ตอนที่ 311 : ชุดเกราะระดับ SS
**เพื่อสะดวกในการอ่านขออนุญาต ป้องกันการตาลาย ขอเปลี่ยนตัวเลขในการประมูล เป็นหลักล้านค่ะ**
“500 ล้าน”
คนที่ชั้นสองได้เพิ่มราคา จนตอนนี้ราคาขึ้นมาถึง 500 ล้านแล้ว
ทหารรับจ้างถึงกับเงียบและสุดท้ายก็เลือกที่จะยอมแพ้ไป
ยังไงซะหากเขาประมูลอีกครั้งเขาก็คงมีเงินไม่พอ
เมื่อเห็นว่าชายคนนั้นสู้ไม่ไหว ทุกคนต่างก็พากันมองไปที่เขาด้วยความสงสาร
หากจะแข่งกับคนที่อยู่ชั้นสอง งั้นต้องมีเงินมากแค่ไหนถึงจะทัดเทียมกับคนพวกนั้นได้ ?
เมื่อมีคนชั้นสองและสามเข้ามาเกี่ยวด้วยแล้ว คนด้านล่างก็ได้แต่ดูอยู่เงียบ ๆ
นี่คือสงครามเทพที่พวกเขาไม่อาจจะเข้าไปยุ่งด้วยได้
ทุกคนรู้ฐานะของตัวเองดี ว่าควรจะประมูลหรือไม่
อย่าคิดแสร้งทำเป็นรวยทั้ง ๆ ที่ยังมีเงินไม่มากพอ…
ที่บนชั้นสองนั้นแม้ว่าหวังเย่าจะไม่คิดประมูลไม้แดงวิญญาณ แต่เขาก็ยังสงสารทหารรับจ้างคนนั้นอยู่
“น่าสงสารจริง ๆ…”
“600 ล้าน”
การประมูลยังดำเนินต่อไป…
หลังจากที่ทหารรับจ้างคนนั้นเงียบไป คนบนชั้นสองก็เริ่มแข่งกันอีกครั้ง คนที่เอ่ยปากนี้คือผู้อาวุโสภูเขาอู่ตัง
“700 ล้าน” ผู้อาวุโสสำนักฉวนเจินได้พูดขึ้นมา
“800 ล้าน” ผู้อาวุโสภูเขาอู่ตังไม่คิดจะถอนตัว
ผู้อาวุโสสำนักฉวนเจินได้แต่ต้องยอมแพ้
เขามีเงินไม่พอจึงไม่อาจจะสู้กับผู้อาวุโสอู่ตังได้ การที่กดดันมาได้ถึงขนาดนี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
ดังนั้นผู้อาวุโสสำนักฉวนเจินจึงยอมแพ้ไป
หลังจากที่เขาถอนตัวแล้ว คนในชั้นสองก็เริ่มทำการประมูลต่อ
สุดท้ายไม้แดงวิญญาณนี่ก็ตกเป็นของผู้อาวุโสภูเขาอู่ตังในราคา 800 ล้านเครดิต
หลังจากนั้นก็มีการประมูลของชิ้นต่อไป
มันคือชุดเกราะที่ถูกนำขึ้นมาประมูล มันมีทั้งเกราะ, ชุด, หมวก, รองเท้า, โล่, ดาบและอื่น ๆ เป็นชุดครบทุกส่วน
ทุกคนต่างก็พากันแปลกใจ หากมองโดยผิวเผินแล้วก็ยังรู้สึกได้ถึงความโดดเด่นของมันได้
“ชุดทลาย เป็นชุดเกราะระดับ SS บอกได้ว่าเป็นชุดระดับสูง ชุดนี้แม้แต่สัตว์อสูรขั้นราชันย์ ก็ไม่อาจจะทำลายมันได้ ”
“แม้แต่การโจมตีจากสัตว์อสูรขั้นจักรพรรดิก็ยังต้องโจมตีอยู่หลายครั้ง ดังนั้นจึงบอกได้ว่ามันสามารถทนการโจมตีของสัตว์อสูรขั้นจักรพรรดิได้”
“มันคือชุดที่เหมาะกับนักรบที่สูงกว่าระดับ S ขึ้นไป”
“ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,000 ล้าน การเพิ่มแต่ละครั้งต้องไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน หากใครสนใจแนะนำว่าอย่าพลาด”
“เริ่มการประมูลได้ ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเหล่า ทุกคนก็พากันมองไปที่ชุดเกราะบนเวที แม้ว่าจะอยากได้แค่ไหนแต่พวกเขาก็คงทำได้แค่มอง
ยังไงซะราคาก็อยู่ที่ 1,000 ล้านแล้ว แค่ราคาเริ่มต้นก็ทำให้พวกเขาใจสั่น
ของแบบนี้มีแค่ชั้นสองและชั้นสามเท่านั้นที่จะแย่งมันมาได้
“1,100 ล้าน”
แน่นอนว่าไม่นานก็มีเสียงดังขึ้นมาจากชั้นสอง นี่คือสัญญาณเริ่มต้นการประมูลที่แท้จริง
“1,200 ล้าน”
“1,300 ล้าน”
“1,400 ล้าน”
“1,500 ล้าน”
…
การประมูลยังดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ด้วยราคาที่เพิ่มขึ้นมาทีละ 100 ล้าน ดูเหมือนว่าคนที่ชั้นสองนี้จะให้ความสำคัญกับชุดนี้จริง ๆ
แม้ว่าหวังเย่าจะอยากได้ชุดนี้มา แต่เขาก็คงไม่เสียเงินให้มันง่าย ๆ เขายังอยู่ในช่วงชั่งใจว่าเขาควรจะใช้เงินจำนวนมากไปกับมันรึไม่
ที่ชั้นสามนั้นแม้ว่าจะมีหลายคนมาที่นี่แต่จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่ได้เข้าร่วมการประมูล ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สนใจชุดระดับ SS นี่เลย
การที่ขึ้นไปชั้นสามได้นั้นแต่ละคนจะต้องมีความแข็งแกร่งระดับ SS ถึงจะมีสิทธิ์ถูกเชิญให้ขึ้นไปชั้น 3 ได้
พวกเขามีชุดของตัวเองอยู่แล้วหรืออาจจะมีชุดที่ดีกว่านี้ด้วยซ้ำ เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่ได้อยากได้ชุดที่ประมูลอยู่เพิ่ม
พวกเขานั่งอยู่ในห้องกันเงียบ ๆ เพื่อรอคอยของชิ้นสุดท้าย
ฟางฉิงหัวนั่งอยู่บนโซฟาคอยจิบชาโดยไม่ได้สนใจด้านล่างเลย ไม่รู้เลยว่าทำไมเขาถึงทิ้งงานมาที่นี่ได้
ฟางอี้ที่อยู่ข้างหน้าต่างก็ก้มหน้ามองออกไปด้านนอก แต่สายตาของเธอกลับจับจ้องไปที่ชั้นสองพร้อมกับปากที่ขยับไม่หยุด แต่คนอื่นไม่รู้เลยว่าเธอพูดอะไรอยู่
“2,300 ล้าน”
“2,400 ล้าน”
ที่ชั้นสองก็ยังทำการประมูลจนราคาตอนนี้ขึ้นไปสูงกว่า 2,000 ล้านเครดิต คนส่วนมากที่ชั้นสองเข้าร่วมการประมูลของชิ้นนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการมันจริง ๆ
สุดท้ายหวังเย่าก็ตัดสินใจจะไม่เข้าร่วม เหตุผลแรกก็เป็นเพราะมีคนแข่งมากเกินไป เหตุผลที่สองคือราคาที่สูงเกินไป ยิ่งกว่านั้นเขาก็มีชุดของตัวเองแล้ว ชุดนี้เหมาะกับเขา ก็ต่อเมื่อหลังจากที่เขายกระดับขึ้นไปได้ ถึงตอนนั้นหวังเย่าค่อยหาชุดใหม่ทีหลัง
อีกอย่างแล้วเขาไม่อาจจะเสียเงินไปเปล่า ๆ ได้ เขาต้องใช้มันกับของที่ควร
ยังไงซะตอนนี้เขาก็ไม่ได้ตัวคนเดียว เขายังมีบริษัทและกลุ่มทหารอยู่
เมื่อคิดได้แบบนั้นหวังเย่าก็นั่งอยู่ในห้องเงียบ ๆ และดูคนอื่น ๆ แข่งกันต่อ
“3,000 ล้าน ”
ราคาเพิ่มขึ้นไปถึง 3,000 ล้าน มันทำให้คนในชั้นสองที่ไม่มีเงินมากนัก เริ่มคิดจะถอนตัว
แม้ว่าจะไม่เต็มใจแต่เมื่อยักษ์ใหญ่ตัวจริงปรากฏตัวขึ้นมา งั้นพวกเขาก็ต้องถอนตัว
“3,100 ล้าน”
“3,120 ล้าน”
“3,130 ล้าน”
เริ่มมีคนแข่งน้อยลงเรื่อย ๆ ดังนั้นราคาจึงเพิ่มทีละ 10 ล้านแทน
“3,200 ล้าน ”
สุดท้ายหนึ่งในห้าตระกูลชั้นนำอย่างตระกูลหลี่ก็พูดขึ้นมาจนทำให้ชั้นสองนั้นเงียบไป
และตอนนั้นก็ยังไม่มีใครคิดที่จะประมูลต่อ
“3,200 ล้าน ครั้งที่ 1”
“3,200 ล้าน ครั้งที่ 2 ”
“3,200 ล้าน ครั้งที่ 3 ขาย ! ”
เฉินเหล่าประกาศออกมาพร้อมกับบอกว่าชุดนี้ตกเป็นของตระกูลหลี่