ตอนที่ 356: ตัวตนอันน่ากลัว
“อย่าเพิ่งได้ใจไป ถึงข้าจะตายแต่ก็จะมีคนอื่นมาหยุดเจ้าอยู่ดี” เทพมังกรมองไปที่หนวดปีศาจแล้วพูดขึ้นมา
“งั้นหรือ ? ข้าล่ะคาดหวังจริง ๆ ข้าสงสัยว่าคนที่เจ้าพูดถึงจะมีความสามารถพอรึไม่” หนวดนั่นเหมือนไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเทพมังกรเลยแม้แต่น้อย
“เป้าหมายที่แท้จริงของเจ้าคืออะไรกันแน่” แม้ไม่คิดว่าจะได้คำตอบ แต่เทพมังกรก็ยังถามออกมา
“เป้าหมายงั้นหรือ” เสียงอันนุ่มนวลดังขึ้นมา “ เพื่อความเป็นนิรันดร์ ! ”
“เจ้าอยากกลืนกินทุกโลกเพื่อความเป็นนิรันดร์งั้นหรือ” เทพมังกรพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ
“มันผิดตรงไหนที่สิ่งมีชีวิตในทุกโลกจะเป็นพลังให้กับข้า ? ” หนวดปีศาจได้พูดขึ้นมา
“ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้าแล้ว แม้ว่าข้าต้องตาย แต่ข้าก็ไม่คิดให้เจ้ากลืนกินโลกนี้” เทพมังกรพูดขึ้นพร้อมกับสร้างพายุขึ้นมาพัดไอปีศาจให้หายไป
“โลกนี้เติบโตเต็มที่แล้ว มันถึงเวลาแล้ว หากเจ้าคิดจะขวางทาง งั้นข้าก็ไม่รังเกียจที่จะกำจัดเจ้า” หนวดปีศาจพูดขึ้น
ไอปีศาจแผ่ออกมาจากตัวมัน แม้ว่าครั้งนี้เทพมังกรจะต้านทานแต่มันก็ไม่สนใจ
โลกเหมือนจะรับรู้ได้ถึงอันตรายเมื่อเผชิญหน้ากับหมอกดำนั้น พลังของโลกเหมือนจะอ่อนแอลงจนไม่อาจจะต้านทานได้ โลกได้แต่หวังพึ่งเทพมังกรเพื่อปกป้องมัน
“ดูสิ นี่แหละคือความกลัว โลกถึงกับต้องหวังพึ่งเจ้า”
“ถ้าเจ้าตายไป งั้นโลกนี้คงสิ้นหวังเป็นแน่” หนวดปีศาจรู้สึกได้ถึงความหมดหนทางของโลก
“ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อขวางทางเจ้า” เทพมังกรพูดขึ้นพร้อมไฟที่ปะทุออกมาจากตัว
มิติรอบข้างบิดเบี้ยวไป หนวดปีศาจเองก็โดนไฟเผาไปด้วย
ท้องฟ้าได้กลายเป็นทะเลไฟจนหวังเย่าไม่อาจจะมองสถานการณ์ได้ออกและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
หลังจากทั้งสองพูดคุยกัน หวังเย่าก็พอเดาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโลกนี้ได้
และสิ่งที่เขารู้มานี้มันทำให้เขาหนักใจอย่างมาก
ตูม !
ระเบิดก่อตัวขึ้นจากทะเลไฟพร้อมเสียงที่ดังก้องไปทั่วทั้งโลกราวกับว่าท้องฟ้าจะพังลง
หลังจากเสียงระเบิดสิ้นสุดลง โลกก็เหมือนกับเข้าสู่ความเงียบสงัด มีแค่เสียงเปลวไฟที่ลุกไหม้อยู่บนท้องฟ้าเท่านั้น
แต่ต่อมาตรงหน้าหวังเย่านั้นทะเลไฟก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกดำก่อนที่สุดท้ายไฟจะหายไปอย่างสมบูรณ์
เมื่อมองไปที่ใจกลางท้องฟ้าก็พบว่าร่างของเทพมังกรได้หายไปแล้ว
ในโลกนี้มีแค่หนวดปีศาจเท่านั้นที่เหลืออยู่
แต่ถึงอย่างนั้นใจกลางท้องฟ้ากลับมีร่างสองร่างปรากฏขึ้นมาข้าง ๆ หนวดปีศาจ
ร่างหนึ่งดูพร่ามัวไม่อาจจะเห็นใบหน้าที่แท้จริงได้ มีแค่ดวงตาสีดำซึ่งราวกับหลุมดำที่ทำให้ผู้คนขนลุกไปตาม
นี่คือสายตาที่ชั่วร้ายที่สุด
อีกร่างคือชายผมแดงพร้อมกับร่างที่เปลือยอก
ตอนนั้นชายผมแดงตัวโชกเลือด คอของเขาถูกอีกฝ่ายกำเอาไว้ไม่อาจจะขยับได้
เมื่อเห็นแบบนั้นถึงยากจะรับได้ แต่หวังเย่าก็พอเดาออกว่าผลลัพธ์เป็นยังไง
ชายตาดำคือหนวดปีศาจ ส่วนชายผมแดงนั้นคือเทพมังกร
เขาโดนอัดจนสุดท้ายต้องกลายร่างเป็นมนุษย์
เทพมังกรที่น่ากลัวซึ่งเป็นตัวตนที่เหนือกว่าระดับศักดิ์สิทธิ์กลับพ่ายแพ้ในเวลาอันสั้นเช่นนี้ได้
มันยากจะคิดได้ว่าปีศาจตัวนี้น่ากลัวแค่ไหน
ระดับของมันเกินกว่าจะคาดถึง บางทีอาจจะเหนือกว่าสุดยอดเทพไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนั้น หวังเย่าก็ได้แต่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
แม้ว่าเขาจะมีระบบอยู่ด้วย แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจว่าจะจบลงในสภาพแบบไหน
หากปีศาจนี่ปรากฏตัวที่โลกเขา งั้นด้วยความแข็งแกร่งของมนุษย์ในตอนนี้แล้วคงยากที่จะต้านทานได้
เมื่อถึงจุดนี้หวังเย่าก็หนักใจขึ้นมา
ตอนนั้นเองบนท้องฟ้าก็เกิดการเคลื่อนไหว
“ดูเอาเถอะ จิตโลก สิ่งที่เจ้าเรียกว่าความหวังกลับอ่อนแอถึงขนาดนี้” เสียงอันนุ่มนวลดังขึ้นอีกครั้ง
ชายผมแดงพยายามยื่นมือออกไปเพื่อจับอีกฝ่ายแต่สุดท้ายก็ไม่อาจจะทำได้
มือของเขาเหมือนจะหมดแรงและร่วงลงไป ร่างกายของเขาเองก็เหมือนกับหมดพลังลงไปด้วย
“อ่อนแอจริง ๆ แค่แตะนิดหน่อยก็ตายแล้ว” ชายตาดำมองไปที่เทพมังกรแล้วค่อย ๆ ปล่อยมือออก
ร่างของเทพมังกรร่วงลงไปในหมอกดำก่อนที่สุดท้ายจะโดนกลืนกินไป
“ต่อไปคงได้เวลาจัดการกับโลกนี้แล้ว มีหนูอยู่ที่นี่ด้วย ข้าจับตาดูเจ้ามานานแล้ว ไอ้หนู” ชายตาดำละสายตากลับมาพร้อมกับมองมาทางที่ที่หวังเย่าอยู่
เมื่อได้ยินแบบนั้น หวังเย่าก็แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเขาที่ไม่มีร่างกายและมีแค่จิตนั้น แต่อีกฝ่ายกลับรับรู้ถึงการมีอยู่ของเขาได้
ที่สำคัญที่สุดคือนี่ไม่ใช่ความทรงจำในอดีตรึไง ?
สิ่งที่เกิดขึ้นตะกี้ควรจะเกิดขึ้นในอดีตจนทำให้เขาเข้ามาที่นี่ไม่ใช่รึไง ?
แต่สถานการณ์ตอนนี้มันอะไรกัน ?
ทำไมอีกฝ่ายถึงรู้ว่าเขามีตัวตนอยู่ ?
นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ! ?