“เสร็จหรือยัง……”
ยี่สิบนาทีต่อมา ดวงอาทิตย์ขึ้นถึงจุดสูงสุดแล้ว ส่องลงพื้นปถพี ณัฐณิชาเกาคออย่างทนไม่ไหว เธอล้าจนใกล้ตายแล้ว……กับการอยู่ในท่าเดิม นี่ไม่ใช่งานของมนุษย์เลย!
“เสร็จแล้วๆ คุณรออีกเดี๋ยว”
ได้ยินคำพูดของกันรพี ณัฐณิชาจึงเม้มปากแน่น เพื่อภาพที่สวยงามของตัวเอง เธอทนได้!
เพียงแต่……สามนาทีต่อมา เมื่อณัฐณิชาเห็น “ภาพศิลป์” ที่กันรพีวาดให้ตัวเอง ใบหน้าก็พลันหมองคล้ำดำเสียยิ่งกว่าถ่านที่อยู่แถวนั้นเสียอีก
“นั่นคือสิ่งที่คุณวาดให้ฉันเหรอ”
ผีบ้าอะไร!
ในภาพวาด เป็นตัวการ์ตูนกำลังยืนอยู่ข้างน้ำพุอย่างหมดอาลัยตายอยาก……
“อืม ถ้าไม่มีอะไรผิดแปลก แน่นอนว่าผมวาดมัน”
“แล้วภาพเหมือนคนที่ตกลงกันล่ะ” ณัฐณิชาโกรธมาก
เธอยืนตากแดดมาเกือบครึ่งชั่วโมง ไม่อยากเชื่อว่าได้แค่……อืม ไอ้เส้นขีดๆ นี่น่ะเหรอ!
“ผมไม่ได้บอกว่าสามสิบเป็นภาพเหมือนคนนี่นา” กันรพีกะพริบตาโต มองเธอด้วยสีหน้าน่ารักไร้เดียงสา เดิมทีเขาเป็นศิลปินข้างถนน ตอนนี้ยังคงมีกลิ่นอายความเจ้าเล่ห์อยู่บ้าง ส่วนกลิ่นอายทางศิลปะนั้นแข็งแกร่งมาก
ณัฐณิชากำกระดาษร่างแบบที่ถือแน่น
“อีกอย่าง กระดาษแผ่นนี้ราคาแพงมากนะ” กันรพีทำราวกับยุ่งมาก เริ่มเก็บของเตรียมจะจากไป
เหมือนเขาไม่มีแผนจะเก็บเงินณัฐณิชา “แผ่นนี้ถือว่าสำหรับคุณ คนที่ถูกลิขิต ฮ่าฮ่าฮ่า”
คนที่ถูกลิขิต?
บ้าเอ๊ย!
ฉันไปเป็นนางแบบดีร้ายยังไงก็ยังได้เงินสามร้อยต่อวัน คนคนนี้ทำไมไร้ยางอายขนาดนี้!
ณัฐณิชากลอกตา ตรงเข้าไปยัดเงินสามสิบลงในกระเป๋าของกันรพี เม้มริมฝีปากก่อนจะพูดว่า “ฉันไม่สน ยังไงฉันก็จ่ายเงินแล้ว คุณต้องให้ภาพดีๆ กับฉันภาพหนึ่ง”
“เฮ้ๆๆ อย่าทำแบบนี้” สายตาเห็นณัฐณิชายื่นมือมาหยิบอาหารที่ตัวเองเอาไว้ทาน กันรพีจึงร้อนรน จ้องสาวน้อยตรงหน้า เมื่อมองดู ถึงได้พบว่าสาวน้อยมีผิวขาวรูปร่างหน้าตาอ่อนเยาว์ แลดูสะโอดสะอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง……บริสุทธิ์ไร้เดียงสา
เอื๊อก
เขากลืนน้ำลายอย่างช่วยไม่ได้
ณัฐณิชาเกิดแรงบันดาลใจบางอย่างแวบเข้ามาในหัว คิดว่าจะติดอยู่กับกันรพีตรงนี้ไม่ไปไหนเลยจริงๆ
ทั้งหมดนี้ ล้วนตกอยู่ในสายตาของธราเทพที่อยู่ตรงประตูทางเข้าร้านอาหารญี่ปุ่น……ดวงอาทิตย์นอกหน้าต่างเปล่งแสงขึ้นเรื่อยๆ ส่องประกายลงบนตัวณัฐณิชา เธอกระโดดไปกระโดดมาเหมือนภูตตัวน้อย ร่างกายราวกับมีพลังล้นเหลือไม่หมดสิ้น
ผู้ช่วยนรินทร์ที่สูงร้อยแปดสิบอยู่ตรงหน้าธราเทพก็ไม่เพียงพอจะทำให้มองเห็น เขามองสีหน้านิ่งเฉยของประธานตัวเอง ในใจเริ่มร้อนรน
“ท่านประธาน ต้องการให้ผมไปพานายหญิงมาไหมครับ”
กล้ายิ้มกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าท่านประธาน ผู้ช่วยนริทร์มองดูสีหน้าของท่านประธานอย่างระมัดระวังและเอ่ยถาม
“ต้องการไหมงั้นเหรอ” ธราเทพส่งเสียงเยาะขึ้นจมูก
บางทีเขาอาจจะไม่รู้ตัว ว่าการแสดงออกของตัวเองมันทรยศเขาไปแล้ว สายตาของธราเทพล็อกอยู่ที่ตัวณัฐณิชา ดูเหมือนจะลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดกับผู้ช่วยนรินทร์ว่า “ไปเรียกเธอมา”
“……….” ท่านประธานคุณนี่เป็นคนปากแข็งจริงๆ!
ณัฐณิชาพยายามอย่างหนักที่จะขอวีแชทของกันรพี ด้วยสีหน้าพึงพอใจและตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด “คุณคือนักเรียนของสถาบันสอนศิลปะเหรอ ฉันได้ยินว่าสถาบันสอนศิลปะเข้ายากมาก ฉัน……”
“นายหญิง”
ณัฐณิชาดึงแขนของกันรพีวางแผนว่าจะทำท่าทางน่าสงสารตื๊อให้มูลี่สอนตัวเองหนึ่งหรือสองอย่างให้ได้ เธอเพิ่งจะค้นพบ! ฝีมือการวาดภาพของกันรพีคนนี้โดดเด่นจนใครๆ ก็เห็นได้ วาดภาพอยู่ข้างถนนแบบนี้ดูจะถูกกลบฝังฝีมือเกินไป
ถ้าสามารถหลอกให้เขาสอนตัวเองได้ โอ้ไม่สิ นี่มันเรื่องของคนที่อยากค้นคว้าหาความรู้ จะเรียกว่าหลอกได้ยังไง