ตอนกลางคืนบนถนนสายหลักนอกเมืองริเวอร์ชอว์ มาร์วินกำลังเดินอยู่คนเดียวเขารู้สึกเศร้าขึ้นมา
‘ข้ารู้สึกถึงความเศร้าโศก … ‘
“แม้ว่าแอนโทนี่จะตายตามที่ข้าคาดไว้เเต่ข้ารู้สึกเจ็บปวดได้อย่างไร? “
มาร์วินยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้น เขาตกใจมาก เขาไม่ได้ตกใจเพราะความเศร้าโศก คนทั่วไปอาจไม่รู้ว่าความเศร้าโศกนี้หมายถึงอะไร แต่เขารู้ แอนโธนีเคยเป็นคนที่มีบทบาทมากที่สุดในการยับยั้งพลังแห่งความชั่วร้ายและยังเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นลัทธิงูแฝดหรือลัทธิที่ชั่วร้ายก็ตามพวกเขาไม่สามารถทำตามอำเภอใจได้เนื่องจากดวงตาแห่งดวงอาทิตย์ที่สว่างไสว ของแอนโธนีพ่อมดผู้สร้างในตำนานคนนี้เป็นผู้พิทักษ์ของฝั่งตะวันออก เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกลุ่มพันธมิตรคนเเบบเค้านั้นไม่สามารถอธิบายด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ
การตายของเขาแน่นอนคือความสูญเสียสูญเสียของทั้งทวีปเฝยหนาน และคนดีๆจะรู้สึกถึงพลังงานบางอย่างและรู้สึกถึงความเศร้าโศกบางอย่าง นี่เป็นครั้งแรก เพราะนี่เป็นการเสียชีวิตครั้งแรกของพ่อมดในตำนานตั้งแต่เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ขึ้น
ภายใต้การสมรู้ร่วมคิดของพระเจ้าการเสียชีวิตของพ่อมดผู้ปกครองของมนุษย์ไม่แน่นอน จากความทรงจำของมาร์วินในเหตุการณ์ที่น่าตกใจนี้ทุกอย่างจะเกิดขึ้นทีละขั้นตอนมันจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานก่อนที่ข่าวการตายของแอนโธนีแพร่กระจายไปทั่วและในเวลานั้นอำนาจชั่วร้ายทั้งหมดจะอุบัติขึ้น
มันเป็นวันที่น่าเฉลิมฉลองของ [ลัทธิงูแฝด], [เทพเเห่งภัยพิบัติ] [ผู้ศรัทธา] … ทุกอย่างมันเพิ่งจะเริ่มต้น ทวีปเฝยหนานทั้งหมดจะจมลงสู่ความสับสนวุ่นวาย พ่อมดจะสูญเสียพลังและกลายเป็นมอนสเตอร์ มนุษย์ที่ทุกข์ทรมานพวกเขาจะเริ่มอธิษฐานต่อพระเจ้า นี่เป็นเป้าหมายของเทพเจ้าที่สูงส่งและยิ่งใหญ่ทั้งหลาย! แน่นอนว่ายังมีช่องทางลับอีก 4 ที่ ทุกสิ่งทุกอย่างจะไม่สามารถหยุดยั้งได้ สิ่งเดียวที่มาร์วินสามารถทำได้คือการรักษาชีวิตรอดเเต่มันคงยากที่จะหาที่ปลอดภัยในสถานการณ์เเบบนั้น
นี่ค่อนข้างยาก!
แต่ในฐานะอดีตผู้เล่นในตำนานมาร์วินไม่เคยถอยห่างจากความท้าทาย ชะตากรรมทำให้เขามาถึงโลกนี้ เขามีข้อตกลงกับเจ้าของร่างคนเก่าดังนั้นเขาจึงต้องบรรลุเป้าหมายให้ได้ นี่คือคำมั่นสัญญาของมาร์วินด้วยชีวิตและด้วยเหตุนี้เขาจำเป็นต้องปกป้องดินแดนของเขาด้วยชีวิตของเขา
…
‘เป็นไปได้ไหมที่ข้ายังมีความรู้สึก?’
มาร์วินมองไปที่เมฆสีดำลอยอยู่ทางทิศตะวันออกเเละหัวเราะกับตัวเอง ฝนจะตกหนักเป็นเวลาหลายวันและปริมาณน้ำฝนจะกระทบชายฝั่งตะวันออกทั้งหมด นี่เป็นการเตือนสำหรับคนของเฝยหนานให้รู้ถึงความตายของแอนโธนีพ่อมดในตำนาน ภัยพิบัติกำลังจะเกิดขึ้น
มาร์วินปรับลมหายใจและใช้ประโยชน์จากความมืดเพื่อเร่งความเร็ว ถนนสายหลักค่อนข้างรกร้าง มีคนเพียงไม่กี่คนที่จะเดินเพียงลำพังในเวลากลางคืน นอกจากนี้ถนนสายหลักนี้ยังสร้างขึ้นโดยลอร์ดแห่งหุบเขาริเวอร์ไวท์ ปู่ของมาร์วินเอง เห็นได้ชัดว่ามีผู้คนจำนวนไม่มากที่จะใช้ถนนดังกล่าว
นับตั้งแต่การล่มสลายของหุบเขาริเวอร์ไวท์กองคาราวานไม่ไปที่นั่นอีกเลย หลังจากที่ทุกคนต้องเจอกับพวกโนลล์? การมองเห็นในที่มืดของมาร์วินค่อนข้างแย่ แต่โชคดีที่ดวงจันทร์ออกมาในคืนนี้ เขาสามารถมองเห็นได้ไกลจาก[สัญลักษณ์เเห่งดวงจันทร์]
เขาเร่งฝีเท้าของเขาและเขาไม่ต้องการทิ้งร่องรอยใดๆเขาจึงตัดสินใจที่จะพักผ่อนในระหว่างวันและออกไปในช่วงกลางคืน
สองวันต่อมาในตอนเย็นเขาก็มาถึงชายแดนของหุบเขาริเวอร์ไวท์
……
เหมืองทางเหนือ
ลมแรงพัดมาในป่าต้นบีชขณะที่ฝนตกหนักเริ่มเข้ามาใกล้ ถนนสายหลักนี้สิ้นสุดลงที่นี่เเละแยกออกเป็นหลายเส้นทาง มาร์วินใช้เส้นทางลัดโดยเดินผ่านป่า เขามาถึงหน้าสี่แยกและสังเกตเห็นป้ายถนน มาร์วินค่อนข้างคุ้นเคยกับเครื่องหมายนี้ มันแสดงให้เห็นทางไปทางทิศเหนือของเหมืองและปราสาทในตอนใต้แต่ตอนนี้มีบางสิ่งบางอย่างที่ถูกเขียนด้วยสีเขียว! เเละเป็นอักษรที่ดูน่ารังเกียจ
“ภาษาโนลล์! เวรเอ้ยย! ไอพวกสัตว์ชั้นต่ำ!”
มาร์วินกัดฟันของเขา แม้ว่าเขาจะไม่เก่งภาษา แต่เขาก็ยังคงเดาได้ว่าคำพูดบนป้ายถนนหมายถึงดินเเดนของโนลล์ จะต้องจัดการกับพวกมัน!
การโจมตีปราสาทของมาร์วินก็เป็นฝีมือของชนเผ่าโนลล์หรือเผ่าอื่นๆเมื่อพิจารณาถึงการป้องกันของปราสาทก็คงจะไม่พ่ายเเพ้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ นั่นเป็นเพราะว่าดินเเดนถูกโจมตีในช่วงเวลากลางคืนเเละมาร์วินยังเป็นเพียงเด็กน้อยไร้เดียงสาที่ไม่สามารถทำประโชชน์อะไรได้ เขาต้องพิจารณาตัวเองแต่เขาพบกับสถานการณ์ที่ค่อนข้างลำบากไม่ไกลจากทางแยก
หมาป่ากลายพันธุ์ ไดร์วูลฟ์¹!
สัตว์ระดับ 4 ที่มี hp ถึง 200 และความสามารถในการสู้รบระยะประชิดที่เทียบเท่ากับเสือดุร้าย เหล่าหมาป่ากลายพันธุ์เป็นกองกำลังสำคัญในการโจมตีปราสาทก่อนหน้านี้ กองทัพป้องกันปราสาทพยายามที่จะปกป้องตัวเองด้วยโล่ของพวกเขา แต่พวกมันกลับทำลายโล่ของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย มาร์วินรู้สึกวิตกไม่น้อยกับพวกหมาป่ากลายพันธุ์! แม้เเต่แอนนาก็ไม่สามารถช่วยเขาได้ …
…
มาร์วินรู้ว่าโนลล์มีความสามารถทำให้สัตว์เชื่องได้ แต่ชนิดของหมาป่ากลายพันธุ์นี้ไม่ได้เป็นชนิดที่โนลล์สามารถควบคุมได้
‘พวกโนลล์มีสัตว์หายากงั้นเหรอ? มาร์วินเดา ตอนนี้เขากำลังประสบปัญหาที่ค่อนข้างลำบาก ถนนข้างหน้าถูกปิดกั้นและถ้าเขาต้องการเดินไปข้างหน้าเขาจะต้องกำจัดเหล่าทหารรักษาการณ์ แต่เขาเเค่มาสอดแนมไม่ได้มาเพื่อต่อสู้
เขาต้องการที่จะรู้ว่า ins ของพวกโนลล์เป็นเช่นไรเเละกองกำลังต่อสู้ของพวกมันอยู่ระดับใดเรื่องนี้จำเป็นต้องทำอย่างเงียบ ๆเหล่าทหารรักษาการณ์และหมาป่ากลายพันธุ์กำลังขวางเส้นทางของเขา เรื่องนี้ลำบากมากมาร์วินลังเลและท้ายสุดก็ซบหน้าลงกับหลังต้นบีชและใช้ลักลอบ
‘คงต้องรอซักพัก’
…
มาร์วินรออยู่เป็นเวลาถึงสองชั่วโมงพายุฝนเริ่มตกลงมาจากฟากฟ้า นี่เป็นการเตือนของการตายของพ่อมดในตำนาน มาร์วินรู้ว่าพวกโนลล์กลัวน้ำฝนมาก หากขนของพวกมันเปียกโชกก็จะยากมากที่จะแห้งและจะเน่าได้ง่ายนี่เป็นเหตุผลที่พวกมันมักจะซ่อนตัวอยู่ในโพรงที่พวกมันสามารถหาได้และตามที่คาดไว้เมื่อฝนตกฝนพวกทหารรักษาการณ์เริ่มหนีไปยังโพรงที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก
พวกมันช่างโชคร้ายมาร์วินรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เขาใช้ซ่อนตัวภายใต้ฝนที่ปกคลุมเขาเเละเดินไปข้างหน้า
…
หลังจากไปถึงด่านแรกส่วนที่เหลือของถนนเรียบ มาร์วินลอบไปที่เหมืองทางเหนือ เขาค้นพบว่าโนลล์เหล่านี้ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการทำเหมืองแร่ หลังจากที่มาร์วินอพยพคนงานของเขามี โนลล์นักสู้ประมาณ 20 ตัวเเละหมาป่ากลายพันธุ์ 2 ตัว เเละอีกหนึ่งดูเหมือนจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับ 3
ดูเหมือนหัวหน้าของพวกมันจะวางกองกำลังป้องกันหลักไว้ที่ปราสาทของข้า ที่นีมีหมาป่ากลายพันธุ์มากมายเเละยังมีพวกโนลล์ที่มีจำนวนหลายตัว ไม่ต้องแปลกใจที่ทำไมเราถึงแพ้ในคืนนั้น พลังของหมาป่ากลายพันธุ์นั้นสูงเกินไป ผู้เชี่ยวชาญระดับ 2เท่านั้นจึงจะสามารถจัดการกับพวกมันได้ “
มาร์วินเตือนความทรงจำในใจของเขา: เขาจะต้องจัดการกับเหล่าหมาป่ากลายพันธุ์ไดร์วูลฟ์พวกนี้ถ้าเขาต้องการที่จะเอาดินแดนของเขากลับคืนมา หลังจากนั้นเขาค่อยจัดการกับพวกโนลล์ แต่ตอนนี้เขาสนใจว่าพวกนั้นทำให้หมาป่ากลายพันธุ์เชื่องได้อย่างไร?
หมาป่ากลายพนธุ์ไดร์วูลฟ์เป็นสัตว์ระดับ 2 และโดยปกติแล้วจะต้องมีหมาป่ากลายพันธุ์ 1 ตัว ต่อพวกโนลล์ 10 ตัวหรือมากกว่านั้น ถึงจะสามารถฝึกหมาป่ากลายพันธุ์ระดับ 4 ได้เจ้านายของพวกมันต้องเป็นคนที่เเข็งเเกร่งมากเเน่ๆ
“มันอาจจะเป็นรนเจอร์ระดับสูง ?”
มาร์วินไม่แน่ใจ หรืออาจจะเป็นพวกพรานป่าที่เเข็งเเกร่ง เขาต้องเป็นคนที่เเข็งเเกร่งมากๆเเน่ถึงคุมพวกหล่านี้ได้เขาคิดมาสักพักระหว่างเดินและเงาของปราสาทในหุบเขาก็เห็นอยู่ไม่ไกลแล้ว
ฝนตกหนักมากแต่มาร์วินเดินไปด้านหน้าได้โดยไม่ต้องคิดมากเพราะเขารู้ทางเข้าลับของปราสาท อย่างไรก็ตามถนนนี้มีความลื่นมาก เขาอาจจะทำพลาดได้ ดังนั้นเขาจึงต้องรอให้ฝนเบาลงก่อน
เขาวางแผนที่จะไปที่เนินเขาของปราสาทและมองหาบ้านไร่ที่ไม่ได้ถูกยึดครองโดยโนลล์เพื่ออาศัยอยู่ชั่วคราว เขาหลบพ้นจากสายตาของพวกโนลล์เเละรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน
เจ้าของบ้านควรอพยพออกไปเเล้ว มาร์วินจะอยู่ที่นี่ชั่วคราวเท่านั้นจึงไม่น่าที่เป็นปัญหา แต่ที่น่าตกใจคือมีเสียงกรีดร้องดังออกมาจากด้านหลังของบ้าน
“นั่นเป็นเสียงของผู้หญิง”