Perfect Superstar – ตอนที่ 326 อิสระเหมือนดั่งฝัน

Perfect Superstar

ตอนที่ 326 อิสระเหมือนดั่งฝัน

นักร้องและวงดนตรีมากมายที่มาร่วมงานเทศกาลดนตรีในทุ่งหญ้า 72H พวกเขาหอบความปรารถนา ที่จะทำให้ความฝันเป็นจริงมายืนอยู่บนเวทีที่เปี่ยมไปด้วยความอิสระเสรีและความสร้างสรรค์แห่งนี้ พยายามแสดง พลังและความสามารถของตัวเองให้ผู้ชมทั้งหลายได้เห็นอย่างเต็มที่

เนื่องจากภายในงานมีผู้ชมนับหมื่นนับพัน อีกทั้งตัวแทนที่มาจากบริษัทเอเจนซี่ในวงการบันเทิงก็มีเยอะ ถ้าหากถูกเลือกจากบริษัทที่มีศักยภาพ ก็มีความเป็นได้ที่จะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง กระแสหลักอันเต็มไปด้วยดาวจรัสแสง

นี่คือความพยายามของนักร้องและวงดนตรีเหล่านี้ เทศกาลดนตรี 72H ถึงมีความคึกคักและมีชีวิตชีวาเสมอ กลายเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลอย่างยิ่งใหญ่ในวงการเพลงป็อปของประเทศ

แต่ไม่ใช่นักร้องทุกคนที่มาที่นี่เพราะอยากมีชื่อเสียง ยกตัวอย่างเช่นเลี่ยวเจี่ย

ถึงแม้เวทีของเทศกาลดนตรี 72H จะยิ่งใหญ่ แต่ที่สามารถเชิญเขามาขึ้นเวทีได้โดยไม่ต้องแลกอะไรทั้งสิ้นนั้น เป็นเพราะเลี่ยวเจี่ยมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเทศกาลดนตรีนี้

ความรู้สึกไม่มีค่างวดราคา

ส่วนลู่เฉิน สาเหตุที่เขามาปรากฏตัวบนเวทีของเทศกาลดนตรี 72H ในตอนนี้ ก็เพราะอยากทำตาม ความปรารถนาของเขา

ดังนั้นเขาจึงไม่มีแรงกดดันใดๆ เขาอยากร้องเพลงก็ร้อง

เพลง ‘อิสระเหมือนสายลม’ เพลงนี้เป็นเพลงที่เขาร้องเพื่อแสดงให้เห็นถึงความอิสระเสรีและการไม่ยินยอม ตกอยู่ภายใต้การบังคับ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากความเข้าใจและความตระหนักในชีวิตแห่งตน

บางทีเพลง ‘อิสระเหมือนสายลม’ อาจจะไม่ใช่เพลงคลาสสิคเหมือน ‘ในฤดูใบไม้ผลิ’ ‘เดอะบลูโลตัส’ ‘วิ่งตามความฝันด้วยใจอันบริสุทธิ์’ แต่เพราะความรู้สึกที่เป็นไปตามธรรมชาติของลู่เฉิน จึงร้องเพลงนี้ออกมาได้ อย่างสมบูรณ์แบบ

เขากอดกีตาร์ เผชิญหน้ากับผู้ชมนับหมื่นคน ร้องเพลงท่ามกลางสายลม แผดเสียงคำรามอย่างเต็มที่

“ความปรารถนาในอิสรภาพล่องลอยไม่มีที่สิ้นสุด แบกรับความผันผวนทั้งหมดลำพังคนเดียว ฉันให้ความอ่อนโยนกับคุณแต่คุณปฏิเสธที่จะรับ…”

“ฉันเป็นอิสระเหมือนสายลม!”

เนื้อเพลงและทำนองดนตรีง่ายๆ ร้องซ้ำเป็นรอบที่สอง ให้ความรู้สึกที่ต่างกันยามที่ได้ฟังทุกครั้ง

ตอนนี้พวกคนดูก็ยอมรับเพลงนี้อย่างผ่อนคลายเป็นธรรมชาติ มันไม่หนัก ไม่รุนแรง ไม่โกรธ แต่กลับร้องโดนใจ ของพวกเขา ร้องออกมาด้วยความรู้สึกในจิตใจของเด็กวัยรุ่นแบบนั้น

ใครบ้างไม่เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อน

“ฉันเป็นอิสระเหมือนสายลม เหมือนความอ่อนโยนของคุณที่ไม่สามารถรั้งไว้…”

ตอนที่ลู่เฉินร้องท่อนเดิมซ้ำเป็นครั้งที่สาม ผู้ชมจำนวนมากก็ร้องเพลงพร้อมกันตามเนื้อเพลงที่ปรากฏบนหน้าจอ ขนาดใหญ่ของเวที “ฉันเป็นอิสระเหมือนสายลม!”

ไม่มีการแบ่งแยกความแตกต่างทั้งข้างบนและข้างล่างเวที บรรยากาศของงานเทศกาลดนตรีถูกผลักเข้าสู่ จุดไคลแมกซ์ครั้งใหม่

นี่คือเสียงร้องร่วมในงานที่นักร้องหลายคนใฝ่ฝันยามที่มาร่วมงาน 72H!

ลู่เฉินสามารถทำได้อย่างง่ายดาย

โซนด้านหลังเวที เลี่ยวเจี่ยกำหมัดวาดไปมาตอนที่ได้ยินท่อนฮุกที่เร้าใจ จากนั้นก็ปรบมืออย่างแรง

น้องเล็กของเขาคนนี้เก่งจริงๆ!

เดิมพันเย็นนี้ต้องแพ้เสียแล้ว

ส่วนสือกังที่ยืนอยู่ข้างเวที กลับยิ้มมุมปากอย่างเจ็บปวด

ผลงานที่เขาที่ทุ่มเทสร้างขึ้นมาด้วยชีวิตและจิตใจเป็นเวลาสิบปีนั้น เดิมทีหวังว่าทุกคนที่นี่จะทึ่งในความสามารถ แต่ไม่ว่าจะเป็นเพลง ‘เมืองแห่งความเดียวดาย’ หรือ ‘ความเจ็บปวด’ กลับด้อยกว่าเมื่อเทียบกับเพลงนี้ของลู่เฉิน ต่างกันอีกขั้นหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด

สือกังยังไม่ถึงกับหลอกตัวเองว่า ผลงานของตัวเองไม่ได้แย่ไปกว่าลู่เฉิน

การขึ้นแสดงบนเวทีก่อนลู่เฉิน คือความผิดพลาดจริงๆ!

ลู่เฉินร้องเพลง ‘อิสระเหมือนสายลม’ จบแล้ว เสียงปรบมือดังสนั่น เสียงผิวปากดังขึ้นทั่วทั้งงาน

ต่อให้เป็นแฟนเพลงที่มีอคติกับเขา ก็ต้องยอมรับว่า นี่คือผลงานเพลงที่โดดเด่นมาก อาจจะบรรลุไม่ถึงขั้น เป็นเพลงคลาสสิค แต่บนเวทีในวันนี้ นี่คือเพลงที่โดดเด่นเหนือใครแน่นอน!

หยิบผลงานเพลงแบบนี้ออกมา คือการพิสูจน์ความจริงใจของลู่เฉิน

หรือจะพูดแบบไม่เกรงใจก็คือ นักร้องนักแต่งเพลงอย่างเขา ร้องเพลงมั่วๆ สักเพลงก็สามารถขายได้ สองสามแสนแล้ว

นอกจากนี้การมาร่วมแสดงในเทศกาลดนตรี 72H ก็ไม่มีค่าตอบแทนใดๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวท็อปในวงการ หรือนักร้องที่ไม่มีชื่อเสียงก็ตาม

“ขอบคุณทุกคนครับ!”

ลู่เฉินโน้มตัวแสดงความเคารพให้พวกคนดู จากนั้นก็หันหน้าไปพูดกับสมาชิกวงนิพพานที่อยู่ด้านหลังตัวเอง “และก็ขอบคุณวงนิพพานด้วยครับ!”

หวังจิ้งโบกมือไปมาให้เขา เฉินจื้อหย่งชูไม้กลองที่อยู่ในมือแล้วหมุนควงเพื่อตอบรับ

สมาชิกวัยรุ่นสี่คนของวงนิพพานตื่นเต้นมาก พวกเขาเพิ่งมาร่วมแสดงในเทศกาลดนตรี 72H เป็นครั้งแรก ได้แสดงต่อหน้าผู้ชมมากมายเช่นนี้ เมื่อครู่พวกเขาแต่ละคนจึงงัดความสามารถออกมาทั้งหมด

ถึงแม้วงนิพพานในตอนนี้ยังห่างไกลไม่อาจเทียบกับวงดนตรีเก่าแก่ชื่อดังได้ ฝีมือและความเข้าใจในดนตรี ของพวกเขายังไม่ลึกมาก แต่ด้วยความเป็นวัยรุ่น ดังนั้นจึงมีศักยภาพที่จะเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด

ลู่เฉินกล่าวต่อว่า “เพลงที่สอง ก็เป็นเพลงใหม่เหมือนเดิม และร้องโชว์ที่นี่เป็นครั้งแรกเช่นกันครับ…”

พอได้ยินคำพูดของลู่เฉิน ผู้ชมหลายคนก็ตื่นเต้นขึ้นมา

เดิมทีคิดว่าคืนนี้ลู่เฉินจะร้องเพลงใหม่และเพลงเก่าให้ทุกคนฟังอย่างละหนึ่งเพลงเหมือนกับเลี่ยวเจี่ย แต่เขากลับหยิบเพลงใหม่สองเพลงออกมาอย่างคาดไม่ถึง รู้สึกตื่นเต้นและประหลาดใจจริงๆ

โดยปกติทั่วไป นักร้องที่มาร่วมแสดงในเทศกาลดนตรี 72H ถ้าหากหยิบผลงานเพลงออกมาสองชิ้น เพลงที่สอง มักจะแข็งแกร่งกว่าเพลงแรกเสมอ!

“เพลงนี้มีชื่อว่า…”

อิสระเหมือนดั่งฝัน!

ตอนที่หน้าจอขนาดใหญ่บนเวทีปรากฏชื่อเพลงขึ้นมา ผู้ชมมากมายต่างส่งเสียงร้องอุทานตกใจ

ตอนแรกพวกเขาคิดว่าตัวเองดูผิดหรือระบบควบคุมคอมพิวเตอร์หลังเวทีเกิดขัดข้อง แต่พอมองอย่างละเอียด ก็พบว่าเป็นเพลง ‘อิสระเหมือนดั่งฝัน’ จริงๆ แตกต่างเพียงคำเดียวจากเพลงแรกของลู่เฉิน

เล่นอะไรของเขาเนี่ย

ทันใดนั้นก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้านล่างเวที ทุกคนไม่เข้าใจว่าในน้ำเต้าของลู่เฉินนี้จะขายยาอะไร

ทั้งสองเพลง ต่างกันแค่คำเดียว

ลู่เฉินก็ไม่อธิบายอะไร เพียงทำสัญญาณมือให้วงนิพพาน

แล้วเสียงดนตรีท่อนอินโทรก็ดังขึ้น

“เธอจะคิดถึงฉันไหม

เพื่อนที่รักที่สุดของฉัน

ตอนที่ฉันตัดสินใจปล่อยวางทุกอย่าง

เดินสู่เส้นทางอิสระ

เธอจะไปเป็นเพื่อนฉันไหม

คนสนิทที่ฉันคิดถึงที่สุด

อำลาเมื่อวานไปแล้ว

มุ่งหน้าสู่เส้นทางอนาคต

…”

ท่อนแรกใช้กีตาร์บรรเลงเป็นหลัก เนื้อเพลงรูปแบบคำถามที่แฝงไปด้วยความเศร้าและความระทมทุกข์ เมื่อผ่านเสียงร้องกังวานดังอ้อยอิ่งของลู่เฉิน ก็ตีแผ่ฉากของการแยกจากแด่ทุกคน

แต่หลังจากนั้นท่อนฮุกก็เข้าสู่อารมณ์ที่เร้าใจ ทำนองดนตรีเปลี่ยนเป็นอารมณ์ที่ฮึกเหิมขึ้นมาทันใด

“…

ฉันอยากเป็นอิสระเหมือนดั่งฝัน

แข็งแกร่งดั่งท้องฟ้า

บนเส้นทางที่รกเลี้ยวเคี้ยวคดนี้

ทดสอบความหมายของชีวิตด้วยตนเอง!

…”

เมื่อลู่เฉินยกบันไดเสียงให้สูงขึ้น ธีมหลักของผลงานเพลงจึงถูกยกระดับขึ้นมาทันที ทรงพลัง เปี่ยมไปด้วย ทัศนคติที่ไล่ตามอิสระเสรีอย่างกล้าหาญ

เหล่าผู้ชมที่อยู่ในงานพลันรู้สึกเหมือนถูกโจมตีเข้าไปถึงจิตวิญญาณ ในขณะเดียวกันก็เป็นแรงกระตุ้น ให้ทุกคนมุ่งหน้าสู่อิสรภาพ ปรารถนาและไล่ตามชีวิตที่ดียิ่งกว่า

เส้นทางมีขอบเขตแต่หัวใจนั้นไร้พรมแดน ปล่อยวางงานที่ยุ่งและชีวิตที่เร่งรีบ สัมผัสความสุขที่วิ่งอยู่ในทุ่งกว้าง อย่างอิสระ ปลดพันธนาการอันหนักหน่วงที่รัดรึงจิตวิญญาณ ถึงจะค้นพบตัวตนของตัวเองที่แท้จริง

ชีวิตต้องตกตะกอน การปลดปล่อยตัวเองในบางครั้ง อาจจะสามารถตามหาเหตุผลที่เหมาะสม ได้มากยิ่งขึ้นก็เป็นได้ ใครจะรู้ว่าพวกเรายังอยู่บนเส้นทาง ปล่อยให้หัวใจอิสระดวงนั้นไปตามอำเภอใจ…

เพลงนี้สร้างแรงบันดาลใจและความตระหนักรู้แก่ผู้คน และไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้

“…

เธอจะไปเป็นเพื่อนฉันไหม

คนสนิทที่ฉันคิดถึงที่สุด

ตอนที่ฉันอำลาเมื่อวาน

มุ่งหน้าสู่เส้นทางอนาคต

ฉันอยากเป็นอิสระเหมือนดั่งฝัน

ใจกว้างดั่งผืนดิน

บนเส้นทางที่ยากลำบากและถูกขับไล่นี้

จุดแสงสว่างแห่งชีวิต!”

อิสระ ทำตามปรารถนา ริเริ่ม สร้างสรรค์…คือธีมหลักของเทศกาลดนตรีในทุ่งหญ้า 72H และจิตวิญญาณ ของความอิสระก็สามารถทะลุผ่านความเจริญรุ่งเรืองและความเสื่อมทรุดของดนตรีร็อกในประเทศได้ ผลงานสองชิ้นนี้ ของลู่เฉินสร้างสรรค์มาในนามของอิสรภาพ สัมผัสอารมณ์ในจิตใจที่ลึกซึ้งและแท้จริงของเหล่านักร้อง และแฟนเพลงที่นี่ได้อย่างไม่ต้องสงสัย

ไม่ว่าจะเป็นเพลง ‘อิสระเหมือนสายลม’ หรือเพลง ‘อิสระเหมือนดั่งฝัน’ ล้วนไม่ใช่ผลงานเพลงร็อกบริสุทธิ์ แต่ทั้งสองเพลงนี้แฝงไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความอิสระ ซึ่งเพลงร็อกแท้ๆ หลายเพลงไม่สามารถทำได้

ด้วยเหตุนี้ทำให้หลายคนต้องกลับมาคิดทบทวน พวกเขาไล่ตามสิ่งที่เรียกว่าจิตวิญญาณร็อกด้วยความกบฏ และความสุดโต่ง จนเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เพลงร็อกของประเทศเกิดความเสื่อมโทรมหรือไม่

เพลงร็อก ก็สามารถมีความอิสระเสรี ก้าวไปข้างหน้า และสดใสร่าเริงได้!

บางทีนี่ก็คือสาเหตุที่ลู่เฉินนำผลงานสองเพลงนี้มาที่งาน 72H ครั้นนึกถึงผลงานเพลงที่เขาเคยแต่งอย่าง ‘ในฤดูใบไม้ผลิ’ ‘เดอะบลูโลตัส’ และอื่นๆ ก็มีนักร้องหลายคนตกอยู่ในภวังค์ความคิดอย่างลึกซึ้ง

และในเวลานี้ สายตาของทุกคนก็โฟกัสไปที่ตัวของลู่เฉิน

เขาเหมือนสายลม เหมือนความฝัน เป็นอิสระไม่ถูกบังคับ!

แพ้แล้ว!

เลี่ยวเจี่ยที่อยู่โซนด้านหลังเวทีหัวเราะเสียงดังฮ่าๆๆ ก่อนจะหันหน้าไปพูดกับพวกนักร้องที่อยู่ในนี้ว่า “วันพรุ่งนี้ตอนเย็น มาที่โรงแรมรีเจนซี่นะ ผมจะเลี้ยงเหล้าทุกคน!”

พี่เลี่ยวพูดคำไหนคำนั้น เขาไม่เล่นลูกไม้อย่างหน้าด้านๆ เมื่อแพ้ให้ลู่เฉินก็ต้องเป็นคนเลี้ยง

ยินยอมอย่างสมัครใจ

ด้านข้างเวที สือกังส่ายหน้าอย่างจนปัญญา…เทียบไม่ได้ เทียบไม่ได้จริงๆ!

เลื่อมใสอย่างสุดจิตสุดใจ

เพลงที่สอง ‘อิสระเหมือนดั่งฝัน’ ร้องจบแล้ว ลู่เฉินถอยหลังไปหนึ่งก้าว จากนั้นก็โค้งลงต่ำอย่างสุภาพ

เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมาเต็มหน้าผากของเขา เป็นแสงประกายเล็กน้อยภายใต้แสงไฟที่สว่างจ้า

สายตาของเขาสดใสเป็นประกาย

เสียงปรบมือด้วยความคึกคัก ความจริงใจ และความกระตือรือร้นเหมือนกับเสียงฟ้าร้องในฤดูใบไม้ผลิ จากนั้นก็เกิดพายุที่มองไม่เห็นขึ้นมาในสวนสาธารณะเหยี่ยซานแห่งนี้ติดต่อกันไม่ขาดสาย

‘อิสระเหมือนสายลม’ และ ‘อิสระเหมือนดั่งฝัน’ ทั้งสองเพลงนี้ลู่เฉินใช้คำว่า ‘อิสระ’ พิสูจน์ความสามารถ ของตัวเอง และยังพิชิตใจเหล่าแฟนเพลงที่อยู่ในงานหลายหมื่นคน!

เขาสมควรได้รับเสียงปรบมือ

“ดี!”

“ร้องอีกเพลง!”

แฟนเพลงหลายคนตะโกนเสียงดัง โบกแขนทั้งสองข้างอย่างเต็มแรง พยายามดึงดูดความสนใจของลู่เฉิน ที่อยู่บนเวที

“เอาอีก!”

มีบางคนแผดเสียงร้อง จากนั้นคนอื่นๆ ก็เหมือนตื่นจากความฝัน ตะโกนร้องตาม “เอาอีก!”

“เอาอีก!” “เอาอีก!” “เอาอีก!”

เสียงของทุกคนรวมเป็นเสียงเดียว นั่นก็คือรั้งฝีเท้าของลู่เฉินเอาไว้ ส่งเสียงขอร้องให้เขากลับมา!

ลู่เฉินหยุดฝีเท้า แล้วโค้งคำนับอีกครั้ง “ขอบคุณครับ!”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาสัมผัสได้ถึงความกระตือรือร้นของแฟนเพลง ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้รับเสียงเชียร์ จากแฟนเพลงทั้งหลาย และก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกแฟนเพลงรั้งเอาไว้เช่นเดียวกัน

ทว่าที่นี่ ในสถานที่ที่จัดงานนี้ แฟนเพลงหลายหมื่นคนที่อยู่ในงานนี้นั้นต่างออกไป

พวกเขาเป็นคนที่รักในเสียงดนตรีอย่างแท้จริง สิ่งที่พวกเขายืนหยัดและยึดมั่นถือมั่นนั้นในสายตาของคนอื่น อาจจะไม่เข้าใจ แต่ความรักและความหลงใหลของพวกเขามันคือความจริงใจอย่างแท้จริง!

สามารถได้รับการยอมรับ ได้รับความชื่นชอบ และได้รับการติดตามจากพวกเขา คือเกียรติอย่างจริงแท้แน่นอน!

…………………………………………………………………………

หมายเหตุ: เพลงอิสระเหมือนดั่งฝัน (像梦一样自由) เนื้อร้องและทำนองโดย วังเฟิง (汪峰)

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Status: Ongoing
ชีวิตของลู่เฉินดั่งมรสุมรุมเร้า ทว่าสวรรค์ยังคงเมตตาคนสู้ชีวิต ความทรงจำและความสามารถจากในความฝัน จะช่วยปูทางให้เขากลายเป็น Perfect Superstar เอง!ลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปีจำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาลวันหนึ่งเขาฝัน…เป็นความฝันที่ยาวนานมากโลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้าตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกันนักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระเขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝันเมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมาเป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท