ตอนที่ 3 สามปีต่อมา (รีไรท์)
ตอนที่ 3 สามปีต่อมา (รีไรท์)
เฉียวเยี่ยนง้อระบบตัวน้อย “พอแล้ว ไม่ต้องร้อง ระบบตัวน้อยของข้าเก่งมากแล้ว ก็แค่แต้มสะสมเอง วันหน้าข้าจะหามาให้เจ้า”
ระบบตัวน้อยใช้มือน้อยอวบอ้วนเช็ดคราบน้ำตา รู้สึกดีใจขึ้นมา
[ท่านโฮสต์ช่างดีจริง ๆ !]
หลังจากง้อระบบตัวน้อยเสร็จ เฉียวเยี่ยนก็อุ้มลูกสาวขึ้นมาป้อนนม เธอแหวกเสื้อออก ครั้นเด็กทารกหาชามข้าวของตนเจอก็ดูดคำใหญ่ เห็นได้ชัดว่าหิวเอามาก ๆ
เฉียวเยี่ยนลูบศีรษะเด็กน้อยในอ้อมแขน ใจอ่อนเหลวยวบเหมือนแอ่งน้ำ ราวกับรู้สึกสนุกที่ได้เลี้ยงเด็กน้อยสองคน
ครั้นลูกสาวดื่มเสร็จก็หลับไป เฉียวเยี่ยนจึงอุ้มลูกชายที่หิวจนแทะนิ้วขึ้นมาป้อนต่อ “เด็กดี หิวแย่แล้วสินะ เดี๋ยวแม่จะป้อนเจ้าตอนนี้แหละ”
ท่าทางของเฉียวเยี่ยนดูเก้กังเล็กน้อย ทว่าก็ยังดูอ่อนโยนมาก หลังจากเด็กน้อยถูกนางอุ้มขึ้นมาก็หยุดร้องไห้และพยายามดูดนมแม่
ระหว่างที่ป้อนนมลูก เฉียวเยี่ยนก็ถามเรื่องหนึ่งกับระบบตัวน้อย
“ระบบ แต้มที่เจ้ากล่าวก่อนหน้านี้ต้องหาอย่างไรรึ?”
[ท่านโฮสต์ ระบบมีอีกหลายโหมด และโหมดที่แตกต่างจะมีกฎเกณฑ์สะสมแต้มที่แตกต่าง โฮสต์ต้องเลือกทำภารกิจหนึ่งในโหมดมากมายเหล่านั้นให้สำเร็จ ]
เฉียวเยี่ยนเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ “หืม? โหมดไหนบ้างรึ?”
ระบบฟันน้ำนมที่อยู่ในหัวฉายภาพตัวเลือกออกมา
[ท่านโฮสต์ที่รัก ระบบมีโหมดสงครามนางใน โหมดแย่งชิงอำนาจ โหมดการสอบขุนนาง โหมดการแสดง…และสุดท้ายคือโหมดทำการค้าการเกษตร]
เฉียวเยี่ยนฟังจนตาลาย ดูเหมือนระบบตัวน้อยจะมีความสามารถมากมาย!
แต่ในโหมดมากมายเหล่านั้น เธอตกหลุมรักโหมดทำการค้าการเกษตรทันที ชีวิตที่แล้วเธอเป็นเจ้าหน้าที่รักษาทรัพยากรหายากระดับประเทศ เอกการเกษตร ดังนั้นสิ่งที่เธอเข้าใจมากที่สุดก็คือการเกษตร และชอบแค่การทำไร่ทำสวน จึงไม่ลังเลที่จะเลือกโหมดทำการค้าการเกษตร
[ติ๊ง! โฮสต์ได้เลือกโหมดทำการค้าการเกษตรแล้ว ของขวัญสำหรับมือใหม่…มันเทศหนึ่งต้น]
เฉียวเยี่ยนมองมันเทศในมือ มุมปากพลันกระตุก ดูจากรางวัลใหญ่สำหรับมือใหม่ก่อนหน้านี้ ระบบของเธอใจกว้างอย่างมาก แต่พอมาถึงตรงนี้ ไยมันถึงกลายเป็นต้นเดียวเสียล่ะ!
ระบบตัวน้อยรู้ว่าโฮสต์คิดอะไรอยู่ จึงอธิบายด้วยน้ำเสียงเด็กเล็ก
[ท่านโฮสต์ที่รัก รัชสมัยที่ท่านอยู่ตอนนี้คือรัชสมัยเทียนลี่ การผลิตยังล้าหลัง และยังไม่มีการนำเข้ามันเทศ]
เฉียวเยี่ยนฟังจบก็มองมันเทศในมืออีกครั้ง แววตาพลันเปล่งประกาย ประหนึ่งว่ามันไม่ใช่มันเทศต้นหนึ่งแต่เป็นทองแท่งหนึ่ง บอกแล้วไง ระบบของเธอใจกว้างที่สุดเลย!
หลังจากชื่นชมมันเทศเสร็จ เฉียวเยี่ยนก็ถามขึ้นอีกครั้ง “จริงสิ กฎการสะสมแต้มของโหมดทำการค้าการเกษตรคืออะไรรึ?”
ระบบตัวน้อยค้นหาไปมา สุดท้ายก็หาข้อกำหนดจนเจอ
[หาเจอแล้ว!]
[แต้มสะสมโหมดทำการค้าการเกษตรจะคิดตามอัตราส่วน เงินสองตำลึงแลกได้หนึ่งแต้ม นั่นคือทรัพย์สินที่โฮสต์หาได้จะถูกหารสองเพื่อเป็นแต้มสะสมที่จะได้รับ และทุกเดือนโฮสต์ต้องมีคะแนนอย่างน้อยหนึ่งร้อยแต้ม กล่าวคือโฮสต์จะต้องหาเงินอย่างน้อยสองร้อยตำลึงทุกเดือน!]
เฉียวเยี่ยนแทบกระอักเลือด “สองร้อยตำลึง! ไยเจ้าไม่ให้ข้าไปปล้นเสียล่ะ!”
จากความทรงจำของร่างเดิม ทำให้เธอรู้ราคาเศรษฐกิจโดยรวมของยุคนี้ และสองร้อยตำลึงสำหรับคนจนอย่างเธอมันก็เป็นตัวเลขมหาศาลอย่างไม่ต้องสงสัย
ระบบตัวน้อยยิ้มเขินพลางจิกชายกระโปรง
[แหะ ๆ ท่านโฮสต์ เรายังต้องมีความฝัน เผื่อว่ามันจะเป็นจริง]
เฉียวเยี่ยนเหม่อมองฟ้าอย่างพูดไม่ออก ก่อนถามกลับไปว่า “แล้วถ้าเกิดมันไม่เป็นจริงล่ะ?”
[หากทำภารกิจไม่สำเร็จ ท่านโฮสต์จะต้องได้รับบทลงโทษ ไม่เพียงแต่จะหักทรัพย์สินที่มีอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังต้องรับผิดชอบเงินสองร้อยตำลึงด้วย]
อั้ก!
เฉียวเยี่ยนรู้สึกได้ถึงเลือดที่คั่งอยู่ในลำคอ ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยไม่ต้องออกแรงหรอก นี่เป็นการผูกระบบที่ไหนกัน เกรงว่าจะเป็นการยืมเงินกู้ดอกเบี้ยสูงเสียมากกว่า!
ไหนบอกว่าเป็นระบบปลาเค็มไงเล่า!
“ระบบตัวน้อย เจ้าว่าเจ้าเป็นระบบปลาเค็มมิใช่รึ? ไฉนไม่ให้ข้านอนราบเป็นปลาขี้เกียจทุกวันล่ะ จะให้ข้าออกไปหาเงินทำไม?”
ระบบตัวน้อยเงยหน้าเล็ก ๆ ขึ้นมา ใบหน้าน่ารักเผยรอยยิ้มหวาน
[ท่านโฮสต์ ระบบปลาเค็มไม่ใช่อย่างที่ท่านเข้าใจ มันคือการที่โฮสต์พยายามหาเงินแลกกับคะแนน และเลี้ยงระบบจนกลายเป็นปลาเค็มตัวน้อย]
การอธิบายของระบบตัวน้อยทำให้เฉียวเยี่ยนหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก นี่มันคือระบบที่ไหนกัน นี่มันลูกสาวนอกสมรสของพระเจ้าชัด ๆ!
…..
ระบบกฎแห่งสวรรค์ขมวดคิ้วมองลูกสาวเลือกโฮสต์ผ่านห้องควบคุมหลักอย่างไม่พอใจ โฮสต์คนนี้ดูอ่อนแอมาก จึงให้สูตรโกงแก่ลูกสาว ไม่ให้อดอยากเหน็บหนาว
เป็นผลให้จู่ ๆ ระบบตัวน้อยค้นพบว่าในแหล่งซื้อของของตัวเองมีสินค้าดี ๆ มากมาย ไม่เพียงแต่มีของกินของใช้เท่านั้น แม้แต่ปืนกับกระสุนก็ยังมี
…..
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็สามปีแล้ว เฉียวเยี่ยนได้ข้ามเวลามายุคโบราณสามปีแล้ว และทารกทั้งสองที่เป็นของขวัญในครั้งแรกที่นางมาถึงยุคโบราณก็ได้เติบโตมาอย่างน่ารักและชาญฉลาด
ยามถึงเดือนแปด หน้าร้อนอันร้อนอบอ้าวก็ได้ลาจากไปแล้ว อุณหภูมิในตอนเช้าตรู่เย็นสบายเป็นพิเศษ และอากาศก็สดชื่นอย่างมาก
หมู่บ้านกว้างขวางล้อมรอบด้วยกำแพงสูง และพวกชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ล้วนพากันย้ายออก บ้านที่ควรรื้อถอนก็ถูกรื้อถอนไปนานแล้ว เหลือเพียงบ้านหลังคากระเบื้องขนาดเล็กที่ทรุดโทรมสามหลัง ซึ่งทำให้เฉียวเยี่ยนได้มีที่อยู่อาศัยดี ๆ ในที่สุด
พื้นที่เปิดโล่งนอกบ้านกระเบื้องหลังเล็กถูกปรับให้เป็นแปลงผัก ซึ่งมีผักเขียวขจีเติบโตอยู่ในนั้น เช่น ต้นหอม หน่อกระเทียม กุยช่าย ผักกาดขาวอวบอ้วน…
และที่เตะตาสุดคือแปลงต้นพริกที่มีผลสีแดงสีเขียว รวมถึงแปลงมันเทศที่เรียงต่อ ๆ กันเป็นผืน
เฉียวเยี่ยนเงื้อจอบขุดดิน ครั้นหน้าจอบสับลงไปก็ขุดดินขึ้นมาก้อนใหญ่ เผยให้เห็นมันเทศหัวใหญ่อันเรียบเนียนเกลี้ยงเกลา
ข้างหลังนางมีเจ้าเด็กน้อยอวบอ้วนสองคนถือตะกร้าดอกไม้ใบเล็ก เก็บมันเทศที่แม่ตัวเองขุดขึ้นมาใส่ลงในตระกร้าใบเล็ก และลำเลียงไปใส่ในตะกร้าที่แม่ตัวเองแบกไว้อีกที
เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ เด็กน้อยตัวอวบอ้วนสวมชุดกระโปรงบานพลิ้วสีชมพู เกล้าจุกเล็ก ๆ บนศีรษะ ก้มเก็บมันเทศใส่ตะกร้าตัวเองไปหลายหัว จากนั้นก็ลุกขึ้นหิ้วตะกร้าเดินกลับไปอย่างว่าง่าย
เด็กชายที่อยู่ข้างหลังเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์มองน้องสาวตัวเองเงียบ ๆ จากนั้นก็เพิ่มมันเทศลงในตะกร้าตัวเองอีกหัวหนึ่งอย่างสงบปากสงบคำ
เฉียวเยี่ยนที่วางจอบเห็นพฤติกรรมของลูกชายก็หัวเราะขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ พลางลูบหัวเด็กน้อย “ลูกรัก เจ้าหิ้วไปน้อยหน่อยก็ได้ ไม่ต้องสนใจน้องเจ้าหรอก”
น้องสาวเป็นเด็กสาวน่ารักที่ทรงพลัง จะไปเปรียบเทียบได้อย่างไร
ความคิดของเสี่ยวฉวนเอ๋อร์ถูกเปิดเผย ทำให้เขาเขินอายจนใบหูเล็ก ๆ แดงเรื่อ ทว่าใบหน้านั้นยังคงวางมาดขรึมเช่นเดิม
เฉียวเยี่ยนรู้สึกขบขันยิ่งนัก ลูกทั้งสองของนางล้วนเป็นเด็กตลกกันทั้งคู่
เฉียวสิงโจว ลูกชายของนางมีชื่อเล่นว่าเสี่ยวฉวนเอ๋อร์ รูปร่างหน้าตาเขาไม่เพียงแต่เหมือนท่านพ่อเขาที่ไม่เคยพบมาก่อนเท่านั้น แต่ยังมีนิสัยใจคอเหมือนกันอีกด้วย ใบหน้าน่ารักมักจะวางมาดขรึมมาตั้งแต่เด็ก จนดูเหมือนผู้ใหญ่ตัวเล็กที่เย็นชา แต่ความจำดีและเรียนเก่ง
ส่วนลูกสาวสุดที่รักของนางอย่างเฉียวจืออวี๋ มีชื่อเล่นว่าเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ เติบโตมาอย่างน่ารักน่าทะนุถนอม แต่ดูเหมือนจะเกิดมาพร้อมพละกำลังมหาศาล เป็นประเภทที่ทุบคนตายด้วยค้อนเดียวได้ นอกจากความน่ารักแล้ว นางยังเป็นเด็กที่เรียนไม่เก่ง แค่อ่านหนังสือก็ง่วงนอน แถมยังมักจะแอบหนีออกไปเที่ยวเล่น
เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์หามมันเทศกลับมา เห็นมารดาลูบศีรษะพี่ชายตัวเองก็โผเข้าไปในอ้อมกอดมารดาและตะโกนเสียงใส “ท่านแม่ ท่านลูบหัวข้าด้วยสิ หัวน้อย ๆ ของข้าก็น่าสัมผัสเหมือนกันนะ”
เฉียวเยี่ยนได้ยินน้ำเสียงหวานใสก็รู้สึกเบิกบานใจ มือหนึ่งอุ้มลูกไว้คนหนึ่ง แล้วดึงพวกเขามาไว้ในอ้อมกอด พลางหอมครั้งแล้วครั้งเล่า “ได้สิ แม่จะลูบทุกคนเลย ทุกคนคือของล้ำค่าที่สุดของแม่”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
สู้ ๆ นะอาเยี่ยน ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ เป็นระบบที่คิดดอกเบี้ยโหดมาก จนสงสัยว่าชาติที่แล้วเป็นเจ้าหนี้นอกระบบเหรอ
เด็ก ๆ เติบโตมาอย่างดีทีเดียวเลยค่ะ
ไหหม่า(海馬)