จอมนางข้ามพิภพ – บทที่ 362 ซื่อจื่อ ท่านจะกอดหรือไม่

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 362 ซื่อจื่อ ท่านจะกอดหรือไม่

จวินหย่วนโยวกับหยุนถิงในที่สุดก็ปั้นดินโคลนที่เหมือนแจกันดอกไม้อันหนึ่งขึ้นมา และทาสี รอเวลาเผาไม่กี่วันค่อยกลับมาเอา ถึงได้จากไป

ทั้งสองพึ่งกลับถึงจวนซื่อจื่อ และได้เห็นซวนอ๋องโม่เหลิ่งเหยียนเข้ามาจากด้านนอก ในมือยังถือเทียบเชิญหนึ่งใบ

“อีกสามวันจะเป็นงานเลี้ยงครบรอบวันเกิดร้อยวันของลูกพี่หญิงข้า พี่หญิงและพี่เขยหวังว่าเจ้าจะไปร่วมงาน ตอนแรกหากมิมีเจ้า ก็ไม่มีอี้หมิงน้อยแล้ว ดังนั้นพี่หญิงเลยกำชับข้าเป็นพิเศษว่าต้องเชิญเจ้ามาให้ได้” โม่เหลิ่งเหยียนยื่นเทียบเชิญมา

หยุนถิงดีใจยิ่งนัก “อี้หมิงน้อยอายุร้อยวันแล้ว ข้าเป็นคนทำคลอดเขาเองนะ วางใจเถอะ ข้าต้องไปแน่”

“ขอบคุณมาก”

“หรือว่าเจ้าไม่เชิญข้าด้วยรึ?” จวินหย่วนโยวที่อยู่ข้างๆแค่นเสียงเย็นหน้าตึง

โม่เหลิ่งเหยียนเหล่เขา “หยุนถิงไปที่ใด เจ้าก็ตามไปตลอดมิใช่รึ หากข้าไม่เชิญเจ้า เจ้าจะไม่ไปรึ?”

“ประสาท ซื่อจื่อเฟยอยู่ที่ใด ข้าก็ต้องอยู่ที่นั่นสิ” จวินหย่วนโยวบอกอย่างเย่อหยิ่ง

“ปัญญาอ่อน” โม่เหลิ่งเหยียนหมุนตัวจากไป

หยุนถิงยิ่งคิดยิ่งดีใจ “ซื่อจื่อ ท่านว่าพวกเราให้ของขวัญอะไรกับอี้หมิงน้อยดีล่ะ?”

จวินหย่วนโยวสีหน้าเย็นชา “เด็กคนหนึ่งจะให้ของขวัญอะไร เจ้าช่วยเขาไว้ถือเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว”

“ทำไมท่านต้องหึงเด็กคนหนึ่งด้วย?” หยุนถิงหน่ายใจ

“เด็กก็เป็นผู้ชายนะ”

หยุนถิงสองตามองบน “ซื่อจื่อ ท่านจะงกอีกหน่อยไหม?”

จวินหย่วนโยวโอบนางเข้าอ้อมกอดอย่างบ้าอำนาจ “ข้าไม่ได้งก แค่ไม่อยากเห็นเจ้าเสียเวลาเลือกของขวัญเพื่อคนอื่นขนาดนี้”

“ข้าดีใจน่ะ ข้าเป็นคนทำคลอดอี้หมิงน้อยเองนะ ตอนนี้ก็อยากเห็นเขาแล้วด้วยสิ” หยุนถิงพูดอย่างดีใจ

“หากเจ้าชอบ พวกเรามีกันเองก็ได้นี่”

หยุนถิงแก้มแดงเรื่อ “ซื่อจื่อ อย่าเล่นสิ”

“ข้าไม่ได้เล่นนะ ข้าจริงจังเรื่องมีลูกนะ” จวินหย่วนโยวพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ท่านนี่ทำเสียบรรยากาศจริงๆ”

สามวันนี้หยุนถิงไม่ได้ออกไปไหนเลย เอาแต่วิจัยหญ้าเถาวัลย์ต้นนั้นที่มู่เซียวเซียวให้เธอมาก่อนหน้านี้ จะได้ทำยาถอนพิษให้ซื่อจื่อ

อันที่จริงในใจเธอรู้ดีว่า จวินหย่วนโยวชอบเด็ก ไม่อย่างนั้นคงไม่หึงขนาดนั้นตอนได้ยินเรื่องอี้หมิงน้อย

เพียงแต่พิษในตัวซื่อจื่อยังขจัดไปไม่หมด เพื่อลูกแล้ว จะตัดสินใจลวกๆอย่างนี้ไม่ได้

พริบตาเดียวก็ถึงอีกสามวันให้หลัง หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวมุ่งหน้าไปจวนแม่ทัพแต่เช้า

ประตูจวนแม่ทัพที่กว้างใหญ่ แขกเหรื่อไปมาไม่หยุด ล้วนแต่มาแสดงความยินดีในวันนี้ทั้งนั้น

ตอนหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวไปถึง เจอกับรถม้าของโม่เหลิ่งเหยียนเข้าพอดี ทั้งสามคนทักทายเสร็จก็เดินเข้าไปด้านใจ

พอโหวฉิงได้ยินว่าหยุนถิงมาแล้ว ก็ออกมาต้อนรับด้วยตัวเองทันที “ขอบคุณคุณหนูหยุนมากที่ให้เกียรติมา ร่วมงานวันเกิดครบร้อยวันของบุตรชายข้า”

หยุนถิงยิ้มน้อยๆ “แม่ทัพโหวเกรงใจไปแล้ว”

“ทุกท่านเชิญด้านในเถิด ฮูหยินข้ายังบ่นถึงคุณหนูหยุนอยู่เลย” โหวฉิงบอกอย่างซาบซึ้ง

นำทางด้วยตนเอง ให้พ่อบ้านต้อนรับแขกคนอื่น เห็นได้ชัดถึงระดับความเคารพที่มีต่อหยุนถิง

ในห้องโถงที่ห่างไปไม่ไกล ฮูหยินโหวกำลังอุ้มอี้หมิงน้อยโดยมีคนมากมายห้อมล้อม ทั้งพูดคุยหัวเราะ ล้วนแต่ชมเชยอี้หมิงน้อยทั้งนั้น

พอเห็นหยุนถิงมา ฮูหยินโหวตื่นเต้นยิ่งนัก อุ้มอี้หมิงน้อยจะคุกเข่าลง หยุนถิงรีบยื่นมือไปห้ามนางไว้ “ฮูหยิน ท่านทำอะไรน่ะ?”

“ขอบพระคุณบุญคุณที่ช่วยชีวิตของคุณหนูหยุน หากมิใช่คุณหนูหยุนยื่นมือเข้าช่วยพวกเราแม่ลูก ก็คงมิมีวันนี้แล้ว” ฮูหยินโหวซาบซึ้งมาก

“ท่านแม่ทัพขอบคุณไปแล้ว หากฮูหยินยังเกรงใจเช่นนี้อีก ข้าคงไม่กล้ามาอีกแล้ว” หยุนถิงเย้า พลางดึงนางลุกขึ้น

“พี่หญิง ท่านไม่ต้องเกรงใจดอก” โม่เหลิ่งเหยียนพูดขึ้น

หยุนถิงหันไปมองอี้หมิงทันที เจ้าหนูร่าเริงแข็งแรง น่ารักมาก “ฮูหยิน ข้าขออุ้มหน่อยได้หรือไม่?”

“ได้แน่นอน” ฮูหยินโหววางอี้หมิงลงในอ้อมแขนหยุนถิงอย่างระมัดระวัง

เจ้าหนูน้อยยิ้มหัวเราะร่า มีความสุขมาก ทำเอาหยุนถิงใจละลายไปเลย

จวินหย่วนโยวงอน แต่ไม่ได้พูดอะไร

“ซื่อจื่อ ท่านจะอุ้มหรือไม่?” หยุนถิงถาม

อยู่ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ จวินหย่วนโยวยากจะปฏิเสธได้ “ก็ได้”

หยุนถิงวางเด็กลงในอ้อมแขนจวินหย่วนโยว จวินหย่วนโยวรับรู้ได้ถึงความอ่อนนุ่ม มือไม้ดูจะเก้ๆกังๆขึ้นมา

อี้หมิงน้อยเบิกตาโตมองเขา จวินหย่วนโยวก็มองอี้หมิง ทั้งสองคนเบิกตาโตใส่กัน

สายตาจวินหย่วนโยวมองเขาอย่างเย็นชา ในใจพูดว่า ไอ้หนู หากกล้าให้ผู้หญิงของข้าอุ้มเจ้าอีก ข้าจะจัดการเจ้าซะ

อี้หมิงน้อยเหมือนรับรู้ถึงสายตาอันน่ากลัวของเขาได้ พลันร้องไห้จ้าออกมา

หยุนถิงรีบเข้ามาดูทันที “ทำไมรึ ซื่อจื่อท่านทำเขาเจ็บรึ?”

จวินหย่วนโยวหน่ายใจ “จะเป็นไปได้อย่างไร ข้าอุ้มเขาอย่างนี้ ไม่ได้ขยับมือเลย”

“งั้นทำไมเขาร้องไห้ล่ะ ท่านคงไม่ได้ถลึงตาใส่เขาหรอกนะ?”

“รวมด้วยรึ?”

คำพูดเดียวนี้ จวินหย่วนโยวเท่ากับสารภาพเองแล้ว

หยุนถิงมองค้อนเขา “ห้ามถลึงตาใส่อี้หมิงน้อย เด็กน่ารักขนาดนี้ ท่านอย่าทำให้เขาตกใจนะ”

อี้หมิงน้อยพลันเงียบลงทันที และยังหัวเราะร่วนอีก

ทำเอาทุกคนดีใจ ประหลาดใจ ชมไม่ขาดปากเลยทีเดียว

“คุณหนูหยุนมีวาสนากับเด็กคนนี้นัก พอนางบอกน่ารัก อี้หมิงน้อยก็ไม่ร้องไห้เลย เห็นได้ชัดว่าอี้หมิงน้อยชอบคุณหนูหยุนจริงๆ” โหวซือเสวี่ยเดินเข้ามาบอก

“คุณหนูหยุนงามดั่งจันทร์หลบโฉมสุดา มวลผกาละอายนาง จวินซื่อจื่อเย็นชาองอาจ ลูกของพวกเขาจะสวยหล่อแค่ไหนกัน” ทุกคนอิจฉากันยิ่งนัก

หยุนถิงจะพูดอะไร ก็เห็นใบหน้าแข็งเกร็งของจวินหย่วนโยวเหมือนกินแมลงวันเข้าไป กระอักกระอ่วนยิ่งนัก

“ซื่อจื่อ ท่านจะไปปลดทุกข์รึ?” หยุนถิงถาม

“หมอนี่ ทำไมมาแค่จวนแม่ทัพก็เรื่องมากขนาดนี้

จวินหย่วนโยวบอกหน้าทะมึน “เด็กนี่ฉี่แล้ว”

คนอื่นถึงสังเกตมองบริเวณก้นของอี้หมิงน้อย รวมถึงฉี่ที่หยดลงล่าง ทุกคนหัวเราะเสียงดัง

หยุนถิงหัวเราะจนปวดท้อง “เจ้าหนูนี่กล้าหาญนัก สมเป็นเด็กที่ข้าทำคลอดเอง และเป็นคนแรกที่กล้าฉี่ใส่ตัวจวินซื่อจื่อด้วย”

แม่ทัพโหวตกใจมาก รีบให้ฮูหยินไปอุ้มลูกมา “ขออภัยด้วยซื่อจื่อ เด็กยังเล็กนักไม่รู้เรื่องอะไร ขอซื่อจื่อโปรดอภัยด้วย หากซื่อจื่อไม่รังเกียจ เปลี่ยนเป็นชุดของข้าก่อนเถอะ”

เสื้อคลุมสีขาวของจวินหย่วนโยว คราบฉี่สีเหลืองอ่อนเป็นหย่อมๆ มันดูกระอักกระอ่วนนัก

“ฮะฮะ สมเป็นหลานน้าของข้าจริงๆ ใจกล้าดี!” โม่เหลิ่งเหยียนหัวเราะออกมาเสียงดัง

ยากนักที่จะเห็นจวินหย่วนโยวเสียอาการ ช่างสาแก่ใจจริงๆ

จวินหย่วนโยวถลึงตาใส่โม่เหลิ่งเหยียน “เจ้าสะใจจริงนะ”

“แค่เด็กคนหนึ่ง หรือเจ้าจะตีเขารึ?”

“ข้าจะตีเขา”

อี้หมิงน้อยที่พึ่งโดนอุ้มไปพลันร้องไห้ขึ้นมาอีก ทำเอาหยุนถิงปวดใจนัก “ซื่อจื่อ ท่านห้ามพูดจาอย่างนี้อีก รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็ว”

หยุนถิงพูดจบ และไม่สนใจจวินหย่วนโยวอีก รีบตามฮูหยินโหวไปดูอี้หมิง

พอเห็นหยุนถิงวิ่งจากไปอย่างไม่เหลียวกลับมามองเลย จิตใจจวินหย่วนโยวโดนกระแทกอย่างแรง เขาเหมือนเห็นอนาคตว่า ต่อไปเขาจะโดนอย่างไรเมื่อพวกเขามีลูกด้วยกันเอง

เขาที่เดิมอยากมีลูก พลันรู้สึกว่าแบบนี้ก็ดีแล้ว ทำไมจะต้องขุดหลุมฝังตนเองด้วย คนทรมานยังเป็นตนเองอีก

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท