ตอนที่ 273 ความมุ่งมั่นและความพอใจ
ตระกูลคุมอนนับว่าเป็นตระกูลที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาข้ารับใช้ของมิตสึรุกิ
ต้นตระกูลของพวกเขานั้นคือบุคคลที่ใกล้ชิดที่สุดกับนักบุญดาบคนแรก และตลอด 300 ปีที่ผ่านมาพวกเขาก็มีบทบาทสำคัญในตระกูลมิตสึรุกิมาโดยตลอด
กลับกันพวกเขากลับไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมืองภายในตระกูลมิตสึรุกิเลย อย่างตำแหน่ง 4 เสาหลักพวกเขาก็ไม่คิดจะเกี่ยวข้องเพราะมองว่าหน้าที่ของตัวเองในฐานะธงแห่งผืนป่าไม่ใช่การแสวงหาอำนาจภายในตระกูล
หรือก็คือตระกูลคุมอนไม่ได้แก่งแย่งชิงดีในอำนาจกับตระกูลอื่นนั่นเอง
หากไปสู้ในศึกแห่งอำนาจถึงจะชนะไปก็มีแต่สร้างความแค้นให้กับอีกฝ่าย ต้นตระกูลคุมอนจึงมีประเพณีสืบทอดกันอย่างลับๆ มาโดยเสมอว่าตนคือเงาที่จะคอยปกป้องตระกูลมิตสึรุกิและไม่กระทำการเสี่ยงใดๆ จนกว่าเวลานั้นจะมาถึง
ทว่าในมุมมองของตระกูลอื่นแล้ว ภาพของตระกูลคุมอนก็เป็นเหมือนภาพสะท้อนของตัวอย่างข้ารับใช้ผู้ภักดี เป็นมิตรกับทุกคนและเป็นผู้นำทัพรบรากับศัตรูที่น่าเชื่อถือ
จึงทำให้ตระกูลคุมอนได้รับความเคารพจากตระกูลอื่น แม้พวกเขาจะไม่มีอำนาจในเชิงแต่งตั้ง แต่อิทธิพลภายในของพวกเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ เลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุคของชูยะที่กลายมาเป็น 1ใน2 สุดยอดผู้คุ้มกัน แถมด้วยนิสัยของเขายังทำให้พวกธงแห่งผืนป่าเคารพมากกว่าเดิมอีก หากชูยะต้องการจริงๆ เขาสามารถยึดอำนาจที่ตระกูลเบิร์ชมีทั้งหมดในตอนนี้ได้ง่ายๆ ด้วยซ้ำ
อันที่จริงพวกธงแห่งผืนป่าหลายคนเองก็แอบตั้งความหวังให้เขากลายเป็นหัวหอกในการงัดกับตระกูลเบิร์ชเหมือนกัน
แต่ชูยะที่ปฏิบัติตามประเพณีที่สืบทอดกันมาภายในตระกูลรุ่นสู่รุ่น เขาจึงไม่คิดจะสนใจเล่นการเมืองภายในตระกูล
ในฐานะรองหัวหน้าหน่วยที่ 1 เขาก็ช่วยเหลืองานของไดรอาทเป็นอย่างดีแถมยังแสดงความเคารพต่อกิลมอร์ที่มีตำแหน่งสูงกว่าเขาด้วย อีกทั้งตัวของกิลมอร์ผู้เคยโค่นในตระกูลสกายชิพที่เป็นอีก1ในตระกูลมหาอำนาจลงได้ยังไม่กล้าจะมายุ่งกับคุมอนที่มีชูยะดูแลเลย
จุดนี้ตระกูลคุมอนกับเบิร์ชจึงรักษาระยะห่างกันได้เป็นอย่างดีและรับใช้สนับสนุนชิกิบุเรื่อยมา
――ทว่าบัดนี้ชูยะได้ทำการท้าทายโซระที่เป็นผู้นำตระกูลคนใหม่แล้ว
ความหมายในการกระทำของเขามันส่งผลกระทบมากจริงๆ อย่างน้อยก็ในสายตาของพวกธงแห่งผืนป่า มันทำให้เห็นว่าขนาดชูยะผู้ที่กิลมอร์ยังต้องยอมหลบให้ยังไม่ยอมรับผู้นำตระกูลคนใหม่ที่เข้ามาแทนชิกิบุ
ในที่นี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยินดีกับการได้โซระเป็นผู้นำตระกูลคนใหม่ ทว่าก็ไม่ได้มีผู้ใดยินดีกับแผนการของโซระที่จะพาพวกคิจินไปยังทวีปหลักเลยสักนิด
ความหวังของพวกเขาจึงมุ่งไปทางชูยะอย่างช่วยไม่ได้
แต่โซระที่เอาชนะนักบุญดาบผู้แกร่งที่สุดในยุคลงได้ ก็คงต้องบอกว่าโอกาสของชูยะช่างน้อยนิด
อย่างไรก็ตาม มันก็สามารถมองได้ว่าอาภรณ์แห่งความว่างเปล่าของโซระนั้นเป็นพลังที่ชนะทางนักบุญดาบมากกว่าก็ว่าได้
ดังนั้นก็ต้องมาวัดกันว่าอาภรณ์แห่งความว่างเปล่าของโซระกับชูยะมันจะได้ผลออกมาแนวไหน
ธงแห่งผืนป่าก็ได้แต่หวังว่าชูยะจะเป็นตัวแทนของพวกเขาในการลงโทษผู้นำตระกูลคนใหม่จอมผยองเสีย
…ทว่าทางตัวของชูยะตอนนี้กลับไม่ได้สนใจความคาดหวังของคนทั้งหลายรอบตัวเขาและปล่อยมันผ่านไปเหมือนกับสายลม
สุดท้ายการต่อสู้ของทั้งสองก็ได้เริ่มขึ้น
แต่การต่อสู้ของ 2 นักดาบที่เก่งกาจแค่ลานประลองย่อมไม่เพียงพอสำหรับพวกเขา ทั้งคู่จึงได้ออกจากเมืองชูโตะไปยังพื้นที่ภายนอกแทน
「เสริมแกร่งอาภรณ์วิญญาณ――จงเชื้อเชิญ สการี (ราชินีแห่งเงา) 」
พอมายืนอยู่ตรงจุดที่โซระกับชิกิบุเคยสู้กัน ร่องรอยของการต่อสู้ครั้งก่อนก็ยังคงอยู่ ชูยะก็งัดอาภรณ์วิญญาณของตนออกมาทันที
วินาทีนั้นเองสายลมอันหนาวเหน็บก็ได้พัดผ่านเกาะอสูรยักษ์
ความรู้สึกกดดันราวกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นกำลังกุมหัวใจของผู้คนเอาไว้ แค่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก็ทำให้แขนขารู้สึกชาไปหมด
เพียงแค่การเอาอาภรณ์วิญญาณออกมา เสียงลมหายใจของยมทูตก็เริ่มได้ยินชัดขึ้น
ที่มาของมันก็ไม่ใช่อะไรแต่เป็นสิ่งที่โผล่มาอยู่ในมือของชูยะ
หอกสีดำที่เหมือนถูกย้อมด้วยหมึกทั้งด้าม ส่วนปลายแหลมของมันนั้นมีพิษร้ายซึ่งสามารถหลอมละลายร่างศัตรูได้ด้วยการแทงเพียงครั้งเดียว อีกทั้งยังสร้างความเสียหายโจมตีศัตรูรอบๆ ได้ด้วยเงาอีกด้วย
เนื่องจากความอันตรายของมัน จึงทำให้ชูยะไม่ค่อยจะเอาออกมาใช้ ทว่าการที่เขางัดมันออกมาตั้งแต่เริ่มต่อสู้ก็แสดงให้เห็นชัดแล้วว่าเขาทุ่มสุดตัวกับการต่อสู้ครั้งนี้
ทางด้านโซระเองก็เช่นกัน
「เสริมแกร่งอาภรณ์วิญญาณ――จงกลืนกินโซลอีทเตอร์」
เขาเอาอาภรณ์วิญญาณออกมาโดยไม่ได้รู้สึกผงะกับแรงกดดันของชูยะเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ไม่แปลกอะไรการที่ผู้เอาชนะนักบุญดาบลงได้จะมากลัวอะไรกับแค่ 2 สุดยอด
พลังที่โซระปลดปล่อยออกมานั้นมันทรงพลังเสียยิ่งกว่าคราวก่อน แรงกดดันที่แผ่ไปทั่วเกาะนั้นรุนแรงมากเสียจนทำให้คราวนี้ถึงจะเป็นพวกหัวหน้าหน่วยก็มีคุกเข่าลงกันไปบ้าง
พลังที่เหนือยิ่งกว่าที่สัมผัสได้จากนักบุญดาบ ความเข้มข้นและความละเอียดอ่อนภายในการแผ่พลังก็ดียิ่งกว่าคราวก่อน
ชูยะอดแปลกใจไม่ได้เลยกับพลังของโซระที่แสดงออกมาให้เห็นราวกับเป็นคนละคน
โดยปกติแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่ความสามารถควบคุมอาภรณ์วิญญาณของตัวเองได้ง่ายๆ ยิ่งเป็นหลังใช้อาภรณ์แห่งว่างเปล่าได้ยิ่งแล้วใหญ่ มันแสดงให้เห็นว่ายิ่งอาภรณ์วิญญาณของตัวเองแกร่งมากแค่ไหน ก็จะควบคุมยากขึ้นไปเท่านั้น
เลเวลของโซระที่สู้ตัวต่อตัวกับชิกิบุได้ก็น่าจะใกล้เคียงกับชิกิบุแน่ๆ ทว่าวันนี้กลับแตกต่างออกไปราวกับเลเวลของเขานั้นขึ้นไปสูงมากกว่าที่เป็น
――จนทำให้ชูยะคิดว่าหรือเลเวลของโซระจะไม่มีทางตัน
ในระหว่างที่ชูยะกำลังจมในห้วงความคิด ภาพของโซระตรงหน้าก็เริ่มพร่าไป
เพียงวินาทีต่อมา ร่างของโซระก็มาปรากฏตัวตรงหน้าของชูยะก่อนจะใช้มือขวาเหวี่ยงดาบของตนลงมา
「อึก?!」
แขนของชูยะทำงานก่อนที่เขาจะรู้ตัวโดยการยกหอกขึ้นมาป้องกันการโจมตีของโซระทันที
การโจมตีของโซระช่างรุนแรงเสียจนชูยะคิดว่าร่างของเขาจะถูกบดขยี้ไปพร้อมกับหอกของเขาเลยไหม
ชูยะพยายามจะผลักอีกฝ่ายกลับไป ทว่าร่างของโซระและอาภรณ์วิญญาณที่ฟาดลงมานั้นกลับไม่ขยับเลย ทั้งที่อีกฝ่ายใช้แค่มือขวาข้างเดียว เทียบกับตนที่ใช้มือทั้งสองข้างในการดัน แต่มันก็ยังไม่ขยับ
――หนัก
ชูยะคิดว่าตอนนี้ตนกำลังผลักหินผาอยู่หรืออย่างไรกัน
ยิ่งไปกว่านั้นความเร็วก่อนหน้านี้ ชูยะจับการเคลื่อนไหวของโซระก่อนมาถึงตัวเขาไม่ได้เลย
จากนั้นโซระก็ทำการเหวี่ยงมือซ้ายที่ว่างไปยังหอกของเขา
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะทำลายหอกของเขาหรือทำลายสมดุลของเขาอยู่กันแน่ ทว่าเพียงชั่วพริบตาชูยะก็รู้ทันทีว่าไม่ใช่ทั้งสองอย่าง
「ชิโกะโนะซัง――」
เกือบจะวินาทีเดียวกันกับที่โซระเอ่ยคำนี้ออกมา ชูยะรีบถอยออกมาทันที
หวัดที่โซระปลดปล่อยออกมานั้นรุนแรงมากเสียจนน่าจะสามารถทำลายชูยะได้ไปถึงจิตวิญญาณแน่ๆ ของอย่างการเล็งทำลายอาภรณ์วิญญาณหรือทำให้เสียหลักนั้นตัดทิ้งไปได้เลย
ชูยะไม่แน่ใจเลยสักนิดว่าอาภรณ์วิญญาณของเขาจะต้านหมัดของโซระได้
ชูยะจึงเลือกที่จะถอยแทน
โซระจึงไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดไป
「――――ฮึบ!」
โซระพุ่งถีบพื้นตามชูยะที่ล่าถอยไปแล้วพริบตาเดียวระยะห่างของทั้งสองก็หายไป
ขวา ขวา ซ้าย ขวา ซ้าย ซ้าย การฟาดฟันของดาบจากโซระนั้นรวดเร็วและคาดเดาได้ยากมากเสียจนคิดว่ากำลังโดยแส้สายฟ้าฟาดโจมตี
ไม่เพียงแค่นั้นทุกการโจมตีของโซระยังรุนแรงมากจนชูยะถูกบังคับให้ตกอยู่ในสภาพป้องกันอย่างเดียว แค่เวลาจะพักหายใจยังไม่มีเลย
ทว่าการที่ชูยะได้ตำแหน่ง 1ใน2สุดยอดมา ก็พิสูจน์แล้วว่าเขามีของดีอยู่กับตัว การโจมตีของโซระในตอนนี้จึงยังไม่ถึงตัวของชูยะ
แต่ทุกครั้งที่เขาต้องรับการโจมตีของชูยะแรงกระแทกที่ส่งผ่านมายังมือของชูยะที่จับหอกเอาไว้ก็สร้างภาระให้กับร่างของเขาอย่างหนัก อาภรณ์วิญญาณของเขาก็เริ่มส่งเสียงกรีดร้องออกมาทุกครั้งที่ต้านการโจมตี
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีแน่ ชูยะจึงได้หาโอกาสเสี้ยววิที่โซระหยุดมือพักหายใจและโต้กลับ
「มายาดาบเดียว กระบวนท่าหนองบึง ดวงตาสะกด」
ดวงตาสะกดคือเทคนิคที่ไม่ได้สร้างความเสียหายเดียวในกระบวนท่าลับ ซึ่งมีไว้เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย
ศัตรูที่ได้รับผลของกระบวนท่านี้ไปจะทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวได้ช้าลงราวกับถูกหนองบึงไร้ก้นกลืนกินและยิ่งดิ้นรนมากเท่าไหน ก็จะถูกรัดแน่นมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
อ้างอิงจากการที่โซระสามารถเคลื่อนไหวต่อได้แม้จะถูกชิกิบุกระหน่ำเทคนิคลับโจมตีหลายหน ก็พอจะเดาได้ว่าการโจมตีตรงๆ กับโซระมันไม่ได้ผล ดังนั้นชูยะจึงเลือกจะใช้การพันธนาการแทน
เขามองว่าหากชะลอการเคลื่อนไหวของโซระได้สักนิด ก็น่าจะพอใช้หอกของเขาในการจัดการโซระได้
ทว่า
「ย้ากกก!」
โซระได้ปล่อยพลังคิจำนวนมากออกมาจนทำให้พันธนาการของชูยะแตกสลายไปอย่างง่ายดาย จนเรียกได้ว่านี่คือความต่างระหว่างพลังของสองฝ่าย
โซระที่หลุดพ้นจากเทคนิคลับก็กลับมาโจมตีต่ออีกครั้ง
ก็จริงว่าการโจมตีของชูยะนั้นไม่ได้มีแค่พิษแต่ยังสามารถโจมตีจากเงาของอีกฝ่ายได้ด้วย ทว่าตัวชูยะตอนนี้ไม่ได้มีเวลามากพอจะมาเล็งเงาของโซระอีกแล้ว
หากเขาพยายามฝืนตัวเองขนาดนั้น หัวของเขาเองนี่แหละจะได้หลุดเสียก่อน
นอกจากนี้ตัวชูยะที่ใช้หอกนั้นสำหรับธงแห่งผืนป่าก็เรียกว่าหาได้ยากจริงๆ ยิ่งเป็นระยะการโจมตีและลักษณะการต่อสู้ของหอกกับดาบที่มาเจอกันอีก ดังนั้นคู่ต่อสู้ของชูยะทุกคนก็เลยให้ความระวังกับจุดนี้พอสมควร
ข้อได้เปรียบนี้จึงเป็นจุดดีของคนที่ใช้หอกอย่างพวกชูยะ แต่โซระกลับไม่ได้สนใจในจุดนี้เลย
การเคลื่อนไหว การสร้างระยะห่าง การวิเคราะห์ของเหล่านั้นไม่จำเป็นสำหรับโซระในตอนนี้เลย สิ่งที่โซระใช้ในตอนนี้มีเพียงพลังเพียวๆ ที่เหนือกว่าอีกฝ่าย
จากมุมของโซระถึงชูยะจะใช้หอกหรือดาบก็คงไม่ต่างกัน
――แข็งแกร่ง
หลังจากต้านการโจมตีไปมากกว่า30ครั้ ชูยะก็สร้างระยะห่างจากโซระอีกครั้งและพูดกับตัวเอง
ชูยะได้เฝ้าดูการต่อสู้ของโซระกับชิกิบุเมื่อวันก่อนอย่างใกล้ชิด เขาเองก็ทำใจเอาไว้แล้วว่าตนจะเสียเปรียบแน่ แต่ก็ไม่คิดเลยว่าโซระจะเหนือกว่าเขามากมายถึงเพียบงนี้
พลังอันท่วมท้นและความมั่นใจในตัวเองที่แสดงออกมา กำแพงปราสาทที่ไม่มีวันสั่นคลอน เขาเริ่มเห็นในตัวโซระเหมือนกับที่เห็นในชิกิบุผู้เป็นพ่อของโซระแล้ว
โซระแข็งแกร่งกว่าเมื่อวันก่อน แถมยังเหมือนจะปลดปล่อยอะไรบางอย่างที่ฉุดรั้งเขาไว้ได้หลังเอาชนะพ่อของตนเอง กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือโซระสามารถเอาชนะพ่อของเขาได้ขณะที่เขามีพันธนาการบางอย่างฉุดรั้งอยู่
มิตสิรึกิ ชิกิบุ ผู้ได้รับการยกย่องว่าแข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบุญดาบตั้งแต่ยุคของต้นตระกูล
――ชูยะไม่สงสัยอีกต่อไปแล้วว่าชายตรงหน้าของเขาจะสามารถเอาชนะศัตรูที่แท้จริงซึ่งตระกูลมิตสึรุกิได้ฝากฝังเอาไว้ได้หรือไม่
ตอนนี้ชูยะได้ตัดสินแล้วว่าเขาควรจะทำเช่นไรต่อ ความตั้งใจเดิมของเขาคือการสนับสนุนโซระและหาเหตุผลให้มันเหมาะสมสักหน่อยอยู่แล้ว
ความกังวลในตัวของโซระที่เขามีก็ถูกขจัดไปจนหมด คิดตามเหตุและผลชูยะไม่มีเหตุผลต้องสู้กับโซระต่อ สิ่งที่เขาควรทำจากนี้คือการโน้มน้าวให้คนอื่นๆ เห็นดีงามด้วย
โซระไม่ได้เอาชนะชิกิบุได้เพียงเพราะอาภรณ์แห่งความว่างเปล่าของเขาชนะทางอีกฝ่าย ชูยะพยายามแสดงให้ทุกคนเห็นว่าถึงเขาจะไม่ใช้มัน เขาก็ยังเอาชนะ 1 ใน 2 สุดยอดอย่างตนได้
ด้วยเหตุนี้ชูยะจึงท้าทายโซระให้มาประลองกับเขา ก็จริงว่ามีโอกาสที่โซระจะไม่เล่นด้วย เพราะตัวโซระก็ไม่ได้รู้ถึงเบื้องหลังของตระกูลคุมอนและความตั้งใจของชูยะ
พอเรื่องมาถึงตรงนี้ได้ก็นับว่าเป็นเรื่องดี แต่หากสุดท้ายตนถูกอีกฝ่ายตัดหัวทิ้งไปจริงๆ ก็คงขำไม่ออกนัก
อย่างไรก็ตามจะมายกมือขอยอมแพ้เอาตอนนี้ มันก็จะกลายเป็นการแสดงปาหี่กับพวกคนอื่นๆ แทนอีก
เหนือสิ่งอื่นใด ส่วนลึกของชูยะกลับไม่อยากจะหยุดอยู่เพียงแค่นี้ ไม่ใช่เพราะศักดิ์ศรีหรืออะไรทำนองนั้น แต่เป็นเพราะเขารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เจอกับคนที่เหนือกว่าตนเป็นอย่างมาก หากไม่นับชิกิบุ
พอได้มาเป็นรองหัวหน้าหน่วยที่ 1 โอกาสที่จะได้สู้อย่างสุดกำลังก็น้อยลงไปทุกทีเพราะตำแหน่งและความสามารถของตัวเอง
ชูยะจึงไม่อยากจะพลาดโอกาสที่แสนหายากเช่นนี้ ในฐานะผู้นำตระกูลคุมอนก็จริงว่าเขาควรจะหยุดได้แล้ว แต่ความตื่นเต้นนั้นมันได้จุดไฟขึ้นในใจของเขาแทน
「เรามาเต้นรำกันหน่อยไหมสการี? 」
และราวกับจะตอบคำถามนั้น อนิม่าของเขาก็ได้ตอบกลับไป 「ยังจำเป็นต้องถามหรือ」
ชูยะได้เผยรอยยิ้มออกมาและมองไปยังโซระอีกครั้ง แต่สายตาของเขาคราวนี้ไม่ใช่ชายผู้เป็นผู้นำตระกูลคุมอน แต่เป็นเพียงธงแห่งผืนป่าผู้หนึ่ง
——-
Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code