ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 544 อยู่กินกันฉันสามีภรรยา

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 544 อยู่กินกันฉันสามีภรรยา

ขณะที่นางกำลังจะโต้แย้ง ก็มีคนปิดปากไว้ กู้โม่หานมองกู้จิ่งซานที่ขมวดคิ้วอยู่ไม่ไกล “เสด็จพ่อ คิดเห็นอย่างไร?”

ในเวลานี้กู้จิ่งซานรู้สึกตกใจเท่านั้น

กู้โม่หานในวันนี้ใจโหดมือเหี้ยม ต่อให้เผชิญหน้ากับคนรักวัยเยาว์ ก็สามารถลืมความสัมพันธ์ครั้งเก่าได้

ต้องรู้ว่าเมื่อก่อนกู้โม่หานเป็นคนที่มีน้ำใจไมตรีมากที่สุด แต่วันนี้โหดร้ายเช่นนี้ มันเหนือความคาดหมายจริงๆ

เขาขมวดคิ้วแน่น “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ฟังไท่จื่อ…”

“เสด็จพ่อ! ไท่จื่อ!” ทันใดนั้น กู้โม่เฟิงที่เงียบมาตลอดก็คุกเข่าลงกับพื้น “เสด็จพ่อและไท่จื่อโปรดเมตตา! เพื่อเห็นแก่หลินเอ๋อร์ ได้โปรดไว้ชีวิตนางสักครั้ง!”

“แม้นางจะเหลือทนแค่ไหน แต่ก็เป็นแม่ของหลินเอ๋อร์ ข้ามีลูกคือหลินเอ๋อร์แค่คนเดียว ไม่อยากเห็นเขาไม่มีแม่ดูแลในวันข้างหน้า!”

ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยการต่อสู้ดิ้นรนและแค้นเคืองใจ ที่มากไปกว่านั้น คือความสับสนและผิดหวังในตัวหนานชิงชิง

เมื่อก่อนเขาแค่รู้สึกว่าหนานชิงชิงมีเจตนาไม่ดี แต่เขาไม่เคยคิดว่าหนานชิงชิงจะกล้าได้กล้าเสียและดุร้ายขนาดนี้

เขาก็ไม่เข้าใจว่า นางไปได้เส้นสายมากมายอย่างนี้มาจากไหน กล้ากระตุกหนวดเสือ แล้วยังแตะต้ององค์หญิงของแคว้นอื่นอีก!

บางทีคนรอบข้างอาจไม่รู้ แต่เขารู้ดีแก่ใจว่า ตอนแรกหากเขาไม่สลับเสื้อผ้ากับกู้โม่หานเพื่อไปตามหาฉินมู่ไป๋ แล้วบังเอิญเข้าผิดเรือน คนที่ถูกวางแผนใส่ร้ายในวันนี้ก็ต้องเป็นเขา!

แรกเริ่มเดิมที คนที่หนานชิงชิงต้องการจะวางแผนใส่ร้าย ก็คือกู้โม่หานที่เปลี่ยนเสื้อผ้ากับเขา!

หากกู้โม่หานและองค์หญิงอยู่กินกันฉันสามีภรรยาแล้ว หนานหว่านเยียนกับท่านอ๋องเจ็ดก็ทำงานสำเร็จแล้ว ถึงตอนนั้น สถานการณ์คงยากที่จะเอ่ยจริงๆ หนานชิงชิงจะกลายเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

เขาไม่อยากอ้อนวอนขอความเมตตาเลยจริงๆ แต่เมื่อนึกถึงเด็กๆ ในบ้าน นึกถึงคนที่ร่วมเรียงเคียงหมอนกับเขามาสิบกว่าปี ในที่สุดก็ใจอ่อน

หนานชิงชิงมองกู้โม่เฟิงที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ขยับริมฝีปากอย่างเงียบๆ “ท่านอ๋อง…”

ไม่คาดคิดว่า สุดท้ายคนที่อ้อนวอนเพื่อนาง จะเป็นคนไร้ประโยชน์ผู้นี้

นางลูบไล้จี้หยกสีแดงสวยงามที่แขนเสื้อ สัมผัสที่เย็นเฉียบและอบอุ่นทำให้นางเริ่มมีความหวังรำไร

ถึงวันนี้นางจะตกต่ำก็ไม่เป็นไร ตราบใดที่นางยังมีชีวิตอยู่ คนของนางจะช่วยให้นางกลับสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง!

คำวิงวอนของกู้โม่เฟิง กระตุ้นความไม่พอใจอย่างรุนแรงของทูตจากแคว้นเทียนเซิ่ง

กู้โม่หลิงยืนอยู่ข้างๆ มองด้วยสายตาเย็นชา

ทันใดนั้น เสียงทุ้มต่ำแฝงความโกรธเกรี้ยวก็ดังขึ้น “เอาล่ะ!”

“ส่งหนานชิงชิงเข้าคุกทันที แล้วค่อยกำหนดวันลงโทษ!”

หลังจากที่กู้จิ่งซานออกคำสั่ง ทุกคนก็เงียบกริบในทันที

ส่วนหนานชิงชิงก็ถูกองครักษ์หลายคนลากลงไป ก่อนไป นางชำเลืองมองกู้โม่เฟิงที่กำลังเจ็บปวดใจด้วยสีหน้าซับซ้อน แล้วชำเลืองมองกู้โม่หานและหนานหว่านเยียนที่คอยเฝ้าดูอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาเย็นชาอย่างดุดัน

ไม่ช้าก็เร็ว นางจะหวนกลับคืนมาอีกครั้งพร้อมกับความไม่ยินยอมและความอัปยศอดสูเหล่านี้!

แต่ฉินมู่ไป๋กลับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “หญิงผู้นั้นเป็นคนที่ทำร้ายคนของข้าชัดๆ ทำไมไม่ปล่อยให้นางตายไป แล้วยังท่านอ๋องเจ็ดนั่นอีก…”

“หุบปาก!” ทันใดนั้นแววตาของฉินอี้หรานก็คมกริบ จ้องมองฉินมู่ไป๋อย่างดุดันรัศมีเย็นเยียบน่าสะพรึงกลัว

ฉินมู่ไป๋หุบปากทันที แต่ในใจกลับไม่ยินยอมเลยสักนิด ดวงตาสีแดงเข้ม เต็มไปด้วยความคับแค้นใจ

และสิ่งที่นางพูดเมื่อครู่ ย่อมเข้าหูกู้จิ่งซาน

เขาตวาดใส่กู้โม่หลิงทันที “เจ้าเจ็ด! ปกติก็ดูไม่ฉลาดอยู่แล้ว ข้าบอกเจ้าแล้วไงว่าวันๆ อย่าเอาแต่หอบตำรา ไปฝึกวิชาบู๊ให้มากกว่านี้ อ่อนแอไม่เอาไหนแบบนี้ จะทำการสำเร็จได้ยังไง?! ครั้งนี้ก็ตกหลุมพรางของคนอื่นจริงๆ!”

“ช่างมันเถอะ เจ้ายังห้ามใจตัวเองไม่ได้ พาองค์หญิงฮั่นเฉิงไปให้…ทำให้องค์หญิงลำบากเช่นนี้ สมควรถูกลงโทษ!”

แม้ว่าจะพูดเช่นนั้น แต่ในใจของเขาก็ยังพยายามฝืนให้รู้สึกพอใจกับผลลัพธ์นี้

กู้โม่หลิงเป็นเบี้ยที่ควบคุมได้ง่าย ต่างจากกู้โม่หานที่ไม่เชื่อฟังแล้วยังชอบต่อต้านเขา วันนี้กู้โม่หลิงกับฉินมู่ไป๋แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ต้องแต่งงานกัน

การให้เบี้ยตัวหนึ่งเกี่ยวดองกับองค์หญิงแห่งแคว้นเทียนเซิ่ง อำนาจก็ตกอยู่ในมือของตัวเอง เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

เมื่อเห็นกู้จิ่งซานพูดเช่นนั้น กู้โม่หลิงก็ก้าวไปข้างหน้าทันที สีหน้าดูเสียใจ

“พ่ะย่ะค่ะ ลูกผิดไปแล้ว ต่อไปลูกจะกลับเนื้อกลับตัว ตั้งใจฝึกฝนวิชาบู๊ จะไม่ให้เสด็จพ่อต้องเป็นกังวล”

จากนั้นเขาก็ชำเลืองมองฉินมู่ไป๋ พลางกล่าวอย่างรู้สึกผิด “องค์หญิงฮั่นเฉิง เรื่องในวันนี้ ข้าจะรับผิดชอบแน่นอน องค์หญิงได้โปรด…”

“ใครขอให้ท่านรับผิดชอบ!” ฉินมู่ไป๋ได้ยินกู้โม่หลิงพูดดังนั้นก็โมโห รีบขัดจังหวะ ทันที

นางจ้องเขม็งใส่กู้โม่หลิงด้วยความโกรธเกรี้ยว นึกถึงตัวเองกับเขาเมื่อครู่…ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

กู้จิ่งซานเห็นท่าทางทั้งสองไม่ลงรอยกัน จึงยิ่งแน่ใจว่าจะให้กู้โม่หลิงกับฉินมู่ไป๋แต่งงานกัน

เขามองไปทางกู้โม่หานอีกครั้ง พลางกล่าวอย่างเฉียบขาด “ตอนนี้ตัวการสำคัญถูกจับกุมแล้ว เจ้าเจ็ดสมควรถูกลงโทษ แต่ว่าไท่จื่อ เรื่องนี้ท่านมีภาระรับผิดชอบอันใหญ่หลวง!”

“ความปลอดภัยภายในวังของวันนี้ ข้ามอบหมายให้ท่านรับผิดชอบ แต่ท่านกลับผิดพลาดเช่นนี้ ท่านไม่มีเหตุผลที่จะล่วงเกิน! โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่องค์หญิงฮั่นเฉิงสูญเสียพรหมจรรย์ไปนั้นยิ่งมีความผิด!”

ฉินมู่ไป๋เห็นกู้โม่หานถูกด่าก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ ถึงอย่างไรเรื่องแบบนี้ก็ยากที่จะป้องกัน ใครจะคาดคิดว่าเป็นถึงพระชายาจะสร้างสถานการณ์ทำร้ายคนอื่น?

แต่เมื่อนางคิดว่าตัวเองถูกท่านอ๋องเจ็ดย่ำยี ก็รู้สึกได้ทันทีว่าการดุด่าของกู้จิ่งซานนั้นสมเหตุสมผลแล้ว

หนานหว่านเยียนเม้มริมฝีปาก ต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่มีจุดยืน เลยยอมแพ้ดีกว่า

กู้จิ่งซานมักจะจับผิดพวกเขาอยู่เสมอ โอกาสที่ใส่พานถวายมาแบบนี้ กู้จิ่งซานไม่มีทางละทิ้ง

แต่กู้จิ่งซานไม่สนใจสถานการณ์โดยรวม รู้ดีว่าหนานชิงชิงไม่มีทางจัดฉากได้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นนี้ ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังแน่นอน หากนางเป็นฮ่องเต้ นางจะให้กู้โม่หานลากคนที่อยู่เบื้องหลังออกมา แทนที่จะใจร้อนโจมตีกู้โม่หาน

ถึงอย่างไรผู้ที่อยู่เบื้องหลังต้องหลบซ่อนไม่เปิดเผยตัว แค่มองก็รู้แล้วว่าซ่อนตัวอย่างมิดชิด ยากที่จะสืบหา

แต่กู้โม่หานกลับไม่ได้แข็งกร้าว เขาก้มศีรษะลงประสานมือคำนับ “พ่ะย่ะค่ะ ลูกเลินเล่อในการป้องกันรักษาวัง สมควรถูกลงโทษ”

ฮ่องเต้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ยังนึกว่ากู้โม่หานและหนานหว่านเยียนจะถากถางกลับ แต่ไม่คิดว่าจะยอมรับความผิดทั้งหมดแต่โดยดี ท่าทีเช่นนี้ดีเหลือเกิน ทำให้เขาไม่อาจด่าทอ

แต่จะเสียโอกาสไม่ได้ เขายังพูดว่า “เจ้าเจ็ดจะถูกริบเงินเดือนสามเดือน ไท่จื่อล้มเหลวในการป้องกันรักษาวัง ถูกลงโทษอีกหนึ่งกระทง ห้ามเข้าร่วมกิจของทางการ จนกว่าจึงเทศกาลโคมไฟ!”

ทันทีที่พูดจบ ในใจทุกคนก็ตกตะลึง เกิดความปั่นป่วนโกลาหลทันที

หากไท่จื่อไม่เข้าร่วมกิจของทางการ แล้วจะเป็นไท่จื่อได้อย่างไร…

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท