กิลด์ซินเนสทีเซีย – ตอนที่ 10 จดหมายจากเมืองหลวง

กิลด์ซินเนสทีเซีย

 

“นี่! แล้วตอนไหนข้าจะได้เจอกับท่านสการ์กัน”

“เดี๋ยวก็ถึงแล้วล่ะ ผ่านหมู่บ้านนี้ไป ก็เข้าเขตเมืองแล้ว”

ถ้าให้ข้าแปลงร่างแล้ววิ่งไปจะไม่เร็วกว่าเหรอ”

“ถ้าเกิดทำอย่างนั้น เราจะไม่ได้เจอท่านสการ์อีกเลยล่ะ”

ถ้าเกิดมี หมาป่าเงามังกร ภัยภิบัติระดับ SS มาวิ่งเล่นแถวบ้านนอกแบบนี้ คงกลายเป็นเรื่องที่ทั้งประเทศต้องถึงกับเรียกรวมพลนักผจญภัยทั้งหมดมารวมตัวกันเลยล่ะ

“ทนอีกหน่อยนะ เดียวพอถึงที่นั่นแล้วเราจะพาไปกินของอร่อย ๆ ด้วยนะ”

“หึ คิดว่าจะใช้ของกินล่อข้าได้เหรอ”

.

.

.

.

“น….นี่มัน. อะไรกันเนี่ย!!!!!! อาร่อยยยย!!”

“ใครมันพูดว่าของกินล่อไม่ได้เมื่อกี้กัน”

ภาพของสาวน้อย วัย 15 (150) กำลังคว้าก้อนเค้กอย่างมูมมามเต็มปาก โดยไม่สนผู้คนรอบข้างที่จ้องมองเธอเลยสักนิด

“อื๊มมมมม!!!”

“บิลล่า เลอะหมดแล้ว”

ซีฟาน เช็ดปากของบิวล่า ที่เลอะไปด้วยครีม ภาพนั้นเหมือนพี่สาวที่กำลังดูแลน้องสาวตัวน้อยอยู่เลย

“แล้ว? สรุปยัยนี่คือ”

โซ เดินมาพร้อมอุ้มเด็กตัวน้อยอยู่ในอ้อมกอด

“เราก็อยากถามเหมือนที่คนถามเหมือนกันนั่นแหละค่ะ/ครับ” ทั้งสี่พูดพร้อมกัน

พวกของซีฟานได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ โซฟัง หลังจากเข้าเมือง แอสเทอรี่ ขอแยกตัวไปและให้พวกเธอพาบิวล่ามาหาโซ

“สรุปคือ ยัยนี่เป็นหนึ่งในเผ่าหมาป่าเงามังกรนั่นสินะ แล้วช่วยบอกเหตุผลที่พวกเธอมาอยู่ในดันเจี้ยนหน่อยได้มั้ย ถ้าเธอบอกข้อมูลหมดแล้วเราจะไปหาสการ์กัน”

“ย่อมได้!”

หมาป่าเงามังกรทั้งหมดถูกส่งไปในดันเจี้ยนแต่ละที่ ทั่วทุกมุมโลกเพื่อป้องกันคอร์ของดันเจี้ยนที่ใช้รวบรวมพลังงาน เนื่องจากเผ่าหมาป่าเงามังกรเป็นเผ่าที่แข็งแกร่งเกือบเทียบเท่าราชาปีศาจ นั่นจึงการันตีได้ว่าจะไม่มีใครสามารถผ่านการป้องกันของพวกเราไปได้ ส่วนสาเหตุที่ต้องปกป้องสิ่งนั้นยังไม่แน่ชัด พวกหมาป่าทั้งหมดเพียงทำตามคำสั่งของหัวหน้าเผ่าเพียงเท่านั้น ซึ่งยิ่งแรงค์ของดันเจี้ยนสูงเท่าไหร่ ผู้เฝ้าประตูก็ถูกเรียงลำดับตามพลังความแข็งแกร่งนั้นเหมือนกัน

“ซึ่งข้าเป็นตัวที่ถูกจัดลำดับให้อยู่ในแรงค์ต่ำสุด ในหมาป่าทั้งหมด 125 ตัว จริง ๆ แล้วพวกมันจะบังคับให้พวกลูกหมาป่าเข้าสู่ดันเจี้ยนด้วย แต่คนทั้งเผ่าคัดค้าน และหากทำอย่างนั้นพวกเขาขอสู้กับหัวหน้าเผ่ายังดีเสียกว่าให้ลูกของพวกเขาต้องไปถูกขังในดันเจี้ยนแบบนี้”

“อืมสรุปคือ หมาป่าเงามังกรทั้งหมด 168 ตัว อยู่ในดันเจี้ยน 125 ตัว และถ้าวัดจากความยากของดันเจี้ยน คือแรงค์ C ขึ้นไปมีโอกาศที่พวกเขาจะอยู่ในนั้นสินะ”

“ใช่ พวกเราไม่ต้องการจะต่อสู้หรอก แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้หากพวกเจ้าเข้าโจมตี พวกเรา”

“เข้าใจแล้ว ขอบคุณมาก เอาล่ะถึงเวลาทำตามสัญญา เราไปหาหมอนั่นกันเถอะ”

“อื้ม!”

บิลล่า กระโจนออกจากเก้าอี้วิ่ง ตามหลัง โซ ไปโดยเร็ว

ตามทางที่เธอเดินตามโซไป มันเป็นภาพที่แปลกตาสุดแสนจะบรรยาย ทั้งชีวิตที่เธออาศัยอยู่ในป่า คงไม่อาจได้เจอภาพแบบนี้แน่ ๆ ทั้งผู้คนที่ตะโกนโหวกเหวก ทั้งเด็กเล็ก เด็กน้อยวิ่งเล่นกันผ่านไปมา ทั้งกลิ่นของอาหารที่อบอวลจนทำน้ำลายสอ ในใจเธอรู้สึกตื่นตาไม่ต่างจากเด็กน้อยที่พ่อแม่พึ่งเคยพาออกมานอกบ้านครั้งแรก

“นั่นอะไรน่ะ” 

“นั่นอะไรน่ะ”

“แล้วนั่นล่ะ นั่น ๆ ”

“ว้าาาวาา!!!”

“อย่าวิ่งไปไกลนักล่ะ บิลล่า!”

เธอวิ่งพล่านไปทั่ว ตื่นตาไปเสียหมดทุกอย่าง ซึ่ง ซีฟานที่คอยอธิบายให้เธอฟังก็ไม่รู้สึกลำคาญเลยแม้แต่น้อย เธอกลับรู้สึกเหมือนว่าได้มีน้องสาวตัวน้อยขี้สงสัยเพิ่มมาคนนึงด้วยซ้ำ หากไม่นับรวมเผ่าพันธุ์หรืออายุไข หากมองเพียงภาพตรงหน้านั้น ไม่ต่างจากคุณพ่อที่พาลูกสาวสองคนออกมาเที่ยวข้างนอกหลังจากที่ไม่ได้ออกมาเสียนาน เป็นภาพที่แม้ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมายังต้องยิ้มตาม

ส่วน โซ ก็คิดในใจว่า ได้ยัยจอมแก่นมาเพิ่มอีกหนึ่งคนเสียแล้ว

หากมองในมุมมนุษย์นั้น อายุ 150 ของหมาป่าเงามังกรดูเหมือนจะเยอะ แต่หากมองในมุมมองของพวกเขาเอง เป็นช่วงอายุของเด็กน้อยวัยที่กำลังซุกซนเพียงเท่านั้น

.

.

.

.

.

.

ถัดออกมาจากตัวเมืองไม่ไกลพวกเขาก็ได้มาถึงทางเข้าชายป่า

“ว้าวผู้คนที่นี้ช่างใจดีเหลือเกิน เจ้าดูนี่สิ พวกเขาให้ของกินข้าเยอะเลยล่ะ”

บิลล่าที่หอบข้าวของที่ได้รับมาจากความน่าเอ็นดูของเธอมาเต็มอ้อมแขน 

“ข้าว่าข้าคงกลายเป็นเทพของพวกเขาแล้วล่ะ……..”

ตุบ!! เธอปล่อยของทั้งหมดลงพื้นอย่างไว

“บิลล่า เป็นอะไรน่ะ”

“กลิ่นนี้มัน” เธอชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะเริ่มวิ่ง

“เบลล่า!!”

“ไม่เป็นไร” โซกางแขนออกเล็กน้อยห้ามซีฟาน

“ข้าจำได้ดี กลิ่นนี้ กลิ่นที่ข้าคุ้นเคย”

เธอวิ่งเร็วขึ้น เร็วขึ้นอีก แม้จะสะดุดล้มเธอก็ลุกขึ้นและวิ่งต่อไป

“ข้าไม่มีวัน ที่จะลืมมันได้ ”

ในตอนที่วิ่ง ภาพต่าง ๆ ก็ผุดขึ้นมาในหัวเรื่อย ๆ 

[นี่ ๆ ถ้าหากข้าโตขึ้น ข้าจะเป็นหัวหน้าเผ่าแบบท่านได้มั้ย!?]

[ฮ่า! ๆ ถ้าแบบนั้นเจ้าก็ต้องเอาชนะข้าให้ได้ก่อนเสียแล้ว]

[หื้ม! ไม่เอาหรอกถ้าต้องเอาชนะท่านงั้นข้าจะอยู่กับท่านแทนแล้วกัน]

[นี่ถ้าข้าโตขึ้นแล้วข้าไม่เหมือนพวกท่านล่ะ ท่านจะยังอยู่กับข้ามั้ย]

[หืม? ทำไมล่ะเจ้าไม่อยากอยู่กับข้าแล้วงั้นรึ]

[เปล่า ข้าน่ะชอบอยู่กับท่านที่สุดเลย]

[ฮ่า ๆ ข้าดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น]

“อา~~ความทรงจำเหล่านี้มันเริ่มผุดขึ้นมาอีกแล้ว”

[ตอนนี้ข้าโตแล้ว! ดูข้าสิ! ดูข้าสิ!]

[เด็กน้อย เจ้าโตขึ้นงั้นเหรอยังไม่ได้ครึ่งนึงของข้าเลย]

[ต…แต่ว่าดูขนข้าสิ สีเป็นเหมือนท่านแล้วนะ!]

[ฮ่า ๆ งั้นรึ แล้วเจ้าทำแบบนี้ได้รึยังล่ะ] ตู้ม!!!

[ค…ใครเขาจะไปทำแบบนั้นได้กันเล่า!!! ไอ้การระเบิดภูเขาทั้งลูกเนี่ย!~]

[งั้นเจ้าก็ยังไม่โตเท่าข้านะสิ ฮ่า! ๆ]

“แม้แต่ตอนนี้ข้าก็อาจจะยังไม่โตขึ้นอีก”

[ไม่ได้นะ! ท่านจะทิ้งข้าไว้ไม่ได้นะ! ข้าจะไปกับท่าน]

[หยุดดื้อได้แล้วเด็กน้อย กลับไปอยู่กับพวกเขาซะ]

[ไม่! ข้าจะไปกับท่าน ในเมื่อท่านไม่อยู่ที่นี่มันจะไปมีความหมายอะไร!]

[ข้าทำแบบนั้นไม่ได้ จงกลับไปเสีย]

[ไหนท่านสัญญากับข้าแล้วไง ไหนท่านบอกว่าจะอยู่กับข้าแล้วทำไม ทำไมท่านไม่ยอมพาข้าไปด้วย ถ้าสาเหตุมาจากปีกนี่ล่ะก็ งั้นข้าก็จะตัดมันเหมือนกัน!!!]

[หยุดนะ!! นี่มันไม่ใช่เรื่องแค่ตัดปีกแล้วจะจบ กลับไปซะ บิวล่า ข้าขอโทษ เพราะข้ามันอ่อนแอ เลยไม่สามารถปกป้องพวกเจ้าได้]

[ไม่ใช่ ไม่ใช่เพราะท่านเพราะพวกเราต่างหาก พวกเรามันเป็นตัวถ่วงของท่านถ้าหากไม่มีพวกเราละก็]

[อย่าพูดแบบนั้นสิ ข้าดีใจนะที่มีพวกเจ้า พวกเจ้าคือครอบครัว คือเพื่อน คือทุกอย่างสำหรับข้า เพราะแบบนั้นไม่ใช่ความผิดของพวกเจ้าเลย ขอให้พวกเจ้ารักษาตัวด้วย ข้าฝากนางด้วย ดูแลตัวเองด้วย บิลล่า เด็กน้อยของข้า]

[ไม่ปล่อยข้า ท่านต้องพาข้าไปด้วยท่าน…สการ์!!]

“ในที่สุด ในที่สุดข้าก็ได้พบท่าน”

หมาป่าสีเทาตัวน้อยกระโจนออกมาจากพุ่มไม้ ตรงหน้าเธอคือ หมาป่าตัวใหญ่ที่นั่งอยู่โขดหินข้างลำธาร ขนที่แสงอาทิตสะท้อนผิวน้ำมากระทบทำให้เกิดความมันวาว พร้อมลมโชยที่พัดกระทบขนอย่างบางเบา ดั่งราชสีผู้ครองป่า ดั่งราชาเหนือราชา

เสียงที่นุ่มลึกถูกส่งมากระทบหูทั้งสองของบิวล่า แม้อยากจะกลั้นมันไว้แค่ไหนแต่บัดนี้เธอไม่สามารถกลั้นมันเอาไว้ได้อีกต่อไป

“ไม่พบกันนาน เจ้าโตขึ้นมากเลยนะเด็กน้อย”

น้ำตาที่ไหลพรากราวกับน้ำตก พร้อมกระโจนเข้าหาผู้เป็นที่รักอย่างไม่รีรอ

ดั่งนกน้อยโผกลับรัง

ดั่งลูกวัวกระโจนเข้าหาแม่

ดั่งบุตรสาวที่รอวันบิดากลับจากสนามรบ

ภาพของสองหมาป่าเงามังกรใช้จมูกถูไถลำตัวซึ่งกันและกันโดยมีซีฟาน และ โซ ยืนมองอยู่ห่างออกไปนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัด

.

.

.

.

.

โซ และ ซีฟาน ได้ปล่อยให้ทั้งสองอยู่ด้วยกัน พวกเขาจึงกลับเข้ามาในเมือง

“ฉันก็ยังสงสัยว่าทำไมเธอถึงทำให้ เผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งขนาดนั้นเชื่องได้”

“ต้องขอบคุณ กลิ่นของคุณสการ์ที่ยังติดตัวชั้นอยู่ ไม่อย่างนั้นพวกเราคงไม่รอดแน่ค่ะ”

“เก่งขนาดแอสเทอรี่ ก็ รับมือไม่ไหวเลยเหรอ”

“ค่ะ เพียงแค่การตะปบครั้งเดียวทำเอาเธอกระเด็นติดกำแพงเลยค่ะ”

“นี่ขนาดตัวที่อ่อนแอที่สุดนะ ไม่อยากคิดตัวที่อยู่จุดบนสุดเลยว่าจะขนาดไหน”

“นั่นสิคะ”

ซีฟานทำหน้ากลุ้มใจ เอามาก

โซ ยื่นมือวางบนหัวเธอพร้อมลูบเบา ๆ

“มันไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องกังวล เป็นหน้าที่ของเหล่ากิลด์มาสเตอร์ต้องหาทางรับมือ เอาล่ะเธอกลับไปพักได้แล้ว”

“ค่ะ ฝากทักทายคุณมิยะด้วยนะคะ”

“อา”

ทั้งสองเดินแยกจากกันไปคนละทาง โดยที่ โซ เดินตรงกลับมายังทางกิลด์

“แล้ว เธอคิดว่าไงล่ะ”

ตรงข้างทางห่างจากิลด์ไม่ไกลมาก แอสเทอรี่ ได้ยืนกอดอกรอเขาอยู่ 

“ก็เล่นเอาตึงมือเหมือนกันแหละ ทีแรกที่นายบอกให้ไปตรวจสอบที่นั่น ก็นึกแค่ว่ากลัวมือใหม่ทำพลาด แต่ไม่คิดว่าจะมีเจ้าตัวแบบนั่นอยู่”

เธอเดินคู่ไปพร้อมกับโซ มือสองข้างพาดที่ลำคอ

“แล้ว ไอ้ที่ว่าสะบักสะบอมมานั่นหมายความว่ายังไง?”

“ก็ที่แรกก็กะว่า จะแกล้งแพ้ให้ลูกน้องบอสแล้วดูพวกเด็กใหม่จัดการ แต่ไม่นึกว่าจะสามารถทำให้สัตว์ประหลาดแบบนั้นเชื่องได้ ยัยหนูนี่เจ๋งไปเลยนี่!”

“เปล่าเลย ถ้าเกิดไม่ได้สการ์เตือนในตอนที่ไปสำรวจ คิดว่าพวกเราคงจะเสียนักผจญภัยไปเยอะเลยล่ะ แล้วถ้าให้สู้กับพวกแบบนี้จะพอรับมือได้มั้ย”

“ถ้าครั้งละ 2-3 ตัวก็พอได้ แต่ถ้าระดับคุณหัวหน้าเผ่า แค่ตัวเดียวก็หืดขึ้นคอแล้ว”

“เหรอ งั้นคงต้องเรียกรวมตัว พวกบ้านั้นกลับมาแล้วสิ”

“คงต้องอย่างนั้น”

แอ๊ดดด!!~~

ทั้งสองเปิดประตูกิลด์เข้ามาพร้อมกัน

ตรงหน้าของพวกเขามีนายทหารสวมชุดเต็มยศพร้อมจดหมายในมือ

“ยินดีที่ได้พบครับ กระผมนำจดหมายจากเมืองหลวงมาส่งให้ท่านครับ”

ทุกคนที่อยู่ในกิลด์เงียบกริบ รอฟังข้อความข้างใน

พลทหารเปิดจดหมายออกพร้อมประกาศดังลั่น

“เนื่องจากเกิดเหตุการ์ณที่มีดันเจี้ยนเกิดใหม่โดยยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด จึงขอจัดให้เป็นสถานการ์ณฉุกเฉิน ในนามของเรา โอไลออน ดิ โซโลนฟรานเซต ขอออกคำสั่งเรียกประชุมพิเศษ ขอให้หัวหน้ากิลด์ซินเนสทีเซียเข้าเมืองหลวงภายในวันที่ ××× เป็นการด่วน”

“ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องเล็กจริง ๆ สินะ”

“ครับ จากรายงาน แต่ละภูมิภาค มีดันเจี้ยนเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ทางกิลด์อื่นได้ทำการตรวจสอบอยู่แต่ยังไม่คืบหน้าเท่าไหร่ ทางราชวังจึงเรียกรวมตัวประชุมครับ”

“ขอบคุณมาก นายคงเดินทางมาเหนื่อยพักสักวันค่อยกลับก็แล้วกัน เหนื่อยหน่อยนะ”

โซเดินไปจับไหล่พลทหารก่อนจะเดินผ่านไป

“เห้ย!ไม่เจอกันนานเลยมาดื่มกันหน่อยมั้ย”

แอสเทอรี่ โผลเข้ากอดคอนายทหาร

“ท..ท่านแอสเทอรี่ข้าว่า”

เขาทำหน้าแหย ๆ

“พวกเจ้าวันนี้ข้าเลี้ยงเอง ไม่เมาไม่เลิก!!”

“โอ้วววว!!”

.

.

.

.

.

ณ ห้องทำงานกิลด์มาสเตอร์

“แล้วจะเดินทางวันไหนล่ะ”

“น่าจะอีกสักวันสองวัน ชั้นจะพาเด็กใหม่ไปเปิดหูเปิดตาสักหน่อย ฝากกิลด์สักพักล่ะ”

“เห้อ!~~ ลาออกดีมั้ยเนี่ย ทีแรกก็สมัครเป็นแค่พนักงานสาวธรรมดา ไหงได้รับบทเป็นกิลด์มาสเตอร์ล่ะเนี่ย~”

มิยะทิ้งตัวลงนอนที่โซฟา

“ดูเหมือนคราวนี้เรื่องจะใหญ่พอตัวเลยนะ”

“อืม ถึงกับเรียกกิลด์มาสเตอร์ทั้งหมดเข้าประชุมเลยล่ะ ระหว่างที่ฉันไม่อยู่ฝากเรียกตัวพวกบ้านั่นกลับมาทีนะ”

“อืม”

.

.

.

.

.

วันเดินทาง

“ทุกคนพร้อมแล้วใช่มั้ย”

“พร้อมค่ะ/ครับ”

“เราก็พร้อม!!!”

“ไหงคุณบิวล่าถึงมาด้วยล่ะคะ”

“ข้าไม่ยอมพลาดของอร่อย ๆ ของพวกเจ้าหรอก”

“นี่กะจะไปกินให้ทั่วเมืองหลวงเลยเหรอคะเนี่ย”

“แต่ก็ดีเหมือนกันนะคะ เหมือนมีใบรับประกันความปลอดภัยขั้นสูงสุด”

“นั่นสิน้า!” ทั้งหมดทำหน้าแหย ๆ มองไปทางบิวล่าที่กำลังกระดี๊กระด๊าอย่างสนุกสนาน

“เอาล่ะออกเดินทางได้!”

สมาชิกเดินทางไปเมืองหลวง

– กิลด์มาสเตอร์ของซินเนสทีเซีย โซแอด เดียออส

– นักดาบ เลโอ , ซีฟาน

– นักเวท ฟีโอร่า , เรน่า

– ผู้พิทักขบวนของแถม(มาเพื่อกิน) หมาป่าเงามังกร บิลล่า

กิลด์ซินเนสทีเซีย

กิลด์ซินเนสทีเซีย

Status: Ongoing
“โซดิแอ็ด” ได้ก่อตั้งกิลด์ ซินเนสทีเซียขึ้นมา พร้อมกับผู้ติดตามของเขาอีก 3 คน หลังจากที่มีผู้คนในกิลด์เยอะขึ้น ทั้งสามคนก็สาธยายความโหดความเก่งของหัวหน้ากิลด์ให้แก่เหล่าลูกกิลด์ได้ฟัง แต่จนเวลาผ่านไป 5 ปี เหล่าลูกกิลด์ก็ยังไม่เคยเห็นความโหดของกิลด์มาสเตอร์เลยสักครั้ง นั่นจึงทำให้ผู้คนในกิลด์เรียกเขาว่า “fakemaster”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท