหยินเสริมธาตุหยางได้ ดังนั้นจึงส่งผลกระทบต่อการฝึกวิชานอกรีต
วิธีเดียวในตอนนี้มีเพียงฆ่าหญิงสาวแรกแย้มไปเป็นจำนวนมาก ดื่มเลือดสดของสาวพรหมจรรย์ทุกวัน ถึงจะสามารถหลีกเลี่ยงผลย้อนกลับของวิชานอกรีตในร่างกายได้
ปัญหาก็คือ การฆ่าผู้คนจำนวนมากในถิ่นของจวินมั่วหรัน หากเขารับรู้ขึ้นมา ผลที่ตามมาคงยากเกินกว่าจะจินตนาการ
ขณะหยุนเฟยไป๋กำลังเค้นสมองหาวิธีจัดการอยู่นั้น จวินฝูก็โผล่มาพรวดพราดเข้ามา
เพี้ยะ!
หยุนเฟยไป๋ง้างมือขึ้นมาและตบลงบนใบหน้าจวินฝูอย่างแรง “ตั้งครรภ์บุตรของข้า แล้วยังกล้าวิ่งพล่านไปทั่วอีกหรือ หากทารถในครรภ์บาดเจ็บ ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่นอน”
จวินฝูนึกไม่ถึงว่าหยุนเฟยไป๋จะกล้าลงมือกับตัวเองถึงขั้นนี้ นางเสียสมาธิไม่ทันสังเกต ล้มถลาเข้าไปทับเถาหงอย่างจัง
ร่างกายของเถาหงอ่อนแอบอบบาง เมื่อถูกจวินฝูล้มทับใส่ ก็พลอยล้มลงพื้นดัง ‘ตุบ’ ไปด้วย
ขณะกำลังจะลุกขึ้น ชายเสื้อของนางกลับเปื้อนเลือด
แพทย์หลวงประจำตัวเห็นเช่นนั้นก็รีบเข้ามาวินิจฉัยอาการของนางทันที
จวินฝูกรอกตาขาวใส่เถาหงที่กองอยู่บนพื้นอย่างดูถูก พูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา “เป็นถึงอีตัวชั้นต่ำ ร่างกายจะอ่อนแอบอบบางแบบนี้ได้เยี่ยงไร คงเสแสร้งกระมัง!”
แพทย์หลวงประจำตัวกลับพูดขึ้น “แม่หญิงเถาหงกำลังตั้งครรภ์อยู่ เส้นชีพจรในครรภ์ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างไม่ทันระวัง ทำให้ตกเลือด ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป จำเป็นต้องรักษาตัวให้ดี ถึงจะสามารถสงบครรภ์ได้”
ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของหยุนเฟยไป๋ก็ฉายแววดีใจขึ้นมา
เมื่อเทียบกับจวินฝูผู้โง่เขลาเหมือนหมู เขาชื่นชอบเถาหงผู้อ่อนโยนมากกว่า
แต่สีหน้าของจวินฝูกลับซีดเผือดเป็นที่สุด
เถาหงตั้งครรภ์ ก็หมายความว่าหยุนเฟยไป๋ไม่จำเป็นต้องคาดหวังกับทารกในครรภ์ของนางคนเดียว
หากเป็นเช่นนี้ นางจะไม่มีสิทธิ์เรียกร้องจากหยุนเฟยไป๋ได้อีก
เมื่อคิดได้เช่นนี้ จวินฝูจำเป็นต้องปรับน้ำเสียงและคุกเข่าลงด้านหน้าหยุนเฟยไป๋อย่างเชื่อฟัง “หลังจากนีต่อไป ข้าจะเคารพเชื่อฟังคำพูดของสามีเจ้าค่ะ ประตูใหญ่ไม่ออก ประตูสองไม่ข้าม จะอยู่บำรุงครรภ์อย่างสงบเจ้าค่ะ”
“ได้ยินมาว่า เจ้าไปที่เรือนแพทย์พยากรณ์มากระนั้นหรือ”
“เจ้าค่ะ ท่านพี่กำหนดวันอภิเษกสมรสกับเฟิงอู๋โยวเอาไว้หลังจากนี้สามวัน ข้าไม่อาจทนเห็นท่านพี่อภิเษกสมรสกับบุรุษได้ จึงต้องไปที่เรือนแพทย์พยากรณ์แต่เพียงผู้เดียว เพื่อพูดคุยกับเฟิงอู๋โยวให้ชัดเจน แต่นึกไม่ถึงว่า เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าไปในห้องเฟิงอู๋โยวก็เห็นเขากอดกับไป๋หลี่เหอเจ๋อ”
“ไป๋หลี่เหอเจ๋อ?”
จวินฝูพยักหน้าอย่างหนักแน่น ก่อนพูดเสริม “เฟิงอู๋โยวถูกไป๋หลี่เหอเจ๋อกดลงบนโต๊ะอาหาร เหมือนขัดขืนแต่ก็ต้องการ แค่เห็นก็รู้แล้วว่าใคร่อยาก”
ได้ยินเช่นนั้น มุมปากของหยุนเฟยไป๋ก็ผุดยิ้มเยือกเย็น “ไป๋หลี่เหอเจ๋อไม่มีทางชอบบุรุษแน่นอน การที่เขาอยากอยู่ใกล้ชิดกับเฟิงอู๋โยวแบบนี้ แสดงว่านางเป็นสตรีแน่นอน”
จวินฝูเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “มีสตรีบัดสีสะเทือนยุคสมัยเยี่ยงเฟิงอู๋โยวแบบนี้อยู่จริงๆ หรือ”
“ครั้งนี้ข้าจะต้องพิสูจน์ความจริงด้วยตัวเองให้จงได้!”
ตอนที่ 392 ทำลายนาง
ณ โรงเตี๊ยมหลิงเฟิง
ดวงตาของสองข้างของชิวหรูสุ่ยหลับสนิท นอนตัวสั่นอยู่บนเตียงไม้ ปล่อยให้สาวรับใช้ทาโอสถให้ตามแผลที่ถูกเฆี่ยนทั่วทั้งแผ่นหลัง
ครั้นบาดแผลลึกตื้นตามแผ่นหลังของนางถูกชโลมด้วยโอสถน้ำ ความรู้สึกเหมือนกับถูกน้ำส้มพริกกัดกร่อนก็ไม่ปาน แสบร้อนปวดระบม
“ซืด…”
อาจเป็นเพราะสาวใช้ออกแรงมากไป ทำให้ชิวหรูสุ่ยต้องซีดปากและตำหนิด้วยสีหน้าไม่พอใจ “แบบนี้จะทำอะไรกินได้ แค่เรื่องเล็กๆ อย่างทาโอสถยังทำไม่ได้เลย”
สาวใช้คิ้วตกก้มหน้า พูดขึ้นอย่างหวั่นเกรง “ขอท่านหญิงอย่าได้โมโหเจ้าค่ะ!”
“ช่างเถิด”
ชิวหรูสุ่ยปัดมือ ก่อนถามสาวใช้ด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “มีข่าวจากศาลต้าหลี่มาบ้างหรือไม่ ท่านชายไปที่นั่นกว่าครึ่งค่อนวัน แต่กลับไร้ซึ่งเสียงตอบกลับ”
สาวใช้เหมือนอยากจะพูดแต่ก็หยุดไป สุดท้ายก็พูดขึ้นอย่างอู้อี้ “เรียนท่านหญิง มีสายรายงานมากว่า เฟิงอู๋โยวถูกปล่อยจากการถูกคาดโทษ ส่วนท่านชาย…เขาถูกคาดโทษกบฏในฐานะร่วมวางแผนกับองค์รัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉิน ตอนนี้กำลังถูกอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายอ๋าวเช่อจับกุมตัวอยู่เจ้าค่ะ”
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ”
ชิวหรูสุ่ยเหลือกตากว้าง ใบหน้าผุดแววตกใจสุดขีด
หากพูดอย่างไม่เกินความจริงเลยก็คือ ชิวหรูสุ่ยไม่เคยชอบเฟิ่งจือหลินมาก่อนเลย
สำหรับนางแล้ว เฟิ่งจื่อหลินเป็นคนที่นางมีก็ได้ไม่มีก็ได้
แต่ปัญหาก็คือ เฟิ่งจือหลินก่อโทษใหญ่มหันต์ นางในฐานะภรรยาของเขาก็จะพลอยโดนผลกระทบไปด้วย
ชิวหรูสุ่ยว้าวุ่นอยู่ไม่สุข นางรีบยื่นมือไปหยิบเสื้อคลุมชั้นนอกและพูดขึ้นไปพลางๆ “ไม่ได้การ! ข้าต้องไปที่เรือนแพทย์พยากรณ์”
ในใจนางคิดว่า เฟิงอู๋โยวยืนอยู่ที่แคว้นตงหลินได้อย่างมั่นคงแล้ว
หากเฟิ่งจือหลินที่เปรียบเหมือนหุบเขาที่พึ่งพิงลูกนี้ของนางพังทลายลง นางยังสามารถเกาะฐานะของเฟิงอู๋โยวในแคว้นตงหลินเพื่อลุกผงาดขึ้นอีกครั้งได้
“เวลาแบบนี้ เจ้ายังกล้าไปที่เรือนแพทย์พยากรณ์อีกหรือ”
เป่ยถางหลีอินเดินเข้ามาในห้องพักอย่างตื่นตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าอาบน้ำตา ดวงตาทั้งสองข้างยังมีน้ำตาคลอ ซุกซ่อนแววเคียดแค้นอยู่เล็กน้อย
ชิวหรูสุ่ยมองเป่ยถางหลีอินในสภาพสะบักสะบอมด้านหน้าอย่างตกใจ จึงเอ่ยถามเสียงแผ่ว “เกิดอะไรขึ้น”
เป่ยถางหลีอินน้ำตาหลั่งริน พูดขึ้นติดๆ ขัดๆ “เสด็จพ่อรู้ความจริงแล้ว ไม่ต้องการข้าแล้ว”
“เป็นไปได้เยี่ยงไร เรื่องในตอนนั้น ข้าทำอย่างแยบยลไร้ตะเข็บ”
“เป็นเพราะเจ้า! ไฉนตอนนั้นถึงไม่ยอมฆ่านางให้ตายตอนที่ยังไม่ปีกกล้าขาแข็ง ตอนนี้ เรื่องแดงออกมาแล้ว ข้าควรจะจัดการเยี่ยงไร”
น้ำเสียงของเป่ยถางหลีอินไม่เป็นมิตร ร้องได้สะอึกสะอื้นเสียงหาย
ชิวหรูสุ่ยแสร้งทำเป็นเข้มแข็งไม่สะทกสะท้าน “ฮ่องเต้แห่งแคว้นเป่ยหลีโอบอ้อมอารี ไม่มีทางทำร้ายเจ้าแน่นอน เจ้าอยู่กับเขามาสิบเจ็ดปี ขอแค่ไม่ทำผิดมหันต์ จะต้องมีโอกาสคืนกลับเหมือนเดิมแน่นอน”
“ข้ามีโอกาสอีกที่ไหน เฟิงอู๋โยวบังคับให้ข้ากลืนพิษที่เจ้าเคยปรุงให้นาง เกรงว่าชีวิตข้าคงอยู่ได้อีกไม่นาน”
ข้าเชื่อว่า ด้วยความสามารถของฮ่องเต้แห่งแคว้นเป่ยหลี จะต้องสามารถหาโอสถถอนพิษได้ในเวลาอันสั้น หรือไม่ก็เมื่อถึงตอนนั้น พวกเราก็แย่งโอสถถอนพิษมาจากเฟิงอู๋โยวก็ได้”
ชิวหรูสุ่ยพูดไปเรื่อย นางไม่ใส่ใจกับคำพูดของเป่ยถางหลงถิงแม้แต่น้อย
สำหรับนางแล้ว เป่ยถางหลีอินไม่สำคัญ
เป่ยถางหลีอินพูดขึ้นอย่างโมโห “พูดง่าย! แย่งโอสถถอนพิษจากเฟิงอู๋โยวมันง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ”
“เจ้าวางใจเถิด บุตรีของหลิงซูซู ข้าไม่มีทางปล่อยไปง่ายๆ หรอก”
“ข้าจะวางใจได้เยี่ยงไร เฟิงอู๋โยวมีดีกว่าข้าตรงไหน ไฉนทุกคนต้องรักนาง นางมีสิทธิ์อะไร!”
เป่ยถางหลีอินแผดเสียง ใบหน้าละเอียดหมดจนเหี้ยมโหดขึ้นเรื่อยๆ
ชิวหรูสุ่ยไล่สาวรับใช้ที่ทาโอสถให้นางออกไป หันไปปิดประตูแน่น ก่อนเอ่ยเสียงต่ำ “ทำลายสตรีแค่คนเดียวไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกเพราะเฟิงอู๋โยวเป็นอัจฉริยะผู้รอบรู้ แต่ถ้าทำลายใบหน้างดงามเจ้าเล่ห์ของนางไป ดูสิใครยังต้องการนางอีก”
“ในเมื่อเจ้ารู้ว่าเฟิงอู๋โยวเป็นภัย ไฉนไม่กำจัดนางให้เร็วกว่านี้สักสองสามปี”
เป่ยถางหลีอินถามชิวหรูสุ่ยด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น
ชิวหรูสุ่ยไม่ได้ตอบ เพราะสำหรับนาง เฟิงอู๋โยวคือผลประโยชน์ของนางไปตลอดกาล
ก่อนหน้านี้สองสามปี หากไม่ใช่เพราะเฟิงอู๋โยวพิชิตสงครามได้ทั่วสารทิศ บุกฝ่าวงล้อมและเข่นฆ่าข้าศึกจนนองเลือด นางจะได้รับแต่งตั้งเป็นท่านหญิงขั้นที่สองได้เยี่ยงไร”
อันที่จริง ตั้งแต่เริ่มแรก นางไม่คิดจะเล่นงานให้เฟิงอู๋โยวถึงตาย
นางแค่ต้องการให้เฟิงอู๋โยวใช้ชีวิตในฐานะบุรุษ ทำให้นางทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต
แต่เมื่อเฟิงอู๋โยวเริ่มโตขึ้นก็ยิ่งเหมือนเป่ยถางหลงถิงมากขึ้น
นางกังวลว่าเป่ยถางหลงถิงจะค้นพบความจริง ด้วยเหตุนี้ จิตสังหารจึงบังเกิด จึงเล่าเรื่องเมื่อเจ็ดปีก่อนให้เป่ยถางหลีอินฟังอย่างหมดเปลือกและร่วมมือกับนางติดตั้งกับดัก
เดิมทีเฟิงอู๋โยวควรตายที่ค่ายศึกแห่งแคว้นเป่ยหลีเมื่อหนึ่งเดือนก่อน คาดไม่ถึงว่านางจะดวงแข็งขนาดนี้!
ชิวหรูสุ่ยหรี่ตาลง น้ำเสียงเย็นลงฉับพลัน “เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว พวกเราต้องไตร่ตรองให้ละเอียดกันอีกสักรอบว่าจะกำจัดเฟิงอู๋โยวเยี่ยงไร! เข้าไปในเรือนแพทย์พยากรณ์ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ขอแค่นางก้าวออกมาจากเรือนแพทย์พยากรณ์แม้แต่ก้าวเดียว ข้าก็มีวิธีที่จะทำลายใบหน้าของนาง ข้าไม่เชื่อว่าเซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นตงหลินจะยอมอภิเษกสมรถกับสตรีอัปลักษณ์ผู้มีคุณธรรม!”
เป่ยถางหลีอินส่ายหน้า พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เจ้าอย่าประเมินความรู้สึกของเซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นตงหลินที่มีต่อเฟิงอู๋โยวต่ำเกินไป! ข้าคิดว่าต่อให้ใบหน้าของเฟิงอู๋โยวถูกทำลาย เซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นตรงหลินก็ไม่มีทางทอดทิ้งนางแน่นอน”
ชิวหรูสุ่ยกลับพูดขึ้น “หากทำลายใบหน้านางแล้วยังทำอะไรนางไม่ได้อีก เช่นนั้นก็ต้องทำลายพรหมจรรย์ของนาง ให้นางถูกคนพันคนข่มขืน หมื่นคนขึ้นขี่ ต่อให้เฟิงอู๋โยวจะเก่งกาจแค่ไหน ก็เป็นแค่สตรีคนหนึ่ง ขอแค่ทำลายพรหมจรรย์ของนางได้ อย่าว่าแต่เซ่อเจิ้งหวางเลย บุรุษทั่วไปก็ไม่ต้องการนาง”
[1]ปฏิสัมพันธ์ธาตุหยินธาตุหยาง หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ โดยธาตุหยินหมายถึงผู้หญิง ธาตุหยางหมายถึงผู้ชาย