สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 189 ยังคงลวนลาม

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ห้าทุ่มเวลากลางคืน หลังจากเฟิงจิงเหยาส่งมู่เฉาเกอกลับห้องแล้ว ก็ออกจากบ้านใหญ่กลับมายังบ้านใหม่

เดิมทีเขาก็คิดว่ากู้ฉางฉิงนอนไปแล้ว เข้าไปด้วยการกระทำที่เบาลงโดยไม่ได้ตั้งใจ

ใครจะรู้ว่าพอเข้าห้อง เขาก็เห็นคนที่นอนฟุบอยู่บนโต๊ะทำงาน

แสงไฟสีขาวส่องไปบนเรือนร่างของเธอ ชัดเจนว่ารูปร่างของเธอเล็กและบอบบางมาก

เขาเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง เห็นใบหน้าเธอที่หลับราวกับเด็กทารก ในสายตาก็รู้สึกทะนุถนอม

เพราะเขาเข้าใจผิดคิดว่ากู้ฉางฉิงรอเขาอยู่ แต่เผลอหลับไป

คิดแบบนี้แล้ว เขาก็ค่อยๆก้มลงไปอุ้มคนขึ้นมา

แต่ไม่ว่าเขาจะระวังอย่างไร กู้ฉางฉิงก็ยังถูกปลุกให้ตื่น

เธอลืมตาอย่างสลึมสลือ มองใบหน้าอันหล่อเหลาใกล้ๆ ในสมองก็สับสนวุ่นวาย กล่าวถามด้วยจิตสำนึกว่า: “กลับมาแล้วหรอ?”

“อื้ม กลับมาแล้ว คุณนอนต่อเถอะ”

เฟิงจิงเหยาพูดเบาๆกับเธอ

กู้ฉางฉิงพยักหน้าอย่างสลึมสลือ แล้วคล้องคอของเขาพิงที่หน้าอกเขา ถูๆอย่างใกล้ชิดแล้วก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว

เฟิงจิงเหยาเห็นเธอขดอยู่ในอ้อมกอดของตัวเองอย่างน่าเอ็นดู ในใจเขาก็อ่อนลงแล้ว

เขาวางกู้ฉางฉิงลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นตนเองก็เปลี่ยนชุดนอนแล้วขึ้นบนเตียง กอดกู้ฉางฉิงแล้วหลับไปอย่างเป็นปกติมาก

แสงในยามราตรีส่องลงมา รูปร่างของคนทั้งสองคือเหมาะสมกันมาก

……

เช้าตรู่วันต่อมา กู้ฉางฉิงตื่นขึ้นมา มองไปที่ใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติตรงหน้า แม้ว่าจะเห็นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะตะลึง

รู้ว่าขนตาเฟิงจิงเหยาขยับเล็กน้อย เธอจึงลุกขึ้นนั่งอย่างขัดเคือง

ทำไมเธอมองผู้ชายคนนี้อย่างหลงใหลอีกแล้ว!

กำลังคิดพลาง เสียงแหบแห้งของเฟิงจิงเหยาที่เพิ่งตื่นก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง: “ตื่นแล้วหรอ? ทีหลังถ้าฉันยังไม่กลับมา ก็ไม่ต้องฝืนรอฉันนะ คุณพักผ่อนไปก่อนได้เลย”

เขาพูดจบ ก็มุ่งลงจากเตียงไปล้างหน้า

กู้ฉางฉิงมองทิศทางที่เขาจากไป ก็มึนงง

ใครรอเขา?

เดี๋ยวนะ…..

ในสมองของเธอกลับไปคิดถึงภาพเมื่อคืนวาน

ผู้ชายคนนี้คงไม่ได้คิดว่าเมื่อคืนวานฉันกำลังรอเขาใช่ไหม?

เธออ้าปาก ในที่สุดก็ไม่ได้พูดคำอธิบายออกมา

ถึงอย่างไรหัวข้อสนทนานี้ที้พูดออกมา ก็ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะคิดเพ้อเจ้อ

เธอรับปากด้วยสีหน้าเรียบๆถือว่าเป็นการตอบรับคำพูดเมื่อกี้ของเฟิงจิงเหยา หลังจากนั้นก็ไม่พูดอีก เริ่มล้างหน้าแปรงฟัน

ในช่วงเวลานั้น เฟิงจิงเหยาก็แต่งตัวเสร็จแล้ว

เขามองภาพเงาของกู้ฉางฉิงในห้องน้ำ กล่าวอย่างนุ่มนวลว่า: ฉันลงไปก่อนนะ อาหารเช้าวันนี้ต้องไปที่บ้านใหญ่ อีกสักครู่คุณเสร็จแล้วก็เข้าไปนะ”

กู้ฉางฉิงได้ยินแล้ว ก็หยุดการกระทำไปชั่วขณะ ไม่ได้พูดอะไร แสดงให้เห็นว่ารับรู้แล้ว

ห้องอาหารบ้านใหญ่ ไม่มีความแตกต่างระหว่างมื้อค่ำกับเมื่อคืนวาน

คุณนายเฟิงไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบทุกอย่างกับมู่เฉาเกอ ไม่เหลือช่องว่างให้คนทั้งสองได้สร้างโอกาส

“จิงเหยา เฉาเกอกำลังจะเข้ามาบริหารบริษัทที่นี่ พอดีเลยคุณลองพาเธอไปเยี่ยมชมบริษัทคุณสิ พาเธอไปให้คุ้นเคยกับขั้นตอนของบริษัทสักหน่อย”

มู่เฉาเกอฟังคำพูดนี้ บนใบหน้าก็แฝงไปด้วยรอยยิ้มจางๆ

“คุณน้าเตือนสติฉันอีกแล้วจริงๆ เดิมทีฉันก็คิดที่จะไปเยี่ยมชมทางด้านบริษัทของจิงเหยาอยู่ สุดท้ายเมื่อวานคุยกันมากมาย เลยลืมพูดไป”

พูดจบ เธอก็หันสายตาที่งดงาม มองไปยังเฟิงจิงเหยา กล่าวถามว่า: “จิงเหยา คุณคงไม่ถือที่ฉันจะไปเยี่ยมชมบริษัทกับคุณใช่ไหม?”

เฟิงจิงเหยาได้ยิน ยิ้มแล้วกล่าวว่า: “คุณอยากไป ก็ยินดีต้อนรับ”

คุณนายเฟิงเห็นลูกชายของตนเองไม่ปฏิเสธ รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งเพิ่มขึ้น

“งั้นอีกสักครู่ทานอาหารเสร็จ เฉาเกอคุณก็เดินทางไปบริษัทกับจิงเหยานะ”

มู่เฉาเกอพยักหน้า

กู้ฉางฉิงนั่งอยู่ข้างเฟิงจิงเหยา ฟังบทสนทนาของพวกเขา ในใจก็ไม่สบอารมณ์อย่างมาก

โดยเฉพาะเมื่อเฟิงจิงเหยาไม่ปฏิเสธมู่เฉาคง ทำให้ความหึงเมื่อคืนวานของเธอที่ยากจะระงับปรากฎออกมาอีกครั้ง

เพื่อไม่ให้ตนเองยิ่งนานยิ่งเปลี่ยนเป็นไม่ใช่ตนเอง เธอจึงรีบรับประทานอาหาร อ้างว่าบริษัทยังมีงาน จึงออกไปก่อน

เดิมทีที่เฟิงจิฝเหยาอยากจะบอกว่าไปส่งเธอ แต่คำพูดยังไม่ทันได้ออกจากปาก กู้ฉางฉิงก็วิ่งออกไปไม่เห็นเงาแล้ว

และสำหรับคุณนายเฟิงกับการออกไปของกู้ฉางฉิง สายตาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยถากถาง

และสิ่งเหล่านี้กู้ฉางฉิงล้วนไม่รับรู้

เธอนั่งรถมาถึงที่ทำงาน ก็ถูกชีเสี่ยวจิ่วแจ้งว่าซูตี้กลับมาแล้ว

อย่างไรก็ตามกู้ฉางฉิงรู้สึกไม่พอใจในเวลานี้ และไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลย

“กลับมาก็กลับมาสิ”

เธอพูดพลาง เข้าไปในห้องทำงาน เหลือไว้เพียงชีเสี่ยวจิ่วที่ใบหน้างุนงง

ทำไมผ่านไปตลอดทั้งวัน รู้สึกว่าทัศนคติของบรรณาธิการใหญ่ที่มีต่อนักออกแบบซูนั้นเย็นชาไม่น้อยเลย?

แต่ไม่รู้ว่า นี่กู้ฉางฉิงไม่ได้เย็นชา และความคิดของเธอล้วนกำลังคิดถึงทางด้านของเฟิงจิงเหยา

เธออดไม่ได้ที่จะคาดเดาว่าตอนนี้คนทั้งสองจะถึงบริษัทแล้วหรือยัง กำลังทำอะไรอยู่

ก็ด้วยเหตุนี้ การทำงานตลอดทั้งวัน เธอล้วนใจลอย

กระทั่งตอนปรึกษาหารือการออกแบบกับซูตี้ ก็ใจลอย

ด้วยเหตุนี้ ทำให้ซูตี้โมโหขึ้นมาอีกครั้ง

“กู้ฉางซิน ตกลงคุณเป็นอะไร? ไม่อยากทำก็พูดมาตรงๆ ทำชุ่ยๆแบบนี้จะให้ใครดู!”

กู้ฉางฉิงดึงสติกลับมา เห็นใบหน้าซูตี้ที่โมโห ก็เข้าใจว่าเป็นปัญหาของเธอ รีบกล่าวขอโทษ

“ขอโทษด้วยนะ เมื่อกี้พูดถึงไหนแล้ว?”

ซูตี้มองเธอด้วยท่าทีที่ไม่ดีนัก บ่นพึมพำว่า: “ไม่รู้เลยจริงๆว่าคุณมีนิสัยแบบนี้ ตกลงมู่จิ่นชื่นชมอะไรเกี่ยวกับคุณ!”

กู้ฉางฉิงคลึงๆจมูกหน้าเหยเก

เวลานี้เธอรู้แล้วว่าที่ซูตี้สามารถกลับมาได้ คือมู่จิ่นเป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ย

ซูตี้เห็นเช่นนี้ ก็มองค้อนทีนึง ชี้ไปที่ต้นฉบับการออกแบบบนโต๊ะ อดกลั้นความหวุดหงิดแล้วพูดใหม่อีกครั้ง

“ก่อนหน้านี้ที่คุณให้ผู้ช่วยนำแผนโครงการมาให้ฉัน ฉันดูแล้ว จริงๆ ต่างประเทศและในประเทศมีความนิยมไม่เหมือนกัน เนื่องจากส่วนประกอบแบบคลาสสิคโบราณในประเทศได้เริ่มเฟื่องฟูเมื่อไม่กี่ปีมานี้ อย่างนั้นก็สามารถอนุรักษ์ไว้ได้ เพียงแต่กับส่วนประกอบชิ้นนี้จำเป็นที่จะต้องฟังฉัน”

เธอได้นำความรู้ระดับมืออาชีพและประสบการณ์อันยาวนานมาให้กู้ฉางฉิงเกี่ยวกับการวางตำแหน่งของการออกแบบในภายหลัง

และกู้ฉางฉิงก็บังคับให้ตนเองล้มเลิกความคิดต่างๆนาๆและกลับมาทุ่มเทในงานอีกครั้ง

……

ในเวลาเดียวกัน ทางด้านลู่ซือหยี่ ก็ได้รับข่าวที่มู่เฉาเกอเข้ามาที่ตระกูลเฟิง

“ความหมายของคุณคือ คุณน้าหมิงเชื้อเชิญคนแซ่มู่ไปที่ตระกูลเฟิงเองเลยหรอ?”

เธอมองผู้ช่วยตรงหน้าอย่างยากที่จะเชื่อ จึงซักถามอีกครั้ง

“ใช่ครับ คุณหนู”

คำพูดของเขาจบลง ลู่ซือหยี่ก็ระงับความโกรธในสายตาไว้ไม่อยู่

“เห๊อะ ดีมาก นี่คงคิดว่าค่อยใช้ฉันเป็นตัวสำรองสินะ?”

เธอพูดอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน ความโกรธภายในใจไม่สามารถเก็บไว้ได้เลยด้วยซ้ำไป

โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงทางด้านของคุณนายเฟิง ตัวสำรองไม่ใช่เธอเพียงคนเดียว!

“หญิงแก่นี่สมควรตาย อดไม่ได้ที่จะใช้ผู้หญิงคนนี้เป็นเครื่องมือ ยังคิดที่จะหาตัวสำรองไว้ให้ลูกชายของเธออีก!”

เธอพูดถึงตรงนี้แล้ว ภายในอกก็ปรากฎความอัปยศอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

คิดถึงว่าเธอเป็นคุณหนูที่สง่าผ่าเผยของตระกูลลู่ ทำไมเวลานี้ถึงถูกคนคิดร้ายได้ขนาดนี้

หญิงแก่คนนี้ ให้สีเธอเพียงเล็กน้อยก็สามารถเปิดโรงย้อมผ้าได้จริงๆ

เธอปฏิญาณว่า ถ้าหญิงแก่คนนั้นกล้าที่จะกบฏ หนีไปจับคู่ให้มู่เฉาเกอและพี่จิงเหยา เธอจะไม่ยอมปล่อยเธอไปเด็ดขาด!

เธอคิดด้วยใบหน้าอันโหดร้าย ในเวลาเดียวกันก็นึกถึงทางด้านของกู้ฉางฉิง อดกลั้นความโกรธแล้วกล่าวถามว่า: “ทางด้านกู้ฉางฉิงล่ะ?”

“ทางด้านตระกูลกู้ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร”

ลู่ซือหยี่ฟังคำพูดนี้แล้ว ก็ขมวดคิ้วแน่น

“จับตาดูต่อไป”

ถึงแม้ว่าเธอจะขุ่นเคืองกับการเปลี่ยนใจของคุณนายเฟิงก็ตาม แต่การมีกู้ฉางฉิงอยู่ก็เหมือนกับมีหนาม ขวางอยู่ในใจของเธอ ทำให้เธอจำเป็นต้องดึงมันออก!

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท