ณัฐณิชาพยักหน้า เดินเข้าไป ทุกคนที่อยู่ทางนั้นไม่ได้สังเกตเห็นทางนี้ ฐิติกานต์หยิบชุดสูทสีชมพูตัวเล็กๆ ขึ้นมายื่นให้ณัฐณิชา “นางแบบยังมาไม่ถึง ฉันดูแล้ว……” สายตาของฐิติกานต์ตกที่ตัวณัฐณิชา พูดว่า “ทำไมนายหญิงไม่ลองใส่ให้เราสักหน่อยล่ะ”
“ฉัน ฉันเหรอ” ณัฐณิชาค่อนข้างปลื้ม
สายตามัวเมาฉายขึ้นมาทันที
วัสดุที่ใช้ ดูแล้วคงจะแพงน่าดูเลยใช่ไหมนะ
“ใช่ค่ะ ฉันดูแล้วรูปร่างของนายหญิงคล้ายคลึงกับนางแบบ ไม่สู้ช่วยพวกเราหน่อยล่ะคะ” ฐิติกานต์พูดยิ้มๆ
ณัฐณิชาหายใจเข้าลึก เวลานี้พนักงานที่อยู่แถวนั้นเดินมาด้วยสีหน้าอึดอัดใจ “เลขาฐิติกานต์นางแบบที่ต้องมาที่นี่วันนี้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้ถูกส่งไปโรงพยาบาลแล้ว คาดว่าคงมาไม่ได้ ติดต่อนางแบบคนอื่นๆ แล้วก็ไม่มีตารางว่างเลย……”
ฐิติกานต์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ได้แต่มองไปยังณัฐณิชาพลางขอร้อง “นายหญิง……”
“ได้ ฉันตกลง”
แต่ไหนแต่ไรมาณัฐณิชาไม่ใช่คนกระบิดกระบวน นอกจากนี้เธอยังใจดีกับคนอื่นเสมอ แกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ปแห่งนี้เป็นธุรกิจของธราเทพ เธอไม่มีเหตุผลที่จะนิ่งดูดาย
ณัฐณิชาออกมากับชุดสูทสีชมพูดเล็กๆ กับกางเกงขายาว เธอดึงแขนเสื้อของตัวเองอย่างงุ่มง่ามนิดหน่อย
ความฝันของเธอเมื่อครั้งยังเด็กคือการเป็นพนักงานออฟฟิศที่มีความสามารถทางธุรกิจที่โดดเด่น แต่น่าเสียดายที่แม้แต่ชั้นมัธยมปลายก็เรียนไม่จบ ไม่มีบริษัทดีๆ ต้องการตัวเธอเลย
ทุกครั้งที่เห็นสาวสวยในเมืองใส่สูทตัวเล็กๆ ดูดีพูดสื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว เธออดไม่ได้ที่จะอิฉา
“ชุดนี้ค่อนข้างเหมาะมาก ช่วงไหล่ต้องเสริมฟองน้ำเล็กน้อย เอาดีไซน์ตรงชายเสื้อออก มันดูรกไป” ฐิติกานต์ยิ้มเล็กน้อย ออกคำสั่งกับพนักงานที่อยู่ข้างๆ
พนักงานจดบันทึกคำสั่งของฐิติกานต์ลงไปทันที
แต่ฐิติกานต์กับคนอื่นๆ ตอนที่เห็นณัฐณิชาออกมา สายตามีแววประหลาดใจ! ณัฐณิชาคนนี้ เมื่อครู่ใส่แค่ชุดทางการธรรมดา ก็ให้บรรยากาศอ่อนโยน ตอนนี้เปลี่ยนใส่ชุดนี้ ก็ดูเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง!
“ชุดเดรสสีขาวตัวนี้เหมาะกับฤดูใบไม้ผลิมาก แต่ตอนนี้จะว่าไปแล้วลวดลายกับลูกไม้ซับซ้อนไปหน่อย……”
“ตัวนี้ ดีไซน์ตรงอกเสื้อเชิ้ตต้องปรับหน่อย บอกดีไซน์เนอร์ด้วย”
“เนื้อผ้าของกางเกงขากว้างค่อนข้างหนาไป ต้องปรับหน่อย เปลี่ยนเป็นผ้าไหมที่เหมาะกับฤดูร้อนนะ”
ฐิติกานต์มือข้างหนึ่งลูบคาง มีอีกข้างชี้ณัฐณิชา หลังจากเปลี่ยนชุดไปเป็นโหล เธอก็ยื่นน้ำให้ณัฐณิชาแก้วหนึ่ง บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน “ลำบากนายหญิงแล้ว ยังมีชุดสุดท้าย” พูดจบ ฐิติกานต์ก็เอาเสื้อผ้ากับที่แขวนให้ณัฐณิชา ณัฐณิชาเหนื่อยเล็กน้อย แต่บนใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มที่ดี นวดๆ น่องที่เจ็บเสียด แววตาเกิดประกายแวบหนึ่ง แล้วเดินเข้าไปในห้องลองชุดพร้อมกับเสื้อผ้า
ทันทีที่ณัฐณิชาเข้าไป ปณิดาที่หลบอยู่ข้างๆ ก็ออกมา ด้วยสีหน้าที่มีแผนร้ายในใจ “เลขาฐิติกานต์คุณทำแบบนี้ไม่ดีเกินไปหรือเปล่า ชุดนั้น…ท่านประธานบอกว่าห้ามใช้นะ”
เมื่อครู่ปณิดากำลังบ่นกับเพื่อนสนิทภัทริน ทันใดนั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากฐิติกานต์ สิ่งที่พูดอันดับแรกคือคำสั่งให้เธอไปเอาชุดราตรีชุดนี้มา ชุดนี้ถูกส่งมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สไตล์นี้เป็นที่นิยมมากเมื่อยี่สิบปีก่อน ทางแบรนด์เตรียมปรับแต่งเพื่อให้นำสมัยขึ้น แต่กลับถูกธราเทพต่อต้านอย่างรุนแรง
เพียงเพราะ……ชุดนี้ เป็นของคนคนนั้น
“คุณจะรู้อะไร ให้ทำอะไรก็ทำตามก็พอ” ฐิติกานต์เหลือบมองเธอและพูดอย่างเย็นชา