ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 426

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 426

นิ้วอุ่น ๆ นวดลงไปบริเวณหว่างคิ้วของเขา ลากยาวไปจนถึงขมับ จากนั้นกดตรงขมับไปจนถึงหน้าผาก ด้วยนิ้วของนางทำให้ท่าทางของเขาค่อย ๆ ผ่อนคลายลง

หลังจากที่เวลาล่วงเลยมาเป็นเวลานาน เขาดึงมือให้นางเข้ามาอยู่ตรงหน้าเขา ดวงตาของเขาแลดูเสียใจอย่างสุดซึ้ง น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาราวกับใจที่แตกสลาย “จื่ออัน รับปากข้า ต่อไปไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป นึกถึงความยิ่งใหญ่เอาไว้ ”

จื่ออันพยักหน้า “หม่อมฉันรู้เพคะ ทุกเรื่องที่หม่อมฉันทำในตอนนี้ ล้วนเพื่อให้มีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข”

“ไม่ว่าจะสามารถมีชีวิตอย่างสงบสุขได้หรือไม่ได้ ก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป เพียงมีชีวิตก็ยังมีความหวัง” มู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างหนักแน่น

“เพคะ!” จื่ออันยื่นมือออกไปลูบใบหน้าของเขา ทั้งรู้สึกเสียใจและประหลาดใจ คนที่ตายผู้นั้นมีความสำคัญกับเขามากจริง ๆ

“หลับสักหน่อย ดีหรือไม่เพคะ?” จื่ออันพูดเสียงเบา

มู่หรงเจี๋ยมองไปยังนาง ในที่สุดก็ค่อย ๆ พยักหน้า “ดี!”

ก็เหมือนกับตอนอยู่ที่ชานเมือง ทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน

มือของนางวางไว้ในมือเขาตลอด เสียงลมหายใจแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน

“ข้าไม่เป็นอะไร!”

หลังจากที่เงียบไปนาน จู่ ๆ มู่หรงเจี๋ยก็พูดขึ้นมา

จื่ออันเอียงหน้ามองดูเขา ภายใต้แสงไฟสลัวทำให้ใบหน้าของเขาแลดูเย็นชาเป็นพิเศษ “มีบางเรื่อง ที่ยอมรับได้ยากยิ่ง แต่ว่าก็จำเป็นที่จะต้องยอมรับมัน เพราะว่าเจ้าจะรู้ได้ว่า ความเศร้าโศกเบื้องหน้าแท้จริงแล้วไม่มีอะไรเลย ยังมีเรื่องเศร้าที่เหนือกว่าที่เจ้าจะจินตนาการได้รอคอยเจ้าอยู่อีกมากมาย และบนโลกใบนี้ เรื่องที่น่าเศร้าที่สุดก็คือการที่เจ้าโดนคนที่ใกล้ชิดสนิทสนมทรยศหักหลังและทำร้าย”

“บางเรื่องหม่อมฉันก็เหมือนกับท่าน” จื่ออันมองไปที่บนมุ้งพลาง แล้วพูดพลาง

“เจ้าจะบอกว่าพวกเราก็เหมือนคนป่วยที่ต่างเห็นอกเห็นใจกันสินะ? ประโยคนี้ก็หมายถึงข้าช่างน่าเวทนา”

จื่ออันเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกล่าว “เพคะ น่าเวทนายิ่งนัก แต่ก็ต้องยอมรับมัน”

“ป้าซือจูตายแล้ว เพื่อข้านางจึงวางยาพิษเจ้านายตัวเอง จึงถูกลงทัณฑ์จนตาย” มู่หรงเจี๋ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ ราวกับมีความโศกเศร้าที่เอื้อนเอ่ยออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ “ส่วนที่น่าเศร้าที่สุดของเรื่องนี่ก็คือ เพื่อที่จะไม่ให้มารดาแท้ ๆ ทำร้ายข้า ดังนั้นนางจึงจะสังหารมารดาข้าเสียเอง”

จื่ออันตกใจ ที่เขาพูดถึงคือป้าซือจูน่ะเหรอ? นางจำได้ว่าผู้หญิงคนนั้น คอยอยู่ข้างกายกุ้ยไท่เฟยมาตลอด ไม่เคยพูดอะไรเลย

ตายแล้วเหรอ?

ไม่น่าเชื่อว่านางจะวางยาพิษกุ้ยไท่เฟยได้? นางก็ดูจงรักภักดี? หลงคิดว่านางเจ้าเล่ห์มาโดยตลอด

เช่นนั้นก็หมายความว่า คืนนี้เขาไม่ได้เสียใจเพราะโหรวเอ๋อสินะ?

“เจ้ายิ้มอะไร?” มู่หรงเจี๋ยถามอย่างโกรธเคืองขึ้นมาในทันที

จื่ออันสะดุ้งเบา ๆ เอื้อมมือไปดึงมุมปากที่ยกขึ้นนิดนึงลงมาทันที แล้วออกแรงถูหน้าเล็กน้อย “ยิ้มหรือ? เปล่านะเพคะ ตอนที่หม่อมฉันอยากจะร้องไห้หน้าตาก็จะเป็นเช่นนั้น รู้สึกไม่สบายใจแทนท่าน ป้าซือจูจะต้องรักท่านมากเป็นแน่”

“ข้าเห็นนะ ว่าเมื่อครู่นี้เจ้ายิ้มออกมา” มู่หรงเจี๋ยจ้องนางตาเขม็ง ดูเหมือนจะโกรธมาก ๆ

จื่ออันส่ายหัวปฏิเสธ “เป็นไปไม่ได้ ท่านเล่าเรื่องที่เศร้าขนาดนั้นให้ข้าฟัง แล้วข้าจะยิ้มออกได้อย่างไร? ข้าเสียใจมากนะเพคะ”

“ตาของข้าหาได้บอดไม่” มู่หรงเจี๋ยลุกขึ้นนั่ง เปิดผ้าห่มออกแล้วกำลังจะจากไป เพราะเขาเห็นว่าจื่ออันยิ้ม ซึ่งมันทำให้เขาทั้งรู้สึกอับอายและโมโห

จื่ออันยื่นมือไปรั้งตัวเขาไว้ แล้วกล่าวอย่างหัวเสีย “ขออภัยเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจ ก็แค่…มันควบคุมไม่ได้ หม่อมฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองได้ยิ้มออกไป”

“เจ้าจะบอกว่า พอเจ้าได้ยินว่าป้าซือจูตายแล้วก็ควบคุมตนเองไม่ได้ จึงได้ยิ้มออกมาเช่นนั้นหรือ?” มู่หรงเจี๋ยไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยินเลย ความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อนางแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้นไปในทันที

จื่ออันกล่าวอย่างฉุนเฉียว “หาใช่ไม่ ในตอนแรกหม่อมฉันไม่รู้ว่าคนที่ตายคือป้าซือจู หม่อมฉันคิดว่าเป็นนางในดวงใจของท่าน ก็เห็นท่านบอกว่าคนที่ดีกับท่านมากที่สุดตายไปแล้ว”

เขามองนางอย่างมึนงง “นางในดวงใจอะไรของเจ้า? ข้ามีนางในดวงใจตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

“โหรวเอ๋อไงเล่า!” จื่ออันบิดผ้าห่ม “ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าท่านเคยเอาชุดนางให้ข้าหรอกหรือ?

มู่หรงเจี๋ยมองนาง “เจ้าจะบอกว่า พอเจ้าได้ยินว่าข้าไม่มีนางในดวงใจ ดังนั้นจึงยิ้มออกมาอย่างนั้นหรอกหรือ?”

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท