ตอนที่ 335 : สัตว์อสูรอันน่ากลัว
ในจอนั้นเห็นแค่ด้านหลังของเหล่าสัตว์อสูร แค่ภาพของสัตว์อสูรทั้งสามตัวก็ทำให้ทุกคนหยุดหายใจได้แล้ว หากเห็นใบหน้าที่แท้จริงของมัน พวกเขาคงต้องช็อกด้วยความกลัว
แม้แต่คนในชั้นสองและสามก็พากันมองไปยังสัตว์อสูรทั้งสามด้วยสายตาตกตะลึง
มันชัดแล้วว่าสัตว์อสูรทั้งสามนี้น่ากลัวแค่ไหน
เดาว่าระดับต่ำสุดของมันคงอยู่ขอบเขตศักดิ์สิทธิ์แต่จะอยู่ขั้นไหนนั้นไม่อาจจะรู้ได้
เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ บนชั้นสามเคยไปที่มิติลับมาแล้วมากมาย แต่สัตว์อสูรทั้งสามนี้กลับทำให้พวกเขาตะลึงได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เห็นตัวจริงของมัน แต่เดาได้ว่าสัตว์อสูรพวกนั้นจะต้องไม่ด้อยไปกว่าพวกเขาแน่ บางทีอาจจะแข็งแกร่งกว่าพวกเขาอย่างมาก…
ความเป็นไปได้ที่จะเป็นแบบนั้นสูงมาก มันทำให้พวกเขาแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมาแต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะตอนนี้พวกเขามองไปที่จอและอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ
สำหรับฟางฉิงหัวแล้ว สายตาของเขาสะท้อนความกลัวออกมา ในฐานะเจ้าเมืองแล้ว เป็นธรรมดาที่จะรอบรู้มากกว่าคนทั่วไป
“ทั้งสัตว์อสูรทั้งมิติที่ไม่รู้จัก ดูเหมือนว่าต้องหาเวลาพูดคุยกับหอสมบัติสวรรค์แล้ว”
“ฉันหวังว่ามันคงไม่อยู่ในมิติระดับสูง ….”
ในตอนที่ฟางฉิงหัวคิดแบบนั้น ฟางอี้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ถึงกับอ้าปากค้างและไม่อาจจะละสายตาจากจอภาพได้
ฉากต่อมาบนจอนั้นทำให้ทุกคนต้องตะลึงขึ้นไปอีก สัตว์อสูรทั้งสามเหมือนจะแกร่งพอ ๆ กับสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์
มันยังมีกองทัพสัตว์อสูรอยู่รอบ ๆ อีกด้วย
สัตว์อสูรเหล่านั้นราวกับรับใช้สัตว์อสูรระดับเทพ คลื่นพลังจากตัวสัตว์อสูรเหล่านี้ลอยออกมาให้ไข่ที่ดูธรรมดานี่ดูดซับไป
คลื่นพลังจากสัตว์อสูรสามตัวหน้าสุดนั้นแข็งแกร่งที่สุด
“นี่มันอะไรกัน ? ”
“คลื่นพลังพวกนี้เหมือนพลังชีวิต นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ? ”
“ถึงมันจะดูธรรมดาแต่ดูเหมือนว่ามันจะลึกลับเกินกว่าที่เราจะคาดเอาไว้”
ทุกคนต่างก็พากันเงียบไป
เมื่อเห็นว่าคลื่นพลังถูกไข่นั่นดูดซับเอาไว้ หลังจากที่ดูดซับคลื่นพลังเหล่านี้ไป ไข่ก็ได้ขยับเล็กน้อย ไข่นั้นค่อย ๆ ลอยขึ้น ที่เปลือกไข่ราวกับมีบางอย่างก่อตัวขึ้นมา
มิติด้านบนแท่นบิดเบี้ยวไปโดยไม่รู้ว่านี่คือความสามารถของแท่นรึไข่กันแน่ แต่มันชัดแล้วว่ามันคือสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง
มิติบนแท่นบิดเบี้ยวไปพร้อมกับเปลือกไข่ที่เกิดการเปลี่ยนแปลง มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
มันมีแค่เงาลาง ๆ ของไข่ นอกจากนั้นพวกเขาก็ไม่รู้อะไรเลย
ตอนที่ไข่ลอยขึ้นจากแท่น เหล่าสัตว์อสูรก็ก้มลงไปแนบพื้นกว่าเดิม
มันยากที่จะคิดได้ว่านี่คือสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง
สัตว์อสูรสามตัวนั้นแผ่คลื่นพลังออกมามากกว่าเดิม และตอนนั้นพวกมันดูอ่อนแอลงเรื่อย ๆ
ไม่นานหลังจากนั้นไข่นั่นก็ได้ตัดการเชื่อมต่อกับพลังของสัตว์อสูรโดยรอบ
มันตกลงมาที่แท่น เปลือกของมันกลับเป็นปกติดังเดิม มิติที่บิดเบี้ยวก็ฟื้นฟูตัวเองกลับมา
กองทัพสัตว์อสูรโดยรอบที่อ่อนแอกลับดูแข็งแกร่งขึ้นมา มันทำให้ฉากเมื่อสักครู่นี้ราวกับภาพลวงตา
ภาพต่อไปคือสัตว์อสูรโดยรอบต่างก็พากันถอยกลับไปจนเหลือสัตว์อสูรแค่ตัวเดียว
มันนอนอยู่ที่ด้านล่างลานราวกับว่ากำลังพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูพลังที่หายไป แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือมันคอยปกป้องไข่นี่อยู่
แม้ว่าเมื่ออยู่ในมิติของพวกมันจะไม่มีใครกล้าหาเรื่อง แต่พวกมันก็ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยอย่างมาก
พวกมันคือสัตว์อสูรที่น่ากลัวแต่กลับคอยปกป้องที่นี่ ราวกับว่าไม่อาจจะเสียไข่นี่ไปได้…
สุดท้ายทุกคนก็พากันมองไปที่ไข่บนเวทีด้วยสีหน้าตะลึง
เมื่อไข่นี่ถูกหอสมบัติสวรรค์นำมาได้ มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าหลังจากนี้คงเกิดการต่อสู้ขึ้น ไม่อย่างนั้นไข่นี่คงไม่ถูกนำมาที่นี่แน่
“เพื่อที่จะนำไข่นี่มา เราจึงได้แอบไปขโมยในตอนที่พวกมันพักผ่อนอยู่”
“แน่นอนนี่เป็นสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ตัวเดียว หากนับสองตัวที่กลับไปก่อนหน้านี้แล้วก็จะมีสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ถึง 3 ตัว ต้องบอกว่าหอสมบัติสวรรค์นี่ใจกล้าอย่างมาก”
“ยังไงซะหากไม่มีความแข็งแกร่ง งั้นจะขโมยมันต่อหน้าสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ได้ยังไง ? ”
ในตอนที่ผู้คนกำลังพูดชื่นชมอยู่นั้น เฉิยเหล่าก็ได้พูดขึ้นต่อ “โชคดีที่ก่อนหน้านี้มันได้ใช้พลังไปจำนวนมาก คนของเราจึงลอบเข้าไปขโมยไข่นี่มาได้ แต่ผลที่ตามมานั้นคือทำให้สัตว์อสูรทั้งสามโกรธ หากไม่ใช่เพราะเสียพลังงานไปจำนวนมากจนทำให้ความแข็งแกร่งของพวกมันลดลง ไม่งั้นแล้วคนของเราคงตายที่นั่นไปแล้ว”