ตอนที่ 146 : ขนแร่ไฟ
แต่เมื่อคำนวณแล้ว ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรในโลกนี้ไม่อาจจะเทียบกับสัตว์อสูรในมิตินอกได้
ยังไงซะ สัตว์อสูรในโลกนี้ก็เป็นต้นไม้และสัตว์ป่าทั่วไปที่มีอายุแค่ไม่กี่สิบปี สำหรับระดับนั้นไม่ต้องพูดถึงพวกสัตว์อสูรในมิติลับนั้นอาจจะมีชีวิตมาหลายพันปี มันไม่ใช่สิ่งที่สัตว์อสูรในโลกจะเทียบได้
สัตว์อสูรในโลกส่วนมากเป็นสัตว์อสูรทั่วไปไม่ก็ขั้นสูง มันอาจจะมีสัตว์อสูรเลเวล 20 และ 30 อยู่บ้าง สำหรับเลเวล 40 แล้วมีน้อยมาก พวกเลเวล 50 ก็ยิ่งมีน้อยเข้าไปอีก เดาว่าในป่าระยะ 100 ไมล์นี้คงยากที่จะมีสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิได้
สัตว์อสูรระดับสวรรค์นั้นมีน้อย ถึงจะรวมสัตว์อสูรระดับสวรรค์ทั้งโลกเข้าไปแล้วคงมีไม่ถึง 100 ตัวด้วยซ้ำ
นอกจากนี้สัตว์อสูรในโลกแต่ละตัวก็มีระดับที่ต่ำ ส่วนมากเป็นระดับทองแดง ระดับเงินมีอยู่มาก ระดับทองมีน้อย ระดับสวรรค์ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่
มีสัตว์อสูรของโลกที่สามารถขึ้นไปถึงระดับสวรรค์ได้อยู่ แต่สำหรับระดับศักดิ์สิทธิ์แล้วไม่มีเลยสักตัว
เลเวลนั้นอาจจะเป็นตัวตัดสินได้ เมื่อมดแข็งแกร่งขึ้น มันก็สามารถสลัดชะตากรรมเก่าของตัวเองได้ พวกที่เลเวลน้อยมีแต่ต้องทนทุกข์
ระหว่างทางกู่หลิงหลิงก็พูดไม่หยุด เธอเหมือนจะตื่นเต้นอย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเดินทางออกจากเมือง
ยังไงซะผู้คนที่ไม่เคยออกมาจากเมืองก็มักจะจินตนาการถึงโลกภายนอก พวกเขาคิดว่าโลกภายนอกนั้นกว้างใหญ่และเต็มไปด้วยอันตราย รวมไปถึงความโหดร้ายอันป่าเถื่อน
คนอื่น ๆ ไม่ได้สนใจกู่หลิงหลิงมากนัก พวกเขาชินกับโลกภายนอกมานานแล้ว สำหรับสัตว์อสูร พวกเขาก็ล่ามันจนชินแล้ว
แน่นอนหวังเย่าและจ้าวเมิ่งซีก็ถือว่าเป็นมือใหม่ แต่ทั้งสองเคยออกจากเมืองมาแล้ว ดังนั้นความสงสัยที่มีจึงไม่มากนัก พวกเขาใช้เวลานี้ในการหยอกล้อกันตามประสาคนรักแทน
ตอนที่ตั้งแคมป์ ก็เป็นธรรมดาที่พวกทหารรับจ้างจะรับหน้าที่ในการเฝ้ายาม
มีสัตว์อสูรระดับลอร์ดบางตัวที่คิดว่ามนุษย์บุกเข้ามาในอาณาเขตของมัน พวกมันจึงหงุดหงิดและเข้ามาโจมตีแต่ผลลัพธ์ก็คือพวกมันตาย
เช้าวันต่อมา พวกเขาก็ได้กินข้าวเช้ากันก่อนจะเดินทางต่อ
บ่ายวันนั้นพวกเขาก็มาถึงมิติเทือกเขาหินโม่
ก่อนที่จะเข้าไปที่นั่นทุกคนก็ต้องช็อกกับฉากตรงหน้า พวกเขาพบว่ามีแร่ไฟนับไม่ถ้วนถูกโยนออกมาจากทางออกของมิติลับ ก่อนจะร่วงลงมาที่พื้นกองกันสูงพะเนินกว่า 100 เมตรราวกับพีระมิด
จากนั้นก็มีหญิงสาวอายุประมาณ 27-28 ปีปรากฏตัวที่ทางเข้าของมิติลับ ร่างของเธอมีเปลวไฟลุกไหม้ก่อนที่เธอจะเปลี่ยนร่างเป็นกิเลนไฟที่สูงกว่า 100 เมตร
กิเลนไฟคำรามออกมาพร้อมกับพลังไฟที่รวมตัวกันเป็นแส้ แส้แต่ละอันได้ลากกองแร่ไฟมาด้วย มันเยอะมากซะจนดูเหมือนกับเมฆไฟ และกลุ่มเมฆไฟก็กำลังลอยมาทางหวังเย่าที่รออยู่ด้านนอก
ประมาณ 1 นาทีต่อมาเมฆไฟขนาดใหญ่นั้นก็ราวกับเกิดฝนไฟตกลงมา
“หวังเย่า ในที่สุดเจ้าก็มา” ชื่อหยวนจื่อได้เปลี่ยนร่างเป็นหญิงสาวก่อนจะลงมายืนตรงหน้าหวังเย่าและคนอื่น ๆ
หวังเย่ายิ้มออกมา เขาเห็นว่าที่พื้นนั้นมีแร่ไฟกองอยู่เป็นจำนวนมาก เขาคิดว่าเธอคงขนมันออกมาหลายรอบแล้ว
“ท่านชื่อหยวนจื่อ ผมมีธุระต้องจัดการเลยมาช้าไปหน่อย ถ้าหากไม่ถือสา ผมขอแนะนำ 2 คนนี้ให้รู้จัก”
ชื่อหยวนจื่อมองไปที่เฉี่ยนเจินเฉียนและหลี่ว่านเฟิง เธอเหมือนจะมองระดับของพวกเขาออก ก่อนจะพยักหน้าอย่างส่ง ๆ ไป
เธอไว้หน้าหวังเย่า บวกกับที่เฉี่ยนเจินเฉียนและหลี่ว่านเฟิงแข็งแกร่งจนพอเข้าตาชื่อหยวนจื่ออยู่บ้าง
“ท่านชื่อหยวนจื่อ นี่คือผู้ตรวจสอบ 4 ดาวของเมืองหัวเซี่ย เฉี่ยนเจินเฉียน ส่วนนี่คือผู้ตรวจสอบ 4 ดาวของเมืองอรุณ หลี่ว่านเฟิง ครั้งนี้พวกเขามาเพื่อช่วยผมขนแร่ไฟนี้”
เฉี่ยนเจินเฉียนและหลี่ว่านเฟิงต่างก็พากันป้องมือทำความเคารพ
ชื่อหยวนจื่อแสดงท่าทีไม่ใส่ใจ เธอแค่พยักหน้าตอบรับ “หลายวันมานี้ข้าออกมาสำรวจดาวโลก ที่นี่ดูธรรมดามาก ขนาดพื้นที่ยังเทียบกับมิติ 8 ดาวไม่ได้ ถ้าไม่มีมิติอื่นเชื่อมต่อกับที่นี่ งั้นที่นี่ก็คงไม่มีอะไรน่าสนใจ พวกสัตว์อสูรที่นี่แม้ว่าจะกลายพันธุ์มาหลายปีแล้ว แต่ความแข็งแกร่งโดยรวมก็ยังอ่อนแออยู่มาก เดาว่าคงพอทัดเทียมรึแกร่งกว่ามิติ 6 ดาว“
เมื่อชื่อหยวนจื่อมาที่โลก เธอก็ต้องผิดหวัง เธอคิดว่าดาวโลกมีกฎที่สมบูรณ์อาจจะไม่ได้แย่อะไรนัก แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่คิด มันเป็นแค่โลกที่เพิ่งจะเติบโตเท่านั้นเอง
หวังเย่าลูบจมูก เขารู้ว่าชื่อหยวนจื่อคงเคยอยู่ในมิติที่กว้างใหญ่ เธออาจจะเคยพบมนุษย์จากโลกอื่น ความแข็งแกร่งของพวกนั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง ดังนั้นเธอจึงกลัวอยู่บ้างแต่ที่โลกนี้มนุษย์กลับอ่อนแอไม่ต่างอะไรจากแมลง
“แต่ยังไงก็ตาม โลกของเราก็มีกฎที่สมบูรณ์ มันเชื่อมต่อกับมิติอื่นนับไม่ถ้วน มิติเหล่านั้นมีโลกขนาดใหญ่ อีกทั้งจักรวาลของเรายังมีมิติระดับ 10 ดาวอยู่ 3 แห่ง แม้จะเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่กล้าเข้าไป นี่ไม่ต้องพูดถึงพวกเราเลย”
“นอกจากนี้แล้วมนุษย์ก็ยังมีความฉลาดมาก พวกเราเรียนรู้ได้ไว เข้าใจอะไรได้รวดเร็วและความคิดสร้างสรรค์ แม้จะผ่านมาแค่ไม่กี่สิบปี ก็มีผู้ตรวจสอบ 4-5 ดาวมากมาย หากผ่านไปอีกสักร้อยปี เดาว่ามันอาจะมีคนที่แข็งแกร่งทัดเทียมกับเทพปรากฏตัวขึ้นมาก็ได้” หวังเย่าออกตัวแทนมนุษย์
“พอแล้ว เจ้านี่พูดมากจริง ๆ ” ชื่อหยวนจื่อพูดขึ้น “เจ้าปฏิเสธคำพูดของข้าก็พอแล้ว”
ชื่อหยวนจื่อชี้ไปที่พื้น “เจ้าจะจัดการกับหินพวกนี้ยังไงก็ได้แต่ข้อตกลงของเรายังไม่เปลี่ยนแปลง ครั้งนี้ข้าขนแร่มาประมาณร้อยล้านกิโลกรัม ข้าขนมาทั้งหมด 20 ครั้ง ครั้งนี้ก็ครบแล้ว ตามข้อตกลง เจ้าควรเข้าไปด้านในและจัดการตามที่เราตกลงกันไว้”
หวังเย่าเผยสีหน้าพอใจออกมา “ขอบคุณท่านมาก ผมจะทำให้ดีที่สุด”
เมื่อได้ยินหวังเย่ารับปาก ชื่อหยวนจื่อก็บินกลับไปทันที
แม้กิเลนไฟกลับไปแล้ว แต่ที่นั่นก็ยังมีคลื่นพลังของสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์อยู่ คลื่นพลังนี้มีแรงกดดันจนทำให้สัตว์อสูรระดับทองต่างก็พากันตัวสั่น…
Related