เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 1065 ไม่ต้องห่วง

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 1065 ไม่ต้องห่วง

บทที่ 1065 ไม่ต้องห่วง

เนื้อหาในจดหมายสั้นมาก ไม่แม้แต่มีคำทักทายถามไถ่เลย

หรือคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ของเธอคือการหาเงินให้พี่บ้านเพื่อเอามาเลี้ยงดูพี่ชายน้องชาย?

ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจ

ราวกับชีวิตตัวเองเป็นเรื่องตลก

“ขอโทษนะ ฉันไม่อยากทำลายอารมณ์พวกเธอเลย แต่ว่า…”

เธอเสียใจจนควบคุมตัวเองไม่ได้

ตนกับเจี้ยนหงมาจากตะวันตกเฉียงเหนือทั้งคู่

ฐานะบ้านไม่ดี แต่ครอบครัวเพื่อนไม่เป็นแบบเราสักนิด

ฉู่เยว่หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้เพื่อน

ในฐานะที่โตมากับความรัก เธอไม่เคยรู้เลยว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่จะลำเอียงได้ถึงขนาดนี้

ถึงเขาจะพูดกันว่าคนมักรักลูกชายมากกว่าลูกสาว แต่ไม่เคยเห็นบ้านไหนที่เป็นได้ถึงขนาดนี้เลย

“ไม่เป็นไรนะ ๆ งั้นก็ไม่ต้องกลับ!” จ้าวหงเหมยไม่รู้จะปลอบยังไง

เพราะรู้ว่าพูดอะไรไปก็คงไม่ช่วยเท่าไร

เฉียนเสี่ยวเป่ยเป็นผู้หญิงที่ดีมากจริง ๆ นะ ตั้งแต่คบกันมา พวกเราชอบเธอมาก แม้จะเป็นคนเงียบ ๆ แต่ใส่ใจเพื่อนมาตลอด

แต่ตระกูลเฉียนก็เหลือทนจริง ๆ ทำแบบนี้กับลูกได้ยังไง?

ถึงจะเป็นลูกสาวแต่ก็เป็นลูกในไส้นี่?

เสี่ยวเถียนทอดถอนใจ

อิทธิพลของครอบครัวเป็นอะไรที่กำจัดยากมาก

แต่เดี๋ยวนี้เพื่อนดีขึ้นเยอะแล้วนะ ไม่ได้ส่งเงินกลับไปให้ที่บ้านจนหมดเลยด้วย

ไม่คาดหวังเท่ากับไม่ผิดหวังจริง ๆ

ด้วยความกลัวว่าจะทำเพื่อนลำบาก เสี่ยวเป่ยจึงรีบหยุดร้องไห้

“เสี่ยวเป่ย เธอจะขายของไหมหรือว่ามาอยู่บ้านฉันล่ะ?” เสี่ยวเถียนถาม

ธุรกิจช่วงวันหยุดไม่ค่อยรุ่ง ยิ่งเป็นหยุดฤดูหนาวด้วยอีก

ช่วงปีใหม่ร้านค้าจะหยุดยาวกันหมดและกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง

หออีหมิงก็เช่นกัน พวกเธอตั้งใจว่าจะหยุดครึ่งเดือนเลย

เราเลยไม่มีแผนรับคนช่วยงาน

แต่ถ้าเพื่อนยินดีไป เสี่ยวเถียนก็ช่วยเหลือได้นะ

ทว่าอีกฝ่ายกลับส่ายหัว

“เสี่ยวเถียน ฉันไปฟาร์มเพาะพันธุ์ได้หรือเปล่า?”

เพราะได้ยินจากเพื่อนว่าที่ร้านจะปิดครึ่งเดือนน่ะ

วันหยุดฤดูหนาวมีระยะเวลาสี่สิบวัน ถ้าตนพักครึ่งเดือนจะเหลือเวลาทำงานสักเท่าไรกันเชียว

เฉียนเสี่ยวเป่ยอยู่กินบ้านเขาเฉย ๆ ไม่ได้

“ฟาร์มเพาะพันธุ์หรือ?” เด็กสาวตกใจ

เพราะเทียบกันแล้วไปทำที่โรงงานอาหารดีกว่าเยอะ

อีกทั้งที่นั่นยังสะอาดด้วย

นักศึกษายุคนี้ไม่ได้มีการฝึกให้ทำงานในฟาร์มแล้ว

“งั้นไปฉลองปีใหม่ที่บ้านฉันไหม? ตอนนี้เธอไม่มีเงินไม่ใช่หรือ อยากหาเงินอยู่นี่?”

“พี่สามของเธอจะแต่งงานไม่ใช่หรือ แล้วครอบครัวก็ต้องเดินทางกลับบ้านเกิดใช่ไหม แล้วเธอก็เป็นห่วงเรื่องฟาร์มอยู่ด้วย เดี๋ยวฉันไปช่วยทำงานเอง”

เฉียนเสี่ยวเป่ยตัดสินใจแล้ว

เธอไม่เก่งเท่าคนอื่น หาเงินไม่ได้เยอะอย่างเขาด้วย

แต่ตนมีความภาคภูมิใจในตัวเอง และไม่ยินดีจะใช้เงินบ้านอื่นไปโดยเปล่าประโยชน์

ตอนเด็ก ๆ เคยเลี้ยงหมูเลี้ยงไก่อยู่ทุกวัน

เสี่ยวเถียนเงียบลง ก็จริงอย่างที่อีกฝ่ายบอก

เรากำลังคุยอยู่ว่าจะหาใครมาดูแลฟาร์มดี

“คุณลุงคุณป้าไม่อยู่ เดี๋ยวฉันมาช่วยดูแลให้เอง อุ่นใจกว่าอยู่กับคนอื่น ๆ แน่นอน”

เป็นข้อเสนอที่ดี

ด้วยนิสัยที่น่าเชื่อถือ เสี่ยวเถียนจึงวางใจที่จะส่งมอบหน้าที่นี้ให้เพื่อนคนนี้อย่างยิ่ง

แต่ที่ไม่สบายใจเพราะเฉี่ยนเสี่ยวเป่ยเป็นผู้หญิง

คนงานในฟาร์มเป็นคนที่จ้างมาชั่วคราวก็เลือกมาจากพื้นที่โดยรอบนี่ละ ถึงจะดูซื่อสัตย์ แต่ถ้ามีความคิดมุ่งร้ายล่ะ…

เธอไม่กล้าคิดต่อเลย

“ลองคิดดูอีกทีดีกว่านะ ไปที่อื่นน่าจะเหมาะกว่าไหม”

คนอื่น ๆ คิดเหมือนเสี่ยวเถียนเช่นกัน

ถึงคนงานจะไม่ได้สร้างปัญหาอะไร แต่เพราะไม่มีคนเฝ้าเนี่ยสิ เกิดคิดไม่ดีขึ้นมาจะทำยังไง?

เสี่ยวเป่ยได้กลายเป็นคนตกระกำลำบากแน่ ๆ!

“หรือฉันจะไม่กลับบ้านดีล่ะ ทำงานที่โรงงานอยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวเป่ย?” จ้าวหงเหมยถาม

เสี่ยวเถียนมอง นี่เธอคิดจะทำให้มันยุ่งยากหรือเปล่าเนี่ย?

“เธอกลับบ้านไปฉลองปีใหม่ให้สบายใจเถอะ ถ้าไม่มีหนทางจริง ๆ เดี๋ยวหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนสักสองคนก็ได้”

แต่เสี่ยวเถียนรู้สึกว่ามันไม่ง่าย

เพราะทุกคนอยากกลับบ้านกันทั้งนั้น

ไม่รู้คนบ้านนั้นคิดอะไรอยู่ นอกจากเรื่องเงินแล้วมีเรื่องอื่นบ้างไหม?

เด็กสาวได้แต่บ่นกระปอดกระแปดอยู่ในใจ ไม่กล้าพูดดังกลัวเพื่อนรู้สึกไม่ดีกว่าเดิม

แถมปัญหายังเยอะด้วย กลับไปคุยกับที่บ้านดีกว่า

เพราะจดหมายของเฉียนเสี่ยวเป่ย เลยทำให้ความสุขจางหายไปหลายส่วน

วันรุ่งขึ้น เสี่ยวเถียนพาเฉียนเสี่ยวเป่ยกลับบ้านมาด้วยกัน

คุณย่าซูและคนอื่น ๆ ไม่คิดเลยว่าปีนี้จะมีเพื่อนหลานสาวอยู่ทำงานที่เมืองหลวง

เสี่ยวเถียนอธิบายว่าบ้านเพื่อนอยู่ใกล้ กลัวเปลืองค่ารถเลยไม่ได้กลับ

ผู้ใหญ่รู้สถานการณ์ของตระกูลเฉียนคร่าว ๆ จึงไม่ได้สงสัย

หญิงชราต้อนรับเสี่ยวเป่ยอย่างอบอุ่น และเชิญให้อยู่ที่บ้าน

หลังจากนั้นก็ต้องตกใจที่อีกฝ่ายอยากไปทำงานในฟาร์มเพาะพันธุ์ของบ้านซู

“ลูกสาว หนูไปทำงานที่นั่นคนเดียว เราอดห่วงไม่ได้นะ”

เพราะต้องค้างคืนที่นั่นด้วยน่ะสิ

ปีนี้เนื้อกำลังราคาดีเลย เกิดใครคิดไม่ดีขึ้นมาทำยังไงล่ะ?

แล้วเป็นเด็กผู้หญิงตัวคนเดียวด้วยสู้ไม่ไหวหรอก

ถ้าเจอคนไม่ดีแบบนั้นมาขโมยของ สร้างปัญหาให้ชาวบ้านจะทำยังไง?

เสี่ยวเถียนเล่าแผนการจ้างคนงานมาเพิ่มอีกสองคนให้ครอบครัวฟัง

ทีแรกจะให้เหลยเกาเชาหาคนจากโรงงานมาอยู่เป็นเพื่อนเฉียนเสี่ยวเป่ยตอนกลางคืน

โรงงานไม่มีวันหยุดปีใหม่ น่าจะหาไม่ยาก

แต่กลัวเพื่อนปรับตัวเข้าหาคนแปลกหน้าไม่ได้น่ะสิ

แต่โลกใบนี้ย่อมมีความบังเอิญเสมอ แล้วก็ได้เจอคนไม่ยอมกลับบ้าน เพราะจะอยู่ทำงานหาเงินที่เมืองหลวงต่อ…

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท